Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 04 พ.ย.2004, 9:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้

ปัจจุบันนี้มีเรื่องร้ายๆ ให้ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นอยู่เสมอๆ เรื่องร้ายๆ ส่วนใหญ่มักเกิดจากตัณหาตัวเดียว ตัณหาที่ทำให้คนต้องอยู่ในห้วงแห่งอวิชชา หน้ามืดตามัว เห็นผิดเป็นชอบ ประกอบกรรมชั่วร้าย

มีชาย ๒ คนพี่น้อง คนผู้พี่มีภรรยาแล้ว ส่วนผู้น้องนั้นก็ไปคบหาทำชู้กับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้เกิดอาการหลงรักผู้น้องขึ้น จึงยุยงให้น้องฆ่าพี่เสียจะได้อยู่ด้วยกันอยางมีความสุข ฝ่ายน้องชายด้วยความรักที่ท่วมทับอย่างโงศีรษะไม่ขึ้นจึงเชื่อนางอย่างสนิทใจหวังจะได้อยู่ร่วมชายคาฉันผู้ผัวตัวเมียกับพี่สะใภ้

พี่ชายนั้น เมื่อถูกฆ่าตาย เขาได้คิดถึงความรักที่เฝ้าฟูมฝักต่อนางตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ทำให้เกิดความรักยิ่งในนาง ด้วยความนั้นเอง ทำให้เขามาบังเกิดเป็นงูเขียวอยู่ที่เรือนหลังนั้น ไม่ว่านางผู้เคยเป็นภรรยาจะนั่งในที่ไหน งูเขียวคงวนเวียนไปใกล้ๆ นางด้วยความรักใคร่อยู่ไม่ห่าง

แต่แล้วเหตุการณ์ซ้ำสองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เหมือนเหตุการณ์ที่หน้ารัฐสภาที่วนเวียนเกิดขึ้นไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างผู้มีอิทธิพลกับคนจนติดดิน...เมื่อนางบังเกิดโทสะฆ่างูเขียวซึ่งอดีตคือสามีของนางเสีย

ฝ่ายงูเขียวครั้นตายแล้ว ก็ยังมิวานจืดจางความรักที่มีต่อนางได้ จึงมาบังเกิดเป็นสุนัขอยู่ในบ้านนั้นนั่นเอง

ครั้นสุนัขนั้นเจริญเติบใหญ่ก็บังเกิดความรักใคร่หญิงนั้นอีก ไม่ว่านางจะไปไหน ก็คอยติดสอยห้อยตามไปเสียทุกที จนคนทั้งหลายพากันหัวเราะเยาะเย้ยว่านั่นพรานสุนัขไปแล้วๆๆ จนนางหมดความอดทน เธอสวนวิญญาณฆาตกรอีกครั้ง

สุนัขผู้โชคร้ายจึงกลายเป็นศพในเวลาต่อมา

สุนัขนั้น แม้เมื่อตายก็มิได้หายรักไม่ ยังคงรักนางอยู่ไม่จืดจาง จึงได้มาเกิดเป็นโคอยู่ในบ้านนั้น เมื่อเติบใหญ่ก็มีจิตรักใคร่ในหญิงนั้น จะไปไร่ไถนาก็ติดตามไป จนหญิงนั้นเกิดความไม่พอใจ ฆ่าโคตายไปในที่สุด

โคผู้น่าสงสาร แม้เกิดมาในกำเนิดแห่งเดรัจฉานแต่มันก็ยังมีความรักที่ได้ฟูมฝักมาแต่ครั้งยังเป็นคน ด้วยความรักอันนั้นจึงได้เกิดในท้องแห่งหญิงนั้นนั่นเอง

เมื่อนางคลอดบุตรมาแล้ว ปรากฏว่าเป็นชาย ตายายญาติพี่น้องต่างดีใจกันเป็นหนักหนาได้บุตรสักคราละทีนี้ ฝ่ายบุตรนั้น ทันทีที่คลอดออกมาก็ระลึกชาติได้ในหนหลังว่า หญิงผู้เป็นแม่นี้เป็นอริศัตรูกับเราทุกชาติทุกครา ไม่ว่าเราจะเกิดในกำเนิดใดก็ตามจองเวรจองภัยฆ่าไปเสียในทุกครา เมื่อระลึกได้ดังนี้แล้ว จึงไม่ให้หญิงผู้เป็นแม่นั้นจับต้องเลย พอนางจะอุ้มแกก็ร้องไห้จนลั่นบ้าน ตายายจึงนำมาเลี้ยงอุปการะไว้ตลอดมา

ครั้นทารกนั้นเติบใหญ่สอนพูดจาได้ ตายายจึงไต่ถาม ทารกนั้นจึงบอกความว่า หญิงนี้ไม่ใช่มารดาเป็นหญิงข้าศึก เบียดเบียนฆ่าให้ตายมาหลายชาติแล้ว คนทั้งหลายยายตาได้ฟังหลานเล่าเรื่องราวมาให้ฟังก็รู้เหตุ จึงมีความสังเวชสลดใจแล้วก็เลี้ยงไว้ ครั้นหลานโตใหญ่ตาก็พาหลานไปสู่วิหารแห่งหนึ่ง

๒ คนตาหลานก็บวชในพระพุทธศาสนา เจริญพระวิปัสสนาก็ได้สำเร็จพระอรหัต ตัดกิเลสขาดจากxxx ดับขันธ์แล้วเข้าสู่พระนิพพานพ้นจากกองทุกข์...

ตัณหา ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ส่วนใหญ่รู้กันไม่จริง ปล่อยให้มันครอบงำ เหมือนรู้จักโทษของสุรา ยาเสพติด บุหรี่ เหล้า เบียร์ แต่ก็ยังดื่ม ยังเสพ คนเหล่านั้น ไม่มีใครไม่รู้จักโทษของยาเสพติด แต่พวกเขาปล่อยให้ตัณหาครอบงำ การจะตัดตัวตัณหา ไม่จำเป็นจะต้องสละเรือน ออกบวชอย่างในนิทานธรรมบท แต่การพยายามถอนตัวเองจากอบายมุข และสิ่งไม่ดีทั้งหลาย อันเป็นการไม่สนองแก่ตัณหาตัวเอง ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการจะห่างจากอบาย


****************

นิทานธรรมะ จากวัดไตรมิตร
http://www.wattrimit.com
 

_________________
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 13 มิ.ย.2008, 8:57 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ขอบคุณครับ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง