Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มีเวรกรรมกรรมอะไรทำให้คนติดยาเสพติด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สหายวัฒน์
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 18 พ.ย. 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): เยาวราช

ตอบตอบเมื่อ: 18 พ.ย.2006, 3:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากให้ผู้รู้ธรรมช่วยหาธรรมและบรรยายหลายๆ ธรรมวิธี เพื่อนำไปบอกกล่าวช่วยเหลือผู้ติดยาให้เห็นเวรกรรม และได้สติและมีกำลังใจที่จะทำได้เลิกเกี่ยวข้องได้และได้เห็นธรรม ปรบมือ
 

_________________
พยายามฝึกฝนให้จิตใจสะอาดสว่างสงบ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailYahoo MessengerMSN Messenger
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46

ตอบตอบเมื่อ: 18 พ.ย.2006, 8:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันยากนะ จะเปลี่ยนใจคนอื่นอะ ตื่นเต้น

วิธีมันไม่ยาก แต่คนที่เสพยา เขาไม่เปิดใจรับนี่ละ ที่ยาก

อืม ถ้าอยากช่วยพวกเขา คงต้องหาคน ที่เขาเปิดใจรับฟังให้ได้ก่อน
แล้วถึงค่อย เติมจิตสำนึกที่ดีให้เขาไปที่ละน้อยๆ ( หมายถึงคนที่เขาเปิดใจรับฟังพูดเน้อ )

อาจจะช่วยทำให้คนเสพยา ได้จิตสำนึกที่ดีได้บ้าง ไม่มากก้อน้อย ซึ้ง

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สหายวัฒน์
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 18 พ.ย. 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): เยาวราช

ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ย.2006, 11:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ภูเขาน้ำแข็ง พิมพ์ว่า:
มันยากนะ จะเปลี่ยนใจคนอื่นอะ ตื่นเต้น

วิธีมันไม่ยาก แต่คนที่เสพยา เขาไม่เปิดใจรับนี่ละ ที่ยาก

อืม ถ้าอยากช่วยพวกเขา คงต้องหาคน ที่เขาเปิดใจรับฟังให้ได้ก่อน
แล้วถึงค่อย เติมจิตสำนึกที่ดีให้เขาไปที่ละน้อยๆ ( หมายถึงคนที่เขาเปิดใจรับฟังพูดเน้อ )

อาจจะช่วยทำให้คนเสพยา ได้จิตสำนึกที่ดีได้บ้าง ไม่มากก้อน้อย ซึ้ง

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
พยายามฝึกฝนให้จิตใจสะอาดสว่างสงบ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailYahoo MessengerMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2006, 12:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วัยรุ่นหญิงชาย..เบียร์ไวน์เหล้า..แล้วก็ยาบ้า


อีกเดือนเดียว เทศกาลสอบเข้าไม่ว่าจะเป็นมัธยมหรืออุดมศึกษาก็จะมาถึง ในขณะที่ความกังวลใหม่เข้ามา ปัญหาเก่าที่อยู่ข้างหรือข้างหลังโรงเรียนของคนมีลูกชายวัยรุ่นก็ยังไม่เจือจาง เราต้องรับกันเสียทีล่ะ...ว่ามันล้อมวงแคบเข้ามาประชิดตัวเรามากขึ้นทุกที แต่... ต้นตอปัญหายาเสพติดในระดับที่พ่อแม่จะจัดการได้อยู่ที่ไหน

ขณะที่พ่อแม่กำลังวิตกกังวลกับปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้า ที่ผู้ค้ากำลังใช้กลยุทธ์การตลาดขนานใหญ่ที่จะบุกให้ถึงตัวนักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย หลายคนจึงตื่นตกใจจนลืมไปว่า ยังมียาเสพติดอีกประเภทหนึ่งที่คืบใกล้ตัวลูกหลานของเรามาช้าๆ ในรูปแบบที่ดูดี มีรสนิยม แถมโก้เก๋อีกต่างหาก

อย่าลืมว่ามีเด็กวัยรุ่นจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่รู้จักใช้ยาบ้า กัญชา ยาเลิฟ ยาอี โคเคน หรือเฮโรอีนแต่วัยรุ่นส่วนใหญ่โดยเฉพาะมัธยมปลาย เคยลิ้มรสของแอลกอฮอล์มาแล้วแทบทั้งนั้น มีไม่น้อยเคยซื้อด้วยตนเอง ที่นิยมมากก็หนีไม่พ้นเบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำ ที่มักจะโหมโฆษณาว่า... สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

ผู้ใหญ่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา

"ก็ดี มันจะได้เป็นลูกผู้ชาย" หรือ "รู้จักกินไว้ จะได้เข้าสังคมเป็น"

ความคิดว่าธรรมดานี่แหละที่น่าเป็นห่วง เพราะการดื่มแอลกอฮอล์เพียงครั้งสองครั้งก็สามารถเป็นสาเหตุของปัญหาร้ายๆ ได้เหมือนกัน ข่าวรถชนเพราะเมาสุรา ทำร้ายร่างกาย และก่อการทะเลาะวิวาท (ทั้งในผับและนอกผับ) ก็ต้องยอมรับว่าถ้าไม่บาดเจ็บก็ถึงตาย (ซ้ำร้ายต้องเดือดร้อนพ่อออกมาแก้ข่าวให้อีกต่างหาก) ไม่ต้องรอให้เป็นแอลกอฮอลิซึ่มหรอกค่ะ

ดังนั้น ถ้าจะระมัดระวังเรื่องสิ่งเสพติดที่จะเกิดขึ้นกับลูก พ่อแม่ต้องคิดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้จงหนัก

ผู้ใหญ่ชอบคิดว่าเด็กติดยา เพราะอยากรู้อยากลอง หรือคึกคะนองไปตามเพื่อนหรือมีพฤติกรรมต่อต้านสังคมหรือ...อะไรก็แล้วแต่ที่ให้เหตุผลรวบยอดได้ว่า...ก็มันไม่รักดี แต่เหตุผลที่แท้จริง คงต้องยอมรับว่าอยู่ที่ผู้ใหญ่และสังคมมากกว่า

ทุกวันนี้ เด็กถูกสภาสังคมบีบให้เครียด เรียนหนัก แข่งขันสูง เมื่อแข่งขันไม่ได้ก็กลายเป็นผู้แพ้ เขาจึงถูกผลักให้หาอะไรสักอย่างที่จะบรรเทาความเครียด นอกจากดนตรีและกีฬา ยาเสพติดก็เป็นอีกทางเลือกที่ดูเย้ายวนใจ

ซ้ำร้ายพฤติกรรมของผู้ใหญ่ อาทิ พ่อกินเหล้าเพราะกลุ้มใจ สูบบุหรี่เพราะเครียด แม่กินยานอนหลับเพราะนอนไม่หลับ ทำให้เขาเห็นตัวอย่างว่า เมื่อตนเองมีความเครียดและกังวล ก็น่าจะแสวงหายา อะไรสักอย่างที่จะบรรเทาปัญหาของเขาได้

ซ้ำร้าย...ไปกว่านั้น สื่อที่โหมกระหน่ำก็ทำให้เขาเข้าใจว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นเรื่องที่ไม่เลวร้าย แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกผู้ชาย เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนที่ดึงดูดใจคนอื่น ฯลฯ

ปราน ปรารถนา คอลัมนิสต์ประจำใน Life & Family แต่เสนอว่าทางออกของปัญหาอยู่ที่การป้องกันมากกว่าแก้ไข พ่อแม่ควรเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก พูดคุยให้เขาเข้าใจและซึมซับถึงพิษภัยและโทษของสิ่งเสพติดทั้งหลาย บอกให้ลูกเข้าใจว่ายาทุกชนิดแม้แต่แอสไพริน ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ล้วนมีผลข้างเคียงที่เป็นโทษได้ทั้งนั้น

เอาแผ่นพับหรือข้อมูลง่ายๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ไม่ดื่มเหล้า ไม่เสพยาเสพติดไปวางไว้ตามส่วนต่างๆ ของบ้าน...เผื่อจะผ่านตาลูก

สำหรับลูกวัย 7 ขวบขึ้นไปถึงวัยรุ่น ฝึกให้เขารู้จักวิเคราะห์และรับมือกับปัญหาต่างๆ อย่างเหมาะสม หรือที่มักใช้คำว่า ฝึกทักษะชีวิต เช่น ให้ลูกเรียนรู้ว่าทางออกในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงทางเดียว ถ้าเอ็นทรานซ์ไม่ติด ก็มิได้หมายความว่าอนาคตจะดับวูบยังมีสถานศึกษาอื่นๆ ที่สามารถเลือกเรียนได้ และประสบความสำเร็จในชีวิตได้เหมือนกัน หรือถ้าเพื่อนชวนให้ทดลองยา หรือกระทำการที่ท้าทายต่อศีลธรรมอันดีจะมีวิธีปฏิเสธอย่างไร

สร้างบรรยากาศให้มีการพูดคุยกันอย่างเปิดอกระหว่างพ่อแม่ลูก เพื่อให้เขามีโอกาสคิดด้วยตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่เล็กเซอร์ให้ฟังฝ่ายเดียว และยืนยันให้ลูกรู้อย่างชัดแจ้งไปเลยว่า พ่อแม่ไม่ยอมรับการติดยาเสพติดทุกชนิด แต่ก็ไม่มีวันจะตามติดไปดูแลลูกได้ตลอดเวลา สิ่งที่ทำได้มีเพียงให้ข้อมูลเรื่องผลร้ายทั้งที่มีต่อร่างกาย และจิตใจของคนติด แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ มีตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง

แต่ทั้งนี้ พ่อแม่ก็ต้องเป็นแบบอย่างที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่เอาแต่พร่ำสอนลูกๆ ทั้งที่กลิ่นเหล้า บุหรี่ยังเหม็นคลุ้งติดตัว

พึงระลึกว่าถ้าคนในครอบครัวติดยาเสพติด หรือแอลกอฮอล์มาก่อน ลูกก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดมากกว่าเด็กทั่วไป ดังนั้นควรพยายามเอาใจใส่ ระมัดระวังกว่าปกติ

พ่อแม่ผู้ปกครองอย่าเพียงแต่กังวลกับปัญหายาเสพติด เพราะนั่นเป็นเพียงปลายยอดของภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ เพราะปัญหาที่แท้จริงซึ่งซ่อนตัวอยู่ลึกลงไปใต้ผิวน้ำนั้นหนักหนาสาหัสกว่ามากมายนัก


คัดลอกมาจาก
http://www.clinicrak.com/
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2006, 12:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในหลวงทรงห่วงยาเสพติด


เรื่องติดยาเสพติดนี่มี 2 อย่าง อย่างหนึ่งเคราะห์ร้าย และเคราะห์ร้ายนี่มี 2 อย่าง เคราะห์ร้ายอย่างหนึ่ง บังเอิญอย่างเมื่อ 50 ปี มีคนเอาเครื่องบินไปเติมเฮโรอีน เติมยาเสพติดไม่รู้ตัวเลยอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งไปเสพยาเสพติด เพราะว่าเพื่อนฝูง หรือไม่ใช่เพื่อนฝูง พวกที่เค้าไปบอกว่านี่อันนี้ดี ทำให้แข็งแรงทำงานได้ แล้วก็ครึกครื้น ไม่เห็นเป็นไร เสพยาเสพติด ยาบ้า ก็โง่ เพราะว่าเคราะห์ร้ายหนึ่ง เคราะห์ร้ายเราให้อภัย แต่โง่ไม่น่าจะให้อภัยนัก เพราะเค้าอยากเล่น อยากสนุก อยากสบาย อยากแข็งแรง ซึ่งไม่จริง

ใช้ยาเสพติดน่ะ จริงว่าไม่เหน็ดไม่เหนื่อย ขับรถได้เป็นเวลา เป็นรายชั่วโมง ขับรถได้เป็น 10 ชั่วโมง ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย แต่ถึงเวลา 11 ชั่วโมงแล้วก็ฟุบลงไป แล้วไปชนใครต่อใคร หลังจากนั้นอาจจะไม่ชนก็เกิดเมา อย่างมากปีนเสาไฟฟ้าขึ้นไป เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องขึ้นไป หรืออย่างหนึ่ง ไปจับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ขู่ที่จะเชือดคอ อย่างนี้พิษของยาเสพติด ซึ่งมาจากความโง่ของคนที่บริโภค ความโง่ในด้านต่างๆ และความเคราะห์ร้ายด้วย แต่ว่าถ้าทุกคนสามารถที่จะพิจารณาว่า ยาเสพติดนั้นอยู่รอบด้าน เหมือนเดินอยู่ในถนนก็มีรถ

ต้องทราบว่า ถ้าเดินกลางถนนมีหวังรถชน ไม่มีใครอยากจะเดินกลางถนนให้รถที่วิ่งเร็วมาชน ตำรวจจึงเดือดร้อน ตำรวจจะต้องไปห้าม บางทีจะบอกว่าถนนของเรา เราเดินได้ แต่ว่าเดือดร้อนกับเจ้าหน้าที่ เดือดร้อนกับคนขับ กับรถอื่นๆ ซึ่งไม่ได้อยากที่จะไปชนคนบ้าๆ บอๆ อย่างนั้น แต่ว่ามันต้องเกิดชนได้ เพราะว่ารถ ถ้าแล่นแม้จะแล่นเพียง 5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าคนตัดหน้าล่ะ ชนตายหมด แล้วเดือดร้อนกับคนที่ขับรถ เดือดร้อนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วในที่สุดก็เดือดร้อนกับศาล กับผู้พิพากษา เสียเวลา เสียเงินเสียทองมากมาย เสียค่าใช้จ่ายโรงพยาบาล ซึ่งอย่างน้อยต้อง 30 บาท

ถ้ายังไงก็ตาม คนที่เข้าไป 30 บาทนั้น โรงพยาบาลเสียมากกว่า 30 ลงท้ายรัฐบาลก็เสีย ใครก็เสีย ประชาชนก็เสีย เพราะว่าเงินที่รัฐบาลใช้ต้องมาจากภาษีอากร ชาวบ้านอยู่ที่ไหนๆ ก็ต้องเสีย ต้องเสียค่า 30 บาทนั้น นั่นน่ะ อย่าโกรธว่าแขวะ แต่ว่าอดไม่ได้ อยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ อยู่ในที่อย่างนี้ ต้องมีการแขวะ แขวะไม่ใช่ทำให้เดือดร้อน ให้เข้าใจว่า ยาเสพติดนี้ ทำให้เกิดความเดือดร้อนหลายอย่าง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

ทางราชการโดยตำรวจ โดยโรงพยาบาล โดยคนเอกชนต่างๆ เดือดร้อนหมดและสิ้นเปลือง คนทั่วประเทศก็สิ้นเปลือง แทนที่จะมีเงินทองมีทุนมาสร้างบ้านเมืองให้สบายให้เจริญ มัวแต่ต้องมาปราบยาเสพติด มัวแต่ต้องมาเสียเงินค่าดูแลรักษา ทั้งผู้เสพยา ทั้งผู้ที่เดือดร้อน อย่างนี้เสียทั้งเงินและเสียทั้งชื่อเสียง ต่างประเทศชี้หน้าเมืองไทยว่า เมืองไทยนี่เป็นต้นเหตุของยาเสพติดในอเมริกา ในยุโรป ไม่ใช่ เค้าอยากได้เอง เค้าเสพเอง คือพูดชาวบ้านของต่างประเทศ อย่าไปพูดถึงฝรั่ง แต่เราโดยมาก ต่างประเทศก็นึกถึงฝรั่ง เราควรจะโทษฝรั่ง เค้าต้องการ เค้าใช้ เค้าเสพ

เราก็ต้องมี เราค้าขาย เอ็กซปอร์ตที่จริงยาเสพติดนั้น มันเข้ามาจากต่างประเทศแล้วไปสู่ต่างประเทศ แต่คนที่เค้าค้านั้น เค้าได้กำไร เมื่อได้กำไรเท่ากับเราก็มีผิดเหมือนกัน แต่ผิดใหญ่ที่ทุกๆ คนที่อยากได้ ถ้าเค้าไม่อยากได้ ก็ไม่มีทาง ไม่มีเรา จะขายไม่ได้ เพราะมันไม่มีราคา อันนี้ยุ่งยากเวียนหัวที่จะทำอย่างไรที่จะปราบยาเสพติด ปราบการค้ายาเสพติดที่ทุกคนเดือดร้อนแล้วการปราบนี้ผู้ที่เดือดร้อนที่สุด มีพวกตำรวจ ทหาร โดยเฉพาะเป็นมากที่สุดก็ทหารบก ทหารเรือก็แย่ ทหารอากาศก็แย่ เป็นอันว่าทุกคนเดือดร้อน ที่จะต้องปราบ

คนที่ต้องปราบนั้น เขาไม่อยากปราบ มันเหน็ดเหนื่อย แล้วก็อันตราย ผู้ที่ปราบนั้นต้องเสี่ยงชีวิตในการปฏิบัติ มีหลายท่านที่เป็นผู้ใหญ่ ได้ผ่านชีวิตการปราบยาเสพติดทางตรงและทางอ้อม จะทราบดีว่าเหนื่อยแค่ไหน แล้วทำให้เดือดร้อนแค่ไหน นี่พูดถึงยาเสพติดเพราะว่าท่านนายกฯ ไม่ได้พูด คงไม่อยากพูด ไม่อยากพูดอย่างนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมงคล แต่วันนี้ยังไม่ใช่วันเกิด แล้วพูดสิ่งที่อัปมงคลได้


คัดลอกมาเป็นเพียงบางส่วนจาก...
http://www.geocities.com/rainforest/vines/1701/king_4dec45.htm
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เจ๊เป็นตุ๊ด
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 พ.ย. 2006
ตอบ: 60
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยสอง

ตอบตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2006, 4:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุกครับ พอละเมอเห็นคุกอยู่ร่อมร่อ ตำรวจ กุญแจมือ ทั้งสื่อทั้งของจริงมีให้เห็นให้ชม ตัวอย่างความเป็นอยู่จริงของคนในคุก บางคนมีประสบการณ์เฉียดอีก พวกขี้ยาหลายคนแล้วครับที่เลิกยาได้ด้วยการว่ามานี้ ส่วนพวกติดยาหนักๆขั้นรุนแรงไม่เห็นคุกในสายตานั้น พาพวกเขาไปฝากคุกหรือฝากค่ายทหารเลย ซะ สิ้นเรื่อง สู้ สู้

คนติดสิ่งเสพติดใดๆก็ตามแบ่งให้เห็นง่ายๆ เป็น 3 ประเภท คือ ( เหล้า บุหรี่ และอื่นๆ )
1.พวกที่ยอมเสพจนตัวตาย ไม่สน ไม่ฟังใคร บำบัดแล้วก็ยังกลับไปเสพอีก กลุ่ม 1 นี้ตายชัวร์
2.พวกที่ต้องเสพจนใกล้ตาย แล้วเลิกเองเพราะกลัวตาย
3.พวกที่เลิกเองได้ด้วยสื่อต่างๆ เช่น ภาพเรื่องราว ข่าวสารในแง่ลบ หรือ มีคนรอบข้างชี้นำในทางที่ดี

สาธุ อิ่มดี มีสุข
 

_________________
ปัญญาอยู่ไหน ที่ไหนมีขายบ้าง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2006, 3:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยาบ้าออกอาละวาดอีกแล้ว ระวังลูกหลานของท่านเอาไว้ให้ดี ตกใจ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง