Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 นวลจันทร์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
อรัน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2006, 7:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

เมื่อยามกองไฟตรงหน้าจดับลง เมื่อยามพระอาทิตย์สิ้นแสง
ฉันเฝ้ามองจันทร์เจ้าด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยรัก
ห่างไกลแสนพันลี้ ไอละอองอันอบอุ่นของนวลจันทร์ยังส่งถึง

.
.
.
.

กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้

เมื่อยามพระอาทิตย์สิ้นแสง ดวงจันทร์เจ้าที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า
ลอยลงมา อยู่ในมือของคนธรรมดา เด็กโง่แสนยินดี
กำเก็บกักเอาไว้ในอ้อมอก ใจพิสุทธิ เฝ้ารักทนุถนอม ...

และแล้ว และแล้ว ฉันก็ได้รู้สภาพที่แท้จริงว่า
ดวงจันทร์เมื่ออยู่ในมือของฉันก็เป็นเพียงแค่
ก้อนหิน

แสงนวลใยนั้นหายไป

ดวงจันทร์ในมือฉันไม่มีแสงนวลใย

.
.
.
.
.

ฉันโยนดวงจันทร์กลับขึ้นไปบนท้องฟ้า

.
.
.
.

แต่ยังคงเฝ้ามองอยู่อย่างไม่คลาดสายตา
ฉับพลัน .... แสงนวลใยของจันทร์เจ้าก็เปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง

ฉันเฝ้ามองลำแสงนั้น ด้วยความสนใจ


เมื่อเฝ้ามองจึงพบว่า

ลำแสงนวลใยไม่ได้ อยู่กับจันทร์เจ้าตลอดเวลา
ข้างขึ้นจันทร์เจ้ายินดี รัศมีเปล่งประกาย
แต่เมื่อข้างแรมจันทร์เจ้าทุกข์ทนรัศมีหายไป

ฉันเห็นว่า

การเดินทางของฉันจะมารอลำแสงจากจันทร์เจ้าไม่ได้

เวลาเร่งเข้ามาทุกทีหากยังประมาท

อาจช้าเกินไป

อาจสายไป

อาจจบชีวิตเสียก่อน


ฉันจึงต้องทำอะไรสักอย่าง

ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง


.
.
.
.
.


ฉันรอลำแสงแห่งจันทร์ไม่ได้
ลำแสงแห่งจันทร์ไม่ใช่ของจริง
ลำแสงแห่งจันทร์เป็นเพียงภาพลวงตา
เป็นสิ่งสมมุติ ที่ฉันสร้างขึ้นมา เพื่อหลอกตัวเอง


.
.
.
.


การเดินทางของฉัน จักต้องทำทุกวัน
ทั้งกลางวันกลางคืน

ดังนั้น ต่อจากนี้ ฉันจำต้องละ รัศมีแห่งนวลจันทร์

และหันมาสร้างแสงสว่างให้กับตัวเอง

สิ่งนั้นคือ แสงสว่างแห่งปัญญา



ในทางแสนไกล


ในระยะแรกอาจลำบากหน่อย
แต่ฉันก็ต้องอดทน

อย่าท้อนะ

แม่มดอรัน

.........................



พระพุทธเจ้า เจ้าขาเป็นกำลังให้ลูกด้วย
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2006, 1:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จวบจนวันนี้ มณีไม่เคยลืมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ด้วยเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตใหม่ทั้งปวง ธรรมชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเนื่องต่อการปฏิบัติธรรมให้เจริญก้าวหน้าไปในทางที่ดี ดวงอาทิตย์ก็ดวงเดิม ดวงจันทร์ก็ดวงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง มนุษย์ต่างหากที่ลืมและทำลายธรรมชาติให้ย่อยยับลงไปด้วยน้ำมือมนุษย์เอง

จวบจนวันนี้ มณียังคงใช้ธรรมชาติในการปฏิบัติธรรมดังเดิม ไม่เคยลืม หากลืมคุณแห่งธรรมชาติแล้วไซร้ จะกำหนดระลึกรู้ตรงอารมณ์ ความรู้สึก เย็น ร้อน อ่อน แข็ง คลาย ตึง ทางกายได้อย่างไร นานแสนเนิ่นนานเพียงใด......ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ก็แทรกซึมอยู่ในดวงจิตดวงใจมณีดั่งเดิม......

ธรรมะสวัสดี

มณี ปัทมะ ตารา
พระอาทิตย์
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 27 เม.ย.2006, 12:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดวงจันทร์ ก็ดวงเดิม

ดวงสุริยา ก็ดวงเดิม

ท้องฟ้า ก็เหมือนเดิม

ท้องทะเล ก็เช่นกัน...

ความทรงจำ ณ ห้วงเวลาหนึ่ง ยิ่งเหมือนเดิม

เหมือนเดิมยิ่งกว่า ดวงจันทร์ ดวงสุริยา

ยิ่งกว่า ท้องฟ้า ท้องทะเล

ดวงใจฉัน ก็เช่นกัน...
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง