วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 07:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2009, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


การเจริญเมตตา เป็น การเจริญ สมถภาวนา

ส่วนการแผ่ส่วนกุศล เป็น การอุทิศส่วนกุศล

คือ ทานกุศล...................ที่เป็น ปัตติทาน.



.



เรื่องของ "การภาวนา" .....................

เป็นการอบรมให้เกิดขึ้น จนเป็นอุปนิสัย

คือ การอบรมให้เกิดขึ้น บ่อย ๆ เนือง ๆ



.



เพราะฉะนั้น..............ท่านมีเมตตา จริงค่ะ

แต่ว่า เล็กน้อยเหลือเกิน.........ไม่มากเลย

และเกิดกับบางท่าน บางบุคคล ฯ เท่านั้น.



.



ตามความจริงแล้ว สำหรับเรื่อง การแผ่เมตตา

ก่อนที่ท่านจะแผ่เมตตา ไปให้แก่บุคคลอื่นนั้น

จิต ของท่านในขณะนี้ มีเมตตากับใครบ้าง.?

ยังมีความติดขัด อยู่ที่บุคคลไหน........ก็แผ่ไป

อย่าเพิ่งข้าม ไปถึง............สัตว์ บุคคล อื่น ๆ



.



การอบรม เจริญเมตตา ที่ว่า "กว้างขึ้น"นั้น

หมายความว่า ไม่จำกัด อยู่เฉพาะในวงแคบ

คือ ในบุคคล ในกลุ่ม ในหมู่คณะของท่าน

แต่จะต้องกว้างออก ๆ จนถึงสัตว์ทุกชนิด ฯ



.



ต่อเมื่อไร..........ที่ความเมตตา สามารถ

ไปถึง สัตว์ ทุกชนิด ทุกชีวิต ได้จริง ๆ

เป็น ความเมตตาที่เปี่ยมล้นอย่างแท้จริง

ก็ไม่ต้องหวั่นเกรง อันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น.



.



แต่ต้องเข้าใจ ความหมาย ของการแผ่เมตตา

คือขณะนั้น จิต ต้องประกอบด้วยเมตตาจริง ๆ

(ในขณะนั้น จิต ปราศจาก โลภะ โทสะ โมหะ)

ซึ่งถ้า จิต ในขณะนั้น เป็นเมตตา จริง ๆ แล้ว

จิต ในขณะนั้น ไม่มีความโกรธ ไม่เบียดเบียน

ทั่วพร้อมทั้ง ทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ.



.



เพราะฉะนั้น......การอบรมเจริญ ความสงบ

หรือ การอบรมเจริญกุศล ขั้น ภาวนา นั้น

จะต้องเกิด....พร้อมกับ สติ สัมปชัญญะ.



หมายความ ว่า...........................................

ขณะนั้น.......จิต รู้ลักษณะ ของสภาพธรรม

ที่กำลังปรากฏ ตามปกติ ตามความเป็นจริง.



ก็แล้วแต่ ว่า จะเป็น ในขั้นของ สมถภาวนา

หรือเป็นขั้นของ สติปัฏฐาน

ซึ่ง เป็นขั้น วิปัสสนาภาวนา.



.



ถ้า เป็นขั้น สมถภาวนา..........................

ก็หมายความว่า เป็น "ตัวท่าน" นั้นแหละ

...................ที่เปี่ยมไปด้วย ความเมตตา.



คือ ไม่ใช่ สภาพธรรม ที่เป็นความเมตตา

สภาพธรรม ซึ่งไม่ใช่ ตัวตน สัตว์ บุคคล

แต่ยังมีความเป็น "เรา" ที่มี ความเมตตา.



หมายความว่า....... ยังมีความเป็น "เรา"

เป็นผู้ที่มีความเปี่ยมไปด้วย ความเมตตา

และ ถึงแม้ว่า ท่านจะสามารถ แผ่เมตตา

ไปได้กว้างไกล...........สักเท่าไร ก็ตาม.



ถ้าสติ ไม่ระลึกรู้ "ลักษณะของความเมตตา"

ตามความจริง ว่า ไม่ใช่ สัตว์ บุคคล ตัวตน

ขณะนั้น ก็ยังเป็น ปัญญา ขั้น สมถภาวนา

คือ ยังมีความยึดถือ ว่า..............................

"ตัวท่าน" เป็นผู้ที่ประกอบด้วยความเมตตา.




.



ถ้าไม่มี การอบรม เจริญเมตตา...เป็นปกติ

ในชีวิตประจำวันจนเป็นอุปนิสสัย แล้วละก็


อย่างเช่น เวลาที่เจองู.............................

ท่านแผ่เมตตา ได้จริง ๆ..... หรือเปล่าคะ.?


ถ้าไม่เคยอบรม เจริญเมตตา......................

ที่จะให้มีเมตตาเป็นปกติ โดยเป็นอุปนิสสัย

เวลาที่เจองู.....ก็คงจะแผ่เมตตาไม่ทันแน่.!



.



เพราะฉะนั้น ก็ตรงกับ คำว่า "ภาวนา"

การอบรม ให้มีมากขึ้น จนเป็นอุปนิสสัย

อุปนิสสัย ที่จะเป็นผู้สงบ คือ สงบจาก

โลภะ โทสะ โมหะ.....เป็น สมถภาวนา.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร