วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 16:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


นตฺถิ อตฺตา เอตสฺส ขนฺธปญฺจกสฺสสาติ วา อนตฺตา
แปลความว่า ในรูปนามขันธ์ ๕ นั้น ไม่มีอัตตา = ฉะนั้นจึงเรียกว่า "อนัตตา"
ก็ หมายความว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
แห่งรูปนาม ขันธ์ ๕ นั้น ไม่มีอัตตา
ฉะนั้นรูปนาม ขันธ์ ๕ ทั้งหมดเป็น อนัตตา
นอกจาก รูปนาม ขันธ์ ๕ แล้ว นิพพาน บัญญัติ ก็ไม่มีอัตตาเหมือนกัน
ดังนั้น สังขารธรรม และ อสังขารธรรมทั้งปวงจึงเป็น อนัตตา

อนิจฺจา สพฺเพสงฺขตา ทุกฺขาตา จ ลกฺขิตา
นิพฺพานํ เจว ปญฺญตฺติ อนตฺตา อิติ นิจฺฉิตา


สังขารธรรมทั้งปวง เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่อัตตา
นิพพานก็ดี บัญญัติก็ดี ตัดสินว่าเป็น อนัตตา ดังนี้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความหมายคำว่า "ธรรม" สรุปตรงกันหรือยังว่า มันคืออะไร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ความหมายคำว่า "ธรรม" สรุปตรงกันหรือยังว่า มันคืออะไร :b1:


ไม่รู้....อธิบายไปเลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่า อนตฺตา อสารกฏฺเฐน
แปลว่า เพราะไม่มีแก่นสาร หรือไม่อยู่ภายใต้อำนาจของใคร ฉะนั้นจึงชื่อว่า อนัตตา
หมายความว่า ธรรมดารูปธรรมย่อมไม่เป็นสาระ ทุกๆ ขณะย่อมไปสู่ความดับ
เมื่อปราศจากชีวิต อุสมาเตโชและวิญญานทั้ง ๓ นี้แล้ว จะหารูปที่ใช้การสักอันหนึ่งก็ไม่ได้
เมื่อจวนจะตายก็ดี จะเอารูปที่เป็นสาระแล้วใช้การสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่ได้ ว่าโดยอาการก็มีเกิดดับเสมอ

ฉะนั้นพระบรมศาสดาเปรียบเทียบอุปมาไว้ว่า เผณปิณฺ ฑูปมํ รูปํ
แปลว่ารูปเหมือนต่อมน้ำ ส่วนนามกเหมือนกันจะกระทบหรือจับไม่ได้
เอาเวทนาสัญญาเหล่านี้ไปใช้การกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่ได้ เกิดความดับสูญไป
ห้ามไม่ให้เกิดหรือดับก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น โดยสภาวะจึงเรียกว่า อนัตตา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 06:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:

นิพพานก็ดี บัญญัติก็ดี ตัดสินว่าเป็น อนัตตา ดังนี้

สมาชิกบางท่านกล่าวว่า ตำราบางเล่ม มีการตัดต่อเพิ่มเติมนะครับ

:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 07:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
ลุงหมาน เขียน:

นิพพานก็ดี บัญญัติก็ดี ตัดสินว่าเป็น อนัตตา ดังนี้

สมาชิกบางท่านกล่าวว่า ตำราบางเล่ม มีการตัดต่อเพิ่มเติมนะครับ

:b1:

แล้วท่านมีความคิดเห็นว่ายังไงล่ะ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 07:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่า อนตฺตา อสารกฏฺเฐน
แปลว่า เพราะไม่มีแก่นสาร หรือไม่อยู่ภายใต้อำนาจของใคร ฉะนั้นจึงชื่อว่า อนัตตา
หมายความว่า ธรรมดารูปธรรมย่อมไม่เป็นสาระ ทุกๆ ขณะย่อมไปสู่ความดับ
เมื่อปราศจากชีวิต อุสมาเตโชและวิญญานทั้ง ๓ นี้แล้ว จะหารูปที่ใช้การสักอันหนึ่งก็ไม่ได้
เมื่อจวนจะตายก็ดี จะเอารูปที่เป็นสาระแล้วใช้การสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่ได้ ว่าโดยอาการก็มีเกิดดับเสมอ

ฉะนั้นพระบรมศาสดาเปรียบเทียบอุปมาไว้ว่า เผณปิณฺ ฑูปมํ รูปํ
แปลว่ารูปเหมือนต่อมน้ำ ส่วนนามกเหมือนกันจะกระทบหรือจับไม่ได้
เอาเวทนาสัญญาเหล่านี้ไปใช้การกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่ได้ เกิดความดับสูญไป
ห้ามไม่ให้เกิดหรือดับก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น โดยสภาวะจึงเรียกว่า อนัตตา

ลุงหมาน เขียน:
แล้วท่านมีความคิดเห็นว่ายังไงล่ะ

"นิพพาน" ก็จะเป็นอย่างที่ลุงหมาน อธิบายข้างบนแหละครับ
คือ ไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ เกิดดับเสมอ ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 07:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่า อนตฺตา อสารกฏฺเฐน
แปลว่า เพราะไม่มีแก่นสาร หรือไม่อยู่ภายใต้อำนาจของใคร ฉะนั้นจึงชื่อว่า อนัตตา
หมายความว่า ธรรมดารูปธรรมย่อมไม่เป็นสาระ ทุกๆ ขณะย่อมไปสู่ความดับ
เมื่อปราศจากชีวิต อุสมาเตโชและวิญญานทั้ง ๓ นี้แล้ว จะหารูปที่ใช้การสักอันหนึ่งก็ไม่ได้
เมื่อจวนจะตายก็ดี จะเอารูปที่เป็นสาระแล้วใช้การสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่ได้ ว่าโดยอาการก็มีเกิดดับเสมอ

ฉะนั้นพระบรมศาสดาเปรียบเทียบอุปมาไว้ว่า เผณปิณฺ ฑูปมํ รูปํ
แปลว่ารูปเหมือนต่อมน้ำ ส่วนนามกเหมือนกันจะกระทบหรือจับไม่ได้
เอาเวทนาสัญญาเหล่านี้ไปใช้การกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่ได้ เกิดความดับสูญไป
ห้ามไม่ให้เกิดหรือดับก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น โดยสภาวะจึงเรียกว่า อนัตตา

ลุงหมาน เขียน:
แล้วท่านมีความคิดเห็นว่ายังไงล่ะ

"นิพพาน" ก็จะเป็นอย่างที่ลุงหมาน อธิบายข้างบนแหละครับ
คือ ไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ เกิดดับเสมอ ..


:b1:

นิพพาน เป็นอสังขตธรรมไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง นิพพานจึงเที่ยงนะครับ(ไม่เกิดไม่ดับ)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 07:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงตาฯ ท่านเปรียบ "อัตตา อนัตตาและนิพพาน" ไว้น่าฟังนะครับ
แล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ขอให้พิจารณาแล้วกัน ..

"อัตตา อนัตตา" เป็นทางก้าวเดินเพื่อ "พระนิพพาน"

"อัตตา อนัตตา เปรียบเหมือนบันได นำเราเข้าสู่บ้าน เมื่อถึงบ้านแล้ว
จะเอาบันไดมาเป็นบ้านได้อย่างไร บ้านก็คือบ้าน บันไดก็คือบันได"
:b8:


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


แก้ไขล่าสุดโดย วิริยะ เมื่อ 04 มิ.ย. 2013, 07:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


คำว่า ไม่มีแก่นสาร นี่ ใครมาแปล นอกอรรถกถา หรือเปล่า

แต่งเติม เกินไปกว่า อรรถกถา หรือเปล่า

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 13:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
คำว่า ไม่มีแก่นสาร นี่ ใครมาแปล นอกอรรถกถา หรือเปล่า

แต่งเติม เกินไปกว่า อรรถกถา หรือเปล่า


คำว่าไม่มีแก่นสาระนั้นได้แก่ ขันธ์ ๕ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
แต่ที่มีแก่นสารนั้นได้แก่ พระนิพพาน เที่ยง เป็นสุข เป็นอนัตตา

ไม่รู้นะว่าใครแปล แต่คำว่าไม่มีแก่นสารต้องแยกออกเป็นประเภทไป อย่าเอาไปปะปนกัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
หลวงตาฯ ท่านเปรียบ "อัตตา อนัตตาและนิพพาน" ไว้น่าฟังนะครับ
แล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ขอให้พิจารณาแล้วกัน ..

"อัตตา อนัตตา" เป็นทางก้าวเดินเพื่อ "พระนิพพาน"

"อัตตา อนัตตา เปรียบเหมือนบันได นำเราเข้าสู่บ้าน เมื่อถึงบ้านแล้ว
จะเอาบันไดมาเป็นบ้านได้อย่างไร บ้านก็คือบ้าน บันไดก็คือบันได"
:b8:


:b1:

จะขออุปมาบ้าง พระองค์ตรัสว่า ธรรมทั้งหลายเป็น อนัตตา
ที่นี้คำว่า อนัตตา นั้น ถูกปกปิกไว้ด้วยผ้าคลุมไว้ เราจึงมองไม่เห็น อนัตตา
จึงเข้าใจว่า มันเป็น อัตตา ตราบใดที่ผู้มีปัญญา คือได้เปิดผ้านั้นดู
แล้วจะเข้าใจว่าสิ่งที่ถูกผ้าคลุมไว้เป็น อนัตตา ดังนี้

ผ้าที่คลุมไว้นั้นได้แก่ สันตติ และ ฆนะ
จึงเห็นสันตติเกิดขึ้นสืบต่อกันอยู่อย่างนั้นไม่ขาดสายเหมือนว่าไม่เกิดไม่ดับ
ส่วน ฆนะ นั้น เราก็เห็นว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อนไม่เกิดไม่ดับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 15:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อัตตาที่ลุงหมานว่า กับ อัตตา หรือ ตัวตน นี้ เหมือนกันหรือต่างกันครับ :b1:

-อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตน

-อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นทีพึ่ง

-อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมฝึกตน

-สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

-อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช หากรู้ตัวว่าเป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไป

เกลือกกลั้วกับความชั่ว


ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 15:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อัตตาที่ลุงหมานว่า กับ อัตตา หรือ ตัวตน นี้ เหมือนกันหรือต่างกันครับ :b1:

-อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตน

-อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นทีพึ่ง

-อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมฝึกตน

-สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

-อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช หากรู้ตัวว่าเป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไป

เกลือกกลั้วกับความชั่ว


ฯลฯ

ไม่รู้...ถ้ารู้ก็อธิบายเลย จะได้รู้มั่ง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 03:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
จะขออุปมาบ้าง พระองค์ตรัสว่า ธรรมทั้งหลายเป็น อนัตตา
ที่นี้คำว่า อนัตตา นั้น ถูกปกปิกไว้ด้วยผ้าคลุมไว้ เราจึงมองไม่เห็น อนัตตา
จึงเข้าใจว่า มันเป็น อัตตา ตราบใดที่ผู้มีปัญญา คือได้เปิดผ้านั้นดู
แล้วจะเข้าใจว่าสิ่งที่ถูกผ้าคลุมไว้เป็น อนัตตา ดังนี้

ผ้าที่คลุมไว้นั้นได้แก่ สันตติ และ ฆนะ
จึงเห็นสันตติเกิดขึ้นสืบต่อกันอยู่อย่างนั้นไม่ขาดสายเหมือนว่าไม่เกิดไม่ดับ
ส่วน ฆนะ นั้น เราก็เห็นว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อนไม่เกิดไม่ดับ

ลุงหมานเอา ธรรมเรื่อง อนัตตามาพูดโดยขาดความเข้าใจ ยิ่งพูดยิ่งทำให้ตัวเองสับสน
ลุงจำแต่บัญญัติไม่มีความรู้เรื่องสภาวะธรรม เลยทำให้ลุงคิดว่า.....
อนัตตาที่เป็นหนึ่งในไตรลักษณ์(สังขตะธรรม) จะเป็นอันเดียวกั
อนัตตาในอสังขตธรรม

ลุงหมานครับ อนัตตาของสังขตธรรมกับอนัตตาของอสังขตธรรมมันเป็นคนล่ะตัวกันน่ะครับ

สังขตสูตร
ว่าด้วยลักษณะแห่งสังขตธรรม ๓ ประการ
[๔๘๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓ นี้
๓ คืออะไร คือ ความเกิดขึ้น ( ในเบื้องต้น ) ย่อมปรากฏ ความเสื่อมสิ้นไป
(ในที่สุด) ย่อมปรากฏ เมื่อยังตั้งอยู่ ความแปรไปย่อมปรากฏ ภิกษุทั้งหลาย
สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล.

และ
อสังขตสูตร
ว่าด้วยลักษณะแห่งอสังขตธรรม ๓ ประการ

[๔๘๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓ นี้
๓ คืออะไร คือ ความเกิดขึ้น ไม่ปรากฏ ความเสื่อมสิ้น ก็ไม่ปรากฏ เมื่อ
ตั้งอยู่ความแปรไปก็ไม่ปรากฏ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของ
อสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล.

ลุงลองพิจารณาพระสูตรสองบทนี้ดู
ลักษณะ๓ประการของสังขตธรรม เป็น อนัตตา
กับลักษณะ๓ประการของอสังขตธรรม เป็นอนัตตา

ลักษณะ๓ประการของ สังขตและอสังขตมันแตกต่างกัน ความเป็นอนัตตาของธรรมทั้งสอง
มันจะเหมือนกันได้อย่างไรครับ

ลุงหมานครับ สิ่งใดที่ยังไม่เข้าใจ ยังไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้ครับ
นี่โดนตากรัชกายเล่นไปหนึ่งดอกแล้ว :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron