Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระยามันธาตุราช (อริยสจฺจานทสฺสนํ มงคลที่ ๓๓) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2006, 1:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในกาลล่วงแล้วนานมาก ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เจ้าบังเกิดเป็นบรมจักร ชื่อว่า พระยามันธาตุราช มีอำนาจแผ่ไปทั้ง 4 ทวีป มีช้างแก้ว จักรแก้ว ดวงวมณีแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว แก้วทั้ง 7 ประการนี้มีอานุภาพมาก พาเหาะเหินเดินอากาศเวหา เที่ยวรอบขอบจักรวาฬ แล้วกลับมาเสวยอาหารเช้าได้

พระยามันธาตุราชโพธิสัตว์มีสมบัติมากมายถึงเพียงนี้ ก็ยังไม่พอแก่ตัณหาความอยากได้ จึงขึ้นไปชิงเอาสมบัติในดาวดึงส์ พระอินทร์ก็แบ่งสมบัติให้กึ่งหนึ่ง บุญไม่ถึงอยู่ไม่ได้จึงกลับลงมา เป็นทั้งนี้ด้วยอำนาจแห่งตัณหา เพราะตัณหาเป็นตัวนาย ใช้สัตว์ทั้งหลายให้กระทำการงานที่หนักและเบา ด้วยเขาเป็นนาย ต้องกลัวเขาไม่ทำก็ไม่ได้ ทำไปจนวันตายก็ยังไม่พอแก่ความปรารถนา เพราะโลกคือหมู่สัตว์ทั้งปวงพร่องอยู่ด้วยตัณหา จะขนมาสักเท่าใดๆ ก็ไม่รู้เต็ม ด้วยอรรถว่า อุนฺโน โลโก โลกคือหมู่สัตว์พร่องอยู่ด้วยตัณหา แม่น้ำคงคาบางทีก็พร่องบางทีก็เต็ม แต่ตัณหานี้มีพร่องอยู่เป็นธรรมดา จะได้เต็มรู้ตื้นขึ้นหามิได้

อนึ่ง ตัณหานี้มีถึงร้อยแปดประการคือ ตัณหาภายใน 6 ตัณหาภายนอก 6 จัดเป็นอดีต 12 ปัจจุบัน 12 อนาคต 12 รวมเป็น 36 จัดเป็นกามตัณหา 36 ภวตัณหา 36 วิภวตัณหา 36 จัดลง 108 ทั้ง 108 นี้จัดเข้าเป็นบุญบ้าง บาปบ้าง เพราะฉะนั้นจึงมีบาลีว่า ตณฺหา นิสฺสาย ตณฺหา ปหาตพฺพา แปลว่า บุคคลที่ก่อสร้างกุศลมีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ต้องอาศัยตัณหา แล้วให้ละเสียซึ่งตัณหา

ถามว่าที่ให้อาศัยตัณหาแล้วให้ละตัณหานั้น จะอาศัยอย่างไร ? จะให้ละอย่างไร ?

ช่วยวิสัชนาต่อด้วยเจ้าค่ะ

ขำ ขำ ขำ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2006, 6:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อาศัยตัณหาละตัณหา
อาศัยกิเลสละกิเลส
อาศัยโทสะละโทสะ
อาศัยโลภะละโลภะ

ตัณหาละตัณหา เข้าใจว่าตัณหานี้ ไม่ใช่ตัณหาใน ทุกขสมุทัยอริยสัจ
แต่เป็นตัณหาใน ปฏิจจสมุปบาท ซึ่งมาจากอวิชชา ตัณหาซึ่งมาจากอวิชชานั้น
เป็นตัวที่ทำให้เรา มีมานะ ในการทำที่สุดแห่งทุกข์ เป็นความอยาก ซึ่งมีทั้งความอยากในทางที่ดี
และในทางที่ไม่ดี ความอยากในทางพ้นทุกข์นี้ก็ เป็นตัณหา ในปฏิจจสมุปบาท ซึ่งมีอวิชชาเป็น
ต้นเหตุ เพราะอาศัยตัณหาในทางพ้นทุกข์นี้เอง จึงทำให้ มีมานะพยายามในการปฏิบัติธรรม
จนทำที่สุดแห่งทุกข์ เมื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ได้แล้ว ตัณหาที่จะพ้นทุกข์ก็ไม่มีอีก

ส่วนตัณหาในอริยสัจนั้น เป็นกิเลสตัณหา
มีกามตัณหา ความปรารถนาในกามภพ คือปรารถนาในภพแห่ง กามคุณทั้งหลาย
ภวตัณหา ความปรารถนาในรูปภพ
วิภวตัณหา ความปรารถนาในอรูปภพ

อาศัยโทสะละโทสะ นี้คือ อาศัยความเกิดแห่งโทสะ เพื่อ พิจารณา โทสะ ว่าเป็นพระไตรลักษณ์
เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป พิจารณาบ่อยๆ เมื่อโทสะเกิดจิตจะไม่ยึดในความโกรธ จึงเรียกว่าอาศัยโทสะละโทสะ อาศัยโลภะละโลภะก็ทำนองเดียวกัน


วิสัชนา ตามกำลังปัญญาที่มี หากธรรมใด ผิดพลาดไป ขอขมาไว้ณที่นี้ด้วยครับ
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 8:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

: อาสัยความอยากได้สุขในสวรรค์ จึงหมั่นเพียรประพฤติปฏิบัติรักษาศีล ฟังธรรม
: อาศัยความอยากไปให้พ้นทุกข์ จึงเร่งนั่ง สมาธิ ทำภาวนา วิปัสสนา
: เมื่อเกิดปัญญาจึงรู้ว่าอาศัยความอยากนั้น ๆ มาส่งถึงตรงนี้แล้ว ถ้าละความอยากเสียคือ ไม่มีความอยากใดๆหลงเหลืออยู่ นั้นแลคือเข้าแดนนิพพาน
: คืออาศัยตัณหา มีความอยากในทางกุศลทั้งหลายเป็นพาหนะ
: เมื่อถึงจุดหมายแล้วก็ลงจากพาหนะนั้น อย่าให้ พาหนะนั้นพาไปไหน ๆ อีก จะหลงทางอยู่อย่างนั้น
ควรมิควร ใช่มิใช่ ถ้าผิดพลาดไป ขอท่านผู้รู้จริงทั้งหลายโปรดกรุณาแก้ไข ให้เป็นธรรม ด้วยเทอญ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 8:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณที่กรุณาช่วย ทำปัญญาให้กระจ่างค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง