วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 22:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 23:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




p57.jpg
p57.jpg [ 43.38 KiB | เปิดดู 1839 ครั้ง ]
เสียงร้องประหลาด

พระภาวนาวิสุทธิคุณ
มีคนมาถามอาจมาถึงเรื่อง เสียงประหลาดที่ท่านเจ้าเมืองปราจีนบุรี (นาย ประมวล รุจนเสรี) ได้ยินเมื่อคืนวันที่ 9 เมษายน 2534 นั้นว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่
จะเล่าให้ฟังสั้นๆว่า แถวย่านบ้านนี้เป็นบ้านโดนสาป ตอนสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จยกทัพกลับจากเชียงใหม่ ล่องไปสู่กรุงศรีอยุธยา ไปทางเรือ ตรงนี้คือที่วัดเป็นสถานที่ตั้งเมืองพรหมนครมีเจ้าเมืองครองนครนี้ พระองค์ทรงแวะเข้ามาถามย่านบ้านนี้ว่า พม่ามีเหลือแถวนี้บ้างไหม

พม่าอยู่หลังวัดนี้เยอะ สร้างวัดอยู่ที่นี่ หลังวัดอัมพวันเขาเรียกว่าวัดชีป่าสร้างหันหน้าโบสถ์ไปทางตะวันตกพม่ายังอยู่ทีนี่อีกกลุ่มหนึ่ง ยังกลับเมืองไม่หมด คนบ้านนี้เพ็ดทูลว่าไม่มีพม่า ท่านบอกว่า อย่าโกหกเรานะ ถ้าโกหกเราแล้วเอาดีไม่ได้ เลยไม่เสด็จแวะ เสด็จไปวัดสระเกศ เลยไชโยไปหน่อย อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา สมเด็จพระนเรศวรทรงสระพระเกศาที่นั่น จึงชื่อวัดสระเกศมาจนทุกวันนี้

มีหลวงพ่อองค์หนึ่งชื่อ หลวงพ่อโต๊ะ เป็นอุปัชฌาย์ ท่านอายุมากหลายปีแล้วในสมัยนั้น ท่านขุดในฐานโบสถ์เก่า เพื่อจะสร้างโบสถ์ใหม่ ได้พระรูปสมเด็จพระนเรศวรเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ไม่ทราบว่าใครสร้างตั้งแต่สมัยใด อาตมายังเคยไปเห็น บอกว่า “หลวงพ่อ ขอให้ผมไม่ได้เหรอนี่” ท่านบอกว่า “คุณอย่าเอาเลย ผมจะเอาไว้ถวายในหลวง”

โอ้โฮ! เนื้อดีจัง เป็นเนื้อสัมฤทธิ์เป็นพระรูปสมเด็จพระนเรศวร รูปลักษณะคล้ายกับที่ผู้ว่าฯ สร้างเป็นเหรียญ แต่พระองค์ยืนถือดาบ ตอนออกสงคราม ไม่ทราบใครสร้างไว้ เสียงร้องประหลาดที่วัดนี้จึงมีเสมอ …..ต่อไปจะเล่าเรื่องแพทย์หญิงบุญเยี่ยม มานั่งเจริญกรรมฐานที่นี่ สามีเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์อยู่ที่ร.พ.ศิริราชทั้งคู่ ตัวแพทย์หญิงไม่เคยรู้จักประวัติที่วัดนี้มาก่อน มานั่งกรรมฐาน 7วัน ที่กุฏิใต้ ทางที่โยมไปทานอาหารกัน เป็นกุฏิหลังเล็กๆ มีถนนเดิน ไฟสว่าง ตอนตีสี่ อาตมาลงโบสถ์ สวดมนต์สอนพระนวกะในระยะเข้าพรรษา ณ โอกาสนั้น แพทย์หญิงบุญเยี่ยมก็ออกเดินจงกรม นั่งกรรมฐาน

วันหนึ่งที่หน้ากุฏิไฟสว่างอย่างนี้ มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้ามาหา แล้วกล่าวว่า “โยม….ขอเจริญพร” แพทย์หญิงก็มองไปที่หน้ากุฏิ บอกว่า”พระคุณเจ้าอยู่วัดไหนค่ะ อยู่วัดนี้หรือเปล่าค่ะ ทำไมจีวรขาดหมดนี่”พระภิกษุองค์นั้นตอบว่า”อาตมาชื่อพระเฟื่อง” “อาตมาอยู่ที่นี่ ได้ถึงมรณภาพไป 15ปีแล้ว” “มาทำไมละค่ะ” ”มาขอส่วนบุญ ช่วยแบ่งบุญให้อาตมาด้วยเถอะ” แล้วเล่าประวัติให้ฟังว่า “อาตมาก่อนมาบวชนี้เป็นจ่าตำรวจอยู่นครราชสีมาแล้วลาออกมาบวช บ้านอาตมาอยู่ใต้วัดอัมพวันนี้ ขอส่วนบุญได้ไหม?”

ขอเจริญพร เพื่อทราบเสียตอนนี้ว่าผู้มีบุญวาสนา มักจะมีผู้มาขอส่วนบุญอย่างนี้ บางทีจะได้ยินเสียงร้องครวญครางขอบุญกุศลให้ช่วยเขาหน่อย มันไม่ได้ยินทุกคนหรอกสำหรับผู้ปฏิบัติ แล้วแพทย์หญิงบุญเยี่ยม ก็บอกว่า “พระคุณเจ้าดิฉันจะแผ่เมตตาถวายกุศลให้” นี่แหละคนมีบุญวาสนา จะมีผู้มาขอส่วนบุญ พระก็เป็นเปรตได้น่ะ อาตมาออกจากโบสถ์ยังไม่สว่างดีเลย ประมาณตีห้าครึ่ง แพทย์หญิงบุญเยี่ยมมาคอยที่หน้ากุฏิแล้วบอกว่า “หลวงพ่อ ดิฉันจะถามอะไรสักหน่อย” “ถามอะไรหล่ะ มาทำไม ยังมืดอยู่ยังไม่สว่าง ไม่ได้นั่งกรรมฐานหรือ” “เมื่อสักครู่ ตอนตี 4 ดิฉันออกมานั่งที่หน้ากุฏิกรรมฐาน มีพระองค์หนึ่งมาขอส่วนบุญ และพระองค์นั้นบอกว่าชื่อเฟื่อง มีไหมค่ะ”

อาตมาก็บอกว่า “มี ตายไปตั้งสิบกว่าปีแล้ว” แพทย์หญิงบุญเยี่ยมบอก “โอ้โฮ้! ขนหัวลุกเลย” พระเฟื่องเป็นเปรตอยู่ที่วัดนี้ เดี๋ยวนี้ยังอยู่น่ะ ทำไมถึงเป็นเปรต ตอนบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดนี้ไม่เคยทำกรรมฐาน สอนให้ก็ไม่เอา หัวดื้อหัวรั้น เวลาเย็นเข้าบ้านทุกวัน บ้านอยู่ใต้วัดนี้ บอกได้ไม่กลัวหรอก มีพระองค์หนึ่งชื่อหลวงตาอ้อนชอบปลูกต้นน้อยหน่าปลูกไว้เยอะปลูกไว้ถวายพระ ไม่ได้เอาไปไหน ทำสวนน้อยหน่าไว้เยอะแยะ มีน้อยหน่าสุกแล้วก็ถวายพระกันเท่านั้นเอง เป็นของสงฆ์ หลวงตาเฟื่องก็แน่เลย ลักของเขาเอาเข้าบ้านตัวเองทุกวันเอาโน่นไป เอานี่ไปทำไมจะไม่เป็นเปรตเล่า เดี๋ยวนี้ยังอยู่ในวัดนี้เลย

ถ้าแพทย์หญิงเคยรู้จักพระเฟื่อง เคยมาที่นี่ อาตมาจะไม่เชื่อเรื่องนี้ นี่เขาไม่รู้จักเลยนะ บอกเป็นตุเป็นตะหมด เลยบอกแพทย์หญิงบุญเยี่ยมไปว่า “โยม แผ่ส่วนกุศล ทำกรรมฐานเข้า” ทำกรรมฐานนี่ช่วยเปรตได้ดีมาก ก็แผ่ส่วนกุศล ให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปซื้อผ้ามาถวายสังฆทาน พอวันที่เจ็ดจะกลับ เวลาเดียวกัน หลวงตาเฟื่องห่มผ้าสวยมาแล้ว

“โยม ขออนุโมทนา ขอบพระคุณมาก บัดนี้ได้รับส่วนกุศลแล้ว” ก็เรียบร้อยไป และ “สัพพี” ให้ด้วย นึกว่าพระเปรตจะยถาสัพพีไม่ได้ แพทย์หญิงบุญเยี่ยมก็สาธุ เสร็จแล้วก็รีบมาหาอาตมา บอกว่า”หลวงตาเฟื่องมาอีกแล้ว” นึกว่าจะมาขอส่วนบุญอีก แต่เปล่าไม่ได้ขอ มา”ยถา” ให้ และจีวรที่เคยขาด เป็นจีวรใหม่หมด นี่เห็นไหม
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2009, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุค่ะ :b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพ :b51: :b53: :b51:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2009, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยกล่าวขออนุญาติยกมาอีกนะครับ
อย่างน้อยที่สุดภิกษุพึงสังวรว่า เงินที่ไช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง หรือ อาหาร วัดวาอาราม และทุกอย่างที่จะมีได้ ล้วนเป็นเงินบริจาคทั้งสิ้น เมื่อบริจาคมาแล้วย่อมไม่ไช่ของคนได้คนหนึ่ง เงินที่เรี่ยไรมาทุกบาท แล้วเราเองสร้างบุญกุศลอะไรบ้างแค่ไหนกัน หากไม่คิดแล้วย่อมต้องสวมเขาไส่ขนเพื่อไปชดใช้กันไม่จบสิ้น แต่บางคนอาจบอกได้ว่า เงินนี้ไม่ไช่บริจาคเป็นเงินที่ทำกิจต่าง ๆ ได้มา เช่น รับจัดดอกไม้ ทำบายศรี จัดงานต่างในงานมงคล จัดเวที ดูดวง สะเดาะเคราะห์ ไบ้หวย ปลุกเสกเครื่องรางขาย ขายพระ ไล่ผี ทำคุณไสย หรือต่าง ๆ ที่อีกมากมายก็พึงพิจารณาดูเถิดว่า เหมาะสมหรือไม่ ไช่กิจของสงฆ์หรือไม่ เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานหรือไม่ หรือที่ไส่ซองมาให้ตามศรัทธาก็พึงพิจารณาตามปัญญาและความเหมาะสมเถิด ภิกษุมีความโชคดีแล้วที่ได้บำเพ็ญเพื่อมรรคผล หากหมดจากพุทธกัปนี้ไป เมื่อพระศาสนาหมดหรือเข้าสู่สุญกัป ย่อมไม่แม้ พระพุทธเจ้าชี้นำ พระธรรมคำสอน และพระสงฆ์ผู้สืบทอด ย่อมมืดมนไม่มีทุกสิ่งที่จะชี้ทางเราได้เลย ไม่รู้แม้วิธีปฏิบัติหรือกระทั่งพระสงเป็นอย่างไร แล้วต้องรอไปอีกนานแค่ไหนกัน กี่กัป กี่มหากัป กี่อสงขัย แค่เพื่อเกิดเป็นคนที่ทันพระศาสนา :b20: :b20: :b20:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 54 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร