ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ก่อกรรม = ก่อเวร + ก่อกรรม แต่ก่อเวร อาจจะไม่ได้ก่อกรรมก็ได้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19904
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 03 ม.ค. 2009, 11:42 ]
หัวข้อกระทู้:  ก่อกรรม = ก่อเวร + ก่อกรรม แต่ก่อเวร อาจจะไม่ได้ก่อกรรมก็ได้

ตัวอย่างของการก่อเวร แต่ไม่ได้ก่อกรรม


ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์เคยเป็นนายโคบาล ต้อนแม่โคไปสู่ที่หากิน เห็นแม่โคดื่มน้ำขุ่นนายโคบาลจึงห้ามไว้ แม้ว่านายโคบาลนั้นหวังดีมีกุศลจิตต่อโค ไม่ได้ก่อกรรมกับโค

แต่ท่านก็ได้ก่อเวรกับโค ในภพสุดท้าย พระพุทธองค์กระหายน้ำ จึงไม่ได้ดื่มน้ำตามต้องการ เพราะเคยให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย พระอานนท์ไปแล้วไม่ตักมาบอกว่าน้ำขุ่น พระพุทธองค์จึงต้องตรัสย้ำให้ไปตักใหม่เป็นครั้งที่สอง จึงได้น้ำใสกลับมาเพราะน้ำขุ่นนั้นกลับใส

นายโคบาลไม่ให้โคกินน้ำ เพราะน้ำขุ่นสกปรก พระพุทธองค์ไม่ได้ก่อกรรมก็จริง แต่ท่านได้ก่อเวร เป็นผลให้ชาติที่ท่านเป็นพระพุทธเจ้าต้องอดน้ำ

ด้วยเหตุนี้ ในกรณีที่เรามีเจตนาดี แต่ขาดปัญญา เราก็ก่อเวรได้ แต่ไม่ได้ก่อกรรม+ก่อเวร ผลที่ได้รับจากการก่อเวรอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้ เช่น หลวงพ่อจรัญขว้างไม้ไปโดนหัวหมาโดยไม่ตั้งใจ วันนึงก็มีลมแรงมาก พัดกิ่งไม้มาโดนหัวหลวงพ่อแตก

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ที่เราก่อเวร ไม่ใช่ก่อกรรมกับเขา เขาให้อภัย และอโหสิกรรมให้เรา เวรนั้นก็จะหมดไป หลวงพ่อจรัญบอกว่า ถ้าหมาตัวนั้น ท่านรู้จัก และมันรู้จักท่าน หรือเคยให้ข้าวมันกิน มันก็คงไม่จองเวรกับท่าน

ในกรณีพระพุทธเจ้า โคตัวนั้น มันก็ไม่รู้ใจพระพุทธเจ้าว่า ท่านหวังดีกับมัน น้ำมันโสโครก กินไม่ได้ ถ้ามันรู้ว่าพระพุทธเจ้าหวังดี ต้องการช่วยมัน มันก็คงอโหสิกรรมให้ท่าน เวรนั้นท่านก็จะไม่ได้รับ


ตัวอย่างของการก่อกรรมที่เรียกว่า ก่อกรรม+ก่อเวร


ชาติหนึ่ง พระพุทธเจ้าเคยเป็นเด็กชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง ท่านเห็นชาวประมงฆ่าปลาก็มีความชื่นชม และสะใจ ด้วยผลของกรรมนั้น ท่านจึงเกิดเจ็บที่ศรีษะ ในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์


แต่พึงสังเกตุว่า แม้ว่าพระพุทธองค์จะเป็นชาวประมง ซึ่งต้องจับปลา และฆ่าปลามามาก แต่พระพุทธองค์ไม่ได้กล่าวถึงกรรมที่ท่านได้กระทำการทางกาย ในการจับปลาและฆ่าปลาเหล่านั้นเลย ทั้งนี้เพราะว่า:


เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ แปลว่า เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม

"เจตนาว่าเป็นกรรม" เจตนามีทั้งทั้งกาย วาจา และใจ แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จที่ใจ ไม่ใช่สำเร็จที่วาจาและกาย ดังนั้น บาป จึงเกิดจากใจเป็นอกุศล ตอนที่ตั้งใจเจตนาทำกรรมนั้นลงไป ส่วนวาจาและกายเป็นแต่เครื่องมือของใจเท่าน้น ถ้าใจไม่ได้มีเจตนาอกุศล การกระทำทางวาจาและกายนั้น ก็ไม่ได้ทำบาป คือ ไม่ได้ก่อกรรม+เวร

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 04 ม.ค. 2009, 17:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ก่อกรรม = ก่อเวร + ก่อกรรม แต่ก่อเวร อาจจะไม่ได้ก่อกรรมก็ได้

กฎแห่งกรรม โดยหลักใหญ่น่าจะเป็นเรื่องของการก่อกรรม+ก่อเวร จากจิตอกุศล และจิตกุศล ที่ส่งผลไปยังกายและวาจา ให้ทำบาปหรือบุญ

เจ้าของ:  อัญญาสิ [ 04 ม.ค. 2009, 19:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ก่อกรรม = ก่อเวร + ก่อกรรม แต่ก่อเวร อาจจะไม่ได้ก่อกรรมก

:b8:

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=19058
กรรม เป็นเพียงส่วนหนึ่งในกระบวนการแห่งปฏิจจสมุปบาท ซึ่งเห็นได้ชัดเมื่อแยกส่วนในกระบวนการ
นั้นออกเป็น 3 วัฏฏะ คือ กิเลส กรรม วิบาก

สรุปเนื้อหา : กรรมเป็นการกระทำที่มีทั้งดีและไม่ดี ส่วน เวรเป็นอารมณ์มีไม่ดีอย่างเดียว

จากกระทู้ของคุณพลศักดิ์ ได้กล่าวถึงผู้ทำและผู้ถูกกระทำ ยังผลให้เกิด กรรมและเวร....ดังนั้นผมคิดว่าพระพุทธองค์จึงทรงเมตตาสั่งสอน บัวทุกเหล่าให้รู้ถึง “พรหมวิหาร 4 (ธรรมประจำใจอันประเสริฐ)” เพื่อให้รู้จักการให้อภัยจากใจจริง มันจะยังผลให้ การเกิดเวรทุเลาลงได้

เนื่องจากผมยังเบาปัญญาในทางธรรมมากอยู่ หวังว่าความคิดเห็นของผมพอจะพิจารณาว่าถูกต้องได้บ้างน่ะครับ

:b44: :b8:

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 04 ม.ค. 2009, 23:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ก่อกรรม = ก่อเวร + ก่อกรรม แต่ก่อเวร อาจจะไม่ได้ก่อกรรมก

คุณอัญญาสิ ครับ

ต้องแยกให้ชัดเลยครับ ไม่อย่างงั้นเราจะไม่รู้เรื่องกรรมและกฎของกรรม และสอนกันผิดๆถูกๆต่อไปเรื่อยๆ

กฎแห่งกรรม โดยหลักใหญ่ จึงเป็นเรื่องของการก่อกรรม+ก่อเวร จากจิตอกุศล และจิตกุศล ที่ส่งผลไปยังกายและวาจา ให้ทำบาปหรือทำบุญ

ถ้าเรามิได้มีเจตนาไปทำร้ายเขา ตัวอย่างที่ผมยกมา คือ หลวงพ่อจรัญโยนไม้ออกไปทางหน้าต่าง ด้นไม่โดนหัวหมา หลวงพ่อจรัญไม่ได้ก่อกรรม(กรรม+เวร)ตามกฎแห่งกรรม แต่ทว่าท่านก่อเวรอย่างเดียว "แล้วหมาตัวนั้นผูกใจอาฆาต” หลวงพ่อจรัญจึงโดนอุบัติเหตุ ลมพัดกิ่งไม้มาโดนหัว แต่ถ้า(หมา)ผู้ผูกเวร ไม่ได้ผูกใจโกรธ ทั้งเวรและกรรมก็จะต้องหมดไป

เจ้าของ:  อัญญาสิ [ 05 ม.ค. 2009, 17:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ก่อกรรม = ก่อเวร + ก่อกรรม แต่ก่อเวร อาจจะไม่ได้ก่อกรรมก็ได้

:b8:
ขอบพระคุณครับ ที่กรุณาชี้แจงให้เข้าใจมากขึ้น
:b8: เจริญในธรรม

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/