ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
บทสวดโพชฌังคปริตร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=21249 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | murano [ 24 มี.ค. 2009, 19:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | บทสวดโพชฌังคปริตร |
พอจะหาแบบ MP3 ได้ที่ไหนบ้างฮับ หาไม่เจอเลย แบบ link อันนี้นะ (เป็นสวดสังโยคใช่ปะ) http://www.oknation.net/blog/buddhamantra/video/14381 ถ้าดูว่า เป็นบทสวดเพื่อสุขภาพ ก็น่าจะนิยมสวดตอนทำน้ำมนต์ ใช่ปะ |
เจ้าของ: | murano [ 24 มี.ค. 2009, 20:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
อ้อ ต้องบอกจุดประสงค์เสียหน่อย คือ จะเอาไปใส่เครื่องเล่น mp3 วนไปวนมาให้ได้สัก 30 นาทีน่ะ เอามาฟังก่อนจะบรรทมฮ่ะ |
เจ้าของ: | murano [ 24 มี.ค. 2009, 20:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
โต้ดทีๆ โหลดได้แล้ว เอาโปรแกรมจิ๊กมาเลย เพิ่มเติม... เพื่อไม่ให้กระทู้นี้ เสียเปล่า เลยอยากถามว่า... อิติปิโสภะคะวา แปลว่าอะไรเอ่ย ต่อด้วย มรณัง สุขัง อรหัง สุขโต นะโม พุทธายะ คือเราไม่รู้เรื่องภาษาบาลีเลยน่ะ |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 25 มี.ค. 2009, 22:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
อนุโมทนากับความตั้งอกตั้งใจ ของเจ้าของ กท. ครับ บทสวดขึ้นต้นของคาถาชินบัณชร ยังหาคำแปลไม่ได้เลย หาเจอเด่วจะมาตอบ |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 26 มี.ค. 2009, 13:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่รู้ว่าเพื่ออะไร"ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธนะกาโม ละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะยายะ เทวานัง ปิยะยังสุตวา"===>ท่องคาถา เพื่อให้สิ่งศักดิ์และเทพเทวาอวยพรให้เรามีลาภ มีกิน มีใช้ ไม่อดอยาก "อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อรหังสุคโต นะโมพุทธยะ" ===>ท่องคาถา เพื่อให้สิ่งศักดิ์และเทพเทวาคุ้มครองชีวิตเราให้มีความสุข ความเจริญ และนิรันตรายทั้งปวง |
เจ้าของ: | murano [ 26 มี.ค. 2009, 19:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
ยะมาราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ อันนี้พอเข้าใจว่า หมายถึง ท้าวเวสสุวัณ ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ยักษ์และอมนุษย์ อิติปิโสภะคะวา เป็นคำกล่าวนำ คงไม่ต้องแปล หรือถ้าแปล ก็คงไม่ได้ใจความนัก คงจะเปรียบได้กับ... ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ประมาณนั้น นโม พุทธายะ ก็น่าจะเป็นคำปิดท้าย ไม่จำเป็นต้องแปล คิดว่าน่าจะเปรียบได้กับ... ด้วยพระบารมี มรณัง สุขัง อรหัง สุคโต อันนี้ยังกล้อมแกล้มไม่ออก ที่สงสัยคือ แสดงว่าสมเด็จโต ท่านนับถือท้าวเวสสุวัณ ? |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 26 มี.ค. 2009, 21:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
อ้างคำพูด: ที่สงสัยคือ แสดงว่าสมเด็จโต ท่านนับถือท้าวเวสสุวัณ ? ผมคิดว่าสมเด็จโตท่านนับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ............ไม่ได้นับถือท้าวเวสสุวัณผู้เป็นยักษ์ แม้แต่ท่านท้าวเวสสุวัณผู้เป็นราชาแห่งยักษ์ก็ยังนับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ท่านจะคอยมาช่วยปกปักรักษาพระพุทธเจ้าและพระสาวกให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆ ดังปรากฏในพระปริตรบทหนึ่ง คือ อาฏานาฏิยะปริตร หรือบทสวดภาณยักษ์ ที่นิยมสวดกันนั้น ว่ากันว่า ก็เป็นพระคาถาที่ท่านท้าวเวสสุวัณนำมาถวายให้พระพุทธเจ้า แต่คำว่ายะมาราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ ปรากฏในบทสวดตอนต้นนั้นท่านคงหมายถึงอัญเชิญท้าวเวสสุวัณ ผู้ซึ่งเป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งปวงมาช่วยปกปักรักษาผู้สวดอันมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ย่อมหาใช่ว่าผู้นั้นนับถือท้าวเวสสุวัณ............. นะโมพุทธายะ หมายถึงพระนามของพระพุทธเจ้า๕พระองค์โดยย่อ.... นะ...........คือพระนามของพระกุกกุสันโธ โม...........คือพระนามของโมกาโรโคตะมะโน พุท..........คือพระนามของพุทธ์กาโรกัสสะปพุทโธ ธา...........คือพระนามของธากาโรโคตะโมพุทโธ ยะ...........คือพระนามของยะกาโรอริยะเมตตรัยโย อ้างคำพูด: มรณัง สุขัง อรหัง สุคโต การเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การตายโดยไม่เกิดเป็นสุขอย่างยิ่ง การตายโดยไม่เกิดคือต้องตายแบบปราศจากกิเลส แบบอรหัง จึงจะไปด้วยดี อรหัง แปลโดยทั่วไปว่า พระอรหันต์ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าและเป็นบทพุทธคุณบทหนึ่งในจำนวน 9 บท อรหัง ท่านให้ความหมายไว้ 5 นัย คือ นัยที่ 1 หมายความว่า ผู้ไกลจากกิเลส คือทรงละกิเลสได้หมดแล้ว นัยที่ 2 หมายความว่า ผู้กำจัดอริได้แล้ว คือทรงกำจัดข้าศึกกิเลสได้แล้ว นัยที่ 3 หมายความว่า ผู้หักซี่กำของวงล้อสังสารวัฏได้แล้ว ด้วยขวานคือพระญาณ นัยที่ 4 หมายความว่า ผู้ควรแก่ปัจจัย 4 และการบูชาอันวิเศษทั้งหลาย นัยที่ 5 หมายความว่า ผู้ไม่มีที่ลับ คือ ไม่มีที่ลับในการทำบาป สุคโต “เสด็จไปดีแล้ว” คือทรงมีทางเสด็จที่ดีงามอันได้แก่อริยมรรค, เสด็จไปสู่ที่ดีงามกล่าวคือพระนิพพาน, เสด็จไปได้ด้วยดีโดยชอบ กล่าวคือ ทรงดำเนินรุดหน้าไม่หวนกลับคืนมาสู่กิเลสที่ทรงละได้แล้ว ทรงดำเนินสู่ผลสำเร็จไม่ถอยหลัง ไม่กลับตกจากฐานะที่ลุถึงทรงดำเนินในทางอันถูกต้องคือมัชฌิมาปฏิปทา ไม่เฉเชือนไปในทางผิดคือ กามสุขัลลิกานุโยคและอัตตกิลมถานุโยค เสด็จไปดี เสด็จที่ใดก็ทรงทำประโยชน์ให้แก่มหาชนในที่นั้น เสด็จไปโดยสวัสดีและนำให้เกิดความสวัสดี แม้แต่พบองคุลิมาลมหาโจรร้าย ก็ทรงกลับใจให้เขากลายเป็นคนดีไม่มีภัยเสด็จผ่านไปแล้วด้วยดี ได้ทรงบำเพ็ญพุทธกิจไว้บริบูรณ์ ประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้ เพื่อชาวโลก ให้เป็นเครื่องเผล็ดประโยชน์ แก่ประชาชนทั้งปวงผู้เกิดมาในภายหลัง, ทรงมีพระวาจาดี หรือตรัสโดยชอบ คือ ตรัสแต่คำจริงแท้ประกอบด้วยประโยชน์ ในกาลที่ควรตรัส และแก่บุคคลที่ควรตรัส (ข้อ ๔ ในพุทธคุณ ๙) |
เจ้าของ: | murano [ 26 มี.ค. 2009, 22:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
อืม... เดี๋ยวค่อยคิดคำแปลรวมๆ |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 27 มี.ค. 2009, 10:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
ยะมะราชาโน ===>อาจหมายถึงพญายมราช เทพเจ้าแห่งขุมนรก ท้าวเวสสุวัณ ===>ท้าวเวสสุวัณ หรือ ท้าวกุเวร(ซึ่งถือกำเนิดเป็นยักษ์) เป็น1ใน4 ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ อยู่ในสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ที่เรียกว่า สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา ละเภ , ละเภธะนัง ===> ทรัพย์สมบัติ สิ่งมีค่าทั้งหลาย ในบทสวดอาจหมายถึงอริยทรัพย์ มรณังสุขัง =====> ตายจากโลกนี้ไปด้วยบรมสุข อรหังสุคโต =====> หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ มีบรมสุขหรือสุคติเป็นที่ไป ท้าวเวสสุวัณ หรือ ท้าวกุเวร นั้น ศาสนาพราหมณ์ถือว่าเป็นเทพองค์เดียวกัน โดยที่ศาสนาพราหมณ์นั้นได้กล่าวถึงเทพผู้พิทักษ์รักษาโลกมนุษย์ หรือ ท้าวโลกบาลประจำทิศต่าง ๆ ด้วยกัน ๘ ทิศ คือ พระอินทร์ ประจำทิศบูรพา (ตะวันออก) พระเพลิง ประจำทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) พระยม ประจำทิศทักษิณ (ใต้) พระอาทิตย์ประจำทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) พระพิรุณ ประจำทิศประจิม (ตะวันตก) พระพาย ประจำทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงใต้) พระจันทร์ ประจำทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) และ ท้าวกุเวร ประจำทิศอุดร (ทิศเหนือ) ก่อนจะว่ากันต่อไปถึงประวัติความเป็นมาของท่านท้าวกุเวร ต้องมาตกลงทำความเข้าใจกันก่อนในเรื่องของลัทธิความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ และ ศาสนาพุทธ อย่างกรณีของเรื่องท้าวโลกบาลนั้น จะเห็นว่า พุทธศาสนาของเรานั้น กล่าวถึงท้าวโลกบาลเพียง ๔ ทิศ ที่เรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ อันได้แก่ ท่านท้าวกุเวร เป็นโลกบาลประจำทิศอุดร (ทิศเหนือ) ดุจเดียวกับพราหมณ์ ท่านท้าวธตรฐ เป็นโลกบาลประจำทิศบูรพา (ตะวันออก) ต่างจากพราหมณ์ ที่ให้พระอินทร์ อยู่ในทิศนี้ ท่านท้าววิรุฬหก ประจำทิศทักษิณ (ใต้) ต่างจากพราหมณ์ ที่ให้พระยม ประจำทิศนี้ และท่านท้าววิรูปักษ์ ประจำทิศประจิม (ตะวันตก) ต่างจากพราหมณ์ที่ให้พระพิรุณ ประจำทิศนี้ ถ้าเราไม่แยกแยะในเรื่องของ ลัทธิความเชื่อของพราหมณ์กับพุทธออกจากกัน โดยเฉพาะในเรื่องของภพภูมิต่าง ๆ สวรรค์ ชั้นต่าง ๆ เราก็อาจจะสับสนปนเปกันวุ่นไปหมด อย่างพราหมณ์ที่เขาจัดให้พระอินทร์ เป็นท้าวจตุโลกบาลนั้น ด้วยเหตุที่พราหมณ์นั้น ไม่ได้มีการแบ่งแยกสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ออกจากกันแม้กระทั่งจัดให้พระยม เทพเจ้าแห่งขุมนรก เป็นท้าวจตุโลกบาล ประจำทิศใต้ ก็ดุจเดียวกัน พราหมณ์นั้นไม่ได้แยกภพภูมิ เป็นไตรภูมิอย่างพุทธศาสนา ดังนั้น สวรรค์ของพราหมณ์ ก็คือ เทพเทวดาต่าง ๆ โดยทั่วไป แม้แต่พระพรหม ก็อยู่บนสวรรค์ โดยถือเป็นเทวดาที่มีศักดิ์สูงเป็นใหญ่กว่าเทวดาทั้งปวงเท่านั้น อย่างพระยมนั้น ท่านก็ให้เป็นเทวดา แต่ไปปกครองนรก หรือ ดินแดนที่มีแต่ความเสื่อมโทรม ทารุณโหดร้าย หรือ พระพิรุณ เทพเจ้าแห่งมหาสมุทร และสายฝน ก็ให้ไปปกครองเมืองบาดาล ถือเป็นเทพองค์หนึ่งที่ไม่ได้อยู่บนสรวงสวรรค์ แต่ในทางพุทธศาสนานั้น แยกภพภูมิออกจากกันอย่างชัดเจน พระอินทร์ นั้น เป็นเทวราช หรือ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นที่สอง หรือ ดาวดึงส์ ย่อมอยู่เหนือกว่า หรือสูงศักดิ์กว่า ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ที่จัดให้เป็นใหญ่ในทิศต่าง ๆ ทั้งสี่ทิศ อยู่ในสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ที่เรียกว่า สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา โดยที่สวรรค์ชั้นนี้ นอกจากมีเทวดาชั้นต่ำ เช่น พระภูมิ เจ้าที่ รุกขเทวดา อากาศเทวดา ฯลฯ แล้ว ยังมีอมนุษย์ต่าง ๆ อยู่ในภพภูมินี้อีกหลายประเภท เช่น ยักษ์ ถือเป็นเทวดาพวกหนึ่ง ที่มีรูปร่างหน้าตาน่ากลัว ตาพองโต จมูกบาน มีเขี้ยวโง้ง ร่างกายใหญ่โต มีกระบอง เป็นอาวุธ บรรดายักษ์เหล่านี้ อยู่ในความดูแล หรือ ภายใต้การปกครองของท่านท้าวกุเวร หรือ ท่านท้าวเวสสุวัณ ซึ่งถือกำเนิดเป็นยักษ์เช่นกัน นอกจากยักษ์แล้วยังมีพวก คนธรรพ์ ที่หลายท่านเข้าใจว่า เป็นพวกกึ่งมนุษย์กึ่งเทวดา มีหน้าที่ขับร้องฟ้อนรำ หรือมีความสามารถในด้านดนตรี แท้ที่จริงแล้ว ท่านไม่ได้เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทวดาอย่างที่เข้าใจกัน เหมือนพวกกินนร (กึ่งนกกึ่งคน คือ ตัวเป็นคน มีท่อนล่างเป็นนก มีปีกแบบนก) หรือ พวกครุฑ (ที่เป็นพวกกึ่งนก กึ่งเทวดา) หรือ อมนุษย์อื่น ๆ แต่ท่านเป็นเทวดาชั้นต่ำ มีกายทิพย์ อิ่มทิพย์ เสวยสมบัติทิพย์ ดุจปวงเทพเทวดาทั่วไป มีความสามารถในด้านการขับร้อง ฟ้อนรำ เพียงแต่ไม่มีวิมานเป็นที่อยู่ของตนเอง จะอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ ในขอบเขตของสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ทางด้านทิศตะวันออก ที่อยู่ในความปกครองดูแลของท่านท้าวธตรฐ ที่กำเนิดของท่านเป็นคนธรรพ์เช่นกัน ไม่ได้เป็นยักษ์อย่างที่บางตำราบอกเอาไว้ ที่มา: http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=898.0 |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 27 มี.ค. 2009, 10:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บทสวดโพชฌังคปริตร |
รู้สึกว่ามันจะเป็นบทที่เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านใช้เวลาให้พรแก่ญาติโยมนะครับ ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา แปลตามใจความว่า ผู้ปรารถนาบุตร ขอให้ได้บุตรสมความปรารถนา ผู้ปรารถนาทรัพย์ จงได้ทรัพย์สมปรารถนา และขออัญเชิญเทวดาจงมาร่วมรับรู้อนุโมทนาให้เขาเหล่านั้น จงสำเร็จตามความปรารถนาทุกประการ ส่วนอีกท่อนที่เหลือ อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ ยังหาคำแปลไม่ได้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |