Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 กะเทาะชีวิตแม่ชีทศพร ผู้หยั่งรู้ “เกิดแต่กรรม” !! อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โรเซ่ซ์..
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2005, 3:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อย่าว่าเขาเลย..

มนุษย์ทุกคนต่างก็มีศรัทธาเป็นของตัวเอง.. มิต้องหยิบยืมหรืออ้อนวอนใคร..

.. เราต่างก็อยู่ในเวียนวนวัฎฎะกฏแห่งกรรม.. หนีพ้นบ้างไม่พ้นบ้าง ดูจากการตอบคำถามก็พอรู้ว่าเสวยกรรม อย่างไรอยู่..

.. หากต้องการรู้วิธีแก้กรรม.. คงเป็นหนทางหนึ่งเหมือนอุทาหรณ์เพื่อความไม่ประมาทแห่งตัวตน.. เพื่อเตือนสติวิเคราะห์พิจารณา.. ก็ยินดีและขอเรียนเชิญปฏิบัติธรรม กับแม่ชีธนพร เพื่อการยกระดับจิตใจในขั้นสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก..

.. การรับรู้กรรมในอดีต เป็นกระจกที่สะท้อนปัจจุบันได้ดีเพียงใด.. ก็ขึ้นอยู่กับท่านผู้รู้จะพิจารณา ....
 
โรเซ่ซ์..
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2005, 4:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

..ลูกศิษย์แม่ชี.. รักแม่...
 
ไก่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.ค.2005, 4:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ไม่มีใครถูกหรือผิด ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกเราหรือข้าพเจ้าเองยังไม่ทราบ เพราะฉนั้นอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าสิ่งที่ตนเห็นหรือรู้นั้น ถูกต้องทั้งหมด แล้วคนอื่นที่แตกต่างจะไม่ถูกไม่ควร ทางที่ดีควรทำใจเป็นกลาง กำหนดจิตดูอารมณ์ตัวเองเป็นการศึกษาพุทธศาสนาที่ได้รับการยอมรับมาแล้วกว่า 2500 ปี ดีกว่ามั้ยครับ ถ้าเข้าใจเรื่องรูป เรื่องนามแล้ว จะไม่ไปวิจารณ์ใครเลย จะดูแต่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น
 
poivang
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224

ตอบตอบเมื่อ: 18 ก.ค.2005, 11:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การที่เราได้รับรู้เรื่องกรรมเก่า ไม่ว่าจะเป็นอดีตชาติหรือชาติปัจจุบันก็ตาม มีผลทำให้เราเข้าใจในเรื่องเหตุและผลของกรรม ที่ส่งผลมาเป็นปัจจุบัน แม่ชีท่านได้อภิญญามีเจตนาดี

สงสารผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องของกรรม และกำลังได้รับผลของกรรมนั้นซึ่งเป็นทุกข์อยู่ให้เข้าใจเหตุแห่งความทุกข์นั้นมาจากไหนจะได้ไม่กระทำการซึ่งก่อให้เกิดทุกข์ขึ้นอีก

การแจกแจงเรื่องของวิบากกรรมนั้นให้รับรู้จะได้เตือนและสอนให้รู้ว่า ทุกอย่างมีเหตุและมีผล ทำอไรก็ได้อย่างนั้น เหตุปลูกข้าวส่งผลให้ได้ข้าว เหตุปลูกมะม่วงส่งผลให้ได้มะม่วง เหตุหยิกมือตัวเอง ส่งผลก็เจ็บเองมีรอยแดง รอยเจ็บ

ช่องทางที่ใช้ก่อกรรมได้แก่ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมที่สร้างทาง กาย วาจา ใจ บางทีเราก็ค่อนข้างมองข้ามกรรมทางมโนกรรมไป เช่นชอบตำหนิ มองคนอื่นในแง่ลบในแง่ร้าย นินทาในใจ อิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสีในใจ มีอคติ เข้าใจผู้อื่นผิด เป็นต้น แม้ว่าจะคิดอยู่ในใจเพียงลำพังก็ตาม ไม่ได้ไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นรู้เห็นเพราะมันอยู่ในใจ ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดชักดิ้นชักงอต่อหน้าต่อตาก็ตาม แต่นั่นก็เป็นการสร้างกรรมทางใจ เป็นตราบาปเก็บไว้ในใจของเราเอง

สิ่งเหล่านี้เราอาจคิดว่าไม่ได้เป็นกรรมอะไรมากมายนักหนาคงไม่มีผลอะไร เพราะเพียงแค่คิดไม่ได้ลงมือกระทำ หรือบางคนอาจคิดว่าไม่เป็นกรรมด้วยซ้ำไป เพราะเข้าใจว่ากรรมนั้นจะต้องกระทำด้วยกายหรือวาจา ส่วนกรรมทางใจนั้นมีผลน้อย แต่จริงๆแล้วกรรมทางใจนั้น มีผลร้ายแรงไม่แพ้กรรมทางกายกับทางวาจาเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าได้ทำกับผู้ที่มีศีลสูง ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่างพระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น และผู้มีพระคุณเช่น พ่อแม่ เป็นต้น และเพียงแค่เราเห็นผิดไป เช่น ไปเห็นชอบเข้าข้างคนทำผิด ชื่นชมยินดีกับคนกระทำผิด เป็นต้น ก็ทำให้เรามีส่วนที่จะต้องรับผลของกรรมนั้นไปด้วย ความที่เราไม่รู้เท่าทันการก่อกรรมทางใจนี้จึงมีผลทำให้เกิดวิบากกรรมกับเรา

แต่เมื่อเราได้มีโอกาสรับรู้เช่นนี้แล้ว เราควรต้องระมัดระวัง กาย วาจา ใจ ของเราอย่างมีสติ
การฝึกสติจึงมีผลช่วยในเรื่องการมีสติในการระงับยับยั้งการก่อกรรมไม่ดีทาง กาย วาจา ใจ นี้มากทีเดียว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
น้ำปานะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2005, 8:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รักแม่ชีครับ และขอให้ทุกท่านที่มาปฏิบัติธรรมทุกท่านจงมีความสุขเจริญยิ่งๆขึ้นไปเทอญ และขอเชิญทุกท่านที่มีจิตศรัทธามาร่วมกันถือศีล 8 และเจริญวิปัสนากรรมฐานทุกเสาร์-อาทิตย์ครับ และทุกวันพระขอเชิญทำวัตรเย็นพร้อมทั้งสวดอุปปตสันติคาถา (สุดยอดแห่งคาถา สำหรับผม 3 ครั้งแล้วครับและจะสวดต่อไปถ้ามีโอกาสเพื่อเป็นศิริมงคลต่อตนเอง)ขอเชิญคุณพระคุยหากังด้วยนะครับ ถ้ามีโอกาศ เพราะว่าบางคนที่ทำไปอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์และวนนี้ 24/07/05 ถือว่าเป็นวันที่มีบูญสำหรับผมและภรรยารวมทั้งทุกท่านที่ถือศีลในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่าน เพราะว่าองค์สมเด็จเกียว แห่งวัดสระเกศ ประธานปฏิบัติหน้าที่แทนองค์สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาให้โอวาทที่วัดด้วยถือว่าเป็นศิริมงคลอย่างสูงสุดของชีวิตเลยครับ//จากน้ำปานะ
 
กระป๋อง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ค.2005, 5:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใครสอนให้ทำความดี รู้กฎแห่งหรรม เป็นเรื่องดีไม่เสียหาย ผมน้อมรับไว้ทั้งนั้นครับ ขอขอบคุณทุกท่าน
 
แก้วสีนิล
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2005, 7:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ประเสริฐที่สุด
 
เชื่อ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ส.ค. 2005, 6:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องนี้คงต้องให้พิสูจน์กันเอาเอง ใครไม่เชื่อก็ไม่มีใครไปบังคับแต่ที่เคยประสบมาแล้วเป็นจริงทั้งสิ้น ขอบอก
 
dekdee
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2005, 10:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
การะเกด
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2005, 12:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรมเก่าที่เราคิดว่าเราเคยทำไว้ในอดีตชาติ และที่เราคิดว่าตอนนี้เรากำลังชดใช้กรรมนั้นอยู่ จริงหรือไม่
 
-nonsoul-
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2005, 1:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ว่าการกระทำใดๆ ก็ตามแต่ เพื่อยังประโยชน์แด่คนทั้งหลายให้เกิดการละบาปแล้วทำดี (บุญ) กุศลกรรมก็เกิดแก่ผู้ให้และผู้รับ อย่ากังวลเลย ผลตอบแทนนั้นมีแน่ มาแต่การกระทำ (กรรม) ดีหรือชั่ว............ สาธุ
 
หนูนิด
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2005, 3:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัสดีค่ะเพื่อนธรรม

คุณโอ่ ในคห.8 การได้สมาบัติ 8 ไม่ได้หมายความว่าได้เป็นอรหันต์น่ะคะ เป็นการเข้าผิด
จะได้เป็นต้องปฏิบัติต่อไปอีกค่ะ การได้สมาบัติ 8 เหมือนเป็นทางผ่านค่ะ....

ขอให้คุณโอ่ ค่อยๆศึกษาต่อไปน่ะค่ะ น่ายินดีที่คุณสนใจ..(โอ้โห..ดูวันที่ที่คุณให้ความเห็น
ตั้งหลายเดือนแล้ว คงไม่ทันมาอ่านแน่ๆ ค่ะ)

......

แต่ไม่เป็นไรค่ะ ลองเข้าไปที่ dhammathai.org/webboard/webboard.php
ในกระทู้ที่ 1152 หรือเมื่อเข้าไปแล้ว คลิ๊ก เข้าไปที่กวีธรรม กระจ่างแจ้งแน่นอนค่ะ..

เจริญในธรรมค่ะ
 
Mum
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2005, 9:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่ยังไม่พบทุกข์ จะยังไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้หรอก เมื่อใดที่คุณพบทุกข์นั่นแหละ คุณจึงจะเข้าถึง แต่เมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้วทุกคนไม่มีทางหนีทุกข์ได้หรอก
 
นก
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2005, 11:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณณณณ

เขาให้เรียนรู้กรรม เพื่อละเว้นการสร้างกรรมใหม่ และให้เรียนรู้ว่าเราเคยทำอะไรที่ผิดไปบ้าง คนที่จะรู้จักกรรมลึกซึ้งได้ใน ต้องไตร่ตรองโดยใช้สติปัญญาพิจารณา ผลเป็นอย่างนี้ เพราะทำอย่างนั้นมา แล้วละเว้นที่จะไม่ทำอย่างนั้นอีก สามารถสำนึก และระลึกได้ด้วยตนเอง มีประโยชน์ให้การบอกกล่างให้ความรู้คนอื่นได้อีก การเรียนรู้กรรมอาจจะไม่ใช้หนทางพ้นทุกข์ เพราะการพ้นทุกข์มันไม่ง่ายแค่รู้ แต่ให้รู้เหตุแห่งทุกข์ แล้วหาทางหลุดจากทุกข์นั้นด้วยสติปัญญาของตนเอง ถ้ารู้แต่ไม่มีปัญญาจะหาหนทางออก ก็คงต้องจมอยู่ในกองทุกข์ต่อไป บางครั้งคนเราก็ทำอะไรไปโดยที่ตนไม่รู้ว่านั้นเป็นเหตุแห่งทุกข์ และสร้างกรรม จนกว่ากรรมนั้นจะตามมาสนองตน ไม่หนักก็เบา เราถึงจะได้รับรู้รสชาดของการสร้างกรรม ทางที่ดีเป็นมนุษย์ มีสติปัญญา เกิดในพุทธศาสนา เรียนรู้ไว้ก็ดี
 
หนอน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2005, 5:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราในชาติก่อน ไม่สำคัญเราในชาตินี้ พฤติดีประกอบคุณงามความดี สั่งสมบารมี ในชาติปัจจุบันต่างหาก ที่จะทำให้เราพ้นจากทุกข์ได้
 
noj
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2005, 1:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
me
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2005, 4:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่เคยได้อ่านหนังสือของแม่ชีท่านนี้ แต่หนึ่งในบรรดาผู้มีชื่อเสียงที่ร่วมกันมาแสดงทัศนะเกี่ยวกับกรรมของตนเองที่แม่ชีท่านนี้ได้บอกกับแต่ละท่าน มีอยู่หนึ่งท่านที่ข้าพเจ้ารู้ว่าความจริงในชีวิตเขาคืออะไรและเขาเป็นคนที่เลวร้ายอย่างไรแต่ทำไมแม่ชีจึงบอกว่าทำไมในชีวิตเขาจึงเจอเรื่องแบบนั้น ทำให้ข้าพเจ้าเสื่อมศรัทธาในตัวแม่ชีท่านนี้มากเพราะถ้าหากท่าน ทราบจริงน่าจะรู้ว่าความจริงคืออะไร มีเพื่อนของข้าพเจ้าเคยไปพบแม่ชีเพื่อนข้าพเจ้ากลับมาด้วยความหมดศรัทธาอีกเช่นกัน ด้วยคำบอกเล่าเพียงแค่ว่าหลอกเอาตัง ต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นไร...อยากให้ศาสนาเป็นที่พึ่งของประชาชน
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2005, 5:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ระเบียบการปฏิบัติธรรมและสนทนาธรรม
แม่ชีทศพร ชัยประคอง
ณ วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร
แขวงสมเด้จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ


1. จะต้องมาบวชพราหมณ์ นุ่งขาวห่มขาว ที่วัด (บวชเช้าวันเสาร์ - สึกลาวันอาทิตย์)

2. กรอบใบสมัครและรับหมายเลยที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ ในเช้าวันเสาร์ไม่เกินเวลา 6 : 30 น.

3. รับชุดขาวพร้อมหนังสือสวดมนต์ได้ที่โต๊ะลงทะเบียน (สำหรับเครื่องนอนจะแจกหลังทำวัตรเย็น)

4. ของใช้ส่วนตัว กรุณาจัดเตรียมมาเอง

5. ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาปิดโทรศัพท์มือถือ ในขณะสวดมนต์ และในขณะที่ แม่ชีสอนธรรมะ

6. รับประทานอาหารได้ที่โรงทาน ตั้งแต่เช้า - เที่ยงวัน

7. กรุณาช่วยกันรักษาความสะอาด ห้องน้ำ - ห้องนอน - โรงทาน - อุโบสถ และบนพระปรางค์
(ห้ามนำอาหารไปทานโดยเด็ดขาด)

8. สึกในวันอาทิตย์ ก่อนสึกกรุณาช่วยทำความสะอาดห้องน้ำ - ห้องนอน และบริเวณวัด เพื่อเป็นบุญกุศลแก่ตัวท่านเอง

9. ชุดขาว เครื่องนอน และหนังสือสวดมนต์ คืนได้ที่โต๊ะลงทะเบียน

10. วันโกน - วันพระ แม่ชีไม่รับเปิดกรรม

สำนักงาน วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร
โทร. 02-861-4530 , 02-861-5425
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2005, 5:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กำหนดการ
ตารางการปฏิบัติธรรมประจำวันเสาร์ - อาทิตย์
ณ วัดพิชยญาติการาม


วันเสาร์


เวลา 06.00 - 08.00 น. - ลงทะเบียน รับชุดขาว รับประทานอาหารเช้า
เวลา 08.00 น. - พร้อมกัน ณ ศาลาปฏิบัติธรรม ทำวัตรเช้าโดยพร้อมเพรียงกัน
นำโดย : พระวิสุทธิธีรพงค์ หรือผู้ที่เจ้าอาวาสมอบหมาย
เวลา 08.45 น. - พิธีบวชเนกขัมมบารมี สมาทานศีล 8
เวลา 09.30 - 11.00 น. - สมาทานกรรมฐาน - ปฏิบัติกรรมฐาน
เวลา 11.00 - 13.00 น. - พักรับประทานอาหาร (ที่โรงทาน) พักผ่อนตามอัธยาศัย
เวลา 13.00 - 16.00 น. - บรรยายธรรม ถาม - ตอบปัญหา - กฎแห่งกรรม โดย : แม่ชีทศพร ชัยประคอง
เวลา 16.00 - 17.00 น. - พักดื่มน้ำปานะ พักผ่อนตามอัธยาศัย
เวลา 17.00 - 21.00 น. - ทำวัตรเย็น/ปฏิบัติกรรมฐาน โดย : ผู้ที่เจ้าอาวาสมอบหมาย
เวลา 21.00 น. - พักผ่อน


วันอาทิตย์

เวลา 04.00 น. - สัญญาณระฆัง
เวลา 05.00 - 07.00 น. - ทำวัตรเช้า/ปฏิบัติกรรมฐาน โดย : ผู้ที่เจ้าอาวาสมอบหมาย
เวลา 07.00 - 08.00 น. - รับประทานอาหารเช้า (ที่โรงทาน)
เวลา 08.00 - 09.00 น. - ฟังโอวาท เทศนา (หลวงพ่อเจ้าอาวาส)
เวลา 09.00 - 10.00 น. - ร่วมพิธีถวายสังฆทาน โดย : แม่ชีทศพร ชัยประคอง
เวลา 11.00 - 12.30 น. - พักรับประทานอาหาร (ที่โรงทาน)
เวลา 13.00 - 16.00 น. - บรรยายธรรม ถาม - ตอบปัญหา - กฎแห่งกรรม โดย : แม่ชีทศพร ชัยประคอง


หมายเหตุ : กำหนดการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม


.........................................................................

พอดีว่าไปธุระที่วัดพิชยญาติฯ เลยถือโอกาสขอระเบียบการต่างๆ ของการปฏิบัติมาเพื่อนำมาบอกกล่าวผู้ที่สนใจจะปฏิบัติธรรมที่วัดพิชยญาติฯ ส่วนตัวไม่เคยไปปฏิบัติหรอกครับ แต่ก็อยากสนับสนุนให้ทุกได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นแนวทางใดก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการปฏิบัติธรรมเป็นของดีทั้งสิ้นแหละครับ จะดีมากดีน้อยก็ขึ้นอยู่กับครูบาอาจารย์ และตัวเราเองนะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ธนวันต์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2005, 8:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมให้ทําจิตใจให้สบายผ่องใสเกิดความสงบทําแต่กรรมดีทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นเองอยู่ที่ตัวเรารู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง