กะเทาะชีวิตแม่ชีทศพร ผู้หยั่งรู้ “เกิดแต่กรรม” !!

ผู้เยี่ยมชม

ทําดีได้ดี

ผู้เยี่ยมชม

เคยนั่งกรรมฐานและเชื่อว่ากรรมมีจริงใครทำอย่างไรต้องได้อย่างนั้น/บางคนไม่เชื่อเรื่องบาป-บุญชอบกล่าวร้ายผู้อื่นไม่มองดูตัวเองคุยเรื่องบาป-บุญจะต้องขัดไปทุกครั้ง ขอให้ตัวเองอยู่ชาตินี้สุขสบายเกิดชาติต่อไปค่อยว่ากันใหม่คนจำพวกนี้เป็นได้ก็แค่คนเหมือนบัวเหล่าที่สี่/ถ้าไกระทบบุคคลใดก็อโหสิกรรมนะ/

ผู้เยี่ยมชม

แจ้งข่าวสารงานบุญเจ้าค่ะ...

ณ วัดพิชัยญาติ ในวันเสาร์ที่ 22 ต.ค. 48 นำโดยท่านแม่ชีทศพร

ขอเชิญญาติโยมทุกท่าน ผู้มีจิตศรัทธาในงานบุญ ร่วมกุศลในการทอดกฐินมหามงคล โดยจะนำกองกฐินนี้เดินทางไปที่วัดเขา อิติสุคโต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นวัดอาจารย์ของแม่ชีและทศพร และเป็นวัดที่แม่ชีบวชเป็นครั้งแรก..

ท่านผู้ใดสนใจ ก็ขอเรียนเชิญนะคะ ช่วงเช้าจะมีรถบัสที่จะคอยรับส่งญาติโยมทุกท่านตลอดการเดินทาง ขอเชิญรวมที่จุดนัดพบในบริเวณวัดค่ะ ในการเดินทางครั้งนี้ จะมีการวิปัสนากรรมฐาน ที่วัดเขาอิติสุคโตเป็นเวลา 1 คืนด้วยค่ะ สำหรับท่านที่สนใจรบกวน เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไปด้วยนะคะ

กำหนดการเดินทางกลับ ในวันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค. 48 คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเช้าๆ ค่ะ

กราบอนุโมทนา
ขอทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ..

ผู้เยี่ยมชม

คนเราทำกรรมอะไรไว้ย่อมต้องได้รบผลกรรมไม่ช้าก็เร็วไม่เชื่อก็ลองดูซิคะ

ผู้เยี่ยมชม

คนเราต้องหมั่นสร้างความดีในตนเองเพื่อให้พ้นกรรมที่สร้างมาในอดีตและจะต้องหมั่นทำบุญกุศลบารมีให้แก่ตนเองเพื่อจะได้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมมิใช่ทำเพื่อตนเองและเพื่อนพ้อง......

สวดมนต์ภาวนาทุกวันเพื่อมีศีลธรรม นั่งสมาธิกรรมฐานแผ่เมตตาจิตให้แก่เจ้ากรรมนายเวร

ผู้เยี่ยมชม

ดิฉันได้ไปร่มทำบุญกับแม่ชีหลายหนแล้วค่ะท่านดีมากๆ เห็นใจคนทุกชั้น ไม่มีแบ่งแยกเลย
ท่านให้จริงๆ สอนให้เรามีธรรม รู้จักคุณบิดามารดา คุณประเทศชาติแผ่นดินไทยที่ได้อาศัยกันมา

ขอบพระคุณแม่ชีใหญ่ค่ะ

ผู้เยี่ยมชม

กรรมคืออะไรครับ

ตอบเมื่อ: 23 พ.ย.2005, 9:19 pm

กรรมคือการกระทำของเรา และผู้อื่น สัตว์อื่น

การทำกรรมทำได้ 3 ทาง คือทางกาย ทางวาจา คือคำพูด และทางใจ คือความคิด
ผลของกรรม คือ ผลที่จะตอบสนองต่อผู้กระทำ จำแนกออกเป็น 2 ประเภท
1. ทำดี ก็จะได้รับผลดี
2. ทำไม่ดี ทำชั่ว ก็จะได้รับผลไม่ดี หรือชั่ว

ช้าหรือเร็วนั้นอยู่ที่เหตุปัจจัยของกรรม เช่นเราแบ่งปั่นสิ่งของให้เพื่อน สักวันหนึ่งเพื่อนก็จะแบ่งปั่นหรือเลี้ยงขนมเรา หรือถ้าเราพูดดีกับเพื่อน เพื่อนก็จะพูดดีกับเรา แต่ถ้าเราไม่ดี ด่า พูดคำไม่จริงกับ เพื่อนก็จะพูดกับเราไม่ดี ตอบมาเหมือนกัน เป็นต้น

ลองหาอ่านเพิ่มเติมตามกระทู้ดูนะครับ

ผู้เยี่ยมชม

เป็นความเชื่อของบุคคล(ปัจจตัง)ตัวเองก็ชอบอ่านหนังสือกฏแห่งกรรมและชอบซื้อมาอ่านบางครั้งก็แลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่มีความเชื่อนี้คล้ายๆกัน/ขออนุโมทนาก็แล้วกัน

ตอบเมื่อ: 05 ธ.ค.2005, 6:25 pm

.........ผมได้มีโอกาสเข้ามาที่เว็บไซต์ธรรมะ.........
.........เพราะหนังสือ "เกิดแต่กรรม".........

.........ขออนุโมทนาครับ.........

PiG 07.........

ผู้เยี่ยมชม

อยากให้มองสิ่งที่ดีๆ ที่แม่ชีท่านให้ค่ะ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ค่าน้ำ ค่าไฟ รองรับผู้ปฎิบัติ
เป็นร้อยเป็นพัน น่าเห็นใจท่านมาก เสียสละทุกอย่างเพื่อช่วยให้เราเป็นเด็กดี เป็นคนดี
และดับทุกข์ ทำให้หลายๆ คนเข้าถึงพระธรรมของพระพุทธเจ้า

ข้าพเจ้าขอกราบไหว้แม่ชีธนพรผู้ที่ช่วยให้คนพ้นทุกข์

ผู้เยี่ยมชม

อยากทราบว่าถ้าต้องการแก้กรรมจากการทำแท้ง จะต้องทำอย่างไร ในเมื่อมันพลาดไปแล้ว และก็สำนึกอยู่ตลอดเวลา ใครรู้ช่วยบอกที ถือว่าเอาบุญโปรดสัตว์ผู้ไม่รู้

ตอบเมื่อ: 24 ธ.ค.2005, 6:28 pm

การทำแท้ง เป็นการฆ่ามนุษย์คนหนึ่ง ซ้ำร้ายคนที่เราฆ่านั้นเป็นลูกในใส้ของเรา กล่าวมานี่ไม่ใช่ซ้ำเติมผู้ที่ทำไปแล้ว คงไม่มีใครเจตนาตั้งใจอย่างแรงเพื่อจะฆ่าลูกในใส้ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ บีบบังคับ บวกกับขาดสติหยั่งคิดว่าถูกผิด ชั่วดี จึงคิดสั้นทำลงไปลง เมื่อทำแล้วสำนึกผิดแต่ก็ไม่สามารถย้อนเหตุการณ์นั้นกลับมาอีกได้ ทำไปแล้วก็ผ่านไปแล้ว แต่ความไม่ดียังฝั่งลึกอยู่ภายในจิตใจไม่สามารถลบเลือนไปจากจิตใจได้

การทำลายชีวิต ต้องแลกด้วยการให้ชีวิต ถ้าเราสามารถช่วยเหลือชีวิตให้ผู้นั้น สัตว์นั้นรอดจากความตายได้ ก็จะเป็นให้ชีวิต หรือต่อชีวิตแต่คนนั้น สัตว์นั้น นี่ก็เป็นบุญกุศลอย่างหนึ่ง

การทำบุญให้ทานอย่างอื่นที่เราสามารถจะทำได้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ถ้ามีโอกาสก็ให้รีบทำ เพราะผลบุญไม่ใช่อยู่ที่ขนาดของวัตถุหรือค่าของเงินทางที่ใช้ทำบุญ

การทำกรรมฐาน ไม่ว่าจะการปฏิบัติสมถกรรมฐาน หรือวิปัสสนากรรมฐาน ผลบุญที่เกิดจากการทำกรรมฐานจะมีผลบุญมาก จึงอยากจะแนะนำให้รีบศึกษาวิธีและทำกรรมฐาน เพราะกรรมฐานทำได้ทุกวันทุกเวลา ซึ่งแตกต่างจากบุญอื่นที่ต้องรอความพร้อมของสิ่งต่างๆ จึงจะได้ทำบุญกุศลนั้น

ถ้าต้องการฝึกกรรมฐานเพื่อแก้กรรมจริงๆ ละ
ขอแนะนำให้ศึกษาวิธีปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
http://www.jarun.org/

- กรรมฐานแก้กรรมอย่างไร ? ของหลวงพ่อจรัญ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=2732

แต่ถ้าสะดวกจะปฏิบัติแบบอื่นๆ ก็ให้ปฏิบัติแบบนั้น
เมื่อเราสำนึกแล้วก็ควรรีบเร่งสร้างบุญกุศลให้มาก ทุกครั้งที่ทำเสร็จก็แผ่ส่วนกุศลไปให้เค้า

ผู้เยี่ยมชม

ในความเห็นของผม การล่วงรู้กรรม, รู้อดีต, รู้อนาคต ไม่ได้ทำให้เราพ้นจากทุกข์เลย และต่อให้สิ่งที่รู้เป็นจริง เราก็ยังคงว่ายเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏะ สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยทำให้เราพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง

อยากให้ทุกคนหันมาสนใจธรรมที่ดับทุกข์ได้ด้วยตนเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่ต้องอาศัยบุคคลอื่น โดยเฉพาะปฎิจสมุทบาท , สติปัฎฐานสี่ ดูเวปได้ที่

http://www.nkgen.com/
http://www.supawangreen.in.th/

ผู้เยี่ยมชม

จริตคนมีหลากหลาย

บางคนก็จำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ก่อน
รู้เพื่อละ รู้ว่ากรรมใดไม่ดี ก็ละ เพื่อจะได้เจอทางสว่าง
มีหลายคนที่ค้านเรื่องพวกนี้ ว่าไม่จำเป็นต้องสอน ต้องรู้
นั่นทำให้คนหลายกลุ่มเสียโอกาส
แล้วแสวงหาความรุ้เอาเอง ก้ไปเจอ แบบถูกมั่ง หลอกมั่ง
ทุกอย่าง มีคุณในตัว ถ้ารู้จักนำมาใช้
นรก สวรรค์ ภพ ภูมิ การเวียนว่าย ผลของกรรม
ถ้าอธิบายดีๆ จะมีประโยชน์มาก

มีพระสูตรนึง (จำมะได้ ) อ.พร รัตนสุวรรณ ท่านมักยกมาอ้าง
ว่า ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ จะเอาดีไม่ได้ (รายละเอียดมีเยอะ)
แล้ว รูสึกจะมี คาถานึง ที่กล่าวทีละลำดับ ตั้งแต่ ทาน ศีล กล่าว ถึง สวรรค์ ฯลฯ
คือ ให้รู้ให้เข้าใจ เรื่องสวรรค์ เรื่องหลังความตายก่อน
รู้เพื่อละ เป็นการยกระดับจิตใจทีละน้อย
ละสุขจากโลก ไปรู้ สุขในสวรรค์ พอเข้าใจและรู้ว่าสุขในสวรรค์ก็ไม่เที่ยง
ก้ไปละอีกที เป็นขั้นๆ ไป
(กำ เจงๆ จำรายละเอียดมะค่อยได้อะ แต่เข้าใจ)

เฮ่อ.. โฉ หล่ะเหนื่อยใจ เจอคนที่อ้างว่ารู้ธรรมมาเยอะ
แต่กลับปฎิเสธที่จะพูดจะสอนเรื่องพวกนี้ ทั้งๆ ที่ พระพุทธองค์ท่านยัง
ทรงสอนเรื่องพวกนี้แบบสม่ำเสมอ
ตรัสเล่าอะไร ก็ย้อนอดีต พูดถึง การเวียนว่าย การกลับมาเกิด
นรก สวรรค์ เปรต เทวดา อะไร เต็มพระไตรปิฎกไปหมด

อย่าลืมนะ อย่าเอาอารมณ์พระอริยะมาสอนคนธรรมดา
เพราะมันไกลเกินเอื้อม คนพื้นๆ นะ เขาต้องว่ากันทีละสเต๊ป จิงมะพี่น้อง

ไหนๆ มาแล้ว ฝากอันนี้หน่อยนะ
ไม่อ่านละเสียดายชีวิตแย่เลย
http://www.baanlamduan.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=257707

ผู้เยี่ยมชม

....อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้

....มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันใช้สติกำกับให้มากที่สุด....

....อนาคตก็จะเป็นไปในทางที่ตั้งใจไว้....

(ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มา)

ผู้เยี่ยมชม

ที่จริงถ้าพิจารณากันให้ดี ๆ และเปรียบเทียบกับบางสิ่งบางอย่างเช่นเครื่องรางของขลัง หรือว่าพระห้อยคอ คงจะเป็นไปในลักษณะเดียวกันได้นะ ในความเห็นของเรา

ลองมองกันให้ดีนะ พระที่เราห้อยคออยู่นี่ ทำมาจากอะไร ทำไมเราเอามาแขวนห้อยคอ เพื่อประโยชน์สิ่งใด ลองหาคำตอบให้ตัวเองกันดูสักหน่อยเป็นไร

สำหรับเรา พระที่ห้อยคอคือหิน ดิน ทราย เหล็ก หรือวัตถุอะไรสักอย่างที่หนัก เราคิดว่าวัตถุเหล่านั้นเปรียบเหมือนกับคอยเตือนใจเราว่า ให้ใจเราหนักแน่น ในทุกกรณี เมื่อมีความหนักแน่น สติก็ตามมา แต่คนส่วนใหญ่ไม่คิดกันแบบนี้ กลับไปคิดกันในเรื่องของความสวยงาม ความมีราคา ชื่อเสียงพระดัง หรือว่าค้าขายดี หนังเหนียวดี(เหล่านี้คือกิเลสทั้งสิ้น) โดยที่ไม่ได้คิดแม้แต่น้อยว่า ต่อให้ห้อยพระดัง ๆ เป็นร้อยองค์ก็ช่วยไม่ได้ถ้าตัวเองเลว(ก็นั่นอีกแหละ คนส่วนใหญ่มักจะมองไม่เห็นหรอกว่าตัวเองทำเลว)

อีกประการหนึ่ง การที่เราห้อยคอกันอยู่นี่ เป็นเพราะว่าเรารับสิ่งเหล่านี้มาจากพ่อแม่ของเรา พ่อแม่เราก็รับมาจากพ่อแม่เขา(ปู่ย่าตายาย) ปู่ย่าตายายเราก็รับกันมาเป็นทอด ๆ ไป มีชื่อเรียกกันไปหลายอย่างเช่น ความเชื่อบ้างล่ะ วัฒนธรรมบ้างล่ะ ประเพณีบ้างล่ะ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ยังมีติดตัวคนไทยกันมาทุกคน จะต่างกันก็ตรงศาสนาที่ว่า ศาสนาพุทธเขาทำกันมาอย่างไร ศาสนาอิสลามเขาทำกันมาอย่างไร ฯลฯ เขาก็ทำตาม ๆ กันมา

ถ้าถามว่า มันเป็นสิ่งที่ดีไหม งมงายไหม ? เราตอบว่า ไม่นะ มันเป็นสิ่งที่แสดงคุณค่าทางใจของพ่อแม่เรา ว่าเขารักเรา เขาพยายามหาสิ่งที่ดีมาให้คุ้มครองตัวเรา เรียกกันว่ารักจากใจก็คงได้มั้ง เพราะเหตุนี้วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา ฯลฯ จึงคงอยู่ได้มาจนทุกวันนี้

ก็กรณีเดียวกันกับแม่ชีเหมือนกัน ในทางโลกท่านก็เดือดร้อนจากคนรอบข้าง จากตัวท่านเอง ท่านรู้ว่าทุกข์มันเป็นอย่างไร หนักหนาสาหัสนักสำหรับบางคน

เมื่อท่านเข้ามาปฏิบัติธรรม เห็นแล้วว่า จะทำให้แบ่งเบาความทุกข์คนเหล่านั้นไปได้บ้าง ชี้แนะเขาได้บ้าง ท่านก็ทำ มันเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งเช่นกัน สมมติว่า มีใครคนหนึ่งเล่าให้คุณฟังว่า เขาปวดหลังมาก คุณจะได้แต่รับฟัง อาจจะแนะนำให้ไปหาหมอ แต่ว่าคุณจะรู้ความรู้สึกเจ็บปวดของคน ๆ นั้นหรือเปล่า ? ก็เปล่าเลย เพราะไม่ใช่ตัวคุณเองที่ปวดหลัง

การที่แม่ชีเข้ามาดูกรรมให้ อาจจะเป็นความสามารถพิเศษที่เราไม่สามารถจะฟันธงลงไปได้ว่า นั่นของจริงหรือของปลอม แต่ว่าคนเชื่อท่านไหมล่ะ ? ท่านให้คนเชื่อแบบไหนล่ะ? ท่านไม่ได้สอนให้คนทำเลวใช่ไหม ? นั่นก็โอเคแล้วนะ

คนเราบางครั้งถ้ามีความทุกข์มาก ๆ ก็เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างนั่นแหละ หาทางออกไม่ได้ เมื่อมีคนชี้แนะให้ดี ๆ โดยมีกุศโลบายที่ดี ยกตัวอย่างสมมติกันเล่น ๆ ว่า ปวดหลังเนี่ย เมื่อไปหาแม่ชี แม่ชีบอกว่าเป็นโรคกรรมนะ ต้องแผ่เมตตา และ ไม่เบียดเบียนสัตว์(รวมทั้งคนด้วย) แล้วจะดีขึ้น

เรามาลองคิดกันดูเล่น ๆ การแผ่เมตตา มันดีไหม ? อืม ดีสิ ทำแล้วไม่คิดมาก ลดความเครียดได้อีกด้วย ไม่เบียดเบียนสัตว์และคนเนี่ยดีไหม ? อืมดีสิ เราไม่ทำเขา เขาไม่ทำเรา มีความเมตตาให้สัตว์โลกด้วยกัน สันติ อุเบกขา ฯลฯ ทั้งหลายมันจะตามมาเองจริงไหมล่ะ?

ผู้เยี่ยมชม

ผู้เยี่ยมชม

แม่ชี ท่าน แสดง เรื่องกรรม เพื่อให้ ได้รับรู้ถึง กฎแห่งกรรม ว่ามีจริง
ให้คนที่ได้รับรู้เกรงกลัวต่อ การทำชั่ว
กระทำแต่กรรมดี

ขออนุโมทนากับแม่ชีเป็นอย่างสูงด้วยครับ

ตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2006, 3:46 pm

หนูเองก็เชื่อและศรัทธาในตัวของแม่ชีมากๆ อ่ะค่ะ และจะขอเป็นกำลังใจให้ท่านตลอดไป
ขอให้กุศลที่ท่านได้ช่วยเหลือผู้อื่นไว้มากมาย ส่งผลให้ท่านแวดล้อมไปด้วยคนดี มีแต่ความสุขความเจริญทุกชาติๆ ไปด้วยเถิด