วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 14:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2008, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 22:09
โพสต์: 12

ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


เวลามีเรื่องมารบกวนจิตใจมีวิธีระมัดระวังใจเรายังไงคะ แบบว่าอยากจะทำใจเฉยๆ ปล่อยวาง ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ ที่ทำให้เราทุกข์ หนูเองอยากจะหลุดพ้นจากวังวนนี้เหลือเกิน อยากเป็นผู้ที่มีความสุขตลอดเวลาเพราะตอนหนูไปปฏิบัติธรรม ไปร่วมงานบุญ หนูมีความสุขมากกกกกกกก แต่พอผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมา ก็เหมือนเดิมค่ะ . . . มีเรื่องนู้น เรื่องนี้มาให้คิดมากตลอด (หนูเป็นคนขี้กังวล คิดมาก) พอจะมีวิธีแก้ไขไหมคะ

.....................................................
พระปัญญาเลิศล้น ทรงค้นพบสัจธรรม พระการุณย์เลิศล้ำ ทรงน้อมนำสู่มนุษย์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2008, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


จิตมนุษย์เหมือนคนบ้าหาบหิน
พระธรรมเทศนา : หลวงปู่สิม พุทธาจาโร


นิทานคนบ้าหาบหินนี้ เปรียบอุปมาเหมือนจิตใจของคนเรา ไม่ภาวนา ไม่สงบ ก็ไม่สละออกไปจากอารมณ์ต่างๆ ที่เก็บเข้ามา ตาเห็นรูป ก็เก็บเอามาไว้ มาคิด มานึก มาปรุงแต่งในทางที่จะยึดเอาถือเอาเหมือนคนบ้าหาบหิน รูปดีก็อยากได้ ดิ้นรนวุ่นวาย รูปสวย รูปงาม ไม่ว่ารูปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ไม้สอยก็ตาม รูปคน... เมื่อเห็นว่ารูปดี ก็อยากได้ ปรารถนา ดิ้นรนไปตามกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา มันเก็บเข้ามา ยึดเข้ามา ที่นี้ ในขณะที่รูปไม่ดี รูปน่าเกลียดน่ากลัว รูปน่าชัง ก็เก็บเข้ามาอีก ไปเกลียด ไปกลัว ไปชัง พาให้จิตใจไม่เป็นสมาธิภาวนา คือเป็นธรรมดาของจิตไม่สงบ ไม่มีภาวนาพุทโธอยู่ในดวงใจ เมื่อตาเห็นรูปในส่วนที่ดีก็หลงไปอีกอย่างหนึ่ง ในส่วนที่ไม่ดี ก็หลงไปอีกอย่างหนึ่ง วุ่นวายอย่างนั้นแหละ เหมือนกับว่าคนบ้าหาบหิน


.................................

แปดเปื้อนเปรอะ เลอะเหม็น สกปรก
ผมเผ้ารก รุงรัง บังใบหน้า
เพียงเศษผ้า พันตัว ทั่วกายา
คือคนบ้า แน่ไซร้ ใช่คนดี

เที่ยวดั้นด้น ขนหิน มาแบกหาม
ทั่วเขตขาม ขบขัน กันทุกที่
หาบใส่คาน ขึ้นบ่า ชั่วตาปี
พล่ามวจี หินทอง เป็นของตน

“จิตมนุษย์ ดุจว่า บ้าหาบหิน”
บ้าทรัพย์สิน ยื้อแย่ง ทุกแห่งหน
บ้าเร่าร้อน ซ้อนบ้า พาวกวน
บ้าทุกข์ทน ชังรัก หนักอุรา

หินกลับเห็น เป็นทอง จึงต้องแบก
ดูน่าแปลก สับสน หนอคนบ้า
พวกผองเพื่อน เตือนให้ ไม่นำพา
กลับดุด่า ให้ยัง ผู้หวังดี

หินหนักเพียบ เปรียบว่า อารมณ์ร้าย
หากหญิงชาย แบกไว้ ให้หมองศรี
ยิ่งยึดยื้อ ถือมาก ยากทวี
ช้ำฤดี อกตรม ทุกข์ถมใจ

เมื่อเป็นผู้ รู้แจ้ง แห่งสังขาร
ประจักษ์ญาณ “จิตว่าง” วางหินได้
จะสงบ พบสุข พ้นทุกข์ภัย
ด้วยของหนัก วางไป จึงเบาเอย


ตรงประเด็น
26 กค. 50


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2008, 06:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

จิตมนุษย์เหมือนคนบ้าหาบหิน (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13318

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2008, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ร่มธรรม เขียน:
เวลามีเรื่องมารบกวนจิตใจมีวิธีระมัดระวังใจเรายังไงคะ แบบว่าอยากจะทำใจเฉยๆ ปล่อยวาง ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ ที่ทำให้เราทุกข์ หนูเองอยากจะหลุดพ้นจากวังวนนี้เหลือเกิน อยากเป็นผู้ที่มีความสุขตลอดเวลาเพราะตอนหนูไปปฏิบัติธรรม ไปร่วมงานบุญ หนูมีความสุขมากกกกกกกก แต่พอผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมา ก็เหมือนเดิมค่ะ . . . มีเรื่องนู้น เรื่องนี้มาให้คิดมากตลอด (หนูเป็นคนขี้กังวล คิดมาก) พอจะมีวิธีแก้ไขไหมคะ


การที่จะไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ ที่ทำให้เราทุกข์นั้นเป็ไปไม่ได้ครับ ถึงได้ก็เพียงชั่วคราว เหมือนกับอากาศร้อนแล้วทำให้เราไม่สบายตัวเราก็ไปอยู่ในห้องแอร์ เราก็หายร้อน แต่เมื่อออกมาจากห้องแอร์เราก็ร้อนอีก ความทุกข์ก็เช่นกัน เราทำวางเฉยไม่สนใจมัน ก็ไม่ทำให้มันดับไปได้ การทำแบบนั้นเป็นเพียงการหลีกเลี่ยงชั่วคราวเท่านั้น

แต่หากต้องการจะดับทุกข์นั้นก็ต้องรู้ถึงเหตุแห่งความทุกข์นั้นและดับที่เหตุนั้นทุกข์จึงดับไป

แท้จริงแล้วเหตุแห่งความทุกข์นั้นอยู่ที่ความคิดปรุงแต่ง จะดับทุกข์ก็ต้องดับตรงความคิดปรุงแต่ง เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เราบังคับได้ นอกเหนือจากนี้มันเหนือการควบคุม บังคับไม่ได้ (อนิจจัง)

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2008, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อยังยินดีพอใจในความสุข ก็มีทุกข์ตามรังควาญ
เมื่อยังหวาดหวั่นต่อทุกข์ ก็จะมีสุขมาให้เสพ
หมุนวนไป คือ เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ (กิเลสวัฏฏ์)

ต้องปฏิบัติกรรมฐานเพื่อฝึกอบรมจิตให้อยู่เหนือสุขและทุกข์ แล้วจะไม่ทุกข์ หรือทุกข์น้อยลงตามสมควรแก่การปฏิบัติ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 133 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร