Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผู้จะถึงพระไตรสรณคมน์มั่นคงต้องเชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2006, 8:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผู้จะถึงพระไตรสรณคมน์มั่นคงต้องเชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม

ผู้จะถึงพระไตรสรณคมน์ได้มั่นคง ต้องมีปัญญาพิจารณาเห็นด้วยใจของตนจริง ๆ ว่า เราทำกรรมดีต้องได้รับผลเป็นสุขตอบแทน เราทำกรรมชั้วต้องได้รับผลเป็นทุกข์ตอบแทนด้วยตนเอง คนอื่นจะมารับแทนไม่ได้ อย่างนี้แน่วแน่ในใจจริง ๆ จึงจะถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิตได้

คนเราเกิดมาในโลกก็เพราะกรรม ถ้าไม่มีกรรมก็ไม่ได้มาเกิด ดังพระพุทธองค์ตรัสว่า " โลก คือ มนุษย์ต้องเป็นไปตามกรรม " ดังนี้ กรรม คือ การกระทำทั้งดี ทั้งชั่ว กรรมดี เรียก กุศลกรรม กรรมชั่ว เรียก อกุศลกรรม

คนเกิดมาในโลกนี้มี กาย วาจา และใจ แล้ว ใครจะไม่ทำกรรมย่อมไม่มี ฉะนั้น คนเราทุกคนเกิดขึ้นมาในโลกได้ชื่อว่าเกิดมาสร้างกรรม แต่ขอให้เลือกสร้างเอาแต่กรรมดี ซึ่งจะทำให้เกิดความสุขกายและใจอย่างเดียว เมื่อตนเองสร้างกรรมชั่วแล้วแต่อยากจะได้ความสุข มันจะได้มาแต่ที่ไหน

ปลูกมะนาว ออกผลมามันก็ต้องเป็นมะนาวละซี มันจะเป็นละมุด ลำไยได้อย่างไร เมื่อกรรมชั่วให้ผลเป็นทุกข์ก็บ่นว่าทำบุญไม่ช่วยตน บุญไม่มีผล ทีหน้าทีหลังไม่อยากทำละ
ผู้ทำบุญไม่รู้จักบุญย่อมคิดอยู่อย่างนี้ บ่นอย่างนี้เป็นธรรมดา

แท้จริงบุญมิใช่วัตถุ หรือเป็นของมีตัวมีตน บุญเกิดจากจิตใจต่างหาก วัตถุทานที่เราให้นั้นมันเกิดจากน้ำใจที่มันแผ่ออกไปจากจิตใจ เพื่อให้เกิดความเกื้อกูลแก่มนุษย์และสัตว์เหล่าอื่นต่างหาก น้ำใจที่มันแผ่ออกไปนี้ไม่มีหมดสักที ยิ่งแผ่ออกไปมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นของกว้างเท่านั้น

วัตถุทานที่เราให้ไปนั้นหมดเป็น เมื่อเราได้เห็นบุคคลหรือวัตถุ สถานที่ คำสอนที่มีเหตุมีผล ฟังแล้วเกิดความเลื่อมใสนั้นเป็นบุญแท้ มนุษย์ สัตว์ทั้งหลาย เมื่อเกิดมาแล้วต้องมีความแก่ ความเจ็บ ความตายเป็นธรรมดา เกิดมาแล้วจะไม่ให้มีเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ เราทำกรรมดีไว้มาก ๆ ระลึกถึงกรรมดีนั้นอยู่เสมอ ๆ ถึงร่างกายอันนี้มันจะเจ็บหรือจะตายก็เป็นเรื่องของมันต่างหาก ส่วนกรรมดีคือบุญกุศลเป็นของไม่ตาย

ฉะนั้น อย่าไปโทษบุญกรรมเลย โทษตัวเราผู้เกิดมานั้นดีกว่า แล้วพึงระลึกถึงกรรมดีที่ได้กระทำไว้นั้นเป็นที่พึ่งดีกว่า

: ของดีมีในศาสนาพุทธ
: โดย พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี)
 
zeabra
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2006, 12:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากทำดีได้ดี ต้องทำอย่างไรบ้าง เคยลองยึด ไตรสรณ์คม แล้ว
ทำอย่างไร จึงจะมี สติ สัมปะชัญญะ ลองภาวนา พุทโธ ๆ แล้ว บางที ตอนหายใจเข้าพุท
แล้วหายใจ ออก โธ ช่วงที่ กำลังจะหายใจเข้าพุท มันมีสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ คำว่า พุทโธ แทรกข้ามาในจิต จะทำอย่างไร บางที ก็มีสติ แต่บางครั้งก็ ก็มีสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ คำว่า พุทโธแทรกเข้า
ธรรมจักร อยากให้ช่วยแนะวิธีแห่งพุทโธ ว่ามีวิธีใด บางที่จะทำให้มีสติสัมปชัญญะ สาธุ ลูกนก
 
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2006, 4:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

- การทำดีทำชั่วเหมือนการปลูกพืช การให้ผลแตกต่างกัน บางอย่างส่งผลเร็ว บางอย่างส่งผลช้า จนบางครั้งผู้ไม่รู้ไม่เชื่อเห็นว่า ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วไม่ได้ชั่ว

ท่านว่าการทำดีต้องได้ผลดีแน่นอน ทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่วแน่นอน เปรียบได้กับ
กลางวัน = ผลของความดีกำลังให้ผล
กลางคืน = ผลของความชั่วกำลังให้ผล


ถ้าเราทำความชั่วในเวลากลางวัน ยังไงก็เป็นกลางวันอยู่ดี
ถ้าเราทำความดีในเวลากลางคืน ยังไงก็เป็นกลางคืนอยู่ดี

เมื่อใดที่กลางวันกลับเป็นกลางคืน หรือกลางคืนกลับเป็นกลางวัน นั้นก็คือผลของความดีและความชั่วกลับมาให้ผลตามที่เป็นจริง

- การภาวนาพุทโธอาจจะไม่ถูกจริตของคุณก็ได้ ขอให้พิจารณาจริตของตัวเองด้วยเพื่อให้การปฏิบัติธรรมมีความก้าวหน้าเป็นลำดับไป

เจริญธรรม

http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=240
http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=241
 
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2006, 11:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาบุญค่ะ...คุณ Iam

ยิ้ม อายหน้าแดง ยิ้มแก้มปริ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง