Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
อยากเห็นวิญญาณ สิ่งศักดิ์สิทธ์ เจ้าที่ ต้องทำอย่างไร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
บัวอยู่ในโคลนตม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 18 พ.ค.2006, 4:09 pm
ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็น วิญญาณ ผีสางนางไม้ สิ่งศักดิ์สิทธ์ เจ้าที่เจ้าทางเลย หรือว่าเป็นคนจิตไม่ละเอียด หรือว่าไม่มีบุญ ถ้าเราอยากเห็นจะต้องทำอย่างไรบ้าง จะได้เชื่อว่าเรื่องพวกนี้มีจริง ไม่เคยลบหลู่เลย แต่อยากสัมผัสว่ามีจริงหรือเปล่า
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 1:31 am
พระครูญาณทัสสี (หลวงปู่คำดี ปภาโส)
วัดถ้ำผาปู่ อ.เมือง จ.เลย
(พ.ศ. ๒๔๔๕ - ๒๕๒๗)
บุคคลที่มีทานมาศีล แต่ขาดการภาวนานั้นเปรียบเหมือนบุคคลที่มีเสบียงพร้อมแล้ว มีร่างกายที่สมบูรณ์ มีกำลังวังชาที่ดี แต่บุคคลนั้นเป็นบุคคลที่ตาบอด เขาย่อมไม่สามารถเดินทางไปสู่นิพพานได้
...บรรดาสิ่งสมมุติที่เราไปยึดถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้นก็จะได้เพียงชีวิตหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา หรือสมบัติต่างๆ เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอีกไม่ได้ เราจะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นติดตามไปสวรรค์ นรก หรือที่ไหนไ ก็ไม่ได้ ตรงกับคำว่า สมบัติของโลก ก็ต้องอยู่ในโลก
ให้พากันไปสนใจเรื่องการภาวนา เราบังคับจิตใจให้เป้นของง่าย เพราะเป็นของมีอยู่กับตัว ไม่ต้องซื้อไม่ต้องขอ ไม่ต้องแลกเปลี่ยน เป็นสิ่งมีประโยชน์มาก ถ้าเราบำเพ็ญความสงบได้แล้ว มีประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม
เมื่อจิตใจรวมลงได้ละเอียดเป็นหนึ่ง ถึงแม้ว่า จะมีสัญญาอยู่บ้างก็ตาม ให้เรากำหนดยิ่งเฉย คำว่า นิ่งเฉย นี้ เปรียบเหมือนกับนายพรานดักเนื้อ เขาจะนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว แต่ตาของเขาจะมองดุสัตว์ต่างๆ ที่จะดักฉันใด การตั้งสติกำหนดจิตก็ฉันนั้น
บางคนภาวนาไปอยากเห็นภาพต่างๆ เช่น นรก สวรรค์ เทวดา เป็นต้น การที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรแปลก ที่ว่าไม่แปลกก็เพราะว่าเมื่อเราเห็นแล้วกิเลสของเราก้ยังอยู่เหมือนเดิม บางคนแถมยังทำให้เกิดกิเลสเพิ่มมากขึ้นอีกเสียด้วย คือ ถือว่าตนเองเป็นผู้วิเศษที่สามารถเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้ เลยไม่ยอมกราบไหว้ใครทั้งนั้น จนกลายเป็นสัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ ปิดกั้นทางมรรค ทางผล ทางนิพพาน
เรื่องของนิมิตนี้จะเกิดหรือไม่เกิดไม่สำคัญ เพราะว่าการที่เราทำสมาธิภาวนาก็เพื่อมุ่งให้เกิดความสงบภายในจิตใจเท่านั้น ถ้าผู้ปฏิบัติสามารถทำจิตใจของตนให้สงบเป็นอารมณ์เดียวได้แล้วก็พอเท่านั้น ไม่มีนิมิตเกิดขึ้นก็ไม่เป็นไร
...การภาวนา ท่านต้องการให้เราปราบกิเลสของเราเท่านั้น คือ เห็นความโลภ เห็นความโกรธของตน เห็นความหลงของตน เห็นราคะของตน เห็นมานะทิฐิของตน
ถึงแม้ว่าบุคคลใดจะทำสมาธิได้ดี จะได้รับความสุขขนาดไหนก็ตาม หรือจะได้อภิญญาเพียงใดก็ตาม ถ้า ไตรลักษณญาณ ยังไม่เกิดแล้ว ก็ยังนับว่าเป็น มิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิที่ยังผิด ยังอยู่ในวงเขตที่ผิด
ความจริงจิตใจของเราเองเป็นตัวก่อทุกข์ สังเกตได้จากพระอรหันตสาวกทั้งหลาย เมื่อท่านมีความรู้ มีปัญญาคุ้มครอง รักษาใจท่านดีแล้ว ท่านก็ไม่มีทุกข์ เพราะท่านไม่ปรารถนาในสิ่งต่างๆ
เมื่อเราประสบกับรูป กลิ่น เสียง หรืออื่นๆ ก็เพราะใจเรามีตัณหา ปรารถนา ทะเยอทะยาน ยินดียินร้ายในสิ่งเหล่านั้น ทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่ใช่ว่ารูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ หรือสิ่งอื่นๆ ที่จะได้มาเผาเราให้ร้อนเป็นทุกข์ ตัวของเราเองที่เป็นไฟมาคอยเผาตัวเอง
พวกเราท่านพากันฝึกหัดสติ ลูบๆ คลำๆ กันอยู่อย่างไรเล่า จึงไม่รู้ช่องแนวทางพ้นทุกข์เสียที ด้วยเหตุนี้ขอให้พากันยึดหลักสติปัฏฐานสี่ เป็นหลักฝึกสติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
http://www.edu.police.go.th/school/company1/budis.html
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 8:42 am
--------------------------------------------------------------------------------
เรามองให้เห็นวิญญาณก่อนดิ แล้วจะมองเห็นผีสางนางไม้เป็นต้น
วิญญาณในภาษาธรรมะน่าครับ
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
ตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 11:44 am
วิญญาณ ผีสางนางไม้ สิ่งศักดิ์สิทธ์ เจ้าที่เจ้าทาง เป็น อทิสมานกาย คือ กายที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ คนปกติไม่สามารถมอง เห็นได้ นอกจากเขาจะแสดงตนให้เราได้สัมผัส
สิ่งที่เราควรเห็นนั้นไม่ใช่ สิ่งเหล่านี้ แต่ควรเห็นจิตมากกว่า จิตนี้เป็นสินสิ่งที่ควร
ตามรู้ เป็นสิ่งที่ควรตามเห็น เป็นสิ่งที่ควรฝึก เพราะจิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำความสุขมาให้
ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า อทิสมานกายทั้งหลายจะช่วยเราพ้นจากทุกข์ไม่ได้เลยนอกจากตัวเราเอง
_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th