Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พรแห่งความก้าวหน้า อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ผู้เยี่ยมชม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 35

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2006, 8:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



peace2.gif


พรแห่งความก้าวหน้า

แต่ละคนในแต่ละวัน
พากันหลงลืมคำสอนกันอยู่เสมอ
แต่ละครั้งในแต่ละที่
ที่พวกเราทำให้ตนเองเป็นทุกข์
โดยที่เราเองก็คิดไม่ถึง


บทความนี้หวังเป็นเพียงข้อคิดเล็กๆ ในยามที่หลงลืมคำสอนอันยิ่งใหญ่ หวังเป็นเพียงเพื่อนผู้ให้กำลังใจ ในขณะที่ชีวิตพบกับความหว้าวุ่น ผิดหวัง ไม่มีใครตัดโค่นต้นไม้แห่งความทุกข์ได้ ถ้าเค้าอาศัยแต่การเรียนรู้ เกี่ยวกับความมืด บทความนี้เปรียบเสมือนมีดเล่มหนึ่ง หากจะใช้ประโยชน์ในการตัดฟันปัญหา ก็ขอให้ใช้มันไปพร้อมกับการเรียนรู้

เราสามารถมีชีวิตที่มีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ด้วยการทบทวนข้อคิดต่างๆ อย่างตั้งใจ และหมั่นสังเกตและฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ นี่คือ “พรแห่งความก้าวหน้า” อันศักดิ์สิทธิ์ ที่เราเป็นผู้ให้ และรับไว้ด้วยตนเอง

พื้นแผ่นดินเริ่มจากผงธุลี
มหานทีเริ่มจากละอองน้ำ
ไร้การเริ่มต้น
ก็ไม่มีการลงท้าย


ความหวังย่อมสูญสลายถ้าไร้การกระทำที่เหมาะสม กลมกลืน เมื่อตื่นขึ้นรับรู้วันใหม่ จงตั้งใจเริ่มต้นเรียนชีวิตและโลก สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ เริ่มต้นไตร่ตรอง และเริ่มต้นสร้างสรรค์ ทำคุณงามความดี ใช้ชีวิตให้มีค่า มีสาระ อย่าทำชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว อย่าละเว้นทำความดี เพราะคิดว่าได้บุญกุศลนิดเดียว ทุกอย่างจะสะสมไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่มีสิ่งใดในโลกไม่มีประโยชน์ ไม่มีสิ่งใดที่ชีวิตเผชิญแล้วจะไม่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต

ความผิดพลาดเป็นครูของความถูกต้อง
เคราะห์ร้ายสร้างความหมายให้โชคดี
ความทุกข์ทำให้ปกติสุขเด่นชัด

ผู้เจริญสติปัญญานั้น ย่อมพิจารณาหาประโยชน์จากประสบการณ์ มากกว่าโวยวายถึงความทุกข์ทรมานที่ได้รับ แม้เราจะไม่มั่นใจและอ่อนแอ แต่เราก็ควรหัดต่อสู้กับอุปสรรค ถึงหากเราพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค แต่เราได้จุดประกายแห่งชัยชนะแก่ตนเองขึ้นแล้ว...



(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 35

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2006, 8:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



Nature.gif


ผู้ที่เติบโตเต็มที่แล้ว ย่อมไม่หลั่งน้ำตาเพื่อตนเอง ยามที่ชีวิตพบกับความทุกข์ทรมาน และพ่ายแพ้อย่างยับเยินต่ออุปสรรคของชีวิต ความกล้าหาญที่แท้จริงมิใช่กล้าที่จะพลีชีวิต แต่ต้องกล้าที่จะอยู่เพื่อสู้ต่อไป ไม่มีใครไม่เคยผิดหวัง คนโง่เท่านั้นที่จะซ้ำเติมตัวเอง ในยามผิดหวัง สุนัขยังไม่ซ้ำเติมตัวเอง ที่ต้องเกิดมาเป็นสุนัขขี้เรื้อน ข้างถนน เมื่อพลาดพลั้ง หกล้ม ควรรึ ! ที่จะมานั่งร้องไห้ จงรีบลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินต่อไป อย่างไม่ประมาท ไม่มีใครที่ไม่มีกัลยาณิมิตร

ก็สายลมอ่อนละมุนที่ลูบไล้ยามลุ่มร้อน
ก็สายน้ำที่รินหลั่งในยามกระหาย
ก็พื้นดินที่ให้เหยียบย่ำโดยไม่ว่ากล่าว
ก็แสงแดดที่ช่วยขับไล่ยามหนาวเย็น
ก็ต้นไม้ที่ให้ความร่มเย็นโดยไม่เรียกร้อง
ก็นกกาที่ขับร้องกล่อมโลกโดยให้คลายเหงา
สิ่งเหล่านี้หรือมิใช่ที่เป็นกัลยาณิมิตรของมนุษย์ทั้งหลาย


ในยามชีวิตผิดหวัง ว้าเหว่ หากแม้นมีผู้ที่รู้ใจ ย่อมได้รับกำลังใจ และคำปลอบโยน ชีวิตที่มีตนเองเป็นผู้รู้ใจ ผิดพลาดเผลอไป ย่อมสามารถให้อภัย และตักเตือนตนได้ด้วยดี



(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 35

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2006, 9:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



lotus-1.jpg


เมื่อพยัคใหญ่ในกรง คิดถึงป่าดงอันสุขสบาย ความเบื่อหน่ายย่อมย่ำยีจิตใจมัน เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่ดี หนีได้ก็หนีไป แต่ถ้าไม่อาจหลีกหนี ก็ไม่มีเหตุผลใด ที่จะเบื่อหน่าย เมื่อเกิดความเบื่อหน่าย ก็อย่าเก็บกดไว้ด้วยการหลอกลวงตนเอง ยิ่งเก็บกดมันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น อย่ามัวเบื่อหน่ายอยู่เลย ชีวิตต้องการความสดชื่นเบิกบาน คิดหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อชีวิตที่ดีกว่า การหาอะไรทำและทำอย่างตั้งใจ เพื่อใครสักคน หรือเพื่อคนทั้งมวล เป็นวิธีกำจัดเหตุแห่งการเบื่อหน่ายได้ดีที่สุด

สมองที่ไร้การนึกคิดเพื่อสร้างสรรค์ ไม่ช้าก็เฉื่อยชา ปัญญาอ่อน
การครุ่นคิดอย่างหนัก และซับซ้อน ไม่ได้เป็นสาเหตุของการบ้า
การนึกคิดเพื่อตนเองนั้นแหละ คือสาเหตุสำคัญ
การนึกคิดอยู่กับงาน มิใช่จะทำให้คนบ้าหรือไม่บ้า
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า การงานนั้นเพื่อใคร
ยิ่งคิดจะให้ยิ่งเบิกบาน ยิ่งคิดจะเอายิ่งใกล้บ้า
การให้อภัยและคิดช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
ใช่จะเป็นการรักษาสุขภาพจิตที่ดีเท่านั้น
ยังเป็นการพัฒนาชีวิตที่ดีที่สุดอีกด้วย


จิตใจมีขีดแห่งการต้านทุกข์อยู่จำกัด ย่อมมีเวลาอ่อนเพลีย พลาดพลั้งเป็นธรรมดา จงเรียกหากำลังใจด้วยการพักผ่อนเถิด การพักผ่อนที่ดีคือ การอยู่กับธรรมชาติอย่างมีความหมาย เปิดประตูแห่งดวงใจออกรับความเป็นจริงของชีวิตดีกว่า ไม่มีใครตายเพราะทุกข์ใจดอก ถ้าเค้าไม่ยอมเป็นทาสของมัน จงพักผ่อนให้พอดีเถิด เมื่อชีวิตมีกำลังใจดีขึ้นใหม่แล้ว การต่อสู้ดิ้นรนก็จะดำเนินต่อไป พร้อมกับการเรียนรู้ความเป็นไปของชีวิต

โลกไม่ใช่โรงละคร มนุษย์ไม่ใช่ตัวแสดง
โลกคือมหาวิทยาลัยชีวิต และมนุษย์มีหน้าที่ตั้งใจเล่าเรียน
เมื่อทารกถือกำเนิด เค้าก็ได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยแห่งชีวิตแล้ว
มหาวิทยาลัยชีวิตมีสิ่งแวดล้อมเป็นครู มีตัวเองเป็นตำรา
เมื่อครูเป็นหนึ่งเดียวกับตำรา นั่นคือเวลาที่สมควรจะได้รับปริญญาชีวิต




(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 35

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2006, 9:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



smVOP-22.jpg


ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของวงศาคณาญาติ มิใช่อยู่ที่สายเลือดเดียวกัน สายเลือดจะมีความหมายอะไร ถ้าปราศจากความเห็นใจ ช่วยเหลือ อย่าปล่อยให้ความเป็นวงศาคณาญาติอยู่เหนือความเหมาะสม กลมกลืน เฉพาะหน้า ผู้ใดสมควรได้รับความช่วยเหลือจากเรา ผู้นั้นนั่นเองคือญาติของเรา และเมื่อเราเดือดร้อนทุกข์ตม ผู้ใดเห็นใจช่วยเหลือ ผู้นั้นนั่นเองคือญาติสนิทของเรา ถ้าเห็นความสำคัญของวงศาคณาญาติก็จงเห็นใจและช่วยเหลือชีวิตทั้งหลาย เพราะชีวิตทั้งหลายก็เปรียบเสมือนวงศาคณาญาติของกันและกัน

การต่อสู้บางครั้งก็แสดงถึงความขี้ขลาด เพราะคนขี้ขลาดมักจะลงมือก่อน และชอบทำร้ายเกินความจำเป็น บางครั้งการยอมแพ้ หรือการหลบหนีก็ไม่ได้แสดงออกถึงความขี้ขลาด แต่เป็นการรักสันติ และรักชีวิต เมื่อจำเป็นต้องต่อสู้ ผู้กล้าหาญเพียงมุ่งรักษาความชอบธรรม ฉะนั้นแพ้ชนะจึงไม่สำคัญเท่าสันติสุข ผู้กล้าหาญที่แท้จริง ใช้ความเป็นมิตรทำลายความเป็นศัตรู ใช้ความไม่เป็นศัตรูทำศัตรูให้เป็นมิตร

มูลเหตุแห่งสงครามไม่มีอะไรอื่นนอกจากความเห็นแก่ตัวของผู้นำ สงครามไม่อาจสร้างสันติภาพได้โดยเด็ดขาด ภายหลังสงครามจะมีแต่ความเจ็บแค้นที่ถูกบีบครั้นไว้ และรอคอยการแก้แค้นเท่านั้น สันติภาพที่อาศัยสัญญาก็ไม่ใช่สันติภาพ สัญญาของสันติภาพก็คือ สัญญาของความเห็นแก่ตัว ผู้นำที่ฉลาดต่อต้านสงครามด้วยสันติวิธี สุดหลีกเลี่ยงจากการรุกรานแล้ว ขอเพียงจิตใจหวังสันติภาพอย่างแท้จริง มือที่จับอาวุธต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์ก็เป็นมือของสันติภาพ

สังคมใดขาดการแบ่งปันให้ซึ่งกันและกัน สังคมนั้นย่อมไม่อาจตั้งมั่นอยู่ได้ เมื่อมีการกักตุนในที่หนึ่ง ย่อมเกิดการขาดแคลนในอีกหลายที่ เมื่อผู้หนึ่งเป็นอยู่ดีเกินไป อีกหลายครอบครัวก็ต้องอดอยากยากจน เมื่อผู้หนึ่งไม่ทำงานแต่มีกิน อีกหลายคนก็ต้องทำงานมากขึ้นเพื่อหาให้เค้ากิน เมื่อผู้หนึ่งกินอิ่มและฟุ่มเฟือยเกินไป อีกหลายคนก็ต้องหิวกระหายและขาดแคลน การแบ่งปันให้ซึ่งกันและกันเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ ชีวิตที่ไม่มีการแบ่งปัน ให้กับผู้ยากไร้ทั้งที่สามารถกระทำได้ นับเป็นชีวิตที่ไร้ค่า และรกโลก



(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 35

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2006, 9:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



waterfll.jpg


เมื่อสุนัขตกจากสะพานที่ชำรุดสู่ลำน้ำ มันรีบว่ายขึ้นฝั่ง เชิดหน้า สะบัดขน ไม่บ่นว่า หรือด่าทอสะพาน และไม่ร้องขานแก้ตัว ไม่มีสัตว์โลกชนิดใดเลยที่จะแก้ตัวให้กับความผิดพลาดของมัน มันจะทำในสิ่งที่เหมาะสมกว่า นั่นคือเริ่มต้นใหม่อย่างไม่ประมาท เมื่อบริสุทธิ์อย่างแท้จริงใยต้องพะวงต่อการกล่าวหา ยามผิดพลาดอย่าพะวงถึงการแก้ตัว ใช้รอยยิ้มและการกระทำดี แทนการแก้ต้วเถิด

กระจกย่อมไม่เลือกที่จะสะท้อนภาพชนิดใด
จิตจงดูเยี่ยงกระจกนั้นเถิด กระจกรับรู้แต่ไม่ยึดถือ ครอบครอง
ดังนั้นจึงไม่มีภาพใดติดอยู่ในกระจก
กระจกมีเฉพาะภาพที่อยู่หน้ากระจกเท่านั้น
เปลวเทียนในกระจกหาได้เผาลนกระจกไม่
สายฝนในกระจกก็ไม่ทำให้กระจกเปียกชื้น
ทั้งนี้เพราะกระจกไม่ให้อำนาจแก่เปลวเทียน และสายฝน
เงาในกระจกเป็นประดุจดั่งการรับรู้ของจิตใจ
ยึดถือเป็นภาพเมื่อใด ย่อมไม่พ้นทุกข์ทรมาน

สิ่งใดเมื่อเริ่มต้นในที่สุดจุดจบต้องมาถึง
ฝนย่อมไม่ตกตลอดปี ชั่วดีไม่คงอยู่ตลอดกาล
การพลัดพรากและการตายเป็นธรรมดาของชีวิต
ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว
ความกลัวตายต่างหากที่น่ากลัว และเป็นอันตรายต่อชีวิต
ในยามที่ต้องพลัดพรากจากกัน จงเลือกชีวิตและถ้อยคำอำลาดีกว่า
เพื่อจุดพลัง ความกล้า ที่จะเผชิญชีวิต
ความตายเมื่อไม่อาจหลีกหนี เหตุไฉนจึงต้องหวั่นไหวหวาดกลัว
ในที่สุดต้องตายจากกัน การเศร้าโศกเสียใจนั้นเพื่อใครกัน


ถ้าเราไม่เห็นแก่ตัว เราก็ไม่มีศัตรู
การให้อภัยและความเมตตา คือสื่อแห่งสันติภาพ
ไม่มีสิ่งใดเป็นศัตรูแก่พรหมจรรย์
ทำลายความรู้สึกว่ามีศัตรูนั้นเสีย
พรหมจรรย์จึงจะเป็นพรหมจรรย์
ผู้ฉลาดทำศัตรูให้เป็นมิตร
เพราะมันสนุกและสิ้นพลังน้อยกว่าการทำลายศัตรู



(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 35

ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2006, 9:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



11591920714633vj3.gif


ก่อนการเริ่มต้นใหม่ในงานที่ยากลำบาก
ขอให้เราได้ใช้เวลาอยู่เงียบๆกับตัวเราเอง
เพื่อให้ความคิดและแรงจูงใจปลุกเร้าให้เรากล้าหาญ
ก่อนการเริ่มต้นใหม่ในงานที่ยากลำบาก
ขอให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่เราพอใจ
เพื่อให้ความสนุกเพลิดเพลินพลักดันให้เกิดกำลังใจ
ก่อนการเริ่มต้นใหม่ในงานที่ยากลำบาก
ขอให้เราใช้เวลาอยู่กับคนที่เราเคารพ และศรัทธา
เพื่อให้ความสุขและความอบอุ่นใจ ก่อให้เกิดความหวัง
ก่อนการเริ่มต้นใหม่ในงานที่ยากลำบาก
ขอให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับการท่องเที่ยว
เพื่อให้ธรรมชาติที่สงบ และงดงามเพิ่มพูนพละกำลังให้กับเรา
ก่อนการเริ่มต้นใหม่ในงานที่ยากลำบาก
ขอให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับการอ่าน และสนทนา
เพื่อให้สาระใหม่ที่พบ เป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ต่อสู้


ความสงบของสิ่งแวดล้อมเอื้ออำนวยให้ความสงบภายในเกิดขึ้น ไม่มีใครจะช่วยให้เกิดความสงบได้ ถ้าจิตใจยังลุ่มหลงและหวาดกลัว มีแต่ผู้หลงผิดจึงยึดติดกับความสงบ อย่ามัวสงบอยู่กับความสงบ จงสงบอยู่กับงาน และการช่วยเหลือ ในขณะที่ทำงานและช่วยเหลือสรรพชีวิต จงสังเกตและพิจารณาความรู้สึกอยู่เสมอ เมื่อมีสติสมาธิอยู่ในสภาวะการณ์เฉพาะหน้าแล้ว ก็ไม่ต้องไปใส่ใจถึงความสงบ

สรรพชีวิตเกิดแต่ดิน
แต่ดินไม่เคยเรียกร้องต่อสิ่งที่ดินบำรุงเลี้ยง
ในที่สุดสิ่งมีชีวิตทั้งปวงก็กลับไปหาดิน
ดินไม่เคยประทุษร้ายต่อผู้ประทุษร้ายดิน
ดังนั้นดินจึงมั่นคง
ชีวิตทั้งหลายรังเกียจ เบียดเบียนกันไปทำไม
ในเมื่อถูกบำรุงเลี้ยงจากสิ่งเดียวกัน
และต้องกลับกลายไปเป็นสิ่งเดียวกันในที่สุด



ยิ้ม ถอดความจากเทปธรรมคีตา "พรแห่งความก้าวหน้า"
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kong_014
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2006
ตอบ: 37
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 21 ธ.ค.2006, 9:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาสาธุ ครับ
 

_________________
ไม่กล่าวโทษผู้อื่น กล่าวโทษตนเองไว้เสมอ มุ่งปฎิบัติให้ถึงซึ่งพระนิพพาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailYahoo Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง