วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 15:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 84 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 00:13
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณคุณ O.wan ค่ะที่ตอบคำถามแล้วให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ให้กับดิฉันและครอบครัวมากค่ะ
จากคำแนะนำ ทำให้ดิฉันคิดว่า ... การรักษาที่โรงพยาบาลไม่ได้เลวร้าย อย่างที่เคยได้ยินมา บ้านที่ดิฉันอยู่เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือ โรงพยาบาลที่รักษาอยู่เชียงใหม่ การพาไปรักษา ต้องเดินทางไกลเหมือนกัน เคย พาไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง ค่ะ แต่ไม่ต่อเนื่อง และไม่เขาไม่ยอม ทานยา ไม่ยอม พบแพทย์ ดิฉัน และน้องชายไม่สามารถทำอะไรได้เพราะคุณแม่ไม่เห็นด้วย แต่ประสบการณ์ที่ได้อ่านจากคุณ O.wan ทำให้ดิฉัน เอง คิดว่า คุณแม่น่าจะเข้าใจ ดิฉันและน้องชายได้มากขึ้นส่วนเรื่องที่จะกลัวคนอื่นรับรู้นั้นคงไม่ต้องปิด อะไร แล้ว เพราะที่บ้าน อยู่ในตลาดสด ค่ะ เวลาเขาแสดงอาการที่ก็รู้กันหมด แต่ ยังโชคดีที่ส่วนใหญ่ แล้วเขาสงสารแม่ และ พยายาม เข้าใจ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ กำลังใจและความปราถนาดีนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

O.wan เขียน:
:b1: คะหนู lookwhy ขออธิบายต่อ
ที่บอกว่าเปลี่ยนหมอเพราะ ความรู้สึกของพี่น้องเราก็จะตั้งเป้าว่า หลังจากที่หาหมอมาเค้าจะดีขึ้นทันที
แต่มันไม่ใช่น่ะค่ะ
:b48: ครั้งแรกเค้าจะซึมเบลอๆ หรือไม่ก็จะจำเราไม่ได้เลยหรือจำได้แล้วก็อยากจะกลับบ้าน
ไม่อยากทำกลุ่ม
(หมายถึงการรักษาที่เอาคนไข้อาการดีขึ้น มาทำกิจกรรมร่วมกัน แบ่งปันความคิด ร้องเพลง ฯ)
:b48: เค้าจะไม่อยากอยู่กับคนอื่นที่ดูเหมือนที่มีอาการมากๆ เพราะเค้าคิดว่าไม่ได้เป็นอะไร
คนที่บ้านไม่เข้าใจ ทั้งขู่เรา ด่าว่า สารพัด ซึ่งที่จริงแล้วเป็นวิธีการของหมอน่ะค่ะ
:b48: ถ้าอยู่ร.พ.เวลาญาติคุยกับหมอจะ ไม่ให้เวลามาก เหมือนวันแรกๆที่เราเอาเค้าไปรักษา
แล้วเหมือนน้องเราก็ไม่ดีขึ้น (เพราะเราจะใจร้อน) เลยอยากเอาเค้ากลับ เอาไปรักษาร.พ.อื่นๆ
เพราะกรุงเทพมีหลายร.พ.ไงคะ
:b48: เป็นความคิดที่ผิดเลยค่ะ เพราะเราไปที่ใหม่ก็เหมือนไปเริ่มต้นใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า
การรักษาก็ไม่ต่อเนื่อง เคยเอาเข้าร.พเอกชน ที่หนึ่งนะคะ หมอเสนอวิธี ช๊อตด้วยไฟฟ้า รับรองผล
แต่น้ากลัวแค่ฟังก็น่ากลัวแล้ว ก็ไม่ยอม สุดท้ายก็ต้องกลับมารักษาหมอรัฐที่เดิมค่ะ
:b48: เชื่อวิธีการของหมอให้มากที่สุด+เวลา+ยา สำคัญมากค่ะ
:b48: อย่าลืมว่า ถ้าเค้าหายดีเหมือนปรกติ อย่าหยุดหาหมอ+ยา เป็นอันขาดค่ะ
ทำตามที่หมอสั่ง เราต้องคอยสังเกตนะคะ พอเค้าดีขึ้นเค้าจะแอบไม่กินยา หมออาจจะนัด 6 เดือน
หรือหนึ่งปีก็ต้องไปนะคะ และยาบางตัวจะทำให้ตัวบวม(บางชนิดนะคะ) เหมือนอ้วนเค้าก็จะไม่ทาน
กำลังใจสำคัญมากๆนะคะ
ที่สำคัญอีกอย่างเค้าจะคิดมาก ถ้ามีคนรู้ว่าเค้าป่วย ต้องให้คนภายนอกรู้น้อยที่สุดนะคะ ถ้าหนูมีอะไรสงสัยก็ถามมาได้เลยนะคะ เพราะตลอด 30 ปีมาครอบครัวผ่านมาได้ คิดว่าตัวเอง
มีประสบการณ์มากๆค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้มากๆค่ะ และรู้ว่าหนู+ครอบครัวจะผ่านมันไปได้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ส่งผลให้คุณอินทรีย์ 5 มีความสุขกาย สุขใจ ด้วยนะค่ะ

-ขอบคุณมากเลยนะครับน้อง อยากจะบอกว่า กำลังใจพี่มันเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แต่เมื่อลูกหวายอวยพร
มา ก้ขอน้อมรับไว้ด้วยดีเช่นกันครับ ก้บอกแล้วไงจะมาโพสท์ในกท.นี้เรื่อยๆ :b31: :b12: :b41:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 00:13
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
อ้างคำพูด:
ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ส่งผลให้คุณอินทรีย์ 5 มีความสุขกาย สุขใจ ด้วยนะค่ะ

-ขอบคุณมากเลยนะครับน้อง อยากจะบอกว่า กำลังใจพี่มันเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แต่เมื่อลูกหวายอวยพร
มา ก้ขอน้อมรับไว้ด้วยดีเช่นกันครับ ก้บอกแล้วไงจะมาโพสท์ในกท.นี้เรื่อยๆ :b31: :b12: :b41:


ยินดีค่ะ คุณอินทรีย์ 5 คุยได้ทุกเรื่องค่ะ ดิฉัน ขอบคุณกำลังใจที่คุณและทุกคนให้มาค่ะ อย่างน้อย ก็ทำให้ ดิฉัน ยิ้ม ได้บ้าง ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 08:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


lookwhy เขียน:
อินทรีย์5 เขียน:
อ้างคำพูด:
ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ส่งผลให้คุณอินทรีย์ 5 มีความสุขกาย สุขใจ ด้วยนะค่ะ

-ขอบคุณมากเลยนะครับน้อง อยากจะบอกว่า กำลังใจพี่มันเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แต่เมื่อลูกหวายอวยพร
มา ก้ขอน้อมรับไว้ด้วยดีเช่นกันครับ ก้บอกแล้วไงจะมาโพสท์ในกท.นี้เรื่อยๆ :b31: :b12: :b41:


ยินดีค่ะ คุณอินทรีย์ 5 คุยได้ทุกเรื่องค่ะ ดิฉัน ขอบคุณกำลังใจที่คุณและทุกคนให้มาค่ะ อย่างน้อย ก็ทำให้ ดิฉัน ยิ้ม ได้บ้าง ขอบคุณค่ะ

:b17: :b17: :b17: เห็นด้วยกับหนูนะคะ คุณอินทรีย์ 5 คุยได้ทุกเรื่องเลยค่ะ
เป็นสุดยอดของกัลยาณมิตรในลานธรรมจักรนี้อีกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้
เราได้รู้ถึงหลักธรรมในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง โดยไม่หวั่นไหวค่ะ :b32: :b32: :b32:
:b32: ชื่นชมจากใจจริงนะคะคุณอินทรีย์ 5 :b32:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 08:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




J3469972-75.jpg
J3469972-75.jpg [ 48.36 KiB | เปิดดู 4926 ครั้ง ]
คุณ O.wan พักนี้กรัชกาย ไม่รู้เป็นอะไร หัวใจอ่อนแอ ขอกำลังใจจากคุณบ้างนะครับ :b8:
พูดให้แต่คนอื่นเห็นแล้วตาร้อนผ่าวๆ :b1:


http://www.esnips.com/doc/376bf0ac-b62d ... F%3F%3F%3F

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: หนู lookwhy อ่านจากที่โพสต์แล้วดูมีกำลังใจขึ้นนะคะ :b17:
อย่าคิดมากนะคะ เดี๋ยวจะเสียการเรียน ตอนนี้หนูต้องตั้งใจเรียนให้มากๆ
อยู่ปีไหนแล้วคะ น้าน่าจะวัยพอๆกับคุณแม่หนู เรียกน้าก็ได้นะคะ ดูไม่เป็นทางการดี
:b48: อาการของพี่หนูฟังจากที่เล่า น่าจะไม่รุนแรงเหมือนน้องชายน้านะคะ
แค่จิ๊บๆๆนะ :b32:(ล้อเล่นน่ะค่ะ) ค่อยๆคิดกันไป
:b48: จะเล่าว่าน้าเคยไปร.พ บ่อยๆตอนพาน้องไป คนที่เป็นแบบนี้มีมากเลยค่ะ
บางทีไปนั่งรอคุณหมอ เห็นคนมาหาดูไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเค้าเป็นโรคแบบนี้
มีทั้งสาวออฟฟิศ หนุ่มสำอางค์ นักธุรกิจ บางคนเป็นลูกคุณหนูที่มีคุณพ่อคุณแม่มาด้วย
ถ้าไม่นั่งรอตรงหน้าห้องคุณหมอเราจะไม่รู้เลยว่าเค้าก็ป่วย
:b48: แล้วพวกเราจะหัวอกเดียวกันคืออยากให้พวกเค้า (คนป่วย) กลับมาอยู่ในสังคมได้
ในยามที่ไม่มีพวกเรา ไม่ใช่พี่สาวหนูหรือน้องชายน้า แต่ยังมีคนอีกมากมายที่เดินสวนกับเรา
ตามท้องถนนแต่เราจะไม่รู้ เพราะที่บ้านมีคนป่วยก็จะชอบดูโทรทัศน์เวลาที่มีหมอจิตเวช
มาพูดคุยก็ได้รู้มากขึ้น ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ ถ้าสงสัยอยากรู้อะไรก็ถามมานะคะ
อยากช่วยจริงๆ ถ้าเราอยู่ใกล้กันอยากไปเยี่ยมหนูด้วยนะ
:b48: ตั้งใจเรียนนะคะ อย่าคิดมาก จะคอยฟังเรื่องดีๆจากหนูนะคะ :b12: :b12:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณ O.wan พักนี้กรัชกาย ไม่รู้เป็นอะไร หัวใจอ่อนแอ ขอกำลังใจจากคุณบ้างนะครับ :b8:
พูดให้แต่คนอื่นเห็นแล้วตาร้อนผ่าวๆ :b1:


http://www.esnips.com/doc/376bf0ac-b62d ... F%3F%3F%3F

:b16: :b4: คุณกรัชกาย น่ะนะหัวใจอ่อนแอ :b32: :b32: :b32:
ออกจา....... :b21: :b21: เสียขนาดนี้ เป็นพระเอกแห่งลานนี้ สูสี กับคุณชาติสยาม(อิจฉา......อิจฉา คุณทั้งสองจริงๆๆๆๆๆ :b2: )
แบบไม่มีใครแซงใครได้เลย มิบังอาจให้กำลังใจหรอกค่ะ ข้าผู้น้อยต้องขอคาระ ฮิฮิ :b13: :b13:
ตอนนี้เรากำลัง :b14: :b14: นับถอยหลังอีก 3 วันลูกสาวกลับมาแล้วค่ะ
:b48: คุณกรัชกาย คุณเป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆนะ ถ้าให้เราพูดถึงคุณ
ดูจะเป็นคนที่มีหลักการในการดำเนินชีวิตดีนะคะ มีธรรมะนำหน้าเลย
เป็นผู้แนะนำที่ดี (น่าจะเป็นอาจารย์แนะแนวนะคะ :b9:)
ใจเย็นดีนะคะ ( น่าจะไปอยู่ที่แถวๆ อลาสกา )
ดูออกจะเป็นเด็กแนว...(ไม่ใช่ตะเข็บชายแดนนะคะ :b13: ออกแนว Paragon นะ)
มีเหตุ มีผล ใฝ่รู้จริงๆ ในวัยวุฒิขนาดคุณนี้ น่าจะสนใจในโลกอันศิวิไรย์ มากกว่ามาสนใจในเวปป์นี้
คุณน่าจะไปอยู่แถวๆเวปป์ Yenta4 นะคะ :b32:
หรือมีเพื่อนแบบ VJ จ๋า หรือ วุ้นเส้นจะเหมาะกับคุณนะ
วันหยุดก็ไปดู แม่นาคพระโขนง and the musical มากกว่า :b32: :b16:
:b48: เราอธิบายตัวคุณตามจินตนาการของเรานะคะ เห็นคุณดูเนือยๆๆ มาหลายสัปดาห์
เลยหาอะไร :b32: :b9: มาช่วยแก้เซ๊งนะคะ
:b48: ออกจะไม่มีสาระ แต่ก็จริงใจ(ขออนุญาตนะคะ )สำหรับน้องชายคนนี้ :b21: :b21:
:b16: แต่ถ้าจะให้ดี ขอ ดาวมหาลัย หน่อยซิคะ ถ้าคุณต้องการคนมามี ใจสารภาพ
เดี๋ยวเราติดต่อดาวมหาลัยคนใน MV นี้ให้เลยนะ ฮิ...ฮิ...ฮิ

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




f54802676.gif
f54802676.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 4893 ครั้ง ]
ดาวคนนี้หรอคับ ที่คุณจะติดต่อให้ ก๊ากกๆๆ

http://www.imeem.com/people/5yNYs7Q/music/1jG2h1Le//

อีกสามวัน ลูกกลับมาจากเมกา แนะนำให้เค้าหมักมาชิกลานนี้บ้างสิครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 11:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ดาวคนนี้หรอคับ ที่คุณจะติดต่อให้ ก๊ากกๆๆ

http://www.imeem.com/people/5yNYs7Q/music/1jG2h1Le//

อีกสามวัน ลูกกลับมาจากเมกา แนะนำให้เค้าหมักมาชิกลานนี้บ้างสิครับ

:b18: :b18: สงสารหนูน้อยนี้จังค่ะ หัวเราะไม่หยุด เห็นดีคนนี้หัวเราะก็มีความสุขแล้วค่ะ :b18:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 00:13
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ คุณ O.wan
ให้ดิฉันเรียก น้า คิดว่าจะดูมีอายุ เกินไป คุณแม่ของดิฉันท่าน อายุ 60 แล้ว ส่วนดิฉันเองก็พึ่งจะเข้าเลขสาม เมื่อ เดือนที่ผ่านมา ถ้าคุณ O.wan ไม่ว่าอะไรให้ดิฉันเรียก คุณพี่ดีกว่านะค่ะ
ดิฉันเรียนปริญญาโท ด้านวิทยาศาสตร์อาหารที่มหาลัยวิทยาลัยภูธรแถวต่างจังหวัดที่ใกล้ ๆ บ้านนะค่ะ(อยากให้เป็นเทอมสุดท้ายอยู่ค่ะเพราะอยู่นานแล้ว) ด้วยความที่อยู่จังหวัดใกล้บ้านกันก็เลย เหมือนโชคดีที่ได้กลับไปดูแล แม่ได้ง่าย หน่อย
ก็คงจะจริงอย่างที่ พี่ O.wan ว่าอาการพี่ดิฉันไม่รุนแรงเท่าไร คงเป็นอย่างนี้ด้วย ละมั้ง เลยทำให้คุณแม่รังเร เรื่องวิธีการรักษา
ด้านดิฉันและน้องเสนอว่า ควรให้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่สักพัก เพราะคุณแม่เองจะได้ไม่เหนื่อย
แต่คุณแม่ท่านก็มีเหตุผลของท่าน (เมื่อคืนเราคุยโทรศัพท์กันนะค่ะ)
ท่านบอกว่า ...ท่านก็อยากเอาไปรักษา แต่ บางครั้งที่ท่านเห็นว่าเขา เองก็ เหมือนคนปกติใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ (ทั้ง ๆที่ ไม่ปกติ) บางครั้งก็แสดงอาการออกมาบ้างแม่เขาอยากให้รักษาโรงพยาบาลที่บ้าน แต่โรงพยาบาลที่บ้าน ก็ไม่มีครอด์ รองรับคนไข้ ทำได้แค่เพียงรับปรึกษา (เพราะเห็นว่ามีห้องให้คำปรึกษา) ดิฉัน ก็คิด อยู่ทุกวัน ว่า จะเอาอย่างไงดี เพราะทุกวันนี้ เขาสามารถคุย กับคุณแม่ได้อย่างเดียว เวลา ดิฉัน กลับบ้าน เขาก็จะตั้งท่ารังเกียจ แล้วไล่ ให้ออกไป (กลุ้มใจ จริง)
ดิฉันไม่ว่าอะไรหรอกค่ะทำไร มาก็ได้ไม่เป็นไร ไม่ทำร้ายแม่ก็พอแล้ว
ล่าสุดแม่เล่าให้ฟังว่า พาเขาไปเที่ยวที่มูลนิธิของคุณสรพงษ์ชาตรี ที่สร้างหลวงพ่อโตองค์ใหญ่นะค่ะ จะพาเขาไป ไหว้ พระ ให้ใจสบาย ไปร่วมกับรถทัวร์ที่เขานำเที่ยวนะค่ะ เป็นงานที่ยาก พอดู (แม่อยากให้เขาเข้าสังคมได้บางนะค่ะ คนที่ไปก็แม่ค้าแถว ๆ บ้าน เขาก็รู้สถานะการณ์กันดี) ก็มีปัญหากวนใจท่านบ้างเพราะต้องค่อยเป็นห่วง เขาจะทำอะไรไม่สนใจใคร และ ทำตามใจต้วเองเหมือนเด็กที่ไม่มีความคิดหรือไม่คิดอะไร
แม่เล่าให้ฟังว่า เข้าห้องน้ำ แล้วเอากระเป๋าถือแม่ไปล้างน้ำ น้ำเต็มกระเป๋า เลย คะ พอแม่โมโห เขาก็หงุดหงิด แล้วก็ ถามว่าทำไม แม่ต้องโกรธด้วยทำแค่นี้ แม่เองก็ต้องใจ เย็นค่ะ และอธิบาย แต่อย่างว่า เหมือนไม่รับ ฟังเป็นอันว่างานนั้น ก็หงุดหงิดโว้ยวายและไม่รับรู้ไป
ดิฉันฟังแล้วก็เครียดแทน เอาเป็นว่าการเที่ยวครั้งนั้น เขาเองก็ไม่ประทับใจ คุณแม่ ก็ประทับใจสถานที่ที่ร่มเย็นเป็นสุขแต่ก็เหนื่อย เหมือนกันกับคน
ความจริงแล้วเรื่องของดิฉัน จะง่าย เพียงนิดเดียว หากเขา ยอมรับว่าตัวเอง ป่วยแล้วยินยอมเข้ารับการรักษา ทุกคนในบ้านเข้าใจนะค่ะ ไม่มีใครอาย หรือ รังเกียจ ที่เขาเป็นแบบนี้ ดิฉันอยากให้ เหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนน้องชาย คุณพี่ O.wan จังค่ะห่วงแม่เหมือนกันค่ะ แม่เหนื่อย ท่านน่าจะพักได้แล้ว
ถ้าพูดเรื่องเอาไปรักษาที่ไรท่านก็จะเครียดนะค่ะ บางครั้งก็ไม่อยากพูด อยากให้ท่านยิ้ม แล้วหัวเราะบ้าง

พูดถึงเรื่องไปรักษาที่โรงพยาบาล เวลาเดินเข้าคลีนิกตอนพาเขาไปรักษากับแม่นะ เขาดูไม่เหมือนคน ป่วย นะค่ะ แต่ดิฉันกับแม่ต่างหาก ที่ดูเหมือนคน ป่วย ฮ่าๆๆ แทบจะ รักษากันผิดคนที่เดียว :b12: :b12:

ค่ะแล้วก็ขอขอบคุณที่ให้กำลังใจดิฉันและครอบครัวค่ะ ประสบการณ์และกำลังใจทำให้ดิฉันคิดว่าชีวิตมันก็ไม่ได้เลวร้าย เราเองก็ไม่ได้ทุกข์ที่สุด ปัญหาก็มีทางออกของมัน ยังมีคนเห็นใจเป็นเพื่อนอยู่ ขอบคุณนะค่ะ ให้กุศลผลบุญครั้งนี้ส่งผลให้คุณพี่และครอบครัวมีความสุขการและใจ ตลอดไปนะค่ะ ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b2: น้องlookwhy สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ :b36:
ขอโทษทีนะคะ นึกว่าน้องอยู่สักมหาลัยปี 2 โอ้โห :b17: เก่งจังเรียนปริญญาโทวิดยาด้วย :b17:
ที่รู้เพราะมีหลานสาวเรียนวิดยา ธรณี ปี2 อยู่หนึ่งคนค่ะ บอกว่ายากส..........มาก.........
พี่อ่อนกว่าคุณแม่น้อง 1 รอบพอดีค่ะ เดี๋ยวนี้จะมีหลาน 20ปี up น่ะค่ะ เลยรู้สึกจะเป็นป้า+น้าน่ะค่ะ
:b48: ฟังจากที่เล่าน้อง+น้องชายก็เข้มแข็งดีจังนะคะ โดยเฉพาะประโยคนี้
"พูดถึงเรื่องไปรักษาที่โรงพยาบาล เวลาเดินเข้าคลีนิกตอนพาเขาไปรักษากับแม่นะ เขาดูไม่เหมือนคน ป่วย นะค่ะ
แต่ดิฉันกับแม่ต่างหาก ที่ดูเหมือนคน ป่วย ฮ่าๆๆ แทบจะ รักษากันผิดคนที่เดียว "

แสดงว่ายังมีความสุข มีอารมณ์ :b9: :b9: ดีนะ
:b48: อ่านแล้วต้องขอชมคุณแม่น้องเลยนะคะ ว่าท่านเป็นสุดยอดคุณแม่เลยนะคะ ไม่ว่าจะอย่างไรลูกก็คือลูก
พ่อพี่นะคะผู้ชายน่ะค่ะ ความอ่อนโยนไม่ค่อนมี เมื่อก่อนต่างคนต่างตะโกนใส่กัน :b2: :b2:
แต่พอดีพี่มีพี่น้องผู้หญิง 4 คนน่ะค่ะ เลยคอยห้ามฝ่ายละ ตอนนี้พ่ออายุ73 แล้วค่ะ เลยไม่ค่อยมีอารมณ์
โกรธ ส่วนน้องชายก็แยกไปมีครอบครัวเค้า ภรรยาเค้าก็คอยดูแลเรื่องยา
:b48: ตอนนี้พ่อก็เป็นโรคซึมเศร้าน่ะค่ะ น้องชายกับพ่อก็จะจูงมือ :b16: กันไปพบจิตแพทย์เดือนละครั้ง
โชคดีที่ได้คุณหมอดีเข้าใจครอบครัวพี่น่ะค่ะ ไปคุยกันทีละครึ่งชั่วโมง
แล้วพี่ก็จะมีหน้าที่ไปซื้อยามาให้ทั้งสองคน
:b48: อาการของพ่อก็จะเหมือนโรคคนแก่ แต่ทานน้อย นอนเร็ว ดึกๆตื่นแล้วนอนไม่หลับ
กลัวเช้าตื่นไม่ทันใส่บาตร ขนาดมีนาฬิกาปลุกก็พะว้าพะวัง คิดแต่ว่าเดี๋ยวจะป่วย เดี๋ยวจะตาย
ห่วงลูกชาย ห่วงหลาน(ลูกของน้องชายค่ะ) เลยไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอเลยขอคุยกับแกเอง
แกก็ยินดีไปหาหมอนะ คุณหมอก็จัดยามาให้ก็ได้ผลนะ แกก็จะนอนหลับดี ไม่พะว้าพะวัง
แถมคุณหมอบอกให้ลดการใส่บาตรมาเหลือแค่ทุกวันพระ แกจะได้ไม่วิตกจริตเรื่องนี้ทุกวัน
ก่อนนอนพี่สาวก็จะซื้อเทปบทสวดมาให้ฟัง เผื่อวันไหนนอนไม่หลับก็ฟังเพลินๆ
:b48: อ่านถึงตรงนี้เบื่อไม๊คะ นานๆจะเจอคนพอจะเข้าใจเรื่องเดียวกัน :b13: เลยขอปลดปล่อย
เรื่องราวให้ฟังบ้างน่ะค่ะ คือแบบเล่าสู่กันฟังน่ะค่ะ
:b48: ขอให้จบปริญญาใบที่สองเร็วๆนี้นะคะน้อง lookwhy :b1:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

O.wan เขียน:
น้องlookwhy สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ


เช่นกันครับ

O.wan เขียน:
ขอให้จบปริญญาใบที่สองเร็วๆนี้นะคะน้อง lookwhy


อันนี้ก็เช่นกันครับ

(ผมเป็นคนชอบเลียนแบบคนอื่นหนะครับ :b32: )


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 00:13
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะพี่ O.wan
ขอบคุณนะค่ะสำหรับกาอวยพรวันเกิด ... หวายเป็นคนเรียนไม่เก่งหรอกค่ะ แต่มีโอกาสได้ทำงานเกี่ยวกับทางวิชาการนะค่ะเลยเรียนต่อ ...
เรื่องอารมาณ์ขัน เกี่ยวกับ พี่นั้น ความจริงก็มีอยู่บาง ฟังจากที่คุณแม่เล่าให้ฟัง แม้น บางครั้งจะขำไม่ออกก็เห้อค่ะ....ทุกสิ่งที่เราคุยกันกัน หวายไม่คิดว่า จะเป็นเรื่องน่าเบื่อเลยสักนิดค่ะ สิ่งที่พี่ O.wan เล่าให้ฟังเป็นประสบการณ์สิ่งที่เป็นประโยชน์ค่ะ อย่างน้อย หวายก็รับรู้ว่า ไม่ได้ครอบครัวไม่ได้ประสบปัญหาที่แย่ที่สุดเพียงครอบครัวเดียว และคนอื่นก็ยังผ่านไปได้ ครอบครัวเราก็เช่นกัน ขอบคุณนะค่ะ
เรื่องความรุนแรงในครอบครัวนั้น มีมานานแล้วค่ะ แรก ๆนั้น มีบ่อย เพราะตอนคุณพ่อยังไม่เสียชีวิตท่านก็ไม่ค่อยยอมรับหรือเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ท่านโทษว่าเป็นความผิดของแม่ด้วยซ้ำ เพราะญาติทางฝ่ายแม่นั้นเป็น (เคยถึงคิดว่า พี่ไม่ใช่ลูก อันนี้เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่เหมือนกัน)
หวายเองก็ พยายามอธิบายให้ท่านเข้าใจอยู่ครั้งหนึ่งว่า นี้มันไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นปัญหาของครอบครัว แต่ ก็อย่างว่านะค่ะ การที่ปกติที่มีปัญหาอยู่มากอยู่แล้วในชีวิต อยู่กับคนที่มีปัญาทางจิตทุกวันเข้า ๆ ก็เกิดความเครียดเป็นเรื่อง ธรรมดา
ขนาดหวายเองกลับบ้าน แรก ยังทนไม่ไหว เลยค่ะ อยู่แค่ 3 วัน แทบทนไม่ได้ นึกอยู่ว่าแม่กับพ่อจะลำบากขนาดไหน...แต่ตอนนี้เริ่มชินและรู้วิธีรับมือกับปัญหาแล้วค่ะ

ตอนนี้หวายก็พยายามที่จะคิดแต่เรื่องเรียนให้จบ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณพ่ออยากเห็นขอบคุณนะค่ะ สำหรับกำลังใจและคำปรึกษา ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 00:13
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำอวยพรค่ะ คุณ วรานนท์

วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

O.wan เขียน:
น้องlookwhy สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ


เช่นกันครับ

O.wan เขียน:
ขอให้จบปริญญาใบที่สองเร็วๆนี้นะคะน้อง lookwhy


อันนี้ก็เช่นกันครับ

(ผมเป็นคนชอบเลียนแบบคนอื่นหนะครับ :b32: )


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b6: เห็นการตอบของแต่ละท่านในกระทู้นี้แล้ว น่าสงสารครอบครัวที่ได้รับความทุกข์แบบนี้จังเลยค่ะ การตอบเห็นทีจะตอบไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือไม่ตรงประเด็นที่เขาได้ความทุกข์นั้นอยู่ และแต่ละคำตอบนั้นดิฉันเห็นว่าน่าจะรู้ดีกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เขาจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธีและเป็นไปตามธรรมชาติทีเกิดขึ้น เพราะทุกคำตอบจะปฏิเสธเรื่องของโลกทิพย์ ประมาณจะพูดว่า สิ่งที่ถูกเห็นนั้นไม่มีจริง เป็นสิ่งไม่มีจริง หรือมีจริงแต่ไม่ใช่ของจริง อะไรประมาณที่เข้าใจกัน แต่เคยอ่านพระไตรปิฎกเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าว่าพระพุทธองค์ตรัสเรื่องโลกทิพย์ว่าอย่างไร จะขอยกตัวอย่างในข้อความจากพระไตรปิฎก มาให้อ่านกันสักหน่อย (อย่าหาว่าติดตำราเลยเพราะพระไตรปิฎกเป็นสิ่งที่บอกได้ชัดเจนว่าอะไรผิดอะไรถูกและต้องนำเทียบเคียงกับการตอบธรรมะด้วยค่ะ ถ้าไม่ลงตัวในการตอบพระไตรปิฎกจะเป็นสิ่งที่ตัดสินได้ว่าผิดหรือถูก)

พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 243

ก็ไม่ควรจะให้บวช. กุลบุตรผู้นั้นเป็นโรคฝีนั้น แม้เมื่อให้เยียวยาแล้วจะให้บวช

ต่อทำร่างกายให้มีผิวเรียบแล้วจึงควรให้บวช. ที่มีชื่อว่าติ่ง คล้ายนมโคหรือ

คล้ายนิ้วมือ ห้อยอยู่ในที่นั้น ๆ ก็มี แม้ติ่งเหล่านี้ก็จัดเป็นฝีเหมือนกัน เมื่อติ่ง

เหล่านั้นมี ไม่ควรจะให้บวช. หัวหูด มีในเวลาเป็นเด็ก ที่มีหัวสิว มีที่หน้า

ในเวลาเป็นหนุ่ม ในเวลาแก่หายหมดไป หัวหูดและหัวสิวเหล่านั้นไม่นับเป็น

ฝี เมื่อหัวเหล่านั้นมีจะให้บวชก็ควร. ส่วนเม็ดชนิดอื่น ที่ชื่อเม็ดผด มีตาม

ตัว ชนิดอื่นอีกที่ชื่อเกสรบัวก็มี ชนิดอื่นที่ชื่อเมล็ดพันธุ์ผักกาด มีขนาดเท่า

เมล็ดผักกาด ผื่นไปทั่วตัว. เมล็ดเหล่านั้นทั้งหมด เป็นชาติโรคเรื้อนเหมือน

กัน เมื่อเมล็ดเหล่านั้นมี ไม่ควรให้บวช. โรคเรื้อนมีสีคล้ายโบบัวแดงและบัว

ขาว ไม่แตก ไม่เยิ้ม ชื่อโรคกลาก ร่างกายเป็นอวัยวะลายพร้อยเหมือนกระ

แห่งโคด้วยโรคเรื้อนชนิดใด. พึงทราบวินิจฉัยในโรคกลากนั้น โดยนัยที่กล่าว

แล้วในโรคเรื้อนชนิดนั้นแล.

ไข้มองคร่อ ชื่อโสสะ. เมื่อไข้มองคร่อนั้นมี ไม่ควรให้บวช.

โรคบ้าเพราะดี หรือโรคบ้าด้วยถูกผีสิง ชื่อโรคลมบ้าหมู. ในโรค

ลมบ้าหมู ๒ ชนิด บุคคลผู้ถูกอมนุษย์ซึ่งเคยเป็นคู่เวรกันสิงแล้ว ย่อมเป็นผู้ที่

เยียวยาได้ยาก. และเมื่อโรคลมบ้าหมูนั้นมีแม้เพียงเล็กน้อย ก็ไม่ควรให้บวช.


ที่ตัวแดงนั้นหมายถึงอะไร ขอท่านผู้รู้ที่พยายามจะบอกว่า มีจริงแต่ไม่ใช่ของจริง และพระสูตรนี้ขอให้ท่านผู้รู้ได้อ่านที่แปลเป็นภาษาไทยแล้ว อย่าพยามไปสวดเป็นภาษาบาลี เพราะจะได้ความเข้าใจอย่างที่ท่านทั้งหลายได้ตอบมา การใช้พระสูตรอาฏานาฏิยรักษ์ คือวิธีสุดท้าย ตามเวปลิงค์นี้

http://www.samyaek.com/board2/index.php ... 76#msg2376

แต่มีวิธีอื่นอีกมากมายค่ะที่จะทำให้ผู้คนที่โดนชาวโลกทิพย์ส่งสัญญานเข้าหาแล้วเป็นอย่างที่ครอบครัวผู้ตั้งกระทู้นี้ได้รับความทุกข์ ชาวพุทธคนไทยไม่พยายามทำความรู้จักธรรมชาติที่มีอยู่ แต่พยายามเอาตัวเองไปให้พ้นจากพวกเขาชาวโลกทิพย์โดยที่ไม่สนใจใยดีกับพวกเขา ทั้งที่ดวงจิตนี้ได้เคยเกี่ยวข้องกันมาหลายภพหลายชาติ หรือคิดว่าตัวเองที่เกิดมาชาตินี้ก็จบแค่ชาตินี้ มันต้องใช้หนี้กันก่อนจึงจะผ่านไปได้อย่างไม่มีอุปสรรค ลองอ่านพระสูตรนี้อีกที

ทุติยวรรคที่ ๒

๑. ทุคตสูตร

ว่าด้วยสงสารกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้

เหมือนทุคตบุรุษ

[๔๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มี
อวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่
ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ เธอทั้งหลายเห็นทุคตบุรุษผู้มีมือและเท้าไม่
สมประกอบ พึงลงสันนิษฐานในบุคคลนี้ว่า เราทั้งหลายก็เคยเสวยทุกข์
เห็นปานนี้มาแล้ว โดยกาลนานนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้
กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯ ล ฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้.
จบทุคตสูตรที่ ๑

ทุติยวรรคที่ ๒

อรรถกถาทุคตสูตรที่ ๑

พึงทราบวินิจฉัยในทุคตสูตรที่ ๑ แห่งทุติยวรรค ดังต่อไปนี้.
บทว่า ทุคฺคตํ ได้แก่คนขัดสน คือ คนกำพร้า. บทว่า ทุรูเปตํ
ความว่า ทุคตบุรุษมีมือและเท้าไม่สมประกอบ.
จบอรรถกถาทุคตสูตรที่ ๑

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 525

๒. สุขิตสูตร

ว่าด้วยสงสารกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้

เหมือนบุคคลผู้มีความสุข

[๔๔๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย . . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มี
อวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่
ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ. . . เธอทั้งหลายเห็นบุคคลผู้เพียบพร้อมด้วย
ความสุข มีบริวารคอยรับใช้ พึงลงสันนิษฐานในบุคคลนี้ว่า เราทั้ง-
หลายก็เคยเสวยสุขเห็นปานนี้มาแล้วโดยกาลนานนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะว่า สงสารกำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯล ฯ พอเพื่อจะ
หลุดพ้น ดังนี้.
จบสุขิตสูตรที่ ๒

อรรถกถาสุขิตสูตรที่ ๒

พึงทราบวินิจฉัยในสุขิตสูตรที่ ๒ ดังต่อไปนี้.
บทว่า สุขิตํ ความว่า ผู้เพียบพร้อมด้วยความสุข คือมีทรัพย์มาก
มีโภคะมาก. บทว่า สุสชฺชิตํ ความว่า ประดับตกแต่งขึ้นคอช้าง คือ
มีบริวารมาก.
จบอรรถกถาสุขิตสูตรที่ ๒

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 529

๔. มาตุสูตร
ว่าด้วยสงสารกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้
เหมือนผู้ไม่เคยเป็นมารดา
[๔๕๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯล ฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็น
มารดาโดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น
ดังนี้.
จบมาตุสูตรที่ ๔
[สูตรทั้งปวงก็มีเปยยาลอย่างเดียวกันนี้]
อรรถกถามาตุสูตรที่ ๔
พึงทราบเนื้อความในมาตุสูตรที่ ๔ เป็นต้น โดยกำหนดเพศและ
โดยกำหนดจักรวาล. ในข้อนี้มีกำหนดเพศอย่างนี้ว่า เวลาบุรุษเป็น
มาตุคามและเวลามาตุคามเป็นบุรุษ. สัตว์ทั้งหลายท่องเที่ยวจากจักรวาลนี้
ไปยังจักรวาลอื่น และจากจักรวาลอื่นมายังจักรวาลนี้. บรรดากำหนด ๒
อย่างนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงแสดงหญิงที่เป็นมารดาเวลาเป็น
มาตุคามในจักรวาลนี้ จึงตรัสว่า โย น มาตาภูตปุพฺโพ. แม้ในบท
เป็นต้นว่า โย น ปิตาภูตปุพฺโพ เป็นต้น ก็นัยนี้แล.
จบอรรถกถามาตุสูตรที่ ๔ เป็นต้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 530

๕. ปิตุสูตร
ว่าด้วยสงสารกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้
เหมือนผู้ไม่เคยเป็นบิดา
[๔๕๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย . . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็น
บิดาโดยกาลนาน มิใช่หาได้ง่ายเลย ดังนี้.
จบปิตุสูตรที่ ๕
ตั้งแต่สูตรที่ ๕ ถึง สูตรที่ ๙ ไม่มีอรรถกถาอธิบาย

๖. ภาตุสูตร
ว่าด้วยสงสารและสัตว์ไม่เคยเป็นพี่ชายน้องชาย
[๔๕๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯ ฯล สัตว์ที่ไม่เคยเป็น
พี่ชายน้องชายโดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย. ดังนี้.
จบภาตุสูตรที่ ๖

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 531

๗. ภคินีสูตร
ว่าด้วยสงสารและสัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่หญิงน้องหญิง
[๔๕๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย . . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯ ล ฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็น
พี่หญิงน้องหญิงโดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย ดังนี้.
จบภคินีสูตรที่ ๗

๘. ปุตตสูตร
ว่าด้วยสงสารและสัตว์ที่ไม่เคยเป็นบุตร
[๔๕๔] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯ ล ฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็น
บุตรโดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย.
จบปุตตสูตรที่ ๘

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 532

๙. ธีตุสูตร
ว่าด้วยสงสารและสัตว์ที่ไม่เคยเป็นธิดา
[๔๕๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็น
ที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้อง
ต้นย่อมไม่ปรากฏ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นธิดาโดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลาย
ไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบ
ไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ ภิกษุทั้งหลาย พวก
เธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็น
ป่าช้าตลอดกาลนาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียว
เพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะ
หลุดพ้น ดังนี้.
จบธีตุสูตรที่ ๙

เมื่อเป็นเช่นนี้การเกิดมาชาตินี้อะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเราไม่ว่า "สุขหรือทุกข์" เมื่อได้รับแล้วคือเหตุที่เราเคยทำไว้แล้วมาก่อนทั้งสิ้น และเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ต้องได้รับการแก้ไขด้วยธรรมชาติ แพทย์แผนปัจจุบันจะเป็นเพียงตัวช่วยทางหนึ่งเท่านั้น และผู้ที่เรียนแพทย์ ก็พึงรู้ด้วยว่าได้ไปเกี่ยวข้องกับบ่วงกรรมของคนผู้นั้นกับนายเวรของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แต่ก็มีวิธีที่ดีที่สุดทีจะทำการแก้ไขได้คือการรักษาพยาบาลให้ผู้คนนั้นได้บุญแล้วอุทิศให้นายเวรของผู้ป่วยคนนั้นตามสถานการณ์ อันนี้คือธรรมชาติอย่างหนึ่งที่จะเวียนว่ายวกวนซ้ำซากไปมากับดวงจิตที่ยังหนาด้วย "อวิชชา " ถ้าวันหนึ่งวันใด ที่พยายามขัดเกลา ทำความสะอาดดวงจิตนี้ไปจนเรียกว่าสะอาดดีพอแล้วนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องมาบ้า ๆ ตอบๆ โต้ ๆ กวนความรู้สึกอยู่กันอย่างนี้ :b23: :b30: :b41: เพราะเคยเกี่ยวข้องกันมาแต่ชาติไหนก็ไม่รู้ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 84 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร