วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 21:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมอยากศึกษาธรรมแบบรวบรัด รวดเร็วเข้าถึงแก่น ไม่ทราบว่าผมต้องเริ่มปฎิบัติอย่างไรครับ
เช่นเริ่มอ่านหนังสือเล่มไหนก่อน หรือฝึกสมาธิก่อน หรือทำอย่างไรก่อนครับ

ด้วยความนับถือครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ตามดูจิต การปฏิบัติที่ให้ผลเร็ว
โดย หลวงพ่อชา สุภทฺโท

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6816


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


น้องลองอ่านนี่

เกี่ยวกับเรื่อง การมุ่งมั่นที่จะรู้ธรรมจนมากเกินไป

เป็น บทวิสัชชนาธรรม

โดย หลวงปู่ ชา สุภัทโท


ปุจฉา ได้พากเพียรอย่างหนักในการปฏิบัติกรรมฐาน แต่ไม่ได้ผลคืบหน้า

วิสัชชนา เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าพยายามที่จะเอาอะไรๆ ในการปฏิบัติ ความอยากอย่างแรงกล้าที่จะหลุดพ้น หรือรู้แจ้งนั้น จะเป็นความอยากที่ขวางกั้นท่านจากการหลุดพ้น

ท่านจะเพียรพยายามอย่างหนักตามใจท่านก็ได้ จะเร่งความเพียรทั้งกลางคืนกลางวันก็ได้ แต่ถ้าการฝึกปฏิบัตินั้นยังประกอบด้วยความอยาก ที่จะบรรลุเห็นแจ้งแล้ว ท่านจะไม่มีทางที่จะพบความสงบได้เลย แรงอยากจะเป็นเหตุให้เกิดความสงสัย และ ความกระวนกระวายใจ

ไม่ว่าท่านจะฝึกปฏิบัติมานานเท่าใดหรือหนักเพียงใด ปัญญา (ที่แท้)จะไม่เกิดขึ้นจากความอยากนั้น

ดังนั้น จงเพียงแต่ละความอยากเสีย

จงเฝ้าดูจิตและกายอย่างมีสติ แต่อย่ามุ่งหวังที่จะบรรลุถึงอะไร อย่ายึดมั่นถือมั่นแม้ในเรื่องการฝึกปฏิบัติหรือในการรู้แจ้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2008, 20:09
โพสต์: 112


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
คือ การศึกษาธรรมนั้นจะเน้นไปเพื่อการดับทุกข์ขอรับ
ดังนั้น...ลองดูตามลำดับนี้
1.รู้พื้นฐานธรรมะอริยสัจ4... http://www.learntripitaka.com/scruple/ariya4.html
2.ฝึกนั่งสมาธิ... http://board.palungjit.com
ขั้นที่สอง...จะหาคำว่าทุกข์เจอแบบของจริงขอรับ(กรณีของผมคือ ทุกข์ที่ไม่เข้าใจว่านั่งแล้วได้อะไร..จึงนำไปสู่ขั้นที่3)
3.แทรกช่วงจังหวะของขั้นที่2 คือ หาข้อธรรมต่างๆ อ่าน โดยใช้ webข้างล่างเข้าช่วยเป็นข้อๆไปขอรับ
http://www.fungdham.com/sound/sound.html
http://www.nkgen.com/2.htm
และประกอบกับ ปรึกษากัลยาณมิตรธรรมไปด้วยน่ะขอรับจะไวดีกว่าทำเองลำพัง

แค่นี้ละครับผมกำลังลองอยู่ตอนนี้ก็6เดือนแล้วขอรับยังไม่อัญญาสิเลยขอรับแต่พอจะเห็นเป้าหมายบ้างขอรับ..
...จะบอกว่ารู้ว่าเข้าใจต้องเป็นมาจากใจน่ะขอรับไม่ใช้รู้สักแต่รู้ที่พูด (อันนี้ยากมากจอรับ)
…หวังว่าประสบการณ์ของผมพอจะช่วยท่านได้บ้างน่ะขอรับ

เจริญในธรรม
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 22:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปเลยค่ะ ที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ไปกราบหลวงพ่อจรัญ ปฏิบัติสัก 7 วัน
สาธุ ค่ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2009, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


บวชเลยครับ... :b12: :b12:
ทิ้งโลกเลย ทำได้ป่าว...ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องรีบครับ :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2009, 14:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกท่านครับ :b8:
เรื่องบวชเลยนั้น ผมยังมีภาระครับ

แต่คิดว่าเป็นฆารวาสก็บรรลุธรรมได้ ใช่ไหมครับ

7 เดือนก็บรรลุธรรมได้ใช่ไหมครับ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2009, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b40: :b44: เอาแบบง่ายๆก่อนจะดีกว่านะครับ วิธีฝึกแบบง่ายๆและได้ผลมีหลายวิธี แต่ถ้าเป็นแบบฆราวาส แล้วสนใจที่จะทำอย่างตั้งใจ อย่างแรกตัองรักษาศีลห้าให้ได้ก่อน เพราะศีลเป็นศีลคือความปกติที่เกิดขึ้นกับเราทั้งทางกาย วาจา และใจ เป็นเครื่องชำระล้างจิตใจขั้นพื้นฐาน

:b40: :b43: :b42: ถ้าอยากจำทำก็ควรสวดมนต์ที่ห้องพระหรือที่หัวเตียงนอนก็ได้ ซึ่งคิดว่าบ้านไหนก็ต้องมีพระไว้กราบบูชา และก็ควรบทสวดที่สวดได้ง่าย ๆ มีสวดได้ตลอด เช่น บทบูชาพระรัตนตรัย บทสวดสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ตามด้วยบทสวดไหนต่อก็ได้ อาจจะเป็นบทสวดมนต์ที่มาจากการทำบุญที่วัดต่างๆ สวดให้คล่องปาก คล่องใจ เวลาสวดปกติ ก็อยู่ประมาณ 15-30 นาที :b41:

:b40: :b43: :b39: ที่สำคัญก็คือการภาวนาขั้นพื้นฐานอุบายที่ทำให้จิตสงบ เกิดสมาธิและระงับความทุกข์กังวลที่เกิดขึ้นทุกๆวันได้ เช่น ถ้าชอบอานาปานสติ ก็กำหนดลมหายใจเข้าออก ผ่านตรงช่องจมูก(เอาจมูกเป็นฐานจิต ลมเข้าก็รู้ ลมออกก็รู้ ลมสั้นก็รู้ ลมยาวก็รู้) เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายเพราะลมหายใจเป็นสิ่งที่เบาละเอียดและกำหนดได้ง่าย และฐานจิตก็มีที่เดียวตรงช่องจมูก ซึ่งฐานจิตแบบอานาปานสติมี3 ฐานคือที่จมูกหรือเหนือเพดานปาก ที่อก และ ที่ท้อง เวลาที่ทำสมาธิก้อยู่ที่ 15-30นาทีเท่ากันกับสวดมนต์ หรืออีกวิธี

:b43: :b40: :b42: จะใช้แบบยุบหนอ พองหนอ สูดลมหายใจเข้าให้ยาวถึงท้อง จนท้องพองไปครึ่งหนึ่งให้กำหนดพองยาวๆ อีกครึ่งหนึ่งเมื่อท้องพองจนสุดให้กำหนวดว่าหนอ(ซึ่งเราจะหายใจเข้าจนท้องพองสุดพอดี) และ เมื่อท้องค่อยๆยุบ ยุบไปครึ่งหนึ่งให้กำหนดว่ายุบ กำหนดยุบยาวๆ และอีกครึ่งหนึ่งจนท้องค่อยๆยุบจนสุดก็กำหนดว่าหนอ(ซึ่งเราหายใจออกจนสุดพอดี) เป็นวิธีใหม่ที่คนนิยมใช้กันมาก (ที่ต้องกำหนดยาวๆ หายใจยาวๆก็เพราะว่า จะได้ลงพอง กับ หนอ และยุบ กับ หนอได้พอดีกันไม่งั้นหาจังหวะลงไม่ได้) หรือ

:b39: :b40: :b39: อีกวิธีคือไม่ต้องกำหนดอะไรเลย ปล่อยให้ว่างเฉยโดยไม่นึกคิดอะไร ตัดความปริโพธฺกังวลออกให้หมด ไม่ต้องคิดถึงอดีต ไม่ต้องกังวลอนาคต ไม่นึกคิดอะไร เฉยๆๆ ไม่ต้องคิดหรือนึกไปก่อน อะไรจะเกิดก้ให้มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ....

จริงคนทุกคนก้ได้มีสมาธิอยู่กับตัวอยู่แล้วแม้เราทำงาน อ่านหนังสือ ก็ถือว่าเป็นสมาธิชั่วขณะชั่วคราวในช่วงเวลาหนึ่ง เพียงแต่เราไม่ได้ใส่คำบริกรรมภาวนาเข้าไปและไม่ได้ใส่กรอบที่เป็นมาตรฐานในการทำสมาธิเข้าไป เราก้เลยคิดว่าไม่ใช่สมาธิ.. :b48:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 00:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2009, 22:30
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


:b14: คำว่า รวบรัด แบบเข้าถึงแก่น นี่หมายความว่า ปฏิบัติแล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์ เลยหรือป่าว?

ถ้าหมายความแบบนี้ก็ ยากแฮ่ะ

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 09:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน:
ขอบพระคุณทุกท่านครับ :b8:
เรื่องบวชเลยนั้น ผมยังมีภาระครับ

แต่คิดว่าเป็นฆารวาสก็บรรลุธรรมได้ ใช่ไหมครับ

7 เดือนก็บรรลุธรรมได้ใช่ไหมครับ....


เรื่อง 7 เดือนนี่ต้องถามท่านฌาณครับ.... :b2: :b2: :b2:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เอกกายนมรรค แปลว่า ทางเอก
หมายถึงทางตรง (สู่นิพพาน)
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องการเจริญสติปัฏฐาน 4 ว่าเป็น เอกายนมรรค หรือทางเอก


การเจริญสติปัฏฐาน 4 นั้นก็มีหลักการเดียว แต่มีวิธีการหลากหลาย
แล้วแต่จะเน้นอะไร


ลอง www.wimutti.net ดูสิครับ
เป็นแนวทางที่ตรงประเด็นมากที่สุดครับ
และที่สำคัญคือง่าย เข้าใจง่าย เน้นปฏิบัติ

...........

หรืออีกที่ก็วัดมเหยงค์ ฟังเทศน์พระครูเกษมธรรมทัต
หรือไปที่วัดได้ นี่ก็สอนเหมือนๆกัน

..............

ความจริงที่ไหนก็สอนเหมือนกันหมดครับ
นี่ไม่ได้พูดเอาสำนวน หรือพูดรักษาน้ำใจอะไรนะครับ
ผมหมายถึงว่ามันเหมือนกันหมดจริงๆ ต่างกันแต่วิธีการเท่านั้นเอง
ซึ่งก้ต้องลองปฏิบัติไปหลายๆแนวๆดู แล้วจะพบแนวทางที่ตรงจริตกับตัวเอง
ก็จะทำให้เจริญก้าวหน้าไวขึ้น

ส่วนคำว่า "7 เดือน บรรลุธรรม" ไม่ใช่คำที่เอาสำนวนเล่นๆ หรือกะเกณฑ์เวลาเล่นๆนะครับ
เป็นพุทธพจน์ ที่ปรากฏในพระคัมภีร์
แต่ผมฟังทางทีวีเป้นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราชท่านเรียบเรียงมาให้ฟัง

จำมาได้ว่า การเจริญสติปัฏฐาน 4 นี้ ถ้าเพียรทำไป
จะเห็นผล อย่างเร็ว 7 วัน (บุญมาก สะสมปัญญาบารมีมาก่อน)
อย่างช้าไม่เกิน 7 ปี

7 เดือนคืออย่างกลาง

ถ้าเคยอ่านหนังสือที่ใช้ชื่อ " 7 เดือนบรรลุธรรม" ก็ไม่ต้องตกใจว่าเอาอะไรมาวัดว่า 7 เดือน
มันเป้นคำของพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์เอาไว้อย่างนั้นครับ

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 23:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ศึกษารวบรัดเเบบเข้าถึงแก่นเลยเหรอ มันจะง่ายอย่างนั้นเชียว ศึกษาให้ดีก่อนดีกว่า เพราะพระพุทธศาสนาปัจจุบันนี่ มีเรื่องอะไรเข้ามาปนมั่งก็ไม่รู้ เช่นไสยศาสตร์ ขอหวย เล่นวัตถุมงคล อิทธิปาฏิหาริย์ ตัดกรรม สารพัด เว็บธรรมะนี่หาอ่านได้ทั่วไป หนังสือก็มีขายเยอะแยะ ค่อยๆศึกษาครับ แล้วจะเห็นภาพของพระพุทธศาสนาทั้งหมด ไม่ว่าส่วนใหญ่ ส่วนย่อย ส่วนประกอบ พูดเหมือนรู้เยอะแฮะเรา เอาง่ายๆ ศึกษาแล้วชีวิตเราต้องดีขึ้น อย่างน้อยก็ต้องเรื่องสุขภาพจิต ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม แล้วยังเป็นโรคประสาทพิการ นี่เสียภูมิหมด

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2009, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


** :b40: :b40: :b43: :b42: ว่าแต่เจ้าของกระทู้ชอบแบบไหนละครับ ....เพราะแนวคิดแนวปฏิบัติและหลักการ อ่านก็ดูเหมือนทำได้ง่าย แต่เวลาทำจริงๆ ใจอยากที่จะทำให้ได้แต่จิตกับกายกับไม่เอาด้วย.... มีประโยคหนึ่งกล่าวว่า ยากแท้แต่ไม่เคย(ไม่เคยทำแล้วมาเริ่มทำ) แต่ง่ายแท้เพราะทำได้แล้ว(ปฏิบัติมามากพอจนทำอย่างที่พูดได้แล้ว เห็นแล้ว..ทำได้จริง) :b41:

** :b39: :b39: :b39: อีกคำพูดหนึ่ง ."ศรัทธาจริงปฏิบัติได้ ศรัทธาไม่จริงปฏิบัติยังไงก็ไม่ได้ผลเสียเวลาเปล่าๆ" :b48: :b44:

** :b40: :b40: ต้องมีคู่มือหรือหนังสืออ่านประกอบก็จะดีมาก จะได้เห็นภาพ มุ่งหวังมนุษย์สมบัติให้ได้เสียก่อน ส่วนสวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติค่อยว่ากันทีหลัง....... :b43: :b43:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2009, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ถ้าถามผมชอบแบบไหน
ผมชอบหายใจเข้า พุธ หายใจออกโธ ไม่รู้ว่าแบบนี้เป็นสติปัฏฐานหรือเปล่า(กายานุปัสสนา)

ถ้าผมทำแค่กายานุปัสสนา ฐานเดียว จะบรรลุธรรมได้ไหมครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b40: :b40: อานาปานสติที่พูดถึงลมหายใจเข้า-ออกนั้น มีอานิสงส์มากสามารถบรรลุธรรมได้ อย่างต่ำได้ในระดับฌาณ ระดับสูงสามารถก้าวถึงโลกุตระธรรม แจ้งถึงวิมุตติ เห็นแจ้งซึ่งไตรลักษณ์ความไม่เที่ยงของรูปนาม ว่าแต่จะรีบบรรลุธรรมไปทำไมหรอครับ???? คนที่จะทำได้ให้แจ้งซึ่งโมกขธรรมนั้นอย่างเร็ว 7 วัน อย่างกลาง 7 เดือน อย่างช้า 7 ปี หรือนานกว่านั้นอีกภายใน 7 ชาติ สัปบุรุษเหล่านี้ล้วนแต่มีบุญเก่าที่สั่งสมจากชาติปางก่อนแล้วทั้งนั้น....กับบุญใหม่ที่ทำในชาตินี้จนสามารถบรรลุได้ในที่สุด

:b39: :b39: ถ้าจะใช้วิธีดูลมหายใจเข้า-ลมหายใจออกก็ดีครับ ผมเห็นด้วย แต่ลมเข้า-ลมออกจริงมันเป็น 1 รอบของการหายใจใน 1 ครั้ง (ปกติคนเราหายใจประมาณ 10-15 ครั้ง/นาที ยกเว้นเวลาที่หลับจะหายใจต่ำกว่า 10 ครั้ง/นาที) ลมที่หายเข้าใจไปต้องได้จังหวะ ลมที่หายใจออกมาก้ต้องได้จังหวะ ให้มันสมดุลซึ่งกันและกันน่ะครับ สมาธิถึงจะเกิดขึ้นได้เร็ว นั่งเพียงไม่ถึง 10 นาทีจิตเข้าสมาธิแล้ว แต่เจ้าของกระทู้ไม่รู้ว่าทำวันละกี่นาที จิตกังวลเรื่องอื่นหรือป่าวเวลานั่ง ปัญหามันอยู่ตรงนี้น่ะ?? :b41:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร