วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 06:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2009, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


สมาชิกใหม่ค่ะขอถามเรื่องเกี่ยวกับ.....คือเวลาก่อนที่เราจะนั่งสมาธิ.....เราก้อมักจะนั่งนึกว่า.........เวรกรรมอะไรของเรา.....ที่ทำให้ชีวิตเราต้อง....เป็นอย่างโน้นอย่างนี้....แล้วเราก้อจะนั่งสมาธิ.....เพื่อทำใจให้นิ่ง....จะได้ไ่ม่ฟุ้งซ่าน.....เวลาที่เราหลับ....จะมีเหมือนเป็นวิญญาณ.....หรืออะไรเราก้อเดาไม่ถูก.....จะมีรูปร่างเหมือนคน......เป็นลักษณะผู้ชาย......แต่จะเป็นผิวสีดำ......หน้าตาก้อดำทั้งหมด......จนมองหน้าไม่ออก...........ว่าหน้าตาของผู้ชายคนนั้น......หน้ายังไง.....เค้าจะมาหาเรา.....แล้วก้อบอกว่า.....ถ้าอยากจะรู้.....เค้าก้อจะพาไปดู.....ว่าเป็นเพราะอะไร.....ทุกๆ ครั้งที่เราคิด.....เค้าก้อจะพาเราไป....................จะเป็นอย่างนี้บ่อยมาก.....เวลาที่เค้าพูดกับเรา....มีความรู้สึกว่าเค้าพูดกับเราดีๆ........................มีใคร...พอที่จะให้คำตอบ...กับเราบ้างได้มั๊ย....ว่าเงาดำที่ทุกครั้ง....พาให้เราได้ไปเห็น....ในสิ่งที่เราอยากจะรู้....นั้นคือวิญญาณ....หรืออะไร...แล้วถ้าเราจะอุทิศผลบุญ....ให้เค้าเราจะพูดว่าอย่างไร ขอให้ท่านที่เคยเจอหรือรู้เรื่องนี้ช่วยตอบด้วยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2009, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


คือสิ่งที่จิตสังขารสร้างขึ้น แล้วท่านก็ไปยึดถือมันไว้

ลองไม่ต้องนึกอะไรตอนทำสมาธิดูครับ

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2009, 19:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
สมาชิกใหม่ค่ะขอถามเรื่องเกี่ยวกับ.....คือเวลาก่อนที่เราจะนั่งสมาธิ.....เราก้อมักจะนั่งนึกว่า.........เวรกรรมอะไรของเรา.....ที่ทำให้ชีวิตเราต้อง....เป็นอย่างโน้นอย่างนี้....แล้วเราก้อจะนั่งสมาธิ.....เพื่อทำใจให้นิ่ง....จะได้ไ่ม่ฟุ้งซ่าน.....เวลาที่เราหลับ....จะมีเหมือนเป็นวิญญาณ.....หรืออะไรเราก้อเดาไม่ถูก.....จะมีรูปร่างเหมือนคน......เป็นลักษณะผู้ชาย......แต่จะเป็นผิวสีดำ......หน้าตาก้อดำทั้งหมด......จนมองหน้าไม่ออก...........ว่าหน้าตาของผู้ชายคนนั้น......หน้ายังไง.....เค้าจะมาหาเรา.....แล้วก้อบอกว่า.....ถ้าอยากจะรู้.....เค้าก้อจะพาไปดู.....ว่าเป็นเพราะอะไร.....ทุกๆ ครั้งที่เราคิด.....เค้าก้อจะพาเราไป....................จะเป็นอย่างนี้บ่อยมาก.....เวลาที่เค้าพูดกับเรา....มีความรู้สึกว่าเค้าพูดกับเราดีๆ........................มีใคร...พอที่จะให้คำตอบ...กับเราบ้างได้มั๊ย....ว่าเงาดำที่ทุกครั้ง....พาให้เราได้ไปเห็น....ในสิ่งที่เราอยากจะรู้....นั้นคือวิญญาณ....หรืออะไร...แล้วถ้าเราจะอุทิศผลบุญ....ให้เค้าเราจะพูดว่าอย่างไร ขอให้ท่านที่เคยเจอหรือรู้เรื่องนี้ช่วยตอบด้วยค่ะ



เคยเป็นเหมือนกันค่ะ ตอนที่ทำสมาธิอย่างเดียว ไม่ได้เจริญสติปัฏฐาน 4 สมัยก่อนไม่รู้จักการเจริญสติ ตั้งแต่ได้เจริญสติปัฏฐาน มา .. เดี๋ยวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วค่ะ หายไปเลย ไม่มีอีกเลย

ไม่มีอะไรหรอกค่ะ จิตเรามันหลอกตัวเราเอง ยิ่งเราไปเชื่อมากเท่าไหร่ เราก็จะรู้สึกว่า มันเกิดขึ้นจริงมากเท่านั้น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ก่อนที่เราจะนั่งสมาธิ.....เราก้อมักจะนั่งนึกว่า......เวรกรรมอะไรของเรา...ที่ทำให้ชีวิตเราต้อง....เป็นอย่างโน้นอย่างนี้....แล้วเราก้อจะนั่งสมาธิ.....เพื่อทำใจให้นิ่ง....จะได้ไ่ม่ฟุ้งซ่าน.....


เราจะเรียกว่า การเจริญสมาธิหรือฝึกจิต ฯลฯ แล้วแต่จะตั้งชื่อให้มัน ควรมีหลักก่อนครับ :b1:
เท่าทิ่ จขกท. เล่ามายังไม่เห็นหลักกรรมฐานที่ใช้ คุณใช้ลมหายใจเข้า-ออกเป็นกรรมฐาน หรือนึกอย่างที่ว่า (...นั่งนึกว่า เวรกรรมอะไรของเรา ที่ทำให้ชีวิตเราต้อง เป็นอย่างโน้นอย่างนี้) หลังจากนึกอย่างนั้นแล้ว ก็นั่งทำใจนิ่งๆ อย่างที่ว่าใช่ไหมครับ
การคิดอย่างแบบในวงเล็บนั่นแหละ เป็นวิถีจิตที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ตอนหลับฝัน (ครึ่งหลับครึ่งตื่น) คือ สังขารปรุงแปรวาดภาพเป็นรูปร่าง ดังเช่นที่ว่า =>

อ้างคำพูด:
เวลาที่เราหลับ....จะมีเหมือนเป็นวิญญาณ.....หรืออะไรเราก้อเดาไม่ถูก.....จะมีรูปร่างเหมือนคน......เป็นลักษณะผู้ชาย......แต่จะเป็นผิวสีดำ......หน้าตาก้อดำทั้งหมด......จนมองหน้าไม่ออก......ว่าหน้าตาของผู้ชายคนนั้น......หน้ายังไง.....เค้าจะมาหาเรา.....แล้วก้อบอกว่า.....ถ้าอยากจะรู้.....เค้าก้อจะพาไปดู.....ว่าเป็นเพราะอะไร.....ทุกๆ ครั้งที่เราคิด.....เค้าก้อจะพาเราไป........จะเป็นอย่างนี้บ่อยมาก.....เวลาที่เค้าพูดกับเรา....มีความรู้สึกว่าเค้าพูดกับเราดีๆ......


คล้ายๆกรณีคุณก้อย ที่ลิงค์นี้

viewtopic.php?f=1&t=20186&st=0&sk=t&sd=a&start=15

แต่ต้นเหตุจริงๆ เกิดจากแหล่งเดียวกัน คือ จิตเริ่มขึ้นสู่วิถีของมัน

อ้างคำพูด:
มีใคร...พอที่จะให้คำตอบ...กับเราบ้างได้มั๊ย....ว่าเงาดำที่ทุกครั้ง....พาให้เราได้ไปเห็น....ในสิ่งที่เราอยากจะรู้....นั้นคือวิญญาณ....หรืออะไร..


หากจะพูดถึง “วิญญาณ” ก็เป็นมโนวิญญาณ ที่นึกคิดธรรมารมณ์อยู่ ตามที่อธิบายข้างต้น
ไม่ใช่วิญญาณอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ :b42:

อ้างคำพูด:
แล้วถ้าเราจะอุทิศผลบุญ....ให้เค้าเราจะพูดว่าอย่างไร ขอให้ท่านที่เคยเจอหรือรู้เรื่องนี้ช่วยตอบด้วยค่ะ

อาการครึ่งหลับครึ่งตื่น คุณจะพูดอะไรไม่ได้ เพราะสติสัมปชัญญะไม่มากพอที่จะคุมวงจรวิถีจิตนั้นได้ รู้สึกตัวตื่นแล้วจะกรวดน้ำแผ่เมตตาอย่างที่ทำๆกันก็ทำได้ เพื่อสร้างวิถีจิตใหม่ หรือจะพูดว่าเพื่อความสบายใจก็ได้ แต่ยังมิใช่แก้ที่ต้นเหตุแห่งทุกข์ :b38:

ฟันธงให้ก่อนว่า คุณไม่พึงเก็บเอาความคิดตอนฝันมาคิดตอนตื่น แปลว่าสร้างอุปาทานซ้ำเข้าอีก


สุดท้ายขอคำตอบ คุณใช้กรรมฐานอะไร แล้วใช้วิธีปฏิบัติกรรมฐานนั้นอย่างไรครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณทั้ง3ท่าน มากนะค่ะ ที่ให้คำตอบกับเรา คือเราพูดตรงๆเลยนะ คือเรายังไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องการนั่งสมาธิ แล้วก็การนั่งกรรมฐาน
ว่าแตกต่างกันยังไง คือเราไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย เราเคยโทรไปคุย กับญาติ ที่เมืองไทย เราบอกว่า ตอนนี้เราเริ่มนั่งสมาธิ รู้สึกว่าความฟุ้งซ่านต่างๆเริ่มดีขึ้น แล้วก้อใจเย็นเยอะ ญาติที่เมืองไทย ก้อบอกว่าเธอนั่งสมาธิไม่ได้นะ การนั่งสมาธิต้องมีอาจารย์ เราก้อเลยกล้าๆกลัว
แต่เราคิดว่า เวลาที่เรานั่งสมาธิ แล้วเรารู้สึกว่าดี ไม่เหมือนตอนที่ เราไม่ได้นั่งสมาธิ เราก้อ เลยสับสน ไม่รู้ว่าเรานั่งได้หรือไม่ได้ แต่เวลาที่เรานั่ง เราจะใช้คำว่า พุทธ-โธแล้วก้อจะกำหนดจิต ให้อยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก
แล้วจิตของเราก้อจะเงียบ แล้วตัวก้อเบามากเหมือนตัวเราลอย ไม่ได้ติดอยู่ที่พื้น คุณกรัชกายพอจะบอกได้มั๊ยค่ะ ว่าที่เรานั่งสมาธิแบบนี้ถูกหรือผิด
บางครั้งที่เราคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ คือเราคิดถึงเมืองไทยนะค่ะ เราอยากจะไปรวมกลุ่มกับ การนั่งสมาธิภาวนา แต่เราก้อไม่สามาทร ที่จะทำได้ เพราะเราต้องทำหน้าที่แม่ก่อน บอกตรงๆเลยค่ะตอนนี้สับสนมากๆ แต่ก้อสบายใจ เรื่องเงาดำไปแล้วค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะสำหรับคำตอบของทุกๆท่านค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


bbby เขียน:
แต่เวลาที่เรานั่ง เราจะใช้คำว่า พุทธ-โธแล้วก้อจะกำหนดจิต ให้อยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก
แล้วจิตของเราก้อจะเงียบ แล้วตัวก้อเบามากเหมือนตัวเราลอย ไม่ได้ติดอยู่ที่พื้น


อาการของคุณbbbyนั้นเป็นอาการของสมถะครับ แล้วก็ปฎิบัติได้ถูกต้องแล้วนะครับ คุณbbbyสามารถที่จะเสริมการภาวนาด้วยการดูจิตได้ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น เวลาที่เราโมโห ให้เรารู้ทันอาการโมโห(แค่รู้ อย่าไปปรุงเพิ่ม แล้วอาการโมโหก็จะหายไป ถ้าคุณไม่ได้ไปปรุงเพิ่มนะครับ :b12: ) หรือเวลาที่คุณbbbbyคิดฟุ้งซ่านก็ให้รู้ทันว่าคุณbbbyฟุ้งซ่านครับ ไม่ว่าคุณนั้นจะเผลอ อิจฉา อยากได้ฯลฯ ขอเพียงให้รู้ทัน คุณbbbyสามารถศึกษาเรื่องการดูจิตได้ที่http://www.wimutti.netครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นครับ :b8:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เราพูดตรงๆเลยนะ คือ เรายังไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องการนั่งสมาธิ แล้วก็การนั่งกรรมฐาน
ว่าแตกต่างกันยังไง


ทำความเข้าใจสิ่งที่คุณยังไม่ค่อยเข้าใจ ดังนี้

นั่งสมาธิ นั่ง+สมาธิ นั่งได้แก่อิริยาบถนั่ง
ส่วนสมาธิ เป็น นามธรรมภายใน มองด้วยตาเนื้อไม่เห็น

ดังนั้น คำว่า นั่ง กับ สมาธิ จึงคนล่ะส่วนกัน เราพูดว่า นั่งสมาธิ สั้นๆฐานเข้าใจกัน
แต่พูดไปพูดมาบางท่านกลับเข้าใจผิดว่า คนที่นั่งขัดสะมาด หรือ นั่งขัดสมาธิ (นั่งแบบพระพุทธรูป) ว่า นั่งสมาธิ เข้าใจว่า นั่งท่าอื่น ว่าไม่ใช่นั่งสมาธิ เช่นว่า นั่งบนเก้าอี้ว่าไม่ใช่นั่งสมาธิ
อย่างนี้เข้าใจผิด

คนนั่งขัดสมาธิอาจไม่มีสมาธิก็ได้ คนนั่งบนเก้าอี้อาจมีสมาธิก็ได้ ไม่แน่

หากมีใครพูดว่า ยืนสมาธิ เดินสมาธิ ก็พึงเข้าใจทำนองนั้น

ส่วน นั่งกรรมฐาน ก็คล้ายๆ กัน แต่ คำว่า กรรมฐาน ไม่ใช่ตัวสมาธิ

ดูครับ นั่ง+กรรมฐาน นั่งอธิบายมาแล้ว

คำว่า กรรมฐาน ดูหลักก่อนครับ :b1:

กรรมฐาน - ที่ตั้งแห่งการทำงานของจิต หรือ ที่ให้จิตทำงาน

มีความหมายเป็นทางการว่า สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา หรือ อุปกรณ์ในการฝึกอบรมจิต
หรือ อุบาย หรือ กลวิธีเหนี่ยวนำสมาธิ

พูดง่ายๆว่า สิ่งที่เอามาให้จิตกำหนด จิตจะได้มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว สงบอยู่ที่ได้ ไม่เที่ยววิ่งเล่นเตลิด หรือ เลื่อนลอยฟุ้งซ่านไปอย่างไร้จุดหมาย

ชัดเจนพอควรแล้ว แต่ดูอธิบายซ้ำอีกที

กรรมฐาน = กรรม+ฐาน กรรม หรือ กรรมะ ศัพท์ในที่นี้ แปลว่า การงานของจิต หรือ ที่ให้จิตทำงาน
คุณใช้ลมหายใจ ลมหายใจ ก็คืองานที่จิตจะต้องทำ คือว่า โยคีพึงควบคุมให้จิตดูลมเข้าลมออกนั้นๆ

ผู้ใช้พอง-ยุบ พอง-ยุบก็เป็นงานที่จิตจะต้องทำ

ฐาน หรือ ฐานะ แปลว่า ที่ตั้ง - กรรมฐาน จึงแปลว่า ที่ตั้งแห่งการงานของจิต

เมื่อจิตทำงานตามวิธีการแล้ว สมาธิก็เกิด จึงเท่ากับว่า กรรมฐาน เป็นอุบายเหนี่ยวนำให้จิตมีสมาธิ

พอเข้าใจไหมครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เราไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย เราเคยโทรไปคุย กับญาติ ที่เมืองไทย เราบอกว่า ตอนนี้เราเริ่มนั่งสมาธิ รู้สึกว่าความฟุ้งซ่านต่างๆเริ่มดีขึ้น แล้วก้อใจเย็นเยอะ
ญาติที่เมืองไทย ก้อบอกว่าเธอนั่งสมาธิไม่ได้นะ การนั่งสมาธิต้องมีอาจารย์
เราก้อเลยกล้าๆกลัว
แต่เราคิดว่า เวลาที่เรานั่งสมาธิ แล้วเรารู้สึกว่าดี ไม่เหมือนตอนที่ เราไม่ได้นั่งสมาธิ เราก้อ เลยสับสน ไม่รู้ว่าเรานั่งได้หรือไม่ได้



คำพูดของญาติคุณ เหมือนๆ คำเตือนแม่กรัชกาย และจากคนอื่นๆ ทำนองว่าทำสมาธิระวังจะบ้านะ ฯลฯ
ส่วนตัวเราเองหลังจากทำสมาธิแล้วมีความรู้สึกเหมือนคุณนั่นแล
แต่คำพูดของญาติ เป็นต้น เพราะท่านเคยเห็นมาว่ามีเป็นเช่นนั้น จึงเตือนว่า ควรมีผู้รู้แนะนำ

อ้างคำพูด:
แต่เวลาที่เรานั่ง เราจะใช้คำว่า พุทธ-โธแล้วก้อจะกำหนดจิต ให้อยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก แล้วจิตของเราก้อจะเงียบ แล้วตัวก้อเบามากเหมือนตัวเราลอย ไม่ได้ติดอยู่ที่พื้น
คุณกรัชกายพอจะบอกได้มั๊ยค่ะ ว่าที่เรานั่งสมาธิแบบนี้ถูกหรือผิด



คุณใช้ลมเข้า-ออกเป็นกรรมฐาน (อานาปานสติกรรมฐาน) ไม่ผิดหรอกครับ จิตคุณเข้าสู่ความสงบ
ระดับหนึ่ง

กรัชกายจะช่วยอุดรูรั่วให้อีก เมื่อมีอาการอย่างที่เล่า เช่น มีความรู้สึกว่าตัวเบา ตัวลอย มีความรู้สึกว่าเงียบสงบ ให้กำหนดจิตตามอาการ-ตามความรู้สึกนั้นๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น รู้สึกว่าตัวเบา “เบาหนอๆๆ หรือรู้สึกว่า ตัวลอย “ลอยหนอๆๆ” กำหนดจิตตามนั้นแล้วดึงสติมาที่ลมหายใจต่อ ดังนี้เป็นตัวอย่าง
หากรู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไรอีก จึงค่อยกำหนดตามที่รู้สึกนั้นอีก
ที่สำคัญไม่พึงปล่อยอาการ-ความรู้สึกนั้นๆ ไปลอยๆ โดยไม่กำหนดจิตตามอุบายดังกล่าวแล้ว

อ้างคำพูด:
บางครั้งที่เราคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ คือ เราคิดถึงเมืองไทยนะค่ะ เราอยากจะไปรวมกลุ่มกับ การนั่งสมาธิภาวนา แต่เราก้อไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะเราต้องทำหน้าที่แม่ก่อน บอกตรงๆเลยค่ะตอนนี้สับสนมากๆ


ในขณะคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ก็กำหนดความคิดนั้นด้วย “คิดหนอๆๆ” ก่อนแล้วจึงดูลมเข้าออกต่อ
รู้สึกสับสน “สับสนหนอๆๆ” ตามนั้นแล้ว พิจารณาลมเข้าออกต่อครับ :b42: :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 18:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



นำกรณีศึกษาการทำกรรมฐาน ของคนไทยคนๆหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ต่างประเทศเหมือนคุณ bbby
โพสต์ขอความช่วยเหลือไว้ที่บอร์ดหนึ่ง น่าเห็นใจมากๆ อ่านดูครับ



ดิฉันตอนนี้อยู่ที่ออสเตรเลีย ....อยากได้รับความช่วยเหลือจากผู้รู้ด้วยค่ะ

ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนา แนวทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้า คือ นั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆ
ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา
คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา 10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ
วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกาย ทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็ม
เป็นร้อยๆเล่มอยู่ในหัว
บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์ แต่ไม่มีอะไร
ผิดปรกติ อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่ง
อยู่ตลอดเวลา เป็นที่ทรมานมาก
ระยะหลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน

บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่า รู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา24ชั่วโมง
ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้งไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา
อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา
เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่า
ผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย
ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ
11 -02-2009 , 01:41 PM

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อีกตัวอย่างหนึ่งคล้ายๆกัน

เมื่อสักสองปีที่แล้ว มีช่วงนึงผมจะนั่งสมาธิทุกวันก่อนนอน ตอนนั้ผมอายุ17-18 นั่งประมาณ10ถึง15นาที เวลาผมนั่งผมจะนึกถึง ท้องฟ้า ที่โล่งโปร่งสบายๆ
แต่มีอยู่วันนึงระหว่างที่ผมนั่ง ผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบ ไปทั่วร่างกายเหมือนมีอะไรสักอย่างวิ่งวนไปมารอบ
ร่างกายด้วยความเร็วมาก จนรู้สึกเหมือนตัวสั่น ทั้งที่ผมก็นั่งเฉยๆ
ผมรู้สึกกลัวมาก เพาะรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะแยก (รู้สึกเหมือนถอดวิญญาณนะครับ)
ผมกลัวมาก รีบออกจากสมาธิ แล้วก็นั่งๆ คิดว่าสิ่งที่เกิดมันคืออะไร ก็หาคำตอบไม่ได้

มีอยู่วันนั้น ผมได้คุยกับผู้ใหญ่คนนึงแถวบ้าน เรื่องสมาธิ (แต่ผมไม่ได้บอกนะว่าผมนั่งแล้วรู้สึกวูบวาบกลัวเขาว่าว่าบ้า) เขาพูดให้ผมฟังว่า อย่านั่งสมาธิเล่นๆนะ ตอนเขาหนุ่มๆ ก็เคยนั่งสมาธิ เขาบอก
ในห้องที่เขานอนจะมีเพื่อนร่วมงานด้วย ประมาณ10คน
แต่เขาจะนั่งสมาธิก่อนนอนทุกคืน มีวันนึงเขานั่งสมาธิอยู่ แล้วตัวเองก็หลุดลอยออกมาจากร่าง
เขามองเห็นตัวเองนั่งสมาธิอยู่ เห็นเพื่อนร่วมงานนอนหลับกันอยู่
ตอนนั้นเขาก็กลัวรีบเขาร่าง แล้วก็ไม่เคยนั่งสมาธิอีกเลย

ผมอยากถามว่า การที่ผมนั่งสมาธิแล้ว ร้อนวูบวาบ เหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างวิ่งวนไปมาด้วยความเร็วสูงจนรู้สึกเหมือนสั่นไปทั้งตัว คือ อะไรหรอครับ
ทั้งๆที่ตอนนั้นผมนั่งสมาธิได้แค่ประมาณสัปดาห์เดียวเองนะ

05-02-2009, 11:18 PM

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณกรัชกายแล้วก้อคุณทศพล
ตอนนี้เราเข้าใจได้เยอะแล้วค่ะ
เราไม่กลัวการทำสมาธิแล้วค่ะ แล้วก้อไม่สับสนแล้วด้วยค่ะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ บางครั้งเราอาจจะใช้ศัพท์ คำพระผิดๆถูกๆบ้าง
ทุกท่านคงไม่ว่านะคะ เพราะว่าเราอยู่ที่นี่ คนที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่กล้าคุยเรื่องธรรมะค่ะ
เค้าบอกว่า คนที่คุยเรื่องธรรมะคือคนที่ใกล้ตายค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2009, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



คห.นี้เสริมให้อ่านเฉยๆนะครับ ไม่เกี่ยวกับคำถามโดยตรง แต่ช่วยเสริมความเข้าใจผลการปฏิบัติกรรมฐาน
วันนี้อาจยังอ่านไม่เข้าใจ วันหน้าอาจเข้าใจ :b1:



ภาวะทางปัญญา


ลักษณะสำคัญที่เป็นพื้นฐานทางปัญญาของผู้บรรลุนิพพาน คือ การมองสิ่งทั้งหลายตามที่มันเป็น
หรือ เห็นตามความเป็นจริง
เริ่มต้นตั้งแต่การรับรู้อารมณ์ทางอายตนะ ด้วยจิตใจที่มีท่าที่เป็นกลางและมีสติไม่หวั่นไหว ถูกชักจูงไปตาม
ความชอบใจ ไม่ชอบใจ สามารถตามดูรู้เห็นอารมณ์นั้นๆ ไปตามสภาวะของมันตั้งแต่ต้นจนตลอดสาย
ไม่ถูกความติดพัน ความข้องขัดขุ่นมัว หรือ ความกระทบกระแทกที่เนื่องจากอารมณ์นั้นฉุด หรือ สะดุดเอา
ไว้ให้เขวออกไปเสียก่อน

ต่างจากปุถุชนที่เมื่อรับรู้อารมณ์ใด มักไปสะดุดอยู่ตรงจุด หรือ แง่ที่กระทบความชอบใจ ไม่ชอบใจ แล้วเกาะเกี่ยวพัวพันอยู่ตรงนั้น สร้างความตริตรึกคิดปรุงแต่งผันพิสดารขึ้นตรงนั้น แล้วไถล หรือ เขวออกไปจากทางแห่งความเป็นจริง เกิดความรู้ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน คือ รู้เห็นไปตามอำนาจกิเลส
ที่ปรุงแต่ง ไม่รู้เห็นตามความเป็นไปของสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ


ลึกซึ้งลงไปอีก คือ ปัญญาที่รู้เท่าทันสังขาร รู้สามัญลักษณะที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา รู้เท่าทันสมมุติ
บัญญัติ ไม่ถูกหลอกให้หลงไปตามรูปลักษณ์ภายนอกของสิ่งทั้งหลาย และยอมรับความจริงทุกด้าน มิใช่ติด
อยู่เพียงแง่ใดแง่หนึ่ง
ความรู้เห็นตามที่มันเป็น หรือ รู้เห็นตามความเป็นจริงขั้นนี้ จะช่วยแก้ความเข้าใจผิดที่ว่า พระพุทธศาสนา
เป็นลัทธิมองแง่ร้ายได้โดยสิ้นเชิง เช่น ผู้เข้าถึงพุทธธรรมรู้ว่าขันธ์ ๕ มีใช่เป็นทุกข์หรือเป็นสุขเพียงอย่างใด
อย่างหนึ่ง โดยส่วนเดียว- (สํ.ข.17/131/85) รู้ว่า “ความอยากย้อมใจ ที่เกิดจากความนึกคิด
ของคน (ต่างหาก) เป็นกาม
อารมณ์ อันวิจิตรทั้งหลายในโลกหาชื่อว่า กามไม่...
อารมณ์ อันวิจิตรทั้งหลายในโลก ย่อมตั้งอยู่ตามสภาพของมันอย่างนั้นเอง
ดังนั้น ธีรชนทั้งหลายจึงกำจัด (แต่เพียง) ตัวความชอบใจ ในอารมณ์เหล่านั้น”
(องฺ.ฉกฺก.22/334/460)

ผู้ที่จะตรัสรู้ได้ต้องเข้าใจทั้งส่วนดี หรือ ส่วนที่น่าชื่นชม- (อัสสาทะ)
ส่วนเสีย หรือ ส่วนที่เป็นโทษ- (อาทีนพ)
และทางปลอดพ้น-(นิสสรณะ) ของกาม ของโลก ของขันธ์ ๕
มองเห็นส่วนดีว่า เป็นส่วนดี
มองเห็นส่วนเสียว่า เป็นส่วนเสีย
มองเห็นทางปลอดพ้นว่า เป็นทางปลอดพ้น
แต่ที่ละกาม หายติดใจในโลก เลิกยึดขันธ์ ๕ เสีย ก็เพราะมองเห็นทางปลอดพ้นเป็นอิสระ ซึ่งจะทำให้อยู่ดีมีสุขได้โดยไม่ต้องขึ้นต่อส่วนดี และ ส่วนเสียเหล่านั้น อีกทั้งเป็นการอยู่ดีมีสุขที่ประเสริฐกว่าประณีตกว่าอีกด้วย
(ดู ม.มู.12/196-208/168-178 ฯลฯ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2009, 19:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2008, 17:19
โพสต์: 139

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายยกตัวอย่างมาแล้ว ไม่อธิบาย หรือบอกวิธีแก้ไขบ้างล่ะค่ะ
อยากทราบเรื่องอาการข้างเคียงของสมาธิด้วยคนค่ะ

.....................................................
สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2009, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอถามทุกๆ...ท่านอีก1ข้อ...นะค่ะ...คือมีหลายๆคนพูดว่า....ถ้านั่งสมาธิแล้ว...ถ้าเราไปเจอกับ....พวกวิญญาณ...แล้วพวกเค้าจะดึงเราไว้....แล้วเราก้อจะกลับไม่ได้
มีอย่างนี้จริงมั๊ย ! คือเราเคยนั่งแล้ว รู้สึกตัวลอยไปเรื่อยๆ....รู้สึกว่าเป็นสวรรค์นะ.......เพราะเราไปเจอ....เหมือนเป็นพระประธานที่อยู่ในโบสนะ....องค์ใหญ่มากๆ...แล้วก้อมีพระหลายๆองค์นั่ง......ในท่าทำสมาธิ....เยอะมากๆ
เราก้อ...เลยไปนั่งสวดกับเค้าด้วย....แต่ใจเราก้อคิดว่า....นี่เราตายหรือยังไม่ตาย...ทำไม!ตัวเราถึงเบาเหมือนไม่มีกระดูก....มือ+ขาที่ทับกันไว้....ก้อไม่สัมผัสกัน...เราก้อกลัว....เราก้อยกมือใหว้พระองค์ใหญ่ๆนั้น....แล้วก้อบอกว่า....ข้าพเจ้าขอกลับก่อน....แล้วเราก้อลืมตาขึ้น.........ก้อไม่เห็นมีอะไรที่น่ากลัว....แต่เราอยากรู้ว่า....ถ้าเราไปเจอ...กับวิญญาณล่ะ...เราจะทำยังไง...เราจะสวดยังไงคะ....ขอให้ใคร....ที่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้....ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ......ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2009, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปถึงสวรรค์เลยหรือครับ แล้วแล้วได้พบกับพลวงพ่อฤๅษีลิงดำไหมครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 88 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร