วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 08:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
คุยกันอย่างนี้น่ารักดีครับ เหมือนนั่งอยู่ริมชานเรือนดูปลาว่ายน้ำในสระใสๆ เย็นๆ ชิลๆ :b32:
ถ้ายิ่งได้เบียร์เย็นๆสักขวดก็จะแจ่มเลยครับ :b22: :b21:


เอ้า... :b10: :b10: :b10:

mes เขียน:

:b20: :b20: :b20:


โอ้... :b10: :b10: :b10:

:b20: :b20: :b20:

:b21: :b21: :b21:

:b13: :b13: :b13:


แก้ไขล่าสุดโดย yahoo เมื่อ 20 มิ.ย. 2009, 20:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 23:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ เขียน:
เจโตวิมุตติ" เหมือนเรียนหนังสือโดยการท่องจำ สักวันมันก็ลืม
"ปัญญาวิมุตติ" เหมือนเรียนหนังสือด้วยความเข้าใจ มันจะรู้สิ่งนั้นตลอด :b40:


ผมอยากให้คุณพลศักดิ์ โพสต์์แบบนี้บ่อยๆ เยอะๆ นานๆทำจนเป็นนิสัย เพราะข้อความที่อ้างอิงถึงที่คุณโพสต์์
จัดว่า "เป็นสัมมาทิฏฐิ." เลยนะ บางครั้งการโพสต์์สั้นๆง่ายๆกินใจ ก้ได้ใจความกับความหมายเยอะ
เหมือนกัน ผมไปละ :b39: :b30:

ตรงที่ขีดเส้นใต้ คงไม่ได้หมายถึง อยากจำกลับลืม แต่อยากลืมกลับจำหรอกนะคับ :b41:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 07:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


มีประเด็นที่ อยากขอความเห็นจากสมาชิกทุกท่าน ในกระทู้นี้ครับ


จาก หนังสือพุทธธรม หน้า295

ท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ ท่านสรุปประมวลประเภทพระอรหันต์เป็น๑๐ประเภทดังนี้

1.ปัญญาวิมุต สุกขวิปัสสก
2.ปัญญาวิมุต ผู้ได้(รูป)ฌานที่๑
3.ปัญญาวิมุต ผู้ได้(รูป)ฌานที่๒
4.ปัญญาวิมุต ผู้ได้(รูป)ฌานที่๓
5.ปัญญาวิมุต ผู้ได้(รูป)ฌานที่๔


6.อุภโตภาควิมุต ผู้ได้อรูปฌานที่๑
7.อุภโตภาควิมุต ผู้ได้อรูปฌานที่๒
8.อุภโตภาควิมุต ผู้ได้อรูปฌานที่๓
9.อุภโตภาควิมุต ผู้ได้อรูปฌานที่๔
10.อุภโตภาควิมุต ผู้ได้นิโรธสมาบัติ





เสนอพิจารณา


กรณีที่1

พระภิกษุ A. สมัยก่อนเคยบวชเป็นฤาษี ต่อมาจึงอุปสมบทในพระพุทธศาสนา.ในขณะที่ท่านบวชเป็นฤาษีท่านบรรลุอรูปสมาบัติแปด(อรูปสมาบัติก้าวล่วงรูปสมาบัติ) ต่อมา ท่านบวชเป็นภิกษุมาเจริญสมถะ-วิปัสสนา ตามแบบของพระพุทธเจ้า จึงบรรลุอรหัตตผลในภายหลัง.

ในกรณีนี้ ท่านน่าจะจัดว่าเป็น พระอรหันต์อุภโตภาควิมุต(เจโตวิมุต)...ตรงนี้ ผมเข้าใจว่าน่าจะเห็นตรงกันทุกท่านน่ะครับ. กรณีนี้จึงไม่น่าจะเป็นปัญหา



กรณีที่2

พระภิกษุB.ท่านไม่เคยบวชเป็นฤาษีมาก่อนเลย .ท่านออกบวชเป็นภิกษุมาเจริญสมถะ-วิปัสสนาตามแบบของพระพุทธเจ้าโดยตรงเลย.ในระหว่างเจริญสมณธรรมนั้น ท่านไม่เคยบรรลุแม้นแต่รูปฌานเลย.ด้วยว่า ท่านเป็นปัญญาจริต จึงบรรลุอรหัตตผลในลักษณะ"เจริญวิปัสสนามีสมถะเป็นเบื้องหน้า"(ในขณะบรรลุอรหัตตผล ก็มีฌานจิต ในระดับรูปฌาน๑-๔ เกิดร่วมในขณะจิตนั้น) หรือ ที่คัมภีร์รุ่นหลังพุทธกาล เรียกว่า "เจริญวิปัสสนาล้วน"

ในกรณีนี้ ท่านน่าจะจัดว่าเป็น พระอรหันต์ปัญญาวิมุตที่เป็นสุกขวิปัสสก....ตรงนี้ ผมเข้าใจว่าน่าจะเห็นตรงกันทุกท่านน่ะครับ. กรณีนี้จึงไม่น่าจะเป็นปัญหา



กรณีที่3

พระภิกษุ C. ท่านไม่เคยออกบวชเป็นฤาษีมาก่อน .ท่านออกบวชเป็นภิกษุมาเจริญสมถะ-วิปัสสนาตามแบบของพระพุทธเจ้าโดยตรงเลย.ในระหว่างเจริญสมณธรรมนั้น ท่านเกิดมีจิตเป็นสมาธิระดับรูปฌานที่๑เกิดขึ้น แต่ ณ เวลานั้น ท่านก็ยังไม่บรรลุอรหัตตผล. ในกาลสมัยต่อมาภายหลัง ท่านเจริญสมถะ-วิปปัสสนาต่ออีก ท่านจึงบรรลุอรหัตตผลในภายหลัง.

ประเด็นที่อยากเสนอถามคือ

ท่านเห็นว่า พระภิกษุC.นั้น น่าจะจัดประเภทว่าเป็น พระอรหันต์เจโตวิมุต(ความหมายเดียวกับ พระอรหันต์อุภโตภาควิมุต) หรือไม่ อย่างไร



ยินดีที่ได้สนทนา
ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญาวิมุติ.......นิโรธ
เจโตวิมุติ.....มรรค(ดับทุกข์โดยไม่เหลือ)

พิจารณาอีกแนวน่ะครับ... :b13:
วิมุติ...ความหมายคือการหลุดพ้น
ปัญญาวิมุตติ...หากไม่แปลว่าหลุดพ้นด้วยปัญญา ก็จะแปลได้อีกความหมายนึงว่า หลุดพ้นทางปัญญา เป็นสภาวะของการรู้แจ้งแทงตลอด แต่ยังมีสังขาร
เจโตวิมุติ....ก็ทำนองเดียวกันครับ...คือเป็นการหลุดพ้นทางจิต เป็นสภาวะจิตที่ไม่มีสังขารปรุงแต่ง คือ ว่าง ปราศจากอารมณ์ต่างๆมาติดต้อง

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2008, 09:39
โพสต์: 219


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีตอนเช้า วันทำงานครับ ทุก ๆ ท่าน.. :b8:

ขอบพระคุณทุกท่าน ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น แหะ.. :b28: บางท่านก็สนุกสนานครื้นเครง
ทำให้เกิดความผ่อนคลาย หายเครียด ขอบคุณครับ

===

สวัสดีครับ.. :b8: คุณตรงประเด็น
นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มาร่วมสนทนาธรรม

แต่จะขอสรุปเสียก่อนนะครับ..

สิ่งที่เหมือนกันของทั้งเจโตวิมุตติหรือปัญญาวิมุตติก็คือ ต้องบรรลุธรรมด้วยการใช้ปัญญาทั้งสิ้น
ปัญญาขั้นนี้เป็น ปัญญาที่มีสมาธิเป็นฐาน ก็คือ วิปัสสนาปัญญาหรือภาวนามัยปัญญา นั่นเอง

เหตุนั้นในคนคนเดียวเป็นได้ทั้งเจตโตวิมุตติและปัญญาวิมุตติเพียงแต่ส่วนไหนจะแสดงผลมากกว่ากันเท่านั้น

เหตุใดจึงมีทั้งเจโตวิมุตติและปัญญาวิมุตติ ก็เพราะการสร้างสมบารมีของแต่ละคนต่างกัน ต่างคนต่างจริตนิสัย จริตอย่างหนึ่งไปทำอีกอย่างหนึ่ง ก็ทำยากทำลำบาก การบรรลุธรรมก็เนินช้า ในครั้งพุทธกาลการแสดงธรรมของพระองค์ แต่ละครั้ง ผู้ฟังจะได้ประโยชน์ได้มรรคผลเสมอทกครั้งไป เพราะอะไร เพราะผู้ที่จะทราบว่าใครมีจริตนิสัยอย่างไร ธรรมหมวดใดเหมาะกับใครแบบใด ก็คงมีแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและอรหันต์สาวกปฏิสัมภิทาญาณเท่านั้น

คำถามของคุณตรงประเด็น ผมขอผ่านนะครับ เพราะไม่ทราบจริง ๆ
บางเรื่องแค่พอรู้ บางเรื่องไม่รู้เลย คิดว่าคุณคงมีคำตอบอยู่แล้ว
ขออภัยนะครับ

เจริญธรรม

:b8: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 11:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


เจโตวิมุตติที่ไม่กำเริบ ผลที่ได้ คือ อรหันต์ ที่มีอภิญญาครบ
ปัญญาวิมุตติ ผลที่ได้ คือ อรหันต์ ที่ไม่มีอภิญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 78 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร