วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 06:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2009, 02:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
ในเว็บนี้พวกที่เน้นการวิปัสสนา เน้นในทางสุกขวิปัสสโก ก็เขี่ยกระทู้ผมทิ้งเป็นว่าเล่น เพราะพวกเขาไม่มีอภิญญาใดๆนั่นเอง จึงปฏิเสทเรื่องที่ผู้ได้อภิญญาพบเห็น


ในขณะที่ใจไม่เป็นสุข วุ่นวายกับความคิด ที่คิดด้วยคติที่ว่าเพราะพวกเขาไม่มีอภิญญา ใด ๆ จึงปฏิเสธเรื่องที่ผู้ได้อภิญญาพบเห็น กลับไม่ตระหนักว่าผู้ได้อภิญญาก็กำลังปฏิเสธสิ่งที่คิดว่าเป็นพวกสุกขวิปัสสโกเห็น ผมว่ามันตลก

หาก ผมจบ ป.ตรี วิศวโยธา ส่วนเพื่อนผม จบ ป.ตรี วิศวโยธา เหมือนกัน แต่เล่นคอมพ์เก่ง เขียนโปรแกรมก็ได้ เป็นพิธีกรก็ดูดี แต่ในงานวิศวโยธาแล้วผมกับเพื่อนทำงานไปแนวเดียวกัน

จะสุกขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิธปัตโต ไม่น่าจะมีความเห็นแย้งกันในเรื่องทางธรรม นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2009, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


ตกลงอยากเห็นธรรมหรืออยากเห็นพระพุทธเจ้ากันแน่ครับทุกคน หรือว่าแค่อยากรู้เฉยๆว่าจะเห็นไหม ตอบผมหน่อยเร็ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2009, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
ในเว็บนี้พวกที่เน้นการวิปัสสนา เน้นในทางสุกขวิปัสสโก ก็เขี่ยกระทู้ผมทิ้งเป็นว่าเล่น เพราะพวกเขาไม่มีอภิญญาใดๆนั่นเอง จึงปฏิเสทเรื่องที่ผู้ได้อภิญญาพบเห็น


ในขณะที่ใจไม่เป็นสุข วุ่นวายกับความคิด ที่คิดด้วยคติที่ว่าเพราะพวกเขาไม่มีอภิญญา ใด ๆ จึงปฏิเสธเรื่องที่ผู้ได้อภิญญาพบเห็น กลับไม่ตระหนักว่าผู้ได้อภิญญาก็กำลังปฏิเสธสิ่งที่คิดว่าเป็นพวกสุกขวิปัสสโกเห็น ผมว่ามันตลก

หาก ผมจบ ป.ตรี วิศวโยธา ส่วนเพื่อนผม จบ ป.ตรี วิศวโยธา เหมือนกัน แต่เล่นคอมพ์เก่ง เขียนโปรแกรมก็ได้ เป็นพิธีกรก็ดูดี แต่ในงานวิศวโยธาแล้วผมกับเพื่อนทำงานไปแนวเดียวกัน

จะสุกขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิธปัตโต ไม่น่าจะมีความเห็นแย้งกันในเรื่องทางธรรม นะ


สิ่งที่พระอรหันต์สุกขวิปัสสโกรู้ พระอรหันต์เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิธปัตโต ท่านรู้หมด แต่สิ่งที่พระอรหันต์เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิธปัตโต รู้ พระอรหันต์สุกขวิปัสสโกจะไม่รู้ เพราะว่าพระอรหันต์สุกขวิปัสสโกได้อภิญญาเรื่องเดียว คือ อาสวักขยญาณ คือ ทำให้กิเลสหมดสิ้นไป ในขณะที่พระอรหันต์เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิธปัตโต ได้อภิญญา 6 อย่าง คือ อิทธิวิธี ทิพยโสต เจโตปริยญาณ ทิพยจักขุ และระลึก๙ติได้ ที่สำคัญคือท่านได้อาสวักขยญาณเช่นกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2009, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


นักเขียน animation เขียน:
ตกลงอยากเห็นธรรมหรืออยากเห็นพระพุทธเจ้ากันแน่ครับทุกคน หรือว่าแค่อยากรู้เฉยๆว่าจะเห็นไหม ตอบผมหน่อยเร็ว


:b8: :b8: :b8:


ไงล่ะ เด็กมันซื่อๆ ตรงๆ แต่แทงใจดำนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2009, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากเห็นธรรม อยากเห็นพระพุทธเจ้า ก็จะไม่เห็นธรรม และไม่เห็นพระพุทธเจ้า

แต่เมื่อไม่อยากเห็นธรรม และไม่อยากเห็นพระพุทธเจ้า ก็จะได้เห็นทั้งธรรม เห็นทั้งพระพุทธเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2009, 23:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

สรุปคือถ้าอยากเห็น จะไม่เห็น
ถ้าไม่อยากเห็น จะเห็น
ใช่ไหมครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2009, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


ตกลงไงกัน...เนี่ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2009, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

สรุปคือถ้าอยากเห็น จะไม่เห็น
ถ้าไม่อยากเห็น จะเห็น
ใช่ไหมครับ


:b8: :b8: :b8:


ไม่ใช่ครับ...ผมบอกว่า

อยากเห็นธรรม อยากเห็นพระพุทธเจ้า ก็จะไม่เห็นธรรม และไม่เห็นพระพุทธเจ้า

แต่เมื่อไม่อยากเห็นธรรม และไม่อยากเห็นพระพุทธเจ้า ก็จะได้เห็นทั้งธรรม เห็นทั้งพระพุทธเจ้า


ความหมายคือ คุณต้องละกิเลสตัญหา หรือ ละโลภะ โทสะ โมหะ ได้ระดับหนึ่ง พระพุทธเจ้าจึงจะมาแสดงโลกุตตะธรรมให้คุณรู้เห็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2009, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ รูปภาพแห่ง"บ้านกริฟฟินดอร์" เขียน เขียน เขียน:
.....หรือว่าแค่อยากรู้เฉยๆว่าจะเห็นไหม ตอบผมหน่อยเร็ว???!! :b10:


อย่าเพิ่งแปลกใจเลยะนะครับ เพราะว่า การอยากเห็นพระพุทธองค์ ดูเป็นคำเปรียบเปรยซะมากกว่า
แต่เป็นคำเปรียบเปรยที่มีคุณค่ามาก มากเพราะว่าการได้เห็นธรรมน้อยคนนักจะได้เห็นหากปฏิบัติไม่ถึง
แก่นแท้ของธรรม หากปฏิบัติถึงย่อมเข้าใจและเห็นลึกซึ้งกระจ่างแจ้งโลก จนเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่สุดแห่งธรรม หรือรวมมองลงไปเป็นสังขารธรรมทั้งหมด(เข้าสู่กฎแห่งไตรลักษณ์3 และ โลกธรรม8ได้ชัดเจน) ยังงี้จึงจะได้ชื่อว่าเห็นตถาคต เห็นตัวจริงของพระพุทธองค์ที่แท้จริง ดีกว่าเห็นเพียงแค่กายเนื้อ หรือ กายนิมิตของพระพุทธองค์เป็นไหนๆ :b44:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2009, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
อ้างคำพูด:
ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ รูปภาพแห่ง"บ้านกริฟฟินดอร์" เขียน เขียน เขียน:
.....หรือว่าแค่อยากรู้เฉยๆว่าจะเห็นไหม ตอบผมหน่อยเร็ว???!! :b10:


อย่าเพิ่งแปลกใจเลยะนะครับ เพราะว่า การอยากเห็นพระพุทธองค์ ดูเป็นคำเปรียบเปรยซะมากกว่า
แต่เป็นคำเปรียบเปรยที่มีคุณค่ามาก มากเพราะว่าการได้เห็นธรรมน้อยคนนักจะได้เห็นหากปฏิบัติไม่ถึง
แก่นแท้ของธรรม หากปฏิบัติถึงย่อมเข้าใจและเห็นลึกซึ้งกระจ่างแจ้งโลก จนเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่สุดแห่งธรรม หรือรวมมองลงไปเป็นสังขารธรรมทั้งหมด(เข้าสู่กฎแห่งไตรลักษณ์3 และ โลกธรรม8ได้ชัดเจน) ยังงี้จึงจะได้ชื่อว่าเห็นตถาคต เห็นตัวจริงของพระพุทธองค์ที่แท้จริง ดีกว่าเห็นเพียงแค่กายเนื้อ หรือ กายนิมิตของพระพุทธองค์เป็นไหนๆ :b44:

ใครจะอยากไม่อยากก็แล้วแต่เหอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติธรรม คือ การตัดสังโยชน์เบื้องต่ำ และเบื้องสูงได้ นะครับ เมื่อตัดได้แล้วก็เป็นอันสิ้นภาระกิจครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงปู่มั่นตอบพระพุทธเจ้าว่า:

แม้พระองค์กับพระสาวกจะเสด็จมาหรือไม่ก็มิได้สงสัยว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ อันแท้จริงมีอยู่ ณ ที่แห่งใด แต่เป็นความเชื่อ ประจักษ์ใจอยู่เสมอว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต อันแสดงว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ มิใช่ธรรมชาติอื่นใดจากที่บริสุทธิ์หมดจดจากสมมติในลักษณะเดียวกันกับพระรัตนตรัย

ย้ำ! ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต อันแสดงว่า พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ มิใช่ธรรมชาติอื่นใดจากที่ บริสุทธิ์หมดจดจากสมมติในลักษณะเดียวกันกับพระรัตนตรัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2009, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: คำว่าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

คำว่าเรา คือ พระพุทธเจ้า
พุทธเจ้า คือ พุทธะ คือ ใจตัวเอง
เพราะคำว่าพุทธะ แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
เมื่อเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ก็จะมอง
สภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าดี หรือเลว ก็เป็นเพียงชั่วคราว
เป็น ธ ร ร ม ะ คือ ธรรมชาติ
มันเป็นเช่นนั้น อย่างนั้น เอง

ตามกฏไตรลักษณ์(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นขณะ ๆ
:b36:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2009, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
อยากรู้ก็ต้องเห็นธรรมก่อนครับ...จึงจะรู้ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร สิ่งนึงคือเป็นคำพูดของพระพุทธเจ้าย่อมต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอน :b13: :b13:


อยากรู้จังเลยค่ะ ท่านใช้อะไรลับมีดคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: :b43: :b43: :b52: :b51: :b53: :b45: :b41: :b37:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 51 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร