Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สมาธิรักษาโรค...พระราชญาณวิสิฐ วิ. (เสริมชัย ชยมงฺคโล) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ก้อนดิน
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 07 ก.ค. 2004
ตอบ: 623

ตอบตอบเมื่อ: 25 พ.ย.2006, 6:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

สมาธิรักษาโรค
โดย พระราชญาณวิสิฐ วิ. (เสริมชัย ชยมงฺคโล)


"อโรคา ปรามาภา" หมายถึง "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"

สัจธรรมข้อนี้ผู้คนทั่วไปคงได้ยินกันอยู่บ่อยๆ และยังคงเป็นธรรมะสอนใจที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าโลกจะก้าวล้ำนำสมัยไปเพียงใดก็ตาม โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ต้องทุกข์ทรมานอยู่กับโรค จะเข้าใจอย่างถ่องแท้

"เมื่อมีอาการเจ็บปวด หรือป่วยด้วยโรคภัยภายในร่างกาย สำหรับชาวพุทธแล้วต้องยกให้ 'สมาธิ' ถือว่าเป็นยาขนานเอก ที่จะช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้เป็นอย่างมาก"

เอาแค่เรื่อง เจ็บ ก่อน ทำไมเราถึงเจ็บ เราเจ็บ เราปวด เพราะเหตุว่า ใจเราไปสัมผัส ไปรับอาการที่เป็นอยู่ เช่นว่า มีบาดแผล หรือมีอะไร มันเจ็บอยู่แล้ว ใจเราก็ไปอยู่ตรงนั้น จึงเจ็บ

เพราะฉะนั้น วิธีที่จะแก้ไม่ให้เจ็บ ใจนั้นไปเจ็บนะ ไม่ใช่ตัวเนื้อเจ็บ ประสาทเส้นนี้เข้าไปสู่ใจ เวทนาอันเป็นธรรมชาติหนึ่งของใจเป็นตัวเจ็บ ที่เราเรียกเวทนา มันไปเจ็บ ใจไปเจ็บ ไปรับความเจ็บตรงนั้นรับรู้ตรงนั้น

ทีนี้วิธีไม่ให้เจ็บ ก็ให้เอาใจไปไว้ตรงศูนย์กลางกายเสียก็ไม่เจ็บ

เช่นว่า เรากำลังจะถูกผ่าตัด หรืออะไรก็แล้วแต่ หรือมีอะไรที่เจ็บๆ ท่านลองทำสมาธิให้ลึก ไม่สนใจที่ตรงจุดนั้น บริกรรมภาวนาสัมมาอะระหังๆ กลางของศูนย์กลาง นิ่งสนิท ความเจ็บจะหายหมด แม้แต่นั่ง บางคนแหมเมื่อยจังเลย ปวดแข้งปวดขา เหตุเพราะว่าใจเราไปรับรู้อยู่ตามแข้งตามขานั่นเอง

แต่ถ้าใจเรารวมหยุดแน่วแน่ นิ่งอยู่ที่ศูนย์กลาง ไม่รับอารมณ์นั้นแล้วก็ไม่เจ็บ ยิ่งถ้าเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดแล้ว ดับหยาบไปหาละเอียด ทำความรู้สึกเป็นกายมนุษย์ละเอียดแล้วจะไม่เจ็บเลย ถ้าถึงกายทิพย์ยิ่งไม่เจ็บ เงียบจ้อยเลยสบายอย่างเดียว แต่จะไปเจ็บตอนที่ออกจากสมาธิ

ถ้าคนที่ไม่เคยปฏิบัติ จะรู้สึกเมื่อย เพราะยังไม่เคยชิน และใจยังไม่รวม เพราะฉะนั้น สมาธินี้ช่วยได้ แก้ความเจ็บได้ จึงขอเจริญพรว่า จงใช้สมาธิเลยทีเดียว

พระอริยเจ้าชั้นสูง ที่ท่านมีสมาธิดีอยู่แล้ว เวลามีอะไรเกิดขึ้น ท่านจะข่มเวทนา คือข่มความเจ็บปวดด้วยสมาธิหรือสมถภาวนา อันนี้จงจำไว้

นอกจากนั้น สมาธิยังช่วยแก้โรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย อันนี้อาตมาจะแถมหน่อยว่า

สมาธิจิตไม่ใช่แต่เพียงช่วยข่มเวทนานะ ยิ่งถ้าเมื่อเจริญสมาธิถึงขั้นเป็นวิชชาคือความสามารถพิเศษด้วยแล้ว ยังช่วยแก้โรคภัยไข้เจ็บได้มากตามส่วนอีกด้วย



.............................................................

คัดลอกมาจาก
นสพ.คม ชัด ลึก คอลัมน์ พระเครื่อง คม ชัด ลึก
ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2549
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง