ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19132
หน้า 10 จากทั้งหมด 12

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 07:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

กรัชกาย เขียน:
ฉายตัวอย่างนี้ซ้ำอีกที

อ้างคำพูด:
ดิฉันก็มาปฏิบัติต่อที่บ้านได้สักระยะ เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมากค่ะ บางทีก็เป็นเงาดำ จนดิฉันนอนไม่ได้ต้องเปิดไฟนอนตลอดค่ะ สิ่งเหล่านี้คือ เจ้ากรรมนายเวร ใช่ไหมคะ? จนทำให้ดิฉันกลัวและหยุดปฏิบัติไปนานพอสมควรเลยค่ะ

หลังจากนั้นพอมีเวลา ก็ไปมาอีกเป็นเวลา 3 วัน แล้วนำมาปฏิบัติต่อที่บ้านค่ะ โดย จะทำในช่วงบ่ายของทุกวัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันไม่ได้อุปทานไปเองนะคะ ดิฉันจะได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก้ออุทิศส่วนกุศล ตลอดค่ะ แต่ก็แปลกนะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆๆๆ ซึ่งบางครั้งก้อเป็นหลายวันเลยค่ะ ดิฉันทรมานมากค่ะ เพราะบางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย แต่คนที่อยู่ด้วยจะไม่ได้กลิ่นนี้ค่ะ
ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ? ถึงจะไม่มีอาการรับรู้แบบนี้ มันทุกข์ค่ะ บางทีกำหนดตามที่
ลพ.ท่านสอน ก็ไม่ดีขึ้นนะคะ ทุกวันนี้ดิฉันปฏิบัติทุกวัน มาได้ 7-8 เดือนแล้วค่ะ และดิฉัน
ก็ยอมรับนะคะ ว่า เป็นคนจิตอ่อน และคิดมาก เวลารับรู้อะไรแบบนี้ก้อ กลัวขึ้นสมองเลยค่ะ เพราะอยู่คนเดียวด้วย ที่พักก็เป็นอพาทเมนท์น่ะค่ะ
http://www.jarun.org/v6/board/viewtopic.php?t=11123


เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมากค่ะ
บางทีก็เป็นเงาดำ
ดิฉันจะได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก้ออุทิศส่วนกุศลตลอดค่ะ แต่ก็แปลก
นะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆๆๆ ซึ่งบางครั้งก้อเป็นหลายวันเลยค่ะ ดิฉันทรมานมากค่ะ เพราะบางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย



โยคีผู้นี้ ยังไม่ได้รับการแก้อารมณ์ที่ถูกต้อง ตามลิงค์ ผู้แนะนำยังว่าเทวดา ว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร
บ้างก็ให้แก้ด้วยการให้สวดมนต์ บ้างก็แนะนำแบบเสริมสร้างกุศลธรรมหรือปลุกเร้ากุศล
แนะนำอย่างนั้นรับรองไม่มีทางจะแก้อารมณ์นั้นได้สำเร็จ และกระทบถึงจิตใจของโยคีตรงๆเต็มๆ พึงระวัง

อีกประการหนึ่ง แม้โยคีจะกำหนดรู้ดูตามสภาวะว่า “เหม็นหนอๆๆๆ” ดังตัวอย่างแล้ว จะต้องกำหนด
ทุกครั้งที่ได้กลิ่น มิใช่กำหนดเพียงครั้งหรือสองครั้ง ไม่ใช่ ๆ จะต้องกำหนดทุกครั้งที่ได้กลิ่น
เหม็นหรือกลิ่นหอม พึงกำหนดในใจตามสภาพ เหม็นก็ว่าเหม็น หอมก็ว่าหอม

หรือรู้สึกว่ามีอะไรมาอำ เหมือนปลามาดิ้นบนตัว หรือเป็นแมวเป็นเงา เป็นต้น ก็ต้องกำหนดทุกครั้ง
ที่เกิดสภาวะเช่นนั้น มิใช่ปล่อยอารมณ์นั้นไปเฉยๆลอยๆ และไม่ใช่ครั้งเดียวต้องกำหนดทุกครั้งที่รู้สึก
อย่างนั้น


-- นี่ก็ไม่เห็นมีอะไร วิธีแก้ก็คือ เจริญสติให้มากเท่านั้นเอง ส่วนที่คนอื่นๆแนะนำวิธีการหรือที่คุณกรัชกายแนะนำวิธีการ มันก็เป็นเพียงวิธีที่คุณทำกันแล้วได้ผลเท่านั้นเอง วิธีที่ดิฉันทำแล้วได้ผลก็คือการเจริญสติค่ะ

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 07:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์


รู้สึกว่าแขนตัวเองหาย
รู้สึกเหมือนร่างกายมีแสงเรื่องๆ ที่ผิว ขาวนวลและเป็นละอองฝุ่นผงเล็กๆๆ ฟุ้งขึ้นไปในอากาศลอยขึ้นไป เรื่อยๆๆ กำหนดจิตรู้สึก ร่ายกายช่วงลำตัวกับแขนหายไป....
ลำตัวกลวงโป๋ แต่รู้สึกเย็นวาบขนลุก .....ลมเย็นพัดสอบจากรอบๆร่ายกายแล้วพุ่งขึ้นศีรษะอย่างเร็วแรง และเย็นมากเหมือนอยู่ในห้องเย็น ขนลุกไปทั้งตัว
.....รู้สึกกลัวมาก.....เหมือนลมเย็นจะพัดเราลอยขึ้นจากพื้น..
ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นไงเป็นกันวะ...ตายเป็นตาย ตายในสมาธิเท่จะตาย
อีกใจก็กลัวมาก...กลัวที่สุดในชีวิต

เกือบเดือน จึงกล้าที่จะนั่งสมาธิใหม่
และสภาวะที่ติดมาคือ อยากตายมาก......มันเบื่อโลก...เบื่อทุกอย่าง....ไม่อยากเจอคน เซ็งกับทุกสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้

ไม่นั่งสมาธิ สวดมนต์ เป็นเดือน เซ็งจัด
พึ่งจะเริ่มมานั่งใหม่ได้ อาทิตย์ สองอาทิตย์
ครั้งสองครั้งแรก กลัวๆๆ
เมื่อคืนนั่งๆๆไปมีความรู้สึกว่าเห็นเปลวไฟสีเขียวเกิดรอบๆร่างกายเปลวใหญ่
ไม่นึ่งเหมือนใน MV เป็นภาพ slow สวยๆๆ แต่เป็นเปลวสีเขียวใหญ่ และที่สำคัญขนลุก รู้สึกเย็นวาบๆๆ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งก่อน

....

ผมนับถือคริสต์ แต่ชอบนั่งสมาธิ และสวดลูกประคำครับ ชอบตื่นมานั่งสมาธิและ สวดลูกประคำ
แต่ดวงตาผมกลับมองเห็นทุกอย่างในห้อง โดยไม่ต้องลืมตา และขณะเดียวกัน ผมรู้สึกเสียว
สันหลัง และเห็นผู้หญิงมานั่งข้างหลัง โดยที่ผมไม่ต้องหันหน้ากลับหลังไปมอง
ผู้หญิงคนนั้น ตาโบ๋ ปากและจมูกกลวง ผิวซีด ชุดสีเทามอมอ ผมสะดุ้งลืมตาเลย

แต่เมื่อประมาณ เดือนที่แล้ว นั่งสมาธิเหมือนเดิม + สวดลูกประคำ พอมีอยู่ในสมาธิทีไร
จะได้ยินเสียงผู้หญิงมากระซิบข้างหู ให้ตั้งใจทำความดี บำเพ็ญภาวนา แล้ว อีกไม่นาน
เขาจะมาพบผม และยังบอกอีกว่า ที่เคยดำเนินชีวิตมาให้ละทิ้งเสีย เพราะชะตาผมต้องคอยช่วยผู้อื่น อีกมากมาย และยิ่งกลัวมากขึ้นทุกที
ทุกวันนี้ ผมกลัวจนไม่กล้านั่งสมาธิ ตอนแรกผมนึกว่าผมบ้า คิดไปเอง แต่เป็นแบบนี้เป็นเดือนเลย

........

ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรม ฯลฯ
เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมาก
บางทีก็เป็นเงาดำ จนทำให้ดิฉันกลัวและหยุดปฏิบัติไปนาน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันไม่ได้อุปทานไปเองได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก็อุทิศส่วนกุศล ตลอด แต่ก็แปลกนะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆ
ซึ่งบางครั้งก็เป็นหลายวันทรมานมาก บางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย
มันทุกข์ค่ะ บางทีกำหนดตามที่ ลพ. สอน ก็ไม่ดีขึ้น[/quote]


-- นี่ก็เหมือนกัน ไม่เห็นจะมีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2008, 07:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

อ้างคำพูด:
นี่ก็เหมือนกัน ไม่เห็นจะมีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง[


บอกวิธีเจริญสติหน่อยครับ

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 07:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

กรัชกาย เขียน:
คุณวไลพรก็เคยปฏิบัติมาบ้าง พอรู้ปริยัติมาบ้าง สมถกรรมฐาน -วิปัสสนากรรมฐาน ตามลิงค์นี้ถูกหรือผิดครับ
หรือไม่ถูกไม่ผิด

viewtopic.php?f=1&t=19616


ประเด็นนี้ทดลองดูว่า คุณยังจะยืนอยู่ว่าไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูกอยู่หรือไม่
ดังกล่าวข้างต้นผู้ซึ่งแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมหรือปฏิบัติกรรมฐาน โยคีจะทำอย่างไรปฏิบัติอย่างไร
เกิดอะไรขึ้น ก็กล่าวเสียว่าก็ไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูก กรรมของโยคีนั่นแล้วครับ

-- อ่านแล้ว อ่านอีกตามลิงค์ที่คุณให้มา ก็ยังไม่เห็นว่าผู้แนะนำนั้น เขาผิดตรงไหน เขาเพียงพยายามสื่อแนวทางการปฏิบัติของเขา ในรูปแบบของเขาเท่านั้นเอง เหมือนภาษาท้องถิ่นกับภาษาในเมืองน่ะคุณกรัชกาย

-- แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่ผู้ปฏิบัติกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องศึกษาปริยัติก็ได้ ตรงนี้อยากจะบอกว่า มันทั้งใช่และไม่ใช่ เพราะถ้าคุณปฏิบัติแล้ว ไม่คิดจะสื่อสารกับใครๆ อันนี้คุณไม่จำเป็นต้องศึกษาก็ได้ แต่ถ้าคุณยังอยู่ในสังคม ยังมีการสื่อสารต่อผู้อื่น คุณจำเป็นต้องศึกษาปริยัติ เพื่อจะได้สนทนาไปในแนวทางเดียวกัน เพราะสิ่งที่คุณปฏิบัติแล้วเห็นผลนั้น มันไม่ได้แตกต่างไปจากปริยัติหรอก

--ต้องไปก่อนแล้ว ทำงานค่ะ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2008, 07:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

อ้างคำพูด:
นี่ก็เหมือนกัน ไม่เห็นจะมีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง


ต้องการคำตอบประเด็นนี้ "ไม่มีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้น" กรัชกายจึงถามวิธีเจริญสติ ว่าเจริญอย่างไร ทำอย่างไร เขาเจริญกันยังไงสติน่า ?
ครับเลิก :b31: แล้วเย็นๆมาตอบนะครับ :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2008, 08:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์


ปัญหาของคุณอวบอั๋น ค่ำๆ ฟังคำตอบจากคุณวลัยพรนะครับ ท่านจะบอกวิธีเจริญสติ เพื่อแก้ปัญหานั้นให้แก่คุณ :b1: ได้คำตอบอย่างไรก็พึงปฏิบัติตามนั้น กรัชกายลอยตัวอยู่เหนือปัญหาแล้ว :b19:

เขียนชื่อคุณวลัยพรผิดมาตลอดแก้ให้แล้วครับ :b8:

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 18:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

กรัชกาย เขียน:

ปัญหาของคุณอวบอั๋น ค่ำๆ ฟังคำตอบจากคุณวลัยพรนะครับ ท่านจะบอกวิธีเจริญสติ เพื่อแก้ปัญหานั้นให้แก่คุณ :b1: ได้คำตอบอย่างไรก็พึงปฏิบัติตามนั้น กรัชกายลอยตัวอยู่เหนือปัญหาแล้ว :b19:

เขียนชื่อคุณวลัยพรผิดมาตลอดแก้ให้แล้วครับ :b8:


คุณกรัชกายนี่ตลกนะ

--ตกลงอาการที่ยกลิงค์มาให้อ่านทั้งหมดเป็นของคุณอวบอั๋นหรือ คุณถึงบอกว่า ดิฉันจะบอกวิธีเจริญสติ เพื่อแก้ปัญหาให้คุณอวบอั๋น อ่านแล้วก็ขำๆว่าคุณคิดได้ยังไง เท่าที่จำได้ ตั้งแต่ดิฉันเข้ามาสนทนาในเว็บบอร์ดนี้ ดิฉันไม่เคยโพสคำพูดเลยสักครั้งเดียวว่า จงเชื่อฉันนะ จงทำตามฉันนะ ทำตามฉันแล้วรับรองได้ผล แก้ไขปัญหาได้แน่นอน พูดเองเออเองคนเดียวก็เป็นนะคุณ

-- คำว่า " กรัชกายลอยตัวอยู่เหนือปัญหา" ตกลงหมายถึงอะไรหรือคะ

--คำพูดของคุณที่โพสมานั้นทำให้ดิฉันนึกถึงคำพูดของคุณขันธ์ ที่เคยกล่าวไว้เกี่ยวกับคุณ ในความคิดของดิฉันก่อนที่คุณขันธ์จะเอ่ยมา ดิฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพียงแต่ไม่พูดออกมา เพราะต้องการถนอมน้ำใจซึ่งกันและกันไว้ ยังไงการมีมิตรเอาไว้ ดีกว่าการสร้างศัตรู

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 18:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
นี่ก็เหมือนกัน ไม่เห็นจะมีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง


ต้องการคำตอบประเด็นนี้ "ไม่มีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้น" กรัชกายจึงถามวิธีเจริญสติ ว่าเจริญอย่างไร ทำอย่างไร เขาเจริญกันยังไงสติน่า ?
ครับเลิก :b31: แล้วเย็นๆมาตอบนะครับ :b1:

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 18:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

[quote="กรัชกาย"]พูดถึงคำว่า “หนอ” บ้าง บางบอร์ดรังเกียจ บางแห่งคิดว่า คำบริกรรมเป็นสมถะไปโน่นเลย
สำหรับผู้ไม่เอาคำว่า “หนอ” ตัดออกไม่เอาก็ได้ กำหนดสภาวะล้วนๆ เมื่อเพิมคำว่า หนอแล้วมันยาวไป ก็เอาแต่ “เห็นๆๆ” “ได้ยิน” “ เหม็นๆๆ” “ กลัวๆๆ” “ตกใจๆๆ” “ขนลุกๆๆ”
สรูปก็ คือ ขณะนั้นตนรู้สึกอย่างไรก็กำหนดตามนั้น
แต่เมื่อกำหนดแค่นั้นมันสั้นไป จะนำคำอื่นซึ่งไม่มีโทษเสริมก็ได้ ตัวอย่างลมหายใจ พอง-ยุบเป็นต้น ยาวว่า “พอง” ว่า “ยุบ” คำเดียวสั้นไป เพราะยังไม่สุดพอง ยังไม่สุดยุบ ก็หาบริกรรมต่อท้ายได้เอง
ก็เท่านี้เอง ไม่พึงคิดเลยเถิดไป

-- แล้วแบบที่คุณนำมาอธิบายนี้ เรียกว่าอะไรหรือคะ

เจ้าของ:  อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 17 ธ.ค. 2008, 18:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

shocked

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2008, 18:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

อ้างคำพูด:
๑) รู้สึกว่าแขนตัวเองหาย
รู้สึกเหมือนร่างกายมีแสงเรื่องๆ ที่ผิว ขาวนวลและเป็นละอองฝุ่นผงเล็กๆๆ ฟุ้งขึ้นไปในอากาศลอยขึ้นไป เรื่อยๆๆ กำหนดจิตรู้สึก ร่ายกายช่วงลำตัวกับแขนหายไป....
ลำตัวกลวงโป๋ แต่รู้สึกเย็นวาบขนลุก .....ลมเย็นพัดสอบจากรอบๆร่ายกายแล้วพุ่งขึ้นศีรษะอย่างเร็วแรง และเย็นมากเหมือนอยู่ในห้องเย็น ขนลุกไปทั้งตัว
.....รู้สึกกลัวมาก.....เหมือนลมเย็นจะพัดเราลอยขึ้นจากพื้น..
ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นไงเป็นกันวะ...ตายเป็นตาย ตายในสมาธิเท่จะตาย
อีกใจก็กลัวมาก...กลัวที่สุดในชีวิต

เกือบเดือน จึงกล้าที่จะนั่งสมาธิใหม่
และสภาวะที่ติดมาคือ อยากตายมาก......มันเบื่อโลก...เบื่อทุกอย่าง....ไม่อยากเจอคน เซ็งกับทุกสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้

ไม่นั่งสมาธิ สวดมนต์ เป็นเดือน เซ็งจัด
พึ่งจะเริ่มมานั่งใหม่ได้ อาทิตย์ สองอาทิตย์
ครั้งสองครั้งแรก กลัวๆๆ
เมื่อคืนนั่งๆๆไปมีความรู้สึกว่าเห็นเปลวไฟสีเขียวเกิดรอบๆร่างกายเปลวใหญ่
ไม่นึ่งเหมือนใน MV เป็นภาพ slow สวยๆๆ แต่เป็นเปลวสีเขียวใหญ่ และที่สำคัญขนลุก รู้สึกเย็นวาบๆๆ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งก่อน

๒) ผมนับถือคริสต์ แต่ชอบนั่งสมาธิ และสวดลูกประคำครับ ชอบตื่นมานั่งสมาธิและ สวดลูกประคำ
แต่ดวงตาผมกลับมองเห็นทุกอย่างในห้อง โดยไม่ต้องลืมตา และขณะเดียวกัน ผมรู้สึกเสียว
สันหลัง และเห็นผู้หญิงมานั่งข้างหลัง โดยที่ผมไม่ต้องหันหน้ากลับหลังไปมอง
ผู้หญิงคนนั้น ตาโบ๋ ปากและจมูกกลวง ผิวซีด ชุดสีเทามอมอ ผมสะดุ้งลืมตาเลย

แต่เมื่อประมาณ เดือนที่แล้ว นั่งสมาธิเหมือนเดิม + สวดลูกประคำ พอมีอยู่ในสมาธิทีไร
จะได้ยินเสียงผู้หญิงมากระซิบข้างหู ให้ตั้งใจทำความดี บำเพ็ญภาวนา แล้ว อีกไม่นาน
เขาจะมาพบผม และยังบอกอีกว่า ที่เคยดำเนินชีวิตมาให้ละทิ้งเสีย เพราะชะตาผมต้องคอยช่วยผู้อื่น อีกมากมาย และยิ่งกลัวมากขึ้นทุกที
ทุกวันนี้ ผมกลัวจนไม่กล้านั่งสมาธิ ตอนแรกผมนึกว่าผมบ้า คิดไปเอง แต่เป็นแบบนี้เป็นเดือนเลย

๓) ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรม ฯลฯ
เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมาก
บางทีก็เป็นเงาดำ จนทำให้ดิฉันกลัวและหยุดปฏิบัติไปนาน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันไม่ได้อุปทานไปเองได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก็อุทิศส่วนกุศล ตลอด แต่ก็แปลกนะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆ
ซึ่งบางครั้งก็เป็นหลายวันทรมานมาก บางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย
มันทุกข์ค่ะ บางทีกำหนดตามที่ ลพ. สอน ก็ไม่ดีขึ้น
....

-- นี่ก็เหมือนกัน ไม่เห็นจะมีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง



ที่ ๑ ของคุณอวบอั๋น ข้างต้นกรัชกายทำลิงค์ไว้ทุกแห่ง

แต่จะของใครอย่าติดใจประเด็นนี้เลยครับ
เข้าประเด็นนี้เถอะ (ไม่เห็นจะมีอะไร เพียงเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง)
คุณวลัยพรบอกวิธีเจริญสติให้คุณอวบอั๋นนำไปใช้แก้อารมณ์ที

คำว่า " กรัชกายลอยตัวอยู่เหนือปัญหา" ตกลงหมายถึงอะไรหรือคะ


คำถามนี้มีคำตอบ เมื่อคุณวลัยพรบอกวิธีเจริญสติแก้อารมณ์กรรมฐานให้คุณอวบอั๋นก่อนครับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2008, 19:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

walaiporn เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พูดถึงคำว่า “หนอ” บ้าง บางบอร์ดรังเกียจ บางแห่งคิดว่า คำบริกรรมเป็นสมถะไปโน่นเลย
สำหรับผู้ไม่เอาคำว่า “หนอ” ตัดออกไม่เอาก็ได้ กำหนดสภาวะล้วนๆ เมื่อเพิมคำว่า หนอแล้วมันยาวไป ก็เอาแต่ “เห็นๆๆ” “ได้ยิน” “ เหม็นๆๆ” “ กลัวๆๆ” “ตกใจๆๆ” “ขนลุกๆๆ”
สรูปก็ คือ ขณะนั้นตนรู้สึกอย่างไรก็กำหนดตามนั้น
แต่เมื่อกำหนดแค่นั้นมันสั้นไป จะนำคำอื่นซึ่งไม่มีโทษเสริมก็ได้ ตัวอย่างลมหายใจ พอง-ยุบเป็นต้น ยาวว่า “พอง” ว่า “ยุบ” คำเดียวสั้นไป เพราะยังไม่สุดพอง ยังไม่สุดยุบ ก็หาบริกรรมต่อท้ายได้เอง
ก็เท่านี้เอง ไม่พึงคิดเลยเถิดไป

-- แล้วแบบที่คุณนำมาอธิบายนี้ เรียกว่าอะไรหรือคะ



คำถามนั้น จะมีคำตอบเมื่อคุณวลัยพร บอกวิธีเจริญสติก่อน เห็นพูดกันบ่อยๆ ว่าเจริญสติๆ
ถามว่า เจริญอย่างไร ? ก็ :b21:

พูดแค่นั้นใครๆก็พูดได้ เจริญสติ ทำสมาธิ เจริญปัญญา ครั้นมีคำถามว่า เจริญอย่างไรครับ เจริญสติก็ :b21: นี่คือปัญหาจริงไหมครับคุณวลัยพร

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ธ.ค. 2008, 19:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

อ้างคำพูด:
คำพูดของคุณที่โพสมานั้นทำให้ดิฉันนึกถึงคำพูดของคุณขันธ์ ที่เคยกล่าวไว้เกี่ยวกับคุณ ในความคิดของดิฉันก่อนที่คุณขันธ์จะเอ่ยมา ดิฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพียงแต่ไม่พูดออกมา เพราะต้องการถนอมน้ำใจซึ่งกันและกันไว้ ยังไงการมีมิตรเอาไว้ ดีกว่าการสร้างศัตรู



คิดไกลไปครับ “สร้างศัตรู” ไม่มีเหตุผล เราไม่เคยเห็นหน้าคาดตากันสักคนเดียวในนี้
ไม่รู้ว่าใครอยู่ไหนกันบ้าง แล้วเราจะเป็นศัตรูกันด้วยเหตุผลใดครับ มีแต่เจตนาที่ต่างกัน
กรัชกายมีเจตนาเพื่อผู้ปฏิบัติกรรมฐานโดยตรงโดยเฉพาะภาวนามัยบุคคล เช่น ๓ ตัวอย่างที่นำมาเป็นบทตั้งเพื่อสนทนากับคุณพลศักดิ์ แต่ใน ๓ ตัวอย่างนั้น มีของคุณอวบอั๋นติดมาด้วย
ส่วนประเด็นคำถามนอกจากนี้กรัชกายไม่ค่อยแตะ

คุณวลัยพรครับ การปฏิบัติกรรมฐานที่ใช้คำภาวนาทุกอย่าง จะเป็นพองหนอ ยุบหนอ พุทโธ หรืออื่นๆ มิใช่อย่างที่คุณพูดว่า “ไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด” ครับ ไม่ใช่เลย
เช่นตัวอย่างนี้


๓) ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรม ฯลฯ
เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมาก
บางทีก็เป็นเงาดำ จนทำให้ดิฉันกลัวและหยุดปฏิบัติไปนาน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันไม่ได้อุปทานไปเองได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก็อุทิศส่วนกุศล ตลอด แต่ก็แปลกนะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆ
ซึ่งบางครั้งก็เป็นหลายวันทรมานมาก บางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย
มันทุกข์ค่ะ บางทีกำหนดตามที่ ลพ. สอน ก็ไม่ดีขึ้น


หากคิดอย่างคุณ ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด มีแต่ยุให้เขาทำๆๆ เพี้ยนรับทานครับ :b12: :b1:

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 19:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

กรัชกาย เขียน:
walaiporn เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พูดถึงคำว่า “หนอ” บ้าง บางบอร์ดรังเกียจ บางแห่งคิดว่า คำบริกรรมเป็นสมถะไปโน่นเลย
สำหรับผู้ไม่เอาคำว่า “หนอ” ตัดออกไม่เอาก็ได้ กำหนดสภาวะล้วนๆ เมื่อเพิมคำว่า หนอแล้วมันยาวไป ก็เอาแต่ “เห็นๆๆ” “ได้ยิน” “ เหม็นๆๆ” “ กลัวๆๆ” “ตกใจๆๆ” “ขนลุกๆๆ”
สรูปก็ คือ ขณะนั้นตนรู้สึกอย่างไรก็กำหนดตามนั้น
แต่เมื่อกำหนดแค่นั้นมันสั้นไป จะนำคำอื่นซึ่งไม่มีโทษเสริมก็ได้ ตัวอย่างลมหายใจ พอง-ยุบเป็นต้น ยาวว่า “พอง” ว่า “ยุบ” คำเดียวสั้นไป เพราะยังไม่สุดพอง ยังไม่สุดยุบ ก็หาบริกรรมต่อท้ายได้เอง
ก็เท่านี้เอง ไม่พึงคิดเลยเถิดไป

-- แล้วแบบที่คุณนำมาอธิบายนี้ เรียกว่าอะไรหรือคะ



คำถามนั้น จะมีคำตอบเมื่อคุณวลัยพร บอกวิธีเจริญสติก่อน เห็นพูดกันบ่อยๆ ว่าเจริญสติๆ
ถามว่า เจริญอย่างไร ? ก็ :b21:

พูดแค่นั้นใครๆก็พูดได้ เจริญสติ ทำสมาธิ เจริญปัญญา ครั้นมีคำถามว่า เจริญอย่างไรครับ เจริญสติก็ :b21: นี่คือปัญหาจริงไหมครับคุณวลัยพร


-- อ้อ ... :b21: คิดเองเออเอง ตลกดี :b32:

-- คุณคงไม่เคยเข้าไปอ่านกระทู้นี้ ซึ่งดิฉันได้เคยพูดเรื่องการเจริญสติไว้

viewtopic.php?f=1&t=19387&st=0&sk=t&sd=a&start=15

การฝึกเจริญสติ มี 2 แบบ
1. รู้ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรหรืออริยาบทไหนก็แล้วแต่ ให้รู้ลงไป ให้รู้นะ ไม่ใช่ให้ดู การดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือวิปัสสนา ถ้าดูก็จะเห็นถึงความไม่เที่ยง ถ้ารู้ก็มีจะสติเกิดขึ้น จะมากหรือน้อยก็อยู่ที่ความต่อเนื่อง สะสมไปเหมือนสะสมหน่วยกิต วันนี้อาจจะไม่ทัน จิตมันไว วันหน้าก็อาจจะทัน ทุกอย่างต้องใช้เวลาใช้ความเพียรอย่างต่อเนื่อง
2.ใช้อารมณ์บัญญัติเข้าช่วย เช่นใช้ " หนอ " จะทำอะไรก็ให้มีคำว่า " หนอ " ต่อท้าย เพื่อรั้งจิตให้ช้าลง สติ จะได้เกิดเร็วขึ้น วันใดสติ สัมปชัญญะเข้มแข็งขึ้น คำว่า " หนอ " จะหายไปเอง
ถ้าถามว่าวิธีแบบไหนดีที่สุดหรือถูกที่สุด ดีที่สุดไม่มี ถูกที่สุดไม่มี มีแต่ความถูกใจ ทำแบบไหนแล้วถูกใจ ทำแล้วถนัด ทำแล้วสติ สัมปชัญญะเกิดชัดเจนขึ้น วิธีนั้นย่อมเหมาะแก่จริตของผู้นั้น


-- ok ไหมคะ หรือจะใช้วิธีกำหนดว่า รู้หนอๆๆๆ แบบที่ดิฉันใช้ก็ได้ค่ะ อะไรเกิดขึ้นก็รู้หนอๆๆๆๆ คือสักแต่ว่ารู้ รู้มันลงไป หายใจยาวๆ ต่อไปเมื่อมีสติ สัมปชัญญะมากขึ้น คำว่า หนอ มันจะหายไปเอง

-- เพิ่งรู้ว่า รูปนี้ :b21: คือ ปัญหาของคุณกรัชกาย

-- รับรองว่า ดิฉันไม่เคยใช้รูปนี้หรอกค่ะ :b21:

-- อาจจะมีก็ตรงตัวหนังสือนี่แหละที่อาจจะสื่อไม่ค่อยเข้าใจกันกระมังคะคุณกรัชกาย

เจ้าของ:  walaiporn [ 17 ธ.ค. 2008, 19:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอความรอบรู้เพิ่มเติมจากคุณพลศักดิ์ วังวิวัฌน์

อ้อ ๆๆๆๆ online อยู่พอดีเลยหรือคะ :b32:

-- งั้นมาสนทนากัน

หน้า 10 จากทั้งหมด 12 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/