Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อโหสิกรรม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 พ.ย.2004, 1:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อโหสิกรรม (ข้อ 4 ในกรรม 12) ตามพจนานุกรมของพระคุณเจ้า ประยุทธ์ ปยุตโต เขียนว่า" กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีก ได้แก่กรรมทั้งที่เป็นกุศลและอกุศลที่เลิกให้ผล เหมือนพืชหมดยาง เพราะปลูกไม่ขึ้น



ตามหลักกรรมที่เลิกให้ผลนั้นเป็นกรรมที่ให้ผลไม่ทันในชาติที่จะให้ผลในชาตินั้น เมื่อให้ผลในชาตินั้นไม่ได้กรรมนั้นก็อโหสิกรรมไป แม้ผู่บรรลุพระอรหันต์ อย่างองคุลิมาล กรรมที่ท่านฆ่าคนก็ให้ผลไม่ทัน ท่านบรรลุอรหันต์แล้ว ก็อโหสิกรรมไป



แม้ผู้บรรลุโสดาบัน กรรมหนักที่ท่านเคยทำให้ตกอบายภูมิก็เลิกให้ผลเช่นเดียวกัน



แต่การเจ็บป่วยนั้นยังให้ผลอยู่ กรรมเกี่ยวกับชีวิตก็ยังให้ผลอยู่ ถ้ามีกรรมนั้นอยู่ก็ไม่ได้รับการอโหสิกรรม



แต่กรรมชนิดหนึ่งที่ให้ผลเสร็จแล้วไม่เหลือเศษกรรม กรรมเช่นนี้ก็ไม่สามารถผลได้อีกเหมือนกัน



มันมีกรรมเล็กกรรมน้อยที่ผมอยากให้สังเกตตอนที่เราได้รับกรรม ในช่วงที่นั่งภาวนาก็ดี สวดมนต์ก็ดี ฟังเทศน์ก็ดี หรือตอนพิจารณาธรรมและระลึกถึงกุศลมากๆในจิตก็ดี มันเกิดแก่นหมู่มาก รวมทั้งท่านที่เคยปฏิบัติธรรมทั่วไป จะเกิดกับตัวท่านเอง คือมีจุดหรือจังหวะหนึ่ง ถ้าคนภาวนาเป็นกลุ่มเป็นร้อยคน แล้วเงียบกริบ เมื่อมีการเทศน์หรือสัมโมทียกถาที่เป็นกุศลแล้ว จะมีคนไอ ไอเบาๆ บางทีคนไอพร้อมกันเป็นสิบคนก็มีแล้วก็หายเงียบไป



ท่านจงสังเกตการไอในที่ปฏิบัติธรรมไว้ว่าเกิดกับคนส่วนมากเป็นครั้งเป็นคราว แล้วต่อมาก็จะเงียบกริบอีก



ผมเคยไอแบบนี้ และรู้ก่อนพักใหญ่ๆ คือรู้สึกเหมือนมีอะไรทิ่มจากท้องน้อยขึ้นมา จึงเพ่งดูเห็นมีสิ่งแหลมเล็กๆเหมือนธูปมัดใหญ่ หรือเหล็กเล็กๆสีดำเป็นฟ่อน มันทิ่มลอยขึ้นมาจากท้อง และพุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อวัตถุแหลมนั้นพุ่งมาถึงหลอดลมเท่านั้น ก็เกิดอาการคันคออย่างรุนแรงทนไม่ไหวจนต้องไอออกมา และทุกครั้งที่มีการปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่มจะมีอาการไอแบบนี้ของคนหลายคนพร้อมกันบ่อย ไอชั่วครู่เดียวก็หายไป



การไอนั้นจึงเป็นกรรมเวรเบาๆ มาทำแล้วอนุโมทนาบุญของเราแล้วก็อโหสิกรรมกันไป จะเห็นว่าเวลาปฏิบัติธรรมนั้นกรรมเวรจะเข้ามาสู่เราในลักษณะนี้ อันนี้เบาแสนเบา บางครั้งก่อนเข้าสมาธิจะมีการไอเบาๆออกมาเสียก่อน จิตจึงจะรวมได้มากหรือน้อยตามกำลังสมาธินั้น



แต่ถ้ากรรมที่หนักกว่านั้น สิ่งที่กระทำต่อร่างกายที่กำลังปฏิบัติธรรมจะมีความเจ็บมากน้อย แม้การเมื่อยขาเวลานั่งนาน ก็เป็นเรื่องของกรรมเวร ถ้าเราอดทนจนเกือบไม่ไวแล้ว ถ้าเจริญสติให้มั่นคงไม่ส่งจิตออกนอก ก็จะควบคุมขันธ์ไว้ได้ กรรมนั้นก็ต้องไป เวลามันไปมันก้ออกจากขาที่เมื่อยเกือบปางตายของเราในพริบตาเดียว ความเมื่อยนั้นก็โล่งไปไม่มีอะไรเหลือแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นเราอย่าเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งไปหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง อย่าเปลี่ยนอย่าขยับกาย เมื่อความเมื่อยมันหนีไปแล้วต่อไปก็จะไม่เมื่อยอีก ถ้าพอเมื่อยเปลี่ยนอิริยาบถ มันก็เมื่อยอยู่ตลอดกาล เพราะกรรมนั้นเราไม่ได้ชดใช้ให้เขา แล้วการภาวนาก็ไม่ก้าวหน้า เพราะกรรมยังขัดขวางอยู่ แต่เราเข้าใจว่าร่างกายของเราไม่พร้อมบ้าง ยังเมื่อยยังปวดบ้าง เราแสวงหาความสบายในการภาวนาอยู่ตลอด ไม่ยอมเผชิญทุกขเวทนา เราต้องเผชิญทุกขเวทนาเพื่อจะผ่านมันไป เพราะการภาวนาก็มีทุกข์และถ้าเราไม่เปลี่ยนอิริยาบถแล้วจะพบว่านั่งเท่าไรก็ไม่เมื่อยแม้นิดเดียว แต่ถ้าสติเราไม่ใส่ใจในธรรมที่ปรากฏอยู่กับใจแล้ว ความเมื่อยความไม่ทนทานก็เกิดกับเราอีก เมื่อสติเจริญอยู่ก็อยู่ได้ เพราะบุญที่เกิดขึ้นนั้นมากพอที่เจ้ากรรมนายเวรจะอนุโมทนาและจะอโหสิกรรมกันไปในขณะภาวนานั้น การภาวนาจึงลดกรรมลดเวรและได้อโหสิกรรมที่ได้ชดใช้กรรมไปในช่วงเวลานั้นๆมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆตามปกติ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง