วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 15:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




99.jpg
99.jpg [ 41.26 KiB | เปิดดู 6335 ครั้ง ]
ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ บิดเบือนตลอดเพื่อทำให้ตัวเองสอนคนได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้อะไรเลย ผมโมโหแล้วเนี่ย พอผมเอาเรื่องจริงมาพูดก็ด่า โอ้ย พวกที่ทำลายศาสนา มีเยอะมากจริงๆ ครับ ในเว็บนี้มีเยอะมาก ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูกันเอาเหอะครับ ว่าเยอะขนาดไหน หรือว่าในเว็บนี้มีจริงไหม
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 22:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2009, 20:15
โพสต์: 78


 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมจริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 15:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


zinza99 เขียน:
กรรมจริงๆ

ผมก็ว่าอย่างนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


หยุดไม่ได้ครับ....
หยุดตัวเองง่ายกว่า....หยุดไปใส่ใจกับพวกที่เราคิดว่าเขาบิดเบือนคำสอน
เพราะถ้าเราเองยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร สิ่งที่เรารู้อยู่ในสัญญานั้นย่อมเป็นอนิจจังเสมอ คือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจริง เดี๋ยวไม่จริง เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี เดี๋ยวใช่ เดี๋ยวไม่ใช่ กลับกลอกอยู่อย่างนี้แหละ จะไปยึดถือตรงไหนว่ามันจริง ว่ามันถูกต้อง เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ เมื่อไม่รู้จริงแล้วไปอุปปาทานมันก็เป็นทุกข์ ร้อนรนในใจ อยู่อย่างนี้แหละ

พระพุทธเจ้าตรัสสอน อุปกชีวก ตอนก่อนจะนิพพานว่าอย่างไร...ดู
"อุปกะ...ความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล มีมูลรากมาจากตัณหาอุปปาทานทั้งสิ้น......การที่เราจะไปเกาะเกี่ยวอันใดว่าเป็นตน เป็นของตน แล้วจะไม่ก่อโทษก่อทุกข์นั้นเป็นอันไม่มี.."

ทีนี้เห็นรึยังว่าทำไมท่านจึงเดือดร้อนกับเรื่องนี้.... :b16: :b16:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




99.jpg
99.jpg [ 41.26 KiB | เปิดดู 6175 ครั้ง ]
natdanai เขียน:
หยุดไม่ได้ครับ....
หยุดตัวเองง่ายกว่า....หยุดไปใส่ใจกับพวกที่เราคิดว่าเขาบิดเบือนคำสอน
เพราะถ้าเราเองยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร สิ่งที่เรารู้อยู่ในสัญญานั้นย่อมเป็นอนิจจังเสมอ คือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจริง เดี๋ยวไม่จริง เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี เดี๋ยวใช่ เดี๋ยวไม่ใช่ กลับกลอกอยู่อย่างนี้แหละ จะไปยึดถือตรงไหนว่ามันจริง ว่ามันถูกต้อง เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ เมื่อไม่รู้จริงแล้วไปอุปปาทานมันก็เป็นทุกข์ ร้อนรนในใจ อยู่อย่างนี้แหละ

พระพุทธเจ้าตรัสสอน อุปกชีวก ตอนก่อนจะนิพพานว่าอย่างไร...ดู
"อุปกะ...ความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล มีมูลรากมาจากตัณหาอุปปาทานทั้งสิ้น......การที่เราจะไปเกาะเกี่ยวอันใดว่าเป็นตน เป็นของตน แล้วจะไม่ก่อโทษก่อทุกข์นั้นเป็นอันไม่มี.."

ทีนี้เห็นรึยังว่าทำไมท่านจึงเดือดร้อนกับเรื่องนี้.... :b16: :b16:

"อุปกะ...ความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล มีมูลรากมาจากตัณหาอุปปาทานทั้งสิ้น......การที่เราจะไปเกาะเกี่ยวอันใดว่าเป็นตน เป็นของตน แล้วจะไม่ก่อโทษก่อทุกข์นั้นเป็นอันไม่มี

อยากคิดอะไรก็เรื่องของคุณ จงเข้าใจผิดต่อไปเหอะ คุณไม่มีทางได้รู้หรอก ผมใช้อริยสัจ 4 เป็นหรอกน่า ไม่ต้องมาใช้แทนผมหรอก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ผมใช้ อริยสัจ 4 เป็นหรอกน่า

เอาให้คล่องๆ นะครับ

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
เพราะถ้าเราเองยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร สิ่งที่เรารู้อยู่ในสัญญานั้นย่อมเป็นอนิจจังเสมอ คือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจริง เดี๋ยวไม่จริง เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี เดี๋ยวใช่ เดี๋ยวไม่ใช่ กลับกลอกอยู่อย่างนี้แหละ จะไปยึดถือตรงไหนว่ามันจริง ว่ามันถูกต้อง เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ เมื่อไม่รู้จริงแล้วไปอุปปาทานมันก็เป็นทุกข์ ร้อนรนในใจ อยู่อย่างนี้แหละ

พิจารณาตรงนี้ด้วยนะ..."คนเฝ้าสวนสัตว์"... :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 15:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
natdanai เขียน:
เพราะถ้าเราเองยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร สิ่งที่เรารู้อยู่ในสัญญานั้นย่อมเป็นอนิจจังเสมอ คือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจริง เดี๋ยวไม่จริง เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี เดี๋ยวใช่ เดี๋ยวไม่ใช่ กลับกลอกอยู่อย่างนี้แหละ จะไปยึดถือตรงไหนว่ามันจริง ว่ามันถูกต้อง เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ เมื่อไม่รู้จริงแล้วไปอุปปาทานมันก็เป็นทุกข์ ร้อนรนในใจ อยู่อย่างนี้แหละ

พิจารณาตรงนี้ด้วยนะ..."คนเฝ้าสวนสัตว์"... :b13:


อวดเก่งไปเหอะ ไม่สนหรอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเขาสอนถูกคุณไปตำหนิเขามันจะเป็นบาปหนัก ถ้าเขาสอนผิดมันก็เป็นเวรกรรมของเขาเอง และถ้าเห็นว่าอันไหนไม่ถูกต้องก็ควรยกเหตุผลจากหลักปฏิบัติและประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติมาอ้าง มิควรที่จะใช้อารมณ์ ซึ่งแสดงออกถึงการขาดสติ ซึ่งนักปฏิบัติเขาไม่ทำกันนะคับ

ขอความเจริญในธรรมจงมีแต่ท่าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 17:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


อืม ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองจริง ๆ นะคุณ บิดเบือนคำสอน ดูตัวเองเสียก่อนสิ โมโหจนขาดสติ แล้วยังจะมาว่าคนอื่นอีก ทั้ง ๆ ที่ตนเองยังละกิเลสไม่ได้เลย

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
ถ้าเขาสอนถูกคุณไปตำหนิเขามันจะเป็นบาปหนัก ถ้าเขาสอนผิดมันก็เป็นเวรกรรมของเขาเอง และถ้าเห็นว่าอันไหนไม่ถูกต้องก็ควรยกเหตุผลจากหลักปฏิบัติและประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติมาอ้าง มิควรที่จะใช้อารมณ์ ซึ่งแสดงออกถึงการขาดสติ ซึ่งนักปฏิบัติเขาไม่ทำกันนะคับ

ขอความเจริญในธรรมจงมีแต่ท่าน


เขาไม่ใช่คนที่ปฏิบัติหรอกครับ.... :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 22:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


(ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ)

ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ บิดเบือนตลอดเพื่อทำให้ตัวเองสอนคนได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้อะไรเลย ผมโมโหแล้วเนี่ย พอผมเอาเรื่องจริงมาพูดก็ด่า โอ้ย พวกที่ทำลายศาสนา มีเยอะมากจริงๆ ครับ ในเว็บนี้มีเยอะมาก ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูกันเอาเหอะครับ ว่าเยอะขนาดไหน หรือว่าในเว็บนี้มีจริงไหม


(natdanai)

หยุดไม่ได้ครับ....
หยุดตัวเองง่ายกว่า....หยุดไปใส่ใจกับพวกที่เราคิดว่าเขาบิดเบือนคำสอน
เพราะถ้าเราเองยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร สิ่งที่เรารู้อยู่ในสัญญานั้นย่อมเป็นอนิจจังเสมอ คือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจริง เดี๋ยวไม่จริง เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี เดี๋ยวใช่ เดี๋ยวไม่ใช่ กลับกลอกอยู่อย่างนี้แหละ จะไปยึดถือตรงไหนว่ามันจริง ว่ามันถูกต้อง เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ เมื่อไม่รู้จริงแล้วไปอุปปาทานมันก็เป็นทุกข์ ร้อนรนในใจ อยู่อย่างนี้แหละ

พระพุทธเจ้าตรัสสอน อุปกชีวก ตอนก่อนจะนิพพานว่าอย่างไร...ดู
"อุปกะ...ความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล มีมูลรากมาจากตัณหาอุปปาทานทั้งสิ้น......การที่เราจะไปเกาะเกี่ยวอันใดว่าเป็นตน เป็นของตน แล้วจะไม่ก่อโทษก่อทุกข์นั้นเป็นอันไม่มี.."

ทีนี้เห็นรึยังว่าทำไมท่านจึงเดือดร้อนกับเรื่องนี้....


อายะ

ถ้าเขาสอนถูกคุณไปตำหนิเขามันจะเป็นบาปหนัก ถ้าเขาสอนผิดมันก็เป็นเวรกรรมของเขาเอง และถ้าเห็นว่าอันไหนไม่ถูกต้องก็ควรยกเหตุผลจากหลักปฏิบัติและประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติมาอ้าง มิควรที่จะใช้อารมณ์ ซึ่งแสดงออกถึงการขาดสติ ซึ่งนักปฏิบัติเขาไม่ทำกันนะคับ

ขอความเจริญในธรรมจงมีแต่ท่าน


:b35: :b35: :b35:

หยุดไม่ได้หรอก ก็ดูซิ ท่าน จขกท เขียนมาแค่เนี้ย ผู้หวังดีกับท่าน เขียนได้ตั้งเยอะ งาม เพราะพริ้งกว่า อิ อิ อิ ผู้หวังดีกว่า เขียนได้เกือบกลาง ๆ แต่มีเอียงนิด ๆ (เพราะรัก) หากทำใจเราเองให้เป็นกลางไม่ลำเอียงเพราะเข้าข้างตัวเอง ก็นำไปใช้ได้

หากอยู่ในวิสัยที่จะหยุดพวกทำลายพระศาสนาได้ ผมเชื่อว่าพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐพระองค์นั้นจะทรงทำไปแล้ว ไม่เหลือให้พวกเรา ๆ ปวดใจอย่างนี้หรอกครับ ว่าอย่างผมไหม?

ขออนุโมทนาความดีกับผู้รักพระศาสนาทุกท่าน สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2009, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




3top3-27.jpg
3top3-27.jpg [ 93.46 KiB | เปิดดู 6027 ครั้ง ]
จำไว้ด้วยผมไม่ชอบคนที่ดูถูกคนอื่นว่าไม่มีปัญญาและสอนไม่ตรงประเด็น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2009, 12:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 51.39 KiB | เปิดดู 6018 ครั้ง ]
การปกป้องพุทศาสนาเป็นเรื่องดีครับ แต่ที่สำคัญอย่าให้สิ่งเหล่านี้ทำให้ใจเราเศร้าหมองไปด้วย ในโลกนี้ล้วนมีสิ่งกระทบตามโลกธรรม 8 ที่พระพุธองตรัสไว้ แต่หากไม่เอาใจไปกระทบ สิ่งเหล่านั้นมันก็เก้อเขินอยู่ ทำใจเราให้สูงก่อนจะดีกว่าครับ ที่สำคัญคือปัญญาของเราเอง ต้องน่าเชื่อถือมีสิ่งอ้างอิงและความถึงพร้อมของปัญญาและเหตุผล และตอบสิ่งที่คนคัดค้านได้ด้วยปัญญา ที่สำคัญอย่าโกรธ ถ้าตั้งใจจะทำดีแต่มีความโกรธทำไปบ่นไปนี่เป็นบุญที่เจือด้วยราคะ บุญกุศลไม่เต็มสักทีเหมือนกับเอาตระกร้าไปตักน้ำ ตักน้ำมาได้แต่มันก็มีรูรั่ว เหมือนดั่งสวรรค์ชั้นจาตุมมหาราชิกา ที่เป็นแดนที่อยู่ของนาค ครุท ยัก คนธรร ถึงแม้จะเป็นสวรรค์แต่ก็เป็นสวรรที่ไม่สมบูร เป็นพยานาค มีทรัพสามบัต ประสาทแก้ว ฤทเดชมาก แต่ก็เป็นเทพกึ่งสัตว์ เลื้อยไปด้วยท้อง เนื่องจากบุญที่ทำไว้จึงมีสมบัติแต่เป็นบุญที่เจือด้วยราคะ จึงได้ชาติกำเนิดและสวรรค์ที่ไม่สมบูร ต้องเลื้อยไปด้วยท้อง มีเหตุก็ย่อมมีผล เราทำต้องได้ทั้งดีและไม่ดีที่รับมาพร้อมกัน ยังไงผมจะรอฟังสาระดีๆ ของคุณต่อนะครับ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2009, 02:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 7.87 KiB | เปิดดู 5986 ครั้ง ]
คุณผู้ดูแลสัตว์ครับ ผมอยากเล่าอะไรสักเรื่องให้ปัญญาอันเลิสท่านได้วิเคราห์หน่อยน่ะครับ
คือว่าสมัยก่อนนะครับมีชาวประมงคนนึงที่ต้องออกไปหาหอยทุกวันเป็นกิจวัตร ที่นี้เวลาที่หาหอยมาได้เนี่ยก็ต้องมาแยกว่าหอยอันไหนดีอันไหนเน่า โดยทำงี้ครับ เขาจะมีหอยในมือตัวหนึ่งเอาไว้เคาะตัวอื่น ๆ แล้วฟังเสียงดูถ้าอันไหนเสียงเพื้ยนแสดงว่าหอยนั้นไม่ดีแล้วให้ทิ้งไป บังเอิญมีอยู่วันนึงเขานั่งเลือกหอยปกติแต่ปรากฏว่า วันนี้โชคร้ายที่หอยที่เขาหามาได้มันเสียหมดทุกตัว ที่นี้ก็เลยต้องทดสอบใหม่ คือเอาหอยในมือ กระทบไปตัวอื่นไปจนครบทุกตัว แต่น่าแปลก กระทบกี่ครั้งก็เป็นเหมือนเดิมคือหอยในกองเสียทุกตัว เขาเลยอยากรุ้จึงแกะหอยออกมาดู ปรากฏว่าหอยในกองไม่เสียเลยสักตัว แต่ที่เสียงมันเพี้ยนเพราะ หอยที่เขาถืออยู่ในมือมันเสีย พอไปกระทบตัวอื่นเข้าก็คิดว่ามันเสียไปหมด
คุณผู้ดูแลสัตว์วิเศษ ช่วยไช้ปัญญาอันเลิสวิเคราะเรื่องนี้หน่อยสิครับ ทุกคนจะเห็นสิ่งที่ออกมาจากข้างในคุณ
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร