Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทุกคนล้วนยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเด่นกว่าใคร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
seven11
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2006, 3:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกคนล้วนยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเด่นกว่าใคร

เราอย่าได้แบ่งแยกกันเลยว่าใครเด่นใครด้อย
จิตใจของกวีและหางแมลงป่อง
มันก็ชูขึ้นจากแผ่นดินเดียวกันนั่นแหละ


โดยธรรมชาติของคนนั้น ชอบหาความเด่นความดังใส่ตัว โดยเฉพาะลูกผู้ชายด้วยแล้ว ชอบยกหูชูหางเป็นที่สุด ที่เป็นดังนี้ก็เพราะ คนเรานั้นยังมี "ตัวกู" และ "ของกู" อยู่ในกมลสันดานนั่นเอง

ในสังคมจะเห็นการอวดตัวยกตนว่าเด่นกว่าดังกว่ากันอยู่ทั่วไป แย่งกันเด่น แข่งกันดัง ชิงการนำในวงการ แล้วก็มีรายการริษยาตาร้อนตามมาติดๆ นำความทุกข์เดือดร้อนมาสู่ชีวิต แล้วไม่รู้จะไปแก่งแย่งแข่งดีกันทำไม ก่อให้เกิดเวรภัยกันเปล่าๆ

ท่านคาลิล ยิบราน ในฐานะที่ท่านเป็นปราชญ์และกวี ท่านบอกว่า เราไม่ต้องไปบอกหรอกว่า ใครเด่นกว่าใคร ดีกว่าใคร ทุกๆคนมีความสำคัญด้วยกันทั้งหมด ท่านบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นจิตใจของกวีหรือหางแมลงป่อง ก็ชูขึ้นจากแผ่นดินเดียวกัน การที่มีคนเด่น คนดัง คนดี คนเก่ง เกิดขึ้นมามากมายนั้น ย่อมเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น จะได้ช่วยกันสร้างสิ่งดีงาม สร้างความเจริญให้แก่สังคม ประเทศชาติ และโลกของเรา

เอาเด่นหลายๆ เด่น เอาดีหลายๆ ดี ดังหลายๆ ดัง และเก่งหลายๆ เก่ง มารวมพลังเป็นหนึ่งเดียว แล้วร่วมกันสร้างสรรค์ในทางดีงาม ใครถนัดทางไหน นำศักยภาพทางนั้นออกมาใช้ให้เต็มที่ ดีกว่าที่จะปล่อยให้ต่างคนต่างทำ แล้วก็เกิดการกระทบกระทั่งกัน ขัดแย้งกัน ทำลายกัน ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลย

คนเด่น คนดัง คนดี และคนเก่ง แต่ละคนควรจะมองหาความดีของกันและกัน ยกย่องสรรเสริญเขา ส่งเสริมให้เขาทำดีขึ้นมากๆ มิใช่ว่าเห็นใครดีใครเด่นกว่าตนแล้วทนไม่ได้ ต้องขัดขวางทำลายมันไม่ให้เกินหน้าเราอย่างนี้ใช้ไม่ได้

คนทุกคนมีคุณค่าที่หน้าที่ของตน คนมีหน้าที่ทำนาทำสวน มีคุณค่าในการปลูกข้าวและผลไม้ให้คนอื่นๆ ได้กินกัน คนมีหน้าที่สร้างตึกสร้างบ้าน มีคุณค่าในการปลูกบ้านให้คนอยู่ ปลูกอาคารให้คนใช้ คนมีหน้าที่ในการรักษาโรค มีคุณค่าในการบรรเทาทุกข์ทางกายและยืดอายุของคนป่วย คนมีหน้าที่ในการตัดสินคดี มีคุณค่าในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้มีเรื่องราว คนมีหน้าที่สอนธรรม มีคุณค่าในการบรรเทาทุกข์ทางใจ ความบีบคั้นจากกิเลสให้แก่คนมีกิเลสตัณหา เป็นต้น เราจะเห็นว่า ไม่มีใครปราศจากคุณค่าเลย ทุกคนมีคุณค่าในหน้าที่ของตัวเองทั้งหมด ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร ทุกคนเป็นคนเด่นด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เด่นกันคนละด้าน ตามความถนัดและการเรียนรู้ของตน



คัดลอกจาก หนังสือปรัชญาน่าคิด ของคาลิล ยิบราน

กราบขอบพระคุณครับ สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง