วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 20:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเป็นโรควุ้นในตาเสื่อม จะทำำใจอย่างไรดีครับ คือยังเป็นไม่ค่อยเท่าไหร่ อาการยังไม่ถึงขั้นหนัก แต่ใจว้าวุ่นกังวลตลอดเวลา คิดแล้วจะเป็นบ้าทุกที ทำใจยอมรับไม่ได้... จิตเครียด จิตวิตก จะทำใจอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์ดีครับ มันทุกข์เพราะว่าหาทางแก้ไม่ได้ (ทางแก้คือหยุดใช้คอมพ์ฯ นาน ๆ แต่ว่า... ตอนนี้มันเป็นแล้ว แล้วจิตก็ทุกข์ตลอดทั้งวัน) ทำเช่นไรดีครับ

ขอบคุณครับ :b8:

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อาการเป็นอย่างไรอยู่ครับ
แล้วอนาคตอาการจะเป็นอย่างไร
และวิธีการรักษาล่ะครับ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


มีวุ้นใส ๆ ตลอดเวลาที่ดูท้องฟ้า อ่านหนังสือ หรือมองสีขาว (แม้แต่มองคอมพิวเตอร์) ตอนมืด ๆ รู้สึกว่ามีแสงแว้บ ๆ ขึ้นมาครับ

โรคนี้ไม่มีวิธีการรักษา นอกจากทำให้มันไม่แย่ลงไปกว่าเดิม (เท่าที่ผมเข้าใจครับ)

แต่โรคที่ผมเป็นอยู่อีกโรคคือโรคจิต ซึ่งเกิดจากโรคนี้แหละครับ :b2:

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุ ค่ะ คุณPassa

:b47: คนไร้สาระ รู้สึกจิตวูบเหมือนกันที่อ่าน ไม่ทราบว่าจะช่วยอย่างไร
แต่เข้าไปอ่านอาการของโรคนี้ โรคนี้รักษายากพอสมควร ต้องระวัง
เรื่องการ ใช้สายตาให้มาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องคอมฯ หรือการเพ่ง
จ้องอะไรนาน ๆ

:b47: ขอเอาใจช่วยให้อาการดีขึ้นค่ะ รักษาใจให้มีความสุขเข้า
ไว้ยอมรับมัน ถึงมันจะยากก็ตาม คงจะไหลมาแต่เหตุค่ะ
อย่าให้ลุกลามไปเป็นโรคจิตอย่างที่คุณบอกเลยน่ะ เป็นห่วงค่ะ

:b47: วันนี้จะสวดมนต์อวยพรให้คุณอาการดีขึ้นค่ะ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


คนไร้สาระ เขียน:
:b8: สาธุ ค่ะ คุณPassa

:b47: คนไร้สาระ รู้สึกจิตวูบเหมือนกันที่อ่าน ไม่ทราบว่าจะช่วยอย่างไร
แต่เข้าไปอ่านอาการของโรคนี้ โรคนี้รักษายากพอสมควร ต้องระวัง
เรื่องการ ใช้สายตาให้มาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องคอมฯ หรือการเพ่ง
จ้องอะไรนาน ๆ

:b47: ขอเอาใจช่วยให้อาการดีขึ้นค่ะ รักษาใจให้มีความสุขเข้า
ไว้ยอมรับมัน ถึงมันจะยากก็ตาม คงจะไหลมาแต่เหตุค่ะ
อย่าให้ลุกลามไปเป็นโรคจิตอย่างที่คุณบอกเลยน่ะ เป็นห่วงค่ะ

:b47: วันนี้จะสวดมนต์อวยพรให้คุณอาการดีขึ้นค่ะ


ขอบพระคุณครับ :b8:

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ

โรควุ้นในตาเสื่อม (Viteous Floaters)


การดูแล เมื่อเกิด อาการ ขึ้น

1. พยายามอย่าเครียด

2. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าให้ดีไม่เกิน 4 ทุ่ม หรือ
อย่างมากเที่ยงคืน

3. อย่า ออกแรงหนัก

4. อย่า หักโหมงาน

5. พยายาม อย่าหันหน้า เร็วๆ ให้ทำ อะไรช้าๆ ลงบ้าง

6. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าให้ขาด วิตามิน และ
เกลือแร่.....

:b47: รักษาโดยการใช้เลเซอร์ เพื่อเป็นการเย็บยับยั้ง ไม่ให้
ผนังจอประสาทตา หลุดลอกมากไปกว่านี้


:b47: ขออภัยทำให้คุณต้องมานั่งอ่านมากขึ้น เพิ่งบอกไปเองว่า
ใช้สายตาให้น้อยลง คิดว่าคงเป็นประโยชน์บ้างค่ะ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โอ้...เป็นทั้งสองข้างหรือเป็นข้างเดียวครับ
เพิ่งทราบว่าเป็นหรือครับ หรือทราบมานานแล้ว
นี่ผมกำลังซักมากเกินไปรึเปล่าครับ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นทั้งสองข้างและเป็นมาประมาณเกินหนึ่งปีแล้วครับ (ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ตอนหลังเพิ่งมาทราบ แต่ก็ทราบมานานแล้วเหมือนกัน)

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Passa เขียน:

แต่โรคที่ผมเป็นอยู่อีกโรคคือโรคจิต ซึ่งเกิดจากโรคนี้แหละครับ :b2:


ทุกครั้งที่ผมคิดว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่แย่ ๆ
ผมจะพูดกับตัวเองเสมอว่า
เอาน่ะ...ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว
และมันก็จริง...ครับ
ความคิดอย่างคนซื่อบื้อ ๆ ของผม
มันกลายเป็นอุบายที่ทำให้ผมยอมรับและอยู่กับปัจจุบันอย่างยิ่งยวด
เพราะผมไม่คิดที่จะนึกถึงอดีต...
และไม่คาดหวังเลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร...
กล้าที่จะเผชิญหน้ากับทุกข์ ณ ปัจจุบัน ไปตามเรื่องตามราว

ในวันนี้ผมก็คงได้แต่ให้กำลังใจ
และจะให้กำลังใจคุณทุกครั้งที่มีโอกาสนะครับ...
:b45: :b45: :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้ามาให้กำลังใจครับ :b45: :b45: :b45: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
ทุกครั้งที่ผมคิดว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่แย่ ๆ
ผมจะพูดกับตัวเองเสมอว่า
เอาน่ะ...ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว
และมันก็จริง...ครับ
ความคิดอย่างคนซื่อบื้อ ๆ ของผม
มันกลายเป็นอุบายที่ทำให้ผมยอมรับและอยู่กับปัจจุบันอย่างยิ่งยวด
เพราะผมไม่คิดที่จะนึกถึงอดีต...
และไม่คาดหวังเลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร...
กล้าที่จะเผชิญหน้ากับทุกข์ ณ ปัจจุบัน ไปตามเรื่องตามราว

ในวันนี้ผมก็คงได้แต่ให้กำลังใจ
และจะให้กำลังใจคุณทุกครั้งที่มีโอกาสนะครับ...
:b45: :b45: :b45:



:b8: สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ คุณyahoo จะเก็บไว้สอน
ตัวเองด้วย ชอบกับความคิดนี้ค่ะ :b20:

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 12:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ Passa ปรึกษาหมอหรือยังครับ เท่าที่ดูใน internet เห็นมีวิธีรักษาได้ด้วยการผ่าตัดและเลเซอร์..

อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตแนะนำให้คุณPassa พยายามทำบุญประเภท บริจาคแว่นตา หรือเงินช่วยเหลือคนป่วย โรคตา มูลนิธิตา ให้/ถวายหลอดไฟ เทียนแสงสว่างเป็นทานเสมอๆ ฯลฯให้บ่อยๆ นอกเหนือจากการเจริญกุศลอื่นๆและการดูแลตาตามคำแนะนำของแพทย์..

ทุกครั้ง ให้ตั้งเจตนาว่า ขอให้ผู้อื่นมีตาดี สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ให้หายจากโรคตาทุกชนิด อย่าได้มีปัญหาในการมองเห็นด้วยประการทั้งปวง.เป็นต้น

ส่วนเรื่องโรคจิตที่ตามมาติดๆนั้น คุณ Passaย่อมทราบดีว่าเพราะความคิดปริวิตกของเราเอง อันเป็นอกุศลคือฟุ้งซ่านผสมโทสะ เมื่อจิตไม่ดี เขามีอำนาจส่งผลต่อรูปกายด้วยที่ชาวบ้านรู้จักกันว่าโรคเครียดเป็นผลให้รูปที่เกี่ยวข้องเสียหายไปด้วย จึงพึงเข้าใจเรื่องที่เราต้องมีโรคนี้มิใช่เพราะเหตุใหม่ในปัจจุบันอย่างเดียว แต่มีกรรมเก่าอีกส่วนหนึ่งด้วย ดังนั้น แม้ในความขวนขวายที่จะรักษาให้ดี หากผลออกมาไม่ได้ดังหวัง ก็ควรรักษาใจอย่าให้เสียไปพร้อมตานะครับ..จะมากไปไหมหากจะแนะนำให้พิจารณาว่า ดูเถิด ตาอันเราเห็นว่ามันดีมันคือของเรา เราดูแลมันอย่างดีที่สุดแล้วแต่มันยังบังอาจกลายเป็นอื่นได้ มันช่างนำมาแต่ทุกข์โทษแก่เราถึงปานนี้แท้จริงหากมันเป็นของเราจริงเราคงต้องควบคุมมันไม่ให้เสียหายได้สินะ...แม้ส่วนอื่นๆก็เช่นกัน ดูใจสิ มันก็ยังฟุ้งวิตกไม่หยุดหย่อนเลย ห้ามเท่าไรๆก็ไม่ฟัง อะไรจะทรยศเราได้เท่าขันธ์๕ของเราเป็นไม่มีเลย ควรแล้วที่จะเบื่อหน่าย..เป็นต้น(แต่ยังชอบแกงส้มดอกแคชามนั้นอยู่ก็จะมีลิ้นให้เจ็บลิ้นหรือถูกเขาเอาไปทำสตูลิ้นกันร่ำไป..เฮ้อ!--บ่นตัวเองครับ.) :b2:

ขอให้มั่นใจว่า บุคคลไรๆ ผู้ยังกุศลให้ถึงพร้อม แม้เขาปรารถนาสิ่งใดเขาย่อมได้สมหวัง เพราะชื่อว่ากุศลหมายถึงความฉลาดในการทำเพื่อประโยชน์สุขแก่ตนทั้งในภพนี้และภพหน้าครับ..

ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะครับ :b12: :b48: :b45:


ขออนุญาตบอกบุญตรงนี้ด้วยครับ :b8:
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=10&t=23251


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 13:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอเป็นกำลังให้คุณ Passa นะคะ
อย่ากังวลมากไปมากนะคะ...ทำใจสบายๆ ปรึกษาคุณหมอ
และดูแลตัวเองให้มากขึ้นนะคะ


รูปภาพ

รูปภาพ


ลูกโป่งขออนุญาตนำความรู้เรื่องนี้มาลงให้ผู้อื่นได้ทราบเบื้องต้นนะคะ

โรควุ้นในลูกตาเสื่อม : โรคสำหรับคนยุคไอที

ได้รับ Forward E-Mail ฉบับนี้มา
หลังจากไปตรวจแล้วคุณหมอบอกว่าผมเป็นโรคนี้ที่ตาข้างซ้าย
ไปหาหมออีกคน เขาจ่ายวิตามินเอมาให้ทานครับ คงต้องลองดูก่อน
คุยกับคุณหมอโจ ชาว Bloggang เรียกโรคนี้ว่า Vitreous degeneration
ลองอ่านดูนะครับ

วุ้นในลูกตาเสื่อม คนใช้คอมพิวเตอร์ต้องอ่าน?
Written by panmanee
Friday, 06 June 2008 11:17

'โรควุ้นในลูกตาเสื่อม'

คนที่เล่นคอมพ์เกือบทุกคน เป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม'
ตอนนี้ในประเทศไทย มีคนเป็นโรคนี้ถึง 14 ล้านคนแล้ว
จากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์ (นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้
คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นจะมากขนาดไหน?)

อาการก็คือ !
คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนหยากใย่
ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจก
จะเห็นชัดกต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง
เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ
จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา
ถ้าอาการมากกว่านั้นก็คือ ประสาทตาฉีกขาด
คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด
ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ) และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด
ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่?)

สาเหตุของโรคนี้คือ !
'การใช้สายตามากเกินไป' (เล่นคอม)
แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้ที่สายตามากๆ
เช่น ช่างเจียระไนเพชรพลอย ! ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ
แต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะเล่นเนต หรือ เล่นคอม
(คุณฟังไม่ผิดหรอก เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ)
ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก?
ไม่ ว่าคุณจะเล่นเนต, เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ,
อ่านหนังสือหรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์
ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้นเพราะว่า
ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ
'ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่แน่นอน
เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด
ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอนกว่า
กล้ามเนื้อและประสาทตาจึงทำงานค่อนข้างคงที่
แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น
มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน เหมือนแขวนลอยบนจอ
ขอบของตัวหนังสือไม่คมชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส
( เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป )
(จอ LCD เราก็ต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน
ตัวหนังสือไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือน อยู่บนแผ่นกระดาษ)
การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน
บวกกับ ลักษณะการอ่านหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม
ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง
เพื่อที่จะอ่านบรรทัดด้านล่างได้หรือไม่ก้อ
ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ
แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้ ไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษ
ที่แขนกับคอเราจะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ
มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง
หรือลูกกลิ้งบนม้าส์นั้น มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู )
มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะจะต้องลากลูกตา
เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด
บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางทีคุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
ว่ากดตำแหน่งบนแป้นพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่
ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน
ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ คุณจะปวดตามากๆ
ตัวอย่างเช่นกรณีเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์
ติดต่อกันข้ามคืน ! สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ
รวมทั้งเวลาการเปิดใช้โปรแกรม word
ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีขาวสว่าง
(ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือสีดำบนพื้นสีขาว)
สีพื้นที่สว่างจ้านี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง
ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป
หรือไม่ก็คนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อย ๆ
มักจะมีการปรับแสงสว่าง เพราะเวลาเล่นเกมส์ ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ


ภาพแสดงของจอประสาทตาที่หลุดลอกออกมา
แยกชั้นออกจากส่วนหลังของลูกตา

สรุปก็คือ

1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน
กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย'

2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต
มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสีย
การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย

3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์
และมองจอคอม กลับไปกลับมา 'ทำให้สายตาเสีย '

4. การปรับจอภาพที่! มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
'ทำให้สายตาเสีย' (คล้ายๆ กับการเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ
แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)

5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !!
(จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง
แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!)
พราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12นิ้ว)
แต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น
ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่ อีกขอบหนึ่ง
(ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา)

ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสาร
ที่ใช้ในการอ่านการเขียนทั่วไปจึงมีขนาด A4 ?
คำตอบ ก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป
กำลังพอดีกับการกวาดสายตามอง
และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่าทำไมขนาดของจอคอมคุณที่ใช้
ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง

ส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวันนั้น
จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สามารถทำให้ตาบอดได้
ถ้าเกิดอาการรุนแรงเพราะกว่าจะรู้ตัวแล้วไปหาหมอ
หมอก็อาจจะบอกว่า คุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว
และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!

******************
อ้างอิงจาก
http://www.fwdder.com/topic/9673


ช่วงนี้เลยพยายามลดการใช้คอมฯ ลงครับ
รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
ใครมีข้อมูลเพิ่มเติม แนวทางแก้ไขป้องกัน บอกกันด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

ไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลจักษุรัตนิน
ปรากฎว่ามีเส้นเลือดอุดตันที่จอประสาทตาแทน โรคเยอะดีจัง
ตอนนี้ติดตามผล คุณหมอว่าจะหายเอง

คัดลอกจาก...คุณคนขับช้า

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... 10&gblog=6

:b8: :b8: :b8:


ข้อมูลเพิ่มเติม...


http://www.thaioptometry.net/modules.ph ... t=279#7964

http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=35289

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
Passa เขียน:

แต่โรคที่ผมเป็นอยู่อีกโรคคือโรคจิต ซึ่งเกิดจากโรคนี้แหละครับ :b2:


ทุกครั้งที่ผมคิดว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่แย่ ๆ
ผมจะพูดกับตัวเองเสมอว่า
เอาน่ะ...ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว
และมันก็จริง...ครับ
ความคิดอย่างคนซื่อบื้อ ๆ ของผม
มันกลายเป็นอุบายที่ทำให้ผมยอมรับและอยู่กับปัจจุบันอย่างยิ่งยวด
เพราะผมไม่คิดที่จะนึกถึงอดีต...
และไม่คาดหวังเลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร...
กล้าที่จะเผชิญหน้ากับทุกข์ ณ ปัจจุบัน ไปตามเรื่องตามราว


ในวันนี้ผมก็คงได้แต่ให้กำลังใจ
และจะให้กำลังใจคุณทุกครั้งที่มีโอกาสนะครับ...
:b45: :b45: :b45:


และอีกหนึ่ง กำลังใจค่ะ

ห่างจากคอมฯ ให้ไกล ๆ หลาย ๆ วัน นาน ๆ มาเจอกันที ก็ได้ค่ะ

ยังไงก็ ส่งใจและความปรารถนาดี มาให้กันได้เสมอนะคะ

:b52: :b52: :b52:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2009, 00:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าไปฝึก กษิน นะครับ :b6: :b6:

อย่างที่ ท่านแมวขาว บอกนั่นแหละครับ ใช้สายตาให้มันน้อยหน่อยครับ :b16: :b16:
แล้วก็ไปปรึกษากับหมอ อย่างที่ท่าน dd แนะนำ

ส่วนกระผมก็ขอแนะนำให้รักษาสุขภาพกายให้แข็งแรงครับ หยุดเล่นคอมพ์ หรือกิจกรรมที่ใช้สายตา(เดาว่าท่านคงใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือ และค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัว... :b6: ) แล้วก็ไปออกกำลังกายบ้าง ใช้ร่างกายส่วนอื่นบ้างครับ :b13: ...ออกกำลังกายเหนื่อยแล้วเดี๋ยวมันก็หลับเองครับ :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 61 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร