ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ความจริงแห่งชีวิต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=22764
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 03 มิ.ย. 2009, 08:46 ]
หัวข้อกระทู้:  ความจริงแห่งชีวิต

เมื่อ "ความไม่รู้"

ทำให้เกิด "ความเข้าใจผิด"

และ "ยึดถือ" สภาพธรรม ที่เกิดดับ

ว่า เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล แล้ว.


ก็ย่อมทำให้เกิด "ความยินดีพอใจ"

และ "หลงยึดถือ" เพิ่มพูนยิ่งขึ้น....

ใน ยศฐาบรรดาศักดิ์

ชาติตระกูล วรรณะ เป็นต้น.



แต่ "ความจริง"

สิ่งที่มองเห็น เป็นเพียง "สี" ต่าง ๆ ที่ปรากฏทางตา

ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล.



"เสียง" ที่ได้ยิน

ก็ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล.


เป็น "สภาพธรรม" แต่ละชนิด

ที่เกิดขึ้น เพราะ "ปัจจัย" ต่าง ๆ กัน.




...............................




"การหลงยึดถือ"........สภาพธรรม ว่า

เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล นั้น



อุปมา.....เหมือน คนเดินทาง

ในที่ซึ่งย่อมเห็นเหมือนกับว่า

มี เงาน้ำ อยู่ข้างหน้า............

....................แต่ เมื่อใกล้เข้า


เงาน้ำ.........ที่เห็น ก็หายไป.!

เพราะแท้จริง.......หามีน้ำไม่.!


เงาน้ำ ที่เห็น......เป็น "มายา"

เป็น "ภาพลวงตา"


ฉันใด.!



"การเข้าใจผิด" ว่า สภาพธรรมทั้งหลาย

เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล..........



เพราะ......."ความไม่รู้"

เพราะ........."ความจำ"

เพราะ...."ความยึดถือ"


ก็ ฉันนั้น.!





.................................




คำว่า.....


สัตว์ บุคคล หญิง ชาย เป็นต้น นั้น

เป็นเพียง "คำบัญญัติ"

เพื่อให้ รู้ความหมาย

ของ สิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน เป็นต้น.


อีกประการหนึ่ง...............ย่อมจะเห็นได้ ว่า

วัตถุสิ่งของ ต่าง ๆ เสียงต่าง ๆ กลิ่นต่าง ๆ

"ลักษณะ" ที่เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว

และ เรื่องราวต่าง ๆ นั้น.............................

......................ถึงแม้ว่าจะวิจิตร สักเพียงใด


ก็จะ ปรากฏ ให้รู้ ..............ไม่ได้.!

ถ้าไม่มีสภาพธรรม ที่เป็น "สภาพรู้"


.


"สภาพรู้"


ซึ่งได้แก่ การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส

การรู้เย็น รู้ร้อน รู้อ่อน รู้แข็ง รู้ตึง รู้ไหว.................

การรู้ความหมาย ของสิ่งต่าง ๆ

และ การคิดนึก.


สภาพธรรม ที่รู้ สิ่งต่าง ๆ


เช่น


สภาพธรรม ที่รู้ สี


สภาพธรรม ที่รู้ เสียง


สภาพธรรม ที่รู้ กลิ่น


สภาพธรรม ที่รู้ รส


สภาพธรรม ที่รู้เย็น รู้ร้อน รู้อ่อน รู้แข็ง รู้ตึง รู้ไหว


สภาพธรรม ที่รู้ความหมาย ของสิ่งต่าง ๆ


และ สภาพธรรม ที่คิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ


เป็นต้น.



พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทรงบัญญัติ เรียก "สภาพรู้" สิ่งต่าง ๆ นั้น ว่า

"จิต"




...................................




"ปรมัตถธรรม"

มี ๔ ประเภท


.


"จิต"


เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่

เป็นประธาน ในการ "รู้สิ่งที่ปรากฏ"

เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เป็นต้น.


"จิต" ทั้งหมด..........มี ๘๙ ดวง

หรือ ๑๒๑ ประเภท...โดยพิเศษ.


.


"เจตสิก"


เป็น สภาพธรรม อีกประเภทหนึ่ง


ที่เกิด ร่วมกับ จิต

รู้ สิ่งเดียวกับ จิต

ดับ พร้อมกับ จิต

เกิด ที่เดียวกับ จิต


"เจตสิก"

แต่ละ ประเภท

มี "ลักษณะ" และ "กิจ" ต่าง ๆ กัน

ตามประเภท ของเจตสิก นั้น ๆ......


"เจตสิก"

ทั้งหมด

มี ๕๒ ประเภท.


.


"รูป"


เป็น สภาพธรรมที่ ไม่ใช่ สภาพรู้

เช่น สี เสียง กลิ่น รส เป็นต้น.


"รูป"

ทั้งหมด

มี ๒๘ ประเภท.


.


"นิพพาน"


เป็น "ธรรมที่ดับกิเลส"

เป็น "ธรรมที่ดับทุกข์"


"นิพพาน"


ไม่มี "ปัจจัย" ปรุงแต่งให้เกิดขึ้น


"นิพพาน"

จึงเป็น "ธรรมที่ไม่เกิดดับ"

เจ้าของ:  damjao [ 06 มิ.ย. 2009, 17:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความจริงแห่งชีวิต

ความจริงแห่งชีวิต.............
ทุกชีวิตอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์โดยเสมอภาคกัน ไม่ว่า ยาจก เศรษฐี ชาวนา นายกรัฐมนตรีกษัตริย์
อนิจจัง ความไม่เที่ยง ความไม่คงที่ ความไม่คงตัว ภาวะที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมและสลายไป
แสดงความไม่เที่ยง ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของสิ่งทั้งหลาย
ทุกขัง ความเป็นทุกข์ ภาวะที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายไป ทุกชีวิตต่างมีทุกข์เป็นเรือนเกิด
อนัตตา ความไม่ใช่ตัวตน ความไม่มีตัวตนแท้จริงที่จะสั่งบังคับให้เป็นอย่างไรๆได้ มีแต่สิ่งที่เป็นไป ตาม เหตุปัจจัย
:b8:

เจ้าของ:  Passa [ 06 มิ.ย. 2009, 22:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความจริงแห่งชีวิต

พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตชั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

(ไม่รู้ตรงรึเปล่า :b21:)

-----

ขออนุโมทนาคุณ รสมน ครับ ผมเข้าใจคำว่า เจตสิก ดีขึ้นแล้ว และได้ข้อคิดดี ๆ เยอะเลย :b16: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/