วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 22:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 13:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอตอบเจ้าของกระทู้ดังนี้ครับ

ถาม : ผมสงสัยว่าการศึกษาธรรมะมากๆ (อ่านหนังสือ) หรือพูดคุยธรรมะ กับ การนั่งสมาธิ อะไรจะทำให้เราเข้าใจธรรมะได้มากกว่ากันเพราะว่ามีบางคนบอกกับผมว่าให้นั่งสมาธิมากๆ แล้วสมาธิจะสอนเราเอง แต่ผมว่าถ้าเราไม่ศึกษาแล้วเราจะเข้าใจธรรมะได้อย่างไร แต่เขาบอกว่าความรู้ไม่ใช้ปัญญา ผมขอกรุณาผู้รู้ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจน่อยครับ

ตอบ : การศึกษาธรรมะมากๆ ด้วยการอ่านหนังสือ จะทำให้ได้ปัญญาแน่นอนครับ แต่ปัญญาที่ได้จะเป็นระดับของสุตมยปัญญา แต่ถ้าหากเรานำสิ่งที่อยู่ในหนังสือมาคิดพิจารณาต่อไปอีกทีด้วยก็จะทำให้เกิดปัญญาที่สูงขึ้นไปอีกขั้นเป็นปัญญาระดับจินตมยปัญญาได้ แต่ต้องอยู่ที่ว่าเราคิดอะไร คิดอย่างไร

ส่วนการนั่งสมาธิ ก็ทำให้เกิดปัญญาได้เหมือนกันครับ แต่ไม่เสมอไปว่าจะทำให้เกิดปัญญาระดับโลกุตตระได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราฝึกสมาธิด้วยวิธีแบบใด เพราะหากเราฝึกสมาธิแบบที่เป็นเพียงสมถะ เราก็จะเกิดปัญญาได้แต่เป็นปัญญาระดับโลกียะ เช่น ประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาธิ รู้ว่านิวรณ์เป็นอย่างไร จะกำจัดนิวรณ์แต่ละอย่างได้อย่างไร และอาจจะเกิดความรู้ที่พิเศษกว่านั้นคืออภิญญาต่างๆ เหาะได้ รู้ใจคนได้ ระลึกชาติได้ ตาทิพย์ เป็นต้น แต่ความรู้ต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นความรู้ระดับโลกียะทั้งสิ้นครับ ยังไม่ใช่ปัญญาระดับโลกุตตระ ทำให้สำเร็จมรรค-ผล-นิพพานไม่ได้ ดั่งในพวกฤาษีและพราห์มในสมัยพุทธกาล หรือในศาสนาอื่น

แต่ถ้าหากเราฝึกสมาธิที่เป็นแบบให้สิ้นอาสวะได้ ก็จะแตกต่างกัน จะทำให้เกิดปัญญาแบบโลกุตตระขึ้นมา หยั่งรู้อริยสัจจ์ ทำให้สำเร็จอาสวักขยญาณ หลุดพ้นสำเร็จอริยบุคคลจนถึงอรหัตตผลได้ครับ

ทางแก้ไขของผู้ที่ฝึกสมาธิแบบสมถะ คือ หลังจากที่ได้ฝึกสมาธิไปแล้วจนจิตแนบแน่นลงเป็นฌาน ให้น้อมจิตนั้นมาเจริญวิปัสสนาต่อไป ทีนี้ปัญญาโลกุตตระจะเกิดขึ้น สำเร็จมรรค-ผล-นิพพานได้

ทางที่ดี เวลาเราปฏิบัติ ควรจะเพียรหมั่นศึกษาทั้งปริยัติ เช่น หมั่นอ่านหนังสือ เป็นต้น แต่ต้องให้พอดีไม่มากเกินไป และก็หมั่นฝึกสมาธิ และก็หมั่นเจริญวิปัสสนาไปด้วยควบคู่กัน ๓ อย่างนี้เสมอๆ ครับ เพราะแต่ละอย่างแม้ไม่บรรลุเราก็รู้ในระดับทฤษฏีมาก และหากบรรลุได้ก็จะเป็นผู้มีปัญญาแตกฉาน มีปัญญามากเลยครับ แตกฉานทั้งปริยัติและปฏิบัติ ส่งเสริมกันครับ

ขอให้เจริญในธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


แมวขาวมณี เขียน:
:b8:
ยินดีค่ะ
ขอที่อยู่ด้วยค่ะ ท่าน อมิตาพุทธ พอดีมีเผื่อไว้อีก 1 เล่ม

ขอบพระคุณมากครับ
เดี๋ยวจะส่งที่อยู่ของเขาไปให้ทางอีเมลนะครับ
อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงคุณ แมวขาวมณี ครับ
เมื่อเช้าเพื่อนข้าพเจ้า โทรมาบอกว่าได้รับหนังสือ
ทางเอก ของพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปราโมชฺโช
ที่คุณแมวส่งมาให้แล้วนะครับ อุตส่าห์ส่งแบบลงทะเบียนด้วย :b1:
เขาฝากมาขอบคุณน่ะครับ :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 17:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญาทั่วไปเป็นโลกียะปัญญา สามารถทำให้เกิดได้ 3 วิธี คือ

โดยการสดับตรับฟัง การศึกษาเล่าเรียน (สุตมยปัญญา)
โดยการคิดค้น การตรึกตรอง (จินตามยปัญญา)
โดยการอบรมจิต การเจริญภาวนา (ภาวนามยปัญญา)

จะเห็นว่า แม้แต่ภาวนามยปัญญา หรือสมาธิ ก็เป็นปัญญาระดับโลกียะเช่นกัน ส่วนโลกุตตรปัญญาเกิดขึ้นเมื่อเจริญวิปัสสนาหรือสติปัฏฐาน 4 ซึ่งโลกุตตรปัญญาจะดับกิเลสได้

โลกุตตรปัญญา มีอีกชื่อหนึ่ง คือ อธิปัญญา คือการปฏิบัติเพื่อเจริญปัญญาให้สูงขึ้นจนตัดกิเลสได้เด็ดขาด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 18:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เกิดได้ครับถ้านั่งเป็น แต่100ละ99มักนั่งแล้วกลายเป็นสมถะกรรมฐานน่ะครับ Onion

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


ความจิงนะครับหนังสือของพระอาจารย์ปราโมทย์สามารถรับได้ทุกคนเลยครับ

ที่ห้องสมุดบ้านอารีย์ครับhttp://www.baanaree.netนอกจากนี้แล้วยังมีหนังสืออีกมากมายหลายเล่มฮะ
:b12:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชิโนะซึเกะ เขียน:
ความ จริง นะครับหนังสือของพระอาจารย์ปราโมทย์สามารถรับได้ทุกคนเลยครับ

ที่ห้องสมุดบ้านอารีย์ครับhttp://www.baanaree.netนอกจากนี้แล้วยังมีหนังสืออีกมากมายหลายเล่มฮะ
:b12:


ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
แล้วเพิ่งจะมาบอกนะคะ หาอ่านแทบแย่แน่ะค่ะ
เดี๋ยวขอแว๊บไปดู ๆ หน่อย เล่มไหนน่าสนใจสุด


:b17:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
yuttana.99 เขียน:
ผมสงสัยว่าการศึกษาธรรมะมากๆ (อ่านหนังสือ) หรือพูดคุยธรรมะ กับ การนั่งสมาธิ อะไรจะทำให้เราเข้าใจธรรมะได้มากกว่ากันเพราะว่ามีบางคนบอกกับผมว่าให้นั่งสมาธิมากๆ แล้วสมาธิจะสอนเราเอง แต่ผมว่าถ้าเราไม่ศึกษาแล้วเราจะเข้าใจธรรมะได้อย่างไร แต่เขาบอกว่าความรู้ไม่ใช้ปัญญา ผมขอกรุณาผู้รู้ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจน่อยครับ :b8: :b8:


ไม่ว่าจะจากการฟัง จากการได้ศึกษา จากการได้ปฏิบัติ

ล้วนทำให้เกิดปัญญาได้ค่ะ .. ชอบแบบไหน ถนัดแบบไหน ก็เริ่มจากตรงนั้นไปก่อนค่ะ

แล้วเดี๋ยวรูปแบบที่กระทำอยู่ จะถูกปรับเปลี่ยนไปเองค่ะ ..

ลงมือกระทำเลยค่ะ อย่าไปมัวเสียเวลาหาคำตอบ .. ทำไปด้วย แล้วค่อยหาคำตอบไปด้วย

ย่อมดีกว่ามัวหาคำตอบ แต่ไม่ลงมือกระทำ .. ส่วนใครจะพูดอะไรอย่างไร

ก็รับฟังไว้ค่ะ ส่วนเราจะเชื่อเขาหรือไม่เชื่อ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ..

อนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ สาธุ :b8:


สาธุ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 12:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 01:40
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การนั่งสมาธิทำให้เกิดปัญญา... อันนี้ใช่นะเราว่า เพราะจากที่เราได้เคยคุยกับดร.อาจอง ท่านสามารถคิดค้นการร่อนลงของยานอวกาศสู่พื้นของดาวอังคารได้อย่างปลอดภัยตามที่เราทราบกันดี เพราะท่านนั่งสมาธิแล้วรู้วิธีการทำนั่นเอง... เพราะตะวันตกคิดค้นเรื่องนี้ไม่ได้ ท่านก็เลยคิดว่าถ้าใช้วิธีตะวันตกคงไม่ได้แน่ๆ ต้องใช้วิธีแบบตะวันออก คือสมาธิ ท่านปีนเขาไปนั่งสมาธิ(ยอดเขาอะไรจำไม่ได้ละลองหาอ่านดูนะ) ไปอยู่ที่นั่นประมาณห้าวัน พอคืนสุดท้ายท่านนั่งสมาธิจนนิ่งสงบ แล้วก็ทราบทันทีว่าจะทำอย่างไร จะคิดค้นอย่างไร... นั่นแหละคือผลจากสมาธิ

ท่านยังบอกอีกว่าท่านฝึกสมาธิตอนอายุ15 จากที่เคยเป็นเด็กเรียนได้ที่โหล่ที่สุด หลังจากฝึกสมาธิแล้วกลับทำให้สติปัญญาหลักแหลม สอบได้ที่หนึ่งเกือบทุกวิชา และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้ หาประวัติของท่านอ่านดูนะ ผลจากสมาธิทำให้ท่านได้กลายเป็นดร.อาจอง จนถึงทุกวันนี้

ข้อดีอีกอย่างของสมาธิ จะส่งผลในเรื่องของจิตว่าง เมื่อเรานั่งสมาธิปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง จิตเราก็จะว่าง พอจิตว่างแล้ว การคาดเดาอะไรต่างๆจะแม่นมาก... นั่นคือเมื่อจิตว่างแล้ว ก็ไม่มีอะไรมารบกวนจิตใจ... ความรู้สึกแรกของเราจึงถูกต้องเสมอๆ... ของเราเคยเป็นอยู่สองครั้งด้วยกันในวันเดียว... ถูกเป๊ะๆจนน่าประหลาดใจ.. นั่นคือผลของสมาธิแล้วทำให้จิตว่าง... ลองดูนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 57 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร