Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผลกรรม (นางปรียาภรณ์ ประภัศรานนท์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2006, 11:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ข้าพเจ้าชื่อ นางปรียาภรณ์ ประภัศรานนท์ ปัจจุบันอายุ ๔๘ ปี มีบุตรชาย ๑ คน อายุ ๒๔ ปี กำลังศึกษาอยู่ สามีรับราชการ ข้าพเจ้าเป็นคนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ข้าพเจ้าได้เข้ามาปฏิบัติธรรมครั้งแรกเมื่อวันเข้าพรรษาปี พ.ศ.๒๕๔๓ เป็นเวลาเพียง ๔ วัน การมาปฏิบัติในครั้งนั้นข้าพเจ้าไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็มิได้ลดละความพยายาม ยังคงเวียนมาวัดอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็ชวนเพื่อนหรือญาติพี่น้องมาเพื่อฟังคำสั่งสอนของหลวงพ่อ และได้นำหนังสือไปสวดมนต์ บทพุทธคุณ ธรรมคุณ และอิติปิโส เกินอายุ ๑ จบ

เนื่องจากในช่วงนั้นข้าพเจ้ายังเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจอยู่จึงไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาวัดเพื่อปฏิบัติได้บ่อยๆ ปัจจุบันข้าพเจ้าได้ลาออกจากงานแล้วจึงมีเวลาที่จะปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น นิสัยเดิมของข้าพเจ้าเป็นคนใจร้อน โกรธง่าย ไม่กลัวใคร ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ชอบดื่มสุรา เที่ยวเตร่ และเล่นการพนัน ไม่เคยเข้าใจเรื่องเวรกรรม

ข้าพเจ้าได้เคยแต่งงานมาแล้ว ๑ ครั้ง มีบุตรชาย ๑ คน สามีของข้าพเจ้าเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจเช่นเดียวกับข้าพเจ้า มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี เป็นคนรักครอบครัว แม้ข้าพเจ้าทำผิดก็ให้อภัย รู้จักประหยัด เหมือนมีกรรมบังตา ข้าพเจ้ากลับไม่ชอบไม่ถูกใจ มองว่าเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว ข้าพเจ้าชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนและดื่มสุราเป็นประจำ จนทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักกับสามีคนปัจจุบัน ซึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว ชอบดื่มสุรา เที่ยวเตร่ เล่นการพนัน และเจ้าชู้ แต่ข้าพเจ้ากลับมองว่าดี โดยมิได้เกรงกลัวต่อบาป

มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าได้มาวัดพร้อมกับพี่พาณิชย์ พี่พาณิชย์ได้เรียนหลวงพ่อว่า สามีของข้าพเจ้าเจ้าชู้มีภรรยาน้อยควรจะทำอย่างไรดี หลวงพ่อท่านหันมาทางข้าพเจ้า ชี้ใส่ข้าพเจ้า และกล่าวว่าก็เรามันไม่ดีเอง ถึงได้ไปเลือกเค้ามา ข้าพเจ้าก็รู้สึกเห็นจริงตามที่หลวงพ่อท่านกล่าว จึงตอบรับว่าเจ้าค่ะ

จึงเริ่มได้คิดว่าการดื่มสุรานี้ และการทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ตัดสินใจผิดๆ ขาดสติ โดยไม่คิดเกรงกลัวต่อบาป ไม่คิดว่าเวรกรรมมีจริง จนเมื่อได้มาปฏิบัติธรรมและได้ฟังคำสั่งสอนของหลวงพ่อในวันพระบ้าง จากเทปที่หลวงพ่อเทศน์บ้าง และจากหนังสือกฎแห่งกรรม จึงทำให้เข้าใจ และรู้ถึงผลกรรมมากขึ้น เมื่อทำไปแล้วก็ไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมาได้อีก คนเราเมื่อทำกรรมใดไว้ก็ย่อมต้องได้รับผลของกรรมนั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ปัจจุบันทำให้ข้าพเจ้าเลิกดื่มสุรา และเลิกเล่นการพนันโดยเด็ดขาด

จากผลกรรมที่ทำมาก็ทำให้ข้าพเจ้ามีความทุกข์ จนทำให้ต้องหาทางดับทุกข์ที่เราเป็นผู้ก่อขึ้นเอง เมื่อมาอยู่กินกับสามีคนปัจจุบันได้ประมาณ ๘ ปี สามีก็เริ่มประพฤติตนแบบเดิมๆ อีก ชอบออกเที่ยว เล่นการพนัน พูดจาโกหก (ติดผู้หญิงใหม่ พร้อมกับติดยาบ้าควบคู่กัน) ไม่ค่อยกลับบ้าน โดยที่ก่อนหน้านี้ เมื่อมาอยู่ด้วยกันกับข้าพเจ้า เค้าเริ่มรู้จักที่จะทำมาหากิน ช่วยกันสร้างฐานะ จนมีบ้านเป็นของตัวเอง ๑ หลัง มีรถยนต์ และมีที่ดินเพิ่มขึ้นถึงจะพอมีพอกิน ก็ดูจะมีความสุข

เมื่อสามีไปมีผู้หญิงคนใหม่จนมีลูกด้วยกัน ก็ยังไม่ยอมที่จะไปจากชีวิตของข้าพเจ้า ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าทุกข์ใจ มากขึ้น หาความสุขแทบไม่ได้ มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ จึงพยายามที่จะหาทางดับทุกข์ จนมีโอกาสได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ทำให้จิตใจที่เคยร้อน ก็เย็นลงได้บ้าง ถึงจะทำได้ไม่มากนักแต่ก็ยังดีกว่าก่อนที่จะมาปฏิบัติธรรม

ช่วงก่อนออกพรรษาปี ๒๕๔๓ สามีไม่เคยกลับมาบ้านเลยเนื่องจาก ขณะนั้นก็ยังติดยาบ้าและไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น ข้าพเจ้าก็คิดว่าคงจะจบกันได้แล้ว ไม่คิดที่จะอยากได้เค้าคืนมา แต่ก็อดเป็นห่วงเรื่องที่เค้าติดยาบ้าและยังเลิกไม่ได้ เวลาที่ข้าพเจ้าขึ้นห้องพระเพื่อสวดมนต์ทุกวัน ก็จะขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยแผ่เมตตาให้กับสามีของข้าพเจ้า หากสิ่งที่ลูกได้ปฏิบัติมานี้เป็นสิ่งที่ดีก็ขอให้สามีเลิกยาเสพติดได้ด้วยเถิด

จนถึงวันออกพรรษาข้าพเจ้าก็ได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน เป็นเวลา ๗ วัน ก็ได้แผ่เมตตาให้กับสามี และขอบารมีหลวงพ่ออีกเช่นเคย เมื่อปฏิบัติครบ ๗ วัน ข้าพเจ้าเดินทางกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นสามีก็กลับเข้าบ้านเช่นกัน ก็เป็นเวลา ๑ เดือน พอดี ที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นหน้าเค้าเลย เหมือนปาฏิหาริย์ สามีมาบอกกับข้าพเจ้าว่าเลิกยาบ้าได้แล้ว ข้าพเจ้าทำท่าไม่เชื่อ เค้าบอกว่าเลิกได้จริงๆ ข้าพเจ้าถามว่าเลิกได้ตั้งแต่เมื่อไร เค้าก็พูดโกหกว่าเลิกได้นานแล้ว

ข้าพเจ้าจึงพูดว่า เธอจะยอมรับความจริงไหมว่าเธอเพิ่งเลิกได้ก่อนหน้าที่จะมาพบกับฉันเพียง ๒-๓ วันนี้เอง เค้าก็ยอมรับว่าใช่ และเล่าถึงการที่เลิกได้ว่าช่วงที่ข้าพเจ้าไปวัดเค้าได้กลับมาบ้านแต่ไม่พบข้าพเจ้า เนื่องจากปกติคนเราถ้าติด (ยาบ้า) หากไม่ได้เสพก็จะรู้สึกปวดหัว และทุรนทุราย แต่นี่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเสพแล้วกลับปวดหัวมาก เวลานอนเหมือนมีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอก คล้ายมีสัญญาณมาเตือนว่า ถ้าขืนเสพต่อไปไม่รอดแน่ จึงรีบกลับบ้านมาตามหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมนั้น ช่วยให้คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือลูก เป็นคนดีได้ ปัจจุบันสามีเลิกยาบ้า และลูกของข้าพเจ้าก็เชื่อฟังไม่ค่อยเถียงเหมือนแต่ก่อน

เรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมานี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ถึงแม้จะไม่ละเอียดเหมือนกับชีวิตจริง แต่ใครที่อ่านแล้วต้องประสบกับเวรกรรมที่คล้ายคลึงกับข้าพเจ้าก็พอจะเป็นแนวทางให้ท่านได้นำไปปฏิบัติอย่าได้ท้อแท้กับชีวิต ตั้งใจปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ควบคู่กัน ท่านต้องตั้งใจทำจริงๆ แล้วท่านจะได้พบกับสิ่งดีๆ ในชีวิตของท่าน ซึ่งท่านสามารถ จะรู้ได้ด้วยตนเอง สำหรับท่านปฏิบัติดีอยู่แล้ว หากท่านได้มาลองปฏิบัติธรรมดูท่านก็จะได้ดียิ่งขึ้นไปอีก จะได้ไม่เดินทางผิด การมีเงิน มีทอง มีทรัพย์สมบัติมากมาย นั่นเป็นเพียงความสุขทางกาย แต่ความสุขทางใจนั้นหาได้ยากมาก

ข้าพเจ้าเองก็ต้องขอขอบคุณสามีของข้าพเจ้าที่ทำให้ข้าพเจ้าได้พบกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ถึงความทุกข์ รู้ถึงเวรกรรม ผลกรรมที่ได้กระทำมา จึงทำให้ข้าพเจ้าได้มาพบกับ (หลวงพ่อจรัญ) ซึ่งมีแต่ความเมตตา และพร่ำสั่งสอนให้เอาของจริงไปปฏิบัติ ข้าพเจ้าจะตั้งใจปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ควบคู่กันไป ตามคำสั่งสอนของหลวงพ่อ ให้รู้จักรักตัวเอง อย่าเอาจิตไปฝากไว้กับคนอื่น เดี๋ยวนี้เมื่อสามีออกจากบ้าน ข้าพเจ้าก็สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องเที่ยวออกไปตามดูให้ต้องทุกข์ใจ

ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อจรัญ ที่ท่านได้พร่ำสอน จนข้าพเจ้าได้พบกับความสุขที่แท้จริง ขออำนาจคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงประธานพรให้หลวงพ่อมีความสุข มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ให้กับลูก หลานทั้งหลาย ที่ยังหาหนทางที่จะพ้นทุกข์ยังไม่เจอ


คัดลอกจาก: หนังสือกฎแห่งกรรมเล่มที่ ๑๗
วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงห์บุรี
http://www.jarun.org/v5/th/lrule17r02.html
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2006, 4:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





สาธุครับคุณลูกโป่ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง