วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 01:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 175 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 23:07
โพสต์: 151

ที่อยู่: BKK.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอึ๋ม เอ้ย....อวบอั๋น ฮี่... ฮี่ :b12:
ตืนค่ะตื่น!!!!!!

แวะมาเกรงใจเจ้าของกระทู้ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องระหว่างเรา สองคน
ขอหยุดส่งมุก(ขำๆ)..ไว้เพียงเท่านี้

"คนทั้งเมืองต่างหลับใหล มีแต่เจ้าชายสิทธัตถะเท่านั้นที่ตื่น(จาก รัก โลภ โกธร หลง) อยู่"จากภาพยนต์เรื่อง "Buddha" แสดงโดย Keanu Reev

.....................................................
จงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปทำร้ายใคร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 18:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนสรุปประเด็นทั้งหมดขอนำหลักมาวางแบเทียบให้ดูอีกครั้ง

โยนิโสมนสิการโดยสรุปมี ๒ อย่าง
๑. โยนิโสมนสิการเพื่อความรู้ตามสภาวะ
โยนิโสมนสิการเพื่อรู้ตามสภาวะขึ้นต่อความจริงที่เป็นไปอยู่ตามธรรมดาของมัน จึงมีลักษณะแน่นอนเป็นอย่างเดียว

๒. โยนิโสมนสิการเพื่อเสริมสร้างกุศลธรรม หรือ เพื่อบรรเทาตัณหา
โยนิโสมนสิการเพื่อเสริมสร้างกุศลธรรม หรือบรรเทาตัณหา ยังเป็นเรื่องของการปรุงแต่งในใจ
ตามวิสัยของสังขารจึงมีลักษณะแผกผันไปได้หลากหลาย


พึงทราบความหมายคำว่า “สภาวะ” สภาวะ แปลว่า สิ่งที่เป็นเองตามเหตุปัจจัย(ของมัน)
เช่นตัวอย่าง สภาวธรรมที่ปรากฏแก่โยคี 3 คนนี้



รู้สึกว่าแขนตัวเองหาย
รู้สึกเหมือนร่างกายมีแสงเรื่องๆ ที่ผิว ขาวนวลและเป็นละอองฝุ่นผงเล็กๆๆ ฟุ้งขึ้นไปในอากาศลอยขึ้นไป เรื่อยๆๆ กำหนดจิตรู้สึก ร่ายกายช่วงลำตัวกับแขนหายไป....
ลำตัวกลวงโป๋ แต่รู้สึกเย็นวาบขนลุก .....ลมเย็นพัดสอบจากรอบๆร่ายกายแล้วพุ่งขึ้นศีรษะอย่างเร็วแรง และเย็นมากเหมือนอยู่ในห้องเย็น ขนลุกไปทั้งตัว
.....รู้สึกกลัวมาก.....เหมือนลมเย็นจะพัดเราลอยขึ้นจากพื้น..
ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นไงเป็นกันวะ...ตายเป็นตาย ตายในสมาธิเท่จะตาย
อีกใจก็กลัวมาก...กลัวที่สุดในชีวิต

เกือบเดือน จึงกล้าที่จะนั่งสมาธิใหม่
และสภาวะที่ติดมาคือ อยากตายมาก......มันเบื่อโลก...เบื่อทุกอย่าง....ไม่อยากเจอคน เซ็งกับทุกสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้

ไม่นั่งสมาธิ สวดมนต์ เป็นเดือน เซ็งจัด
พึ่งจะเริ่มมานั่งใหม่ได้ อาทิตย์ สองอาทิตย์
ครั้งสองครั้งแรก กลัวๆๆ
เมื่อคืนนั่งๆๆไปมีความรู้สึกว่าเห็นเปลวไฟสีเขียวเกิดรอบๆร่างกายเปลวใหญ่
ไม่นึ่งเหมือนใน MV เป็นภาพ slow สวยๆๆ แต่เป็นเปลวสีเขียวใหญ่ และที่สำคัญขนลุก รู้สึกเย็นวาบๆๆ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งก่อน

....

ผมนับถือคริสต์ แต่ชอบนั่งสมาธิ และสวดลูกประคำครับ ชอบตื่นมานั่งสมาธิและ สวดลูกประคำ
แต่ดวงตาผมกลับมองเห็นทุกอย่างในห้อง โดยไม่ต้องลืมตา และขณะเดียวกัน ผมรู้สึกเสียว
สันหลัง และเห็นผู้หญิงมานั่งข้างหลัง โดยที่ผมไม่ต้องหันหน้ากลับหลังไปมอง
ผู้หญิงคนนั้น ตาโบ๋ ปากและจมูกกลวง ผิวซีด ชุดสีเทามอมอ ผมสะดุ้งลืมตาเลย

แต่เมื่อประมาณ เดือนที่แล้ว นั่งสมาธิเหมือนเดิม + สวดลูกประคำ พอมีอยู่ในสมาธิทีไร
จะได้ยินเสียงผู้หญิงมากระซิบข้างหู ให้ตั้งใจทำความดี บำเพ็ญภาวนา แล้ว อีกไม่นาน
เขาจะมาพบผม และยังบอกอีกว่า ที่เคยดำเนินชีวิตมาให้ละทิ้งเสีย เพราะชะตาผมต้องคอยช่วยผู้อื่น อีกมากมาย และยิ่งกลัวมากขึ้นทุกที
ทุกวันนี้ ผมกลัวจนไม่กล้านั่งสมาธิ ตอนแรกผมนึกว่าผมบ้า คิดไปเอง แต่เป็นแบบนี้เป็นเดือนเลย

........

ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรม ฯลฯ
เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมาก
บางทีก็เป็นเงาดำ จนทำให้ดิฉันกลัวและหยุดปฏิบัติไปนาน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันไม่ได้อุปทานไปเองได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก็อุทิศส่วนกุศล ตลอด แต่ก็แปลกนะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆ
ซึ่งบางครั้งก็เป็นหลายวันทรมานมาก บางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย
มันทุกข์ค่ะ บางทีกำหนดตามที่ ลพ. สอน ก็ไม่ดีขึ้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


๑. โยนิโสมนสิการเพื่อความรู้ตามสภาวะ
โยนิโสมนสิการเพื่อรู้ตามสภาวะขึ้นต่อความจริงที่เป็นไปอยู่ตามธรรมดาของมัน จึงมีลักษณะแน่นอนเป็นอย่างเดียว


ขยายความ ก็ได้แก่โยคีผู้ใช้คำภาวนาจะเป็นพอง-ยุบก็ดี พุทโธเป็นต้นก็ดี ขณะนั้นเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ รู้สึกนึกคิดอย่างไร ก็พึงกำหนดไปตามเป็นจริงในขณะนั้นๆ ตัวอย่างเช่น เห็นหนอๆๆ ขนลุกหนอๆๆ
เหม็นหนอๆๆๆ ตกใจหนอๆๆ กลัวหนอๆๆ ดังนี้เป็นต้น กำหนดตามสภาวะ ซึ่งแน่นอนเป็นอย่างเดียวอย่างนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 18:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


๒. โยนิโสมนสิการเพื่อเสริมสร้างกุศลธรรม หรือ เพื่อบรรเทาตัณหา
โยนิโสมนสิการเพื่อเสริมสร้างกุศลธรรม หรือบรรเทาตัณหา ยังเป็นเรื่องของการปรุงแต่งในใจ
ตามวิสัยของสังขารจึงมีลักษณะแผกผันไปได้หลากหลาย


ส่วนข้อที่ ๒ ก็ได้แก่การแนะนำกันและกันโดยอุบายวิธีทั่วๆ ไป ซึ่งมีมากหลากหลายวิธี เช่นพูดปลอบใจกัน ให้กำลังใจกัน ทำอย่างนั้นบ้าง อย่างนี้บ้าง ดังตัวอย่างที่แนะนำกันตามลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=19417&p=88618#p88618

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 19:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้ลิงค์ดังกล่าว เค้าคำถามว่า

อ้างคำพูด:
ผมฝึกสมาธิด้วยการบริกรรม "พุทโธ" ตามลมหายใจเข้าออก พอนั่งไปได้เกือบๆ 10 นาที จะรู้สึกว่า คำบริกรรมจะเริ่มแผ่วเบา แล้วตัวก็โงนเงนไปมาคล้ายๆ ว่าจะหลับครับ (ซึ่งบางครั้งผมคิดว่า เกือบจะหลับไปแล้วจริงๆ แต่พอมีสติก็กลับมานั่งตัวตรงใหม่) หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมนั่งสมาธิตอนเกือบเที่ยงคืนซึ่งเป็นเวลานอนตามปกติของผม ก็เลยทำให้ร่ายกายมันง่วงไปเอง แบบนี้ควรจะแก้ไขยังไงดีครับ

viewtopic.php?f=2&t=19417&p=88618#p88618


ฉะนั้นการตอบคำถามนี้นั้น ตอบผิดฝาผิดตัวผิดหลัก สภาวะปรากฏแก่โยคีเพราะการภาวนา (ตามข้อหนึ่ง) แต่ผู้ตอบๆตามข้อสอง แก้สภาวะที่ปลายเหตุ ไม่ใช่แก้อารมณ์ที่ต้นเหตุของปัญหา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปิดโอกาสให้คุณอวบอั๋นซักถามได้หากมีข้อสงสัย คิดไม่ออกตอนนี้ก็นอนคิดก่อนได้ครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดถึงคำว่า “หนอ” บ้าง บางบอร์ดรังเกียจ บางแห่งคิดว่า คำบริกรรมเป็นสมถะไปโน่นเลย
สำหรับผู้ไม่เอาคำว่า “หนอ” ตัดออกไม่เอาก็ได้ กำหนดสภาวะล้วนๆ เมื่อเพิมคำว่า หนอแล้วมันยาวไป ก็เอาแต่ “เห็นๆๆ” “ได้ยิน” “ เหม็นๆๆ” “ กลัวๆๆ” “ตกใจๆๆ” “ขนลุกๆๆ”
สรูปก็ คือ ขณะนั้นตนรู้สึกอย่างไรก็กำหนดตามนั้น
แต่เมื่อกำหนดแค่นั้นมันสั้นไป จะนำคำอื่นซึ่งไม่มีโทษเสริมก็ได้ ตัวอย่างลมหายใจ พอง-ยุบเป็นต้น ยาวว่า “พอง” ว่า “ยุบ” คำเดียวสั้นไป เพราะยังไม่สุดพอง ยังไม่สุดยุบ ก็หาบริกรรมต่อท้ายได้เอง
ก็เท่านี้เอง ไม่พึงคิดเลยเถิดไป


อ้อ ...การปฏิบัติกรรมฐานหรือภาวนามัย ตัดเรื่องเจ้ากรรมนายเวร หรือคิดว่าสภาวะนั้นๆ ติดตามมาแต่อดีตชาติ ไม่ควรคิดเลยในขณะนั้น กำหนดตามเป็นจริงอย่างเดียวเท่านั้น ขอย้ำเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉายตัวอย่างนี้ซ้ำอีกที

อ้างคำพูด:
ดิฉันก็มาปฏิบัติต่อที่บ้านได้สักระยะ เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมากค่ะ บางทีก็เป็นเงาดำ จนดิฉันนอนไม่ได้ต้องเปิดไฟนอนตลอดค่ะ สิ่งเหล่านี้คือ เจ้ากรรมนายเวร ใช่ไหมคะ? จนทำให้ดิฉันกลัวและหยุดปฏิบัติไปนานพอสมควรเลยค่ะ

หลังจากนั้นพอมีเวลา ก็ไปมาอีกเป็นเวลา 3 วัน แล้วนำมาปฏิบัติต่อที่บ้านค่ะ โดย จะทำในช่วงบ่ายของทุกวัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันไม่ได้อุปทานไปเองนะคะ ดิฉันจะได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก้ออุทิศส่วนกุศล ตลอดค่ะ แต่ก็แปลกนะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆๆๆ ซึ่งบางครั้งก้อเป็นหลายวันเลยค่ะ ดิฉันทรมานมากค่ะ เพราะบางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย แต่คนที่อยู่ด้วยจะไม่ได้กลิ่นนี้ค่ะ
ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ? ถึงจะไม่มีอาการรับรู้แบบนี้ มันทุกข์ค่ะ บางทีกำหนดตามที่
ลพ.ท่านสอน ก็ไม่ดีขึ้นนะคะ ทุกวันนี้ดิฉันปฏิบัติทุกวัน มาได้ 7-8 เดือนแล้วค่ะ และดิฉัน
ก็ยอมรับนะคะ ว่า เป็นคนจิตอ่อน และคิดมาก เวลารับรู้อะไรแบบนี้ก้อ กลัวขึ้นสมองเลยค่ะ เพราะอยู่คนเดียวด้วย ที่พักก็เป็นอพาทเมนท์น่ะค่ะ
http://www.jarun.org/v6/board/viewtopic.php?t=11123


เวลานอนก็เหมือนมีอะไรมาอำ เหมือนเป็นปลามาดิ้นบนตัว บางครั้งก็เป็นแมวน่ากลัวมากค่ะ
บางทีก็เป็นเงาดำ
ดิฉันจะได้กลิ่นเหม็นเน่า ตลอดเวลาบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก้ออุทิศส่วนกุศลตลอดค่ะ แต่ก็แปลก
นะคะ อาการเหล่านี้ ไม่หายเลยค่ะ มันจะมีเป็นระยะๆๆๆ ซึ่งบางครั้งก้อเป็นหลายวันเลยค่ะ ดิฉันทรมานมากค่ะ เพราะบางทีรุนแรงมาก เหมือนพวกหนูตาย



โยคีผู้นี้ ยังไม่ได้รับการแก้อารมณ์ที่ถูกต้อง ตามลิงค์ ผู้แนะนำยังว่าเทวดา ว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร
บ้างก็ให้แก้ด้วยการให้สวดมนต์ บ้างก็แนะนำแบบเสริมสร้างกุศลธรรมหรือปลุกเร้ากุศล
แนะนำอย่างนั้นรับรองไม่มีทางจะแก้อารมณ์นั้นได้สำเร็จ และกระทบถึงจิตใจของโยคีตรงๆเต็มๆ พึงระวัง

อีกประการหนึ่ง แม้โยคีจะกำหนดรู้ดูตามสภาวะว่า “เหม็นหนอๆๆๆ” ดังตัวอย่างแล้ว จะต้องกำหนด
ทุกครั้งที่ได้กลิ่น มิใช่กำหนดเพียงครั้งหรือสองครั้ง ไม่ใช่ ๆ จะต้องกำหนดทุกครั้งที่ได้กลิ่น
เหม็นหรือกลิ่นหอม พึงกำหนดในใจตามสภาพ เหม็นก็ว่าเหม็น หอมก็ว่าหอม

หรือรู้สึกว่ามีอะไรมาอำ เหมือนปลามาดิ้นบนตัว หรือเป็นแมวเป็นเงา เป็นต้น ก็ต้องกำหนดทุกครั้ง
ที่เกิดสภาวะเช่นนั้น มิใช่ปล่อยอารมณ์นั้นไปเฉยๆลอยๆ และไม่ใช่ครั้งเดียวต้องกำหนดทุกครั้งที่รู้สึก
อย่างนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 01:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เปิดโอกาสให้คุณอวบอั๋นซักถามได้หากมีข้อสงสัย คิดไม่ออกตอนนี้ก็นอนคิดก่อนได้ครับ


:b7: :b3: ไม่มีหละขอรับ...การบ้านที่ตอบไป ผิดหมดเลย cry s002 shocked
:b2: :b2:

แต่ไม่เป็นไร cheesy ผมจะตั้งใจศึกษา ใหม่ ขอรับ
แต่ว่าก็ว่าเถอะครับ เรียนตามตรง บางทีผมอ่านไม่รู้เรื่อง อะครับ :b34: เข้าใจยากกกกกมากกกก เกินปัญญา อันน้อยนิดของกระผมจะเข้าใจ :b3: ถ้าคุณกรัชกายจะกรุณา ตอบแบบเข้าใจง่าย ๆ ภาษาบาลีน้อยๆๆ :b15: จะแหล่ม เลยขอรับ :b4:

ว่าแต่ คุณ กรัชกายยังไม่ได้ อธิบาย สภาวะ อารมย์ ของกระผมเลย :b14: หรือคุณกรัชกายตอบแล้วแต่ผมเมา บาลี เลยตีความไม่แตกอีก :b34:

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณอวบอั๋น ฯ
ประเด็นการปฏิบัติกรรมฐาน กรุณาอย่าเกรงใจกรัชกาย ไม่เข้าใจตรงไหนถาม ถามจนกว่าจะเข้าใจ
เพราะกรัชกายตั้งใจว่าจะทำกระทู้นี้เป็นที่อ้างอิงสำหรับนักภาวนา แล้วจะค่อยๆถอนตัวออกจากวงยุทธจักร
อิ่มตัวแล้วมากพอแล้วสำหรับข้อคิดเห็นที่กรัชกายนำเสนอไป


นี่ไงสภาวะที่ปรากฏแก่คุณ
อ้างคำพูด:
รู้สึกว่าแขนตัวเองหาย
รู้สึกเหมือนร่างกายมีแสงเรื่องๆ ที่ผิว ขาวนวลและเป็นละอองฝุ่นผงเล็กๆๆ ฟุ้งขึ้นไปในอากาศลอยขึ้นไป เรื่อยๆๆ กำหนดจิตรู้สึก ร่ายกายช่วงลำตัวกับแขนหายไป....
ลำตัวกลวงโป๋ แต่รู้สึกเย็นวาบขนลุก .....ลมเย็นพัดสอบจากรอบๆร่ายกายแล้วพุ่งขึ้นศีรษะอย่างเร็วแรง และเย็นมากเหมือนอยู่ในห้องเย็น ขนลุกไปทั้งตัว
.....รู้สึกกลัวมาก.....เหมือนลมเย็นจะพัดเราลอยขึ้นจากพื้น..
ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นไงเป็นกันวะ...ตายเป็นตาย ตายในสมาธิเท่จะตาย
อีกใจก็กลัวมาก...กลัวที่สุดในชีวิต

เกือบเดือน จึงกล้าที่จะนั่งสมาธิใหม่
และสภาวะที่ติดมาคือ อยากตายมาก......มันเบื่อโลก...เบื่อทุกอย่าง....ไม่อยากเจอคน เซ็งกับทุกสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้

ไม่นั่งสมาธิ สวดมนต์ เป็นเดือน เซ็งจัด
พึ่งจะเริ่มมานั่งใหม่ได้ อาทิตย์ สองอาทิตย์
ครั้งสองครั้งแรก กลัวๆๆ
เมื่อคืนนั่งๆๆไปมีความรู้สึกว่าเห็นเปลวไฟสีเขียวเกิดรอบๆร่างกายเปลวใหญ่
ไม่นึ่งเหมือนใน MV เป็นภาพ slow สวยๆๆ แต่เป็นเปลวสีเขียวใหญ่ และที่สำคัญขนลุก รู้สึกเย็นวาบๆๆ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งก่อน


กรัชกายคัดน้ำออกเอาแต่เนื้อๆ มาจนคุณจำไม่ได้หรือเปล่า แล้วยังบอกความหมายคำว่า "สภาวะ" ด้วย
(ทวบทวนข้างบน) พูดถึงกันบ่อย สภาวะ แต่มีบางรายไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร จึงบอกว่า สภาวะคือสิ่งที่เป็นเองตามเหตุปัจจัย (หรือสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติธรรมดาของมัน)

สภาวะที่ปรากฏแก่คุณทั้งหมดที่เล่าๆมาแก้ด้วยวิธีเดียว คือ กำหนดตามที่มันเป็น

อันที่จริงกรัชกายตอบรวมๆไป กับ ๒ คห.ที่นำมาเป็นตัวอย่างแล้ว

ไม่เป็นไรเมื่อคุณอวบอั๋นยังงงงง เปิดโอกาสให้คุณถามในรายเอียดของตนเองอีกได้
เอาครับถามมา :b42: :b41:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


:b20: mellow mellow อ้าวคุณกรัชกายจะรีบไปไหนครับ b20: mellow mellow
อยู่ช่วยขุดตอหม้อที่ฝั่งอยู่ในโคลนเหนือเหง้าบัวผมก่อน :b2: :b7:

ปัญหาคือ สภาวะนั้นมันย้อนกลับคือ อาจจะเป็นด้วยความใจเซาะ :b9: กำหนดว่ากลัวๆๆๆๆก็กลัวอะ อิอิ
แล้วสภาวะย้อนกลับไป step ก่อนหน้านี้ คือสภาวะหัวปลาทอง ( อันนี้ผมเรียกเองเพราะติดสภาวะนี้นานก่อนจะ ผ่านไปได้ ) :b32:

กล่าวคือ จะรู้สึก ตรงหน้าฝาก มีอะไรใหญ่ๆ หนัก หน่วงๆอยู่ พอเอาจิตไปสำผัส มันก็จะใหญ่ขึ้นๆๆจนหัวโตเป็นปลาทองหัวสิงห์ เลยอะครับ แล้วก็กลัวๆๆ เย็นหลังวาบๆๆ ก็ พอดีกว่ากลัว.... :b2:

แก้ไงดีครับ s006

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 11:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อที่วันหน้าคุณอวบอั๋นจะมีหลักช่วยตนเองได้ กรัชกายจะถามความเข้าใจคุณอีกที

“สภาวะ” ได้แก่ อะไร ?

เมื่อเข้าใจคำว่า สภาวะ แล้ว

ถามต่อ ข้อความนี้หมายถึงอะไร

-รู้ตามสภาวะ - ขึ้นต่อความจริงที่เป็นไปอยู่ตามธรรมดาของมัน จึงมีลักษณะแน่นอนเป็นอย่างเดียว


เมื่อเข้าใจสาระนี้แล้ว คุณจะแก้อารมณ์กรรมฐานได้ทั้งกระบวนบวน
ตอบก่อนแล้วจะเฉลยให้ภายหลัง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อวิชชาและตัณหานั้นมาด้วยกันเสมอ แต่บางครั้งอวิชชาแสดงบทบาทเด่น ตัณหาเป็นตัวแฝง
บางครั้งตัณหาแสดงบทบาทเด่น อวิชชาเป็นตัวแฝง * เมื่อเข้าใจความจริงอย่างนี้แล้ว
พึงทราบลักษณะความคิดตามอวิชชา-ตัณหา ดังนี้

๑. เมื่ออวิชชาเป็นตัวเด่น ความคิดมีลักษณะติดตันวกวนอยู่ที่แง่หนึ่งตอนหนึ่งอย่างพร่ามัว ขาดความสัมพันธ์ ไม่รู้ทางไป หรือไม่ก็ฟุ้งซ่านสับสน ไม่เป็นระเบียบ ปรุงแต่งอย่างไร้เหตุผล เช่นภาพในความคิดของคนหวาดกลัว

๒.เมื่อตัณหาเป็นตัวเด่น ความคิดมีลักษณะโน้มเอียงไปตามความยินดียินร้าย ความชอบใจไม่ชอบใจ หรือความติดใจขัดใจ ติดพันครุ่นอยู่กับสิ่งที่ชอบหรือชังนั้น และปรุงแต่งความคิดไปตามความชอบความชัง


-เมื่อพูดลึกลงไปอีกในด้านสภาวะ อวิชชาเป็นฐานก่อตัวของตัณหา และตัณหาเป็นตัวเสริมกำลังให้แก่อวิชชา ดังนั้น ถ้าจะกำจัดความชั่วร้ายให้สิ้นเชิง ก็จะต้องกำจัดให้ถึงอวิชชา

....

* การถืออวิชชาและตัณหาเป็นเจ้าบทบาทใหญ่ และเป็นมูลรากของวัฏฏะ พึงอ้าง ม.อ. 1/89/ กับหลักในบาลี องฺ.ทสก.24/61/120; 62/124 และคำอธิบายรุ่นต่อมา วิสุทธิ.3/117, 194

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้แค่ไหนก็ย่อมแนะนำได้แค่นั้น มันไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออะไรคุณวไลพรซักอย่างได้ไหมครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 175 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร