Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ปัญหาทางใจ (ท.เลียงพิบูลย์)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
ตอบเมื่อ: 04 เม.ย.2006, 4:50 pm
ปัญหาทางใจ
โดย ท.เลียงพิบูลย์
จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๖
คืนหนึ่งราว ๒๒.๐๐ น. จะขาดเกินก็ไม่มากนัก ข้าพเจ้ากำลังเขียนหนังสือ เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อยกหูโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงพูดถึง ถามข้าพเจ้าอยู่ไหมจึงตอบไปว่า อยู่และผมกำลังพูด เสียงนั้นแสดงว่ามีความดีใจพูดว่า
เคราะห์ดีผมกำลังหนักใจ กลัวว่าจะไม่พบหรือต่อผิด เมื่อทราบว่าเป็นคุณ ผมก็ดีใจ จะขอให้คุณช่วยแนะนำเพราะผมกำลังเดือดร้อนมาก คิดว่าคุณคงช่วยแก้ปัญหาให้เบาลงได้ ผมชื่อ.. และคุณคงไม่รู้จักผมแต่ผมรู้จักคุณดี และสนใจติดตามอ่านหนังสือของคุณตลอดมา
ข้าพเจ้าบอกว่า ขอบคุณครับ และมีปัญหาเรื่องอะไรที่คุณจะให้ผมช่วยแก้ แต่ผมก็ไม่จัดเจนแก้ปัญหาอะไรที่ยากๆ โปรดอย่าหวังอะไรว่าผมจะช่วยได้ให้มากนัก
เสียงทางโทรศัพท์พูดว่า
ขอบคุณครับ เรื่องที่ผมทุกข์ใจเวลานี้ก็มีเพียงว่า เมื่อประมาณปีเศษ ภรรยาผมได้ตกลงขายที่ไปแปลงหนึ่ง แต่มาบัดนี้ที่แปลงนั้นผู้ซื้อได้ขายต่อได้กำไรหลายแสน เรื่องนี้ทำให้ภรรยาผมรู้ข่าวมีความเสียใจเศร้าโศกเสียดายที่ขาดเงินไปหลายแสน เธอกลุ้มใจเสียใจจนจะไม่เป็นอันกินอันนอน ซ้ำกลับโกรธคนที่ซื้อที่แปลงนั้นจากเราไปด้วย บางครั้งก็นอนร้องไห้ เพราะยังคิดก็ยิ่งเสียดาย
ผมกลัวแกจะเป็นโรคประสาทหากปล่อยไว้ไม่หาทางแก้ไข ผมได้พยายามปลอบโยนแกและอธิบายเท่าไหร่ ยกตัวอย่างร้อยแปดพันเก้ามาชี้แจง แกไม่ยอมฟังเสียงผมเลย ผมก็จนปัญญาจึงนึกถึงคุณ คิดว่าคงจะช่วยให้ผมได้รับความเบาใจ เมื่อภรรยาผมหายเศร้าเสียดายในเรื่องขายที่ครั้งนี้ได้เป็นปกติแล้ว ก็เท่ากับคุณมาช่วยยกภูเขาออกจากอกผมไปได้ ผมเองเมื่อก่อนก็เสียดายเหมือนกัน เพราะเงินผิดกันหลายแสน แต่เมื่อภรรยาผมเกิดเสียใจมากมาย ผมก็หาย กลายเป็นเรื่องวิตกห่วงภรรยาผมมากกว่า
ข้าพเจ้าฟังดูแล้วก็รู้สึกว่า เหตุการณ์เช่นนี้คงจะเกิดขึ้นเพราะความโลภเห็นแก่ตัวติดเป็นนิสัย เมื่อเห็นว่าเขาขายได้กำไรมากมายหลายแสนเช่นนี้ เกิดเสียดายอิจฉาขึ้นมา แต่หาได้พิจารณาดูให้ลึกลงไปว่า สิ่งใดที่ผ่านไปแล้ว แม้จะเศร้าเสียใจเสียดายก็ไม่สามารถจะให้กลับคืนมาได้ เมื่อได้ซื้อขายพ้นมือไปแล้วก็ไม่ควรคิดเสียดายเสียใจ นำมาขบคิดให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นมีแต่โทษอาจทำให้เป็นโรคประสาทขึ้นได้ หากไม่กำจัดความเห็นแก่ตัว
ข้าพเจ้าถามว่า
คุณเชื่อกรรมไหม
เสียงตอบมาอย่างแจ่มใสว่า ผมเชื่อครับและไม่มีข้อสงสัยเลย
ข้าพเจ้าจึงบอกว่า คุณอธิบายเรื่องกฎแห่งกรรมให้แม่บ้านของคุณทราบว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเข้าอยู่ใน
กรรม
เมื่อเรายังมีความโลภเหลืออยู่ในความรู้สึก เราก็หาความสบายใจไม่ได้ ทั้งที่เรารู้แล้วว่า ที่ดินแปลงนั้นขายไปแล้วไม่มีโอกาสเป็นของเราอย่างเดิมอีก ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่เกิดประโยชน์อะไร เราก็ยังกลับย้อนเอามาคิดเสียใจเสียดาย เท่ากับเราหาทุกข์ใส่ตัวเราเองมันไม่เกิดประโยชน์ดีขึ้นมา
เพราะเวลาขายเราก็เห็นดีเห็นชอบพอใจแล้ว เพราะเราก็คิดแล้วว่าได้กำไรมากกว่าต้นทุน แต่เมื่อที่ดินเกิดมีราคาสูงขึ้น เราจะเสียใจทำไมเพราะเรามีโอกาสวาสนาตามผลของกรรมเท่าที่เราขาย ส่วนผู้ที่ซื้อไปก็เป็นลาภเป็นผลกำไรตามผลของกรรมเช่นกัน อย่านึกอะไรให้มากเลยมีแต่เกิดโทษไม่เกิดประโยชน์อะไรดีขึ้น ขอร้องให้ภรรยาของคุณหักใจเสียเถิดครับ
ถึงเวลานี้คุณก็ไม่ขาดทุน ถึงยากจนอะไรมีความเป็นอยู่สะดวกสบายทุกอย่าง เราควรพอใจเวลานี้ บ้านคุณในห้องก็มีเครื่องทำความเย็น มีโทรทัศน์สี มีบ้านอยู่อย่างสุขสบาย สิ่งเหล่านี้จงใช้ปัญญาคิดดูให้ดี จะเห็นว่าเราก็เพียงได้อาศัยความสะดวกสบายแก่เราเมื่อยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น อย่าให้ความสะดวกสบายทางกาย ทำลายความรู้สึกทางใจ เมื่อใจมีทุกข์ความสะดวกสบายทางกายก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เสียงทางโทรศัพท์พูดว่า คุณรู้ได้อย่างไรว่าบ้านผมในห้องมีเครื่องทำความเย็น มีโทรทัศน์สี คุณมีญาณหรือจึงมองเห็นในบ้านผม
ข้าพเจ้าหัวเราะแล้วพูดว่า เปล่าหรอกครับ ผมไม่มีความรู้ทางญาณหรืออะไร แต่ผมเดาเอาว่าเป็นต้องมีสิ่งบำรุงความสะดวกสบายเหล่านี้แน่ไม่ผิด เพราะแรกมีที่ดินราคาล้าน และผมได้ยินเครื่องทำความเย็นในห้องคุณอยู่ไม่ไกลจากโทรศัพท์ ส่วนโทรทัศน์สีนั้นผมได้ยินเสียงเด็กพูดกันว่าสีเข้มไปไม่ชัด เสียงเข้ามาทางโทรศัพท์ สิ่งเหล่านี้ผมเอาเหตุผลประกอบขึ้นมาเดาเท่านั้น จะผิดหรือถูกก็อีกเรื่องหนึ่ง เห็นจะเป็นเพราะโทรศัพท์คืนนี้ได้ยินชัดเจนก็ได้
เสียงหัวเราะทางโทรศัพท์ แล้วพูดว่า คุณเดาได้ถูกต้องมาก คุณเป็นคนช่างสังเกตดี แต่จะทำอย่างไรจึงจะทำให้ภรรยาผมหายเศร้าเสียใจได้บ้างครับ โปรดแนะนำด้วย เพราะผมศรัทธาคุณมานานแล้ว อย่าให้ผมผิดหวัง
(มีต่อ)
_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 8:07 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
ตอบเมื่อ: 04 เม.ย.2006, 4:54 pm
ข้าพเจ้าจึงตอบว่า อย่าหวังอะไรให้มากนัก บางเวลาก็แทบเอาตัวไม่รอด ช่วยตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
แล้วเสียงพูดมาว่า แล้วแก้ด้วยวิธีไหนล่ะ
ข้าพเจ้าตอบว่า ผมต้องเอาหลักธรรมะแก้ทางจิตใจ พิจารณาแล้วข่มความรู้สึกให้พ้นไป
แต่แล้วได้ยินเสียงพูดว่า ผมเชื่อคุณครับ อย่างน้อยคุณก็รับรู้และรับปากว่าจะช่วยก็ทำให้ผมสบายใจขึ้น
ข้าพเจ้าก็ได้บอกว่า ขอบคุณที่ไว้ใจผม และอยากจะถามว่าภรรยาของคุณเชื่อ กรรม หรือเปล่า ถ้าเชื่อก็ขอให้พิจารณาดูตัวเองว่า กำลังจะตกลงไปอยู่ในความหมุนเวียนของกรรมอยู่แล้ว ถ้าหากไม่ทำจิตใจให้สูงขึ้นพ้นจากความโลภความเสียดายเสียใจได้ ก็ขอให้คุณจงเตือนเธอ อย่าให้มัวคิดสอยดาวบนท้องฟ้าเลย
เสียงทางโทรศัพท์พูดว่า ผมไม่เข้าใจ หมายความว่าอะไร จะชี้แจงให้เธอเข้าใจ
ข้าพเจ้าบอกว่า คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อย่าเอามาคิดให้เกิดเศร้าโศกเสียดายเลย เพราะเป็นของผู้อื่นไปแล้ว ไม่มีวันจะกลับคืนมาอีก คนธรรมดามองแต่สิ่งแวดล้อม เสียดายใจเพราะยังยึดถืออะไรในโลกว่าเป็นของเรา ถ้าคิดถึงหลักธรรมพิจารณาให้ซึ้งถึงธรรมชาติของสัจธรรม แล้วไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นไกล
สิ่งที่เราครอบครองอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินตึกรามบ้านช่อง สินทรัพย์ทุกอย่างที่เราถือกรรมสิทธิอยู่นี้ พระท่านบอกว่าไม่ใช่ของเรา แม้เราจะหามาได้โดยความบริสุทธิ์ด้วยสติปัญญา ก็อย่ายึดถือว่าเป็นของเรา เพียงแต่เราได้อาศัยอยู่กินเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ เมื่อหมดลมไปแล้วก็ไม่ใช่ของเรา
ถ้าไม่ตกอยู่กับลูกหลานก็ตกไปเป็นของผู้อื่น บางครั้งเรายังไม่ทันสิ้นลมก็เปลี่ยนเป็นของผู้อื่น เราพิจารณาดูผืนดินที่คิดว่าเราเป็นเจ้าของนั้น ได้เปลี่ยนมาจากผู้ที่เคยยึดถือเป็นเจ้าของมาแล้วแต่อดีต กว่าจะถึงเราไม่รู้ว่ากี่เจ้าของ อย่างน้อยก็เปลี่ยนจากปู่ย่าตายายมาสู่เรา
ท่านเหล่านั้นก็เพียงอาศัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ทุกอย่างอะไรในโลกไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง แม้แต่สังขารร่างกายของเรา เมื่อหมดลมแล้วเขาก็นำไปเผาเหลือแต่วิญญาณที่ไม่ตาย ย่อมจะล่องลอยไปตามกฎแห่งกรรม ใครทำดีก็นำไปลู่สุคติ ใครทำชั่วก็ไปสู่ทุกคติ
ฉะนั้น หากเราเชื่อหลัก กรรม ในทางพระพุทธศาสนา ก็ควรสติปัญญาพิสูจน์ตัวเราเอง และหยุดความดิ้นรนในทางผิด หยุดโลภอย่างไม่รู้อิ่มรู้พอ ผู้ใดสามารถใช้ปัญญาหาหลักธรรมได้ เมื่อปฏิบัติแล้วทำให้เกิดประโยชน์ สามารถปลดเปลื้องความทุกข์ เมื่อได้ตัดกิเลสตัณหาออกจากตนได้ก็ตัดต้นเหตุแห่งทุกข์ได้ และหลุดพ้นจากโลภ รัก โกรธ หลง ก็จะทำให้จิตสงบบริสุทธิ์และว่างเว้นจากความชั่วใดๆ สิ่งนั้นเป็นความสุขที่สุดยอดของมนุษย์ที่สามารถจะหาได้ พระพุทธองค์ทรงยกย่องว่า ผู้มีปัญญานั้นเลิศประเสริฐในโลกมนุษย์ ผู้มีปัญญาย่อมมีความปรีชาสามารถมองเห็นหลักธรรมและปฏิบัติให้หลุดพ้น และสามารถจะประกอบกรรมให้เกิดประโยชน์สุขแก่ส่วนรวมทั่วไป คุณลองคิดพิจารณาแล้วอธิบายให้เธอฟัง
เสียงโทรศัพท์บอกมาว่า ขอบคุณครับ สำหรับผมเชื่อแล้ว แต่เธอจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ ผมได้พยายามหาทางให้เธอหายเศร้าโศกเสียดายจนหมดปัญญาแล้ว
ข้าพเจ้าถามว่า ภรรยาของคุณเธอเคยอ่านกฎแห่งกรรมบ้างไหม และที่บ้านมีหนังสือ กฎแห่งกรรม หรือเปล่า ?
เสียงตอบมาว่า บ้านผมมีครับ แต่รู้สึกว่าเธอไม่ค่อยได้อ่าน ผมเก็บไว้ทุกเล่ม ผมจะพยายามหาให้ครบ
ข้าพเจ้าบอกไปว่า คุณเจาะจงให้เธออ่านเรื่องที่ ๕๑ ในเรื่อง พบคนดี และอ่านเรื่องที่ ๕๔ ใครจะอยู่ค้ำฟ้า บางทีอาจช่วยจิตใจให้เธอดีขึ้นก็ได้ หากว่าเธอยังไม่หายเสียดาย ก็ให้เธอใช้สติปัญญาพิจารณาดูตนเองและฐานะความเป็นอยู่ แล้วพิจารณาดูผู้ที่มีฐานะต่ำกว่า และพวกหาเช้ากินค่ำต้องได้รับความลำบากกว่าเราเพียงไรแล้ว พิจารณาไกลออกไปถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงและไกลออกไป
เช่น ประเทศอาหรับประชาชนได้รับความลำบากยากแค้นเพียงไหน ต้องอพยพหนีภัย เมียพลัดผัว ลูกพลัดแม่ พี่พลัดน้อง ที่เคราะห์ร้ายก็ต้องเสียชีวิตเพราะถูกฆ่าทารุณ ชีวิตไม่มีค่า ขาดความคุ้มครอง อดอยากขาดอาหาร ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนช่วยตัวเองเพียงหวังเอาชีวิตรอดเพื่อหาความอิสระ
พิจารณาให้ลึกซึ้ง เอาใจเขาไปใส่ใจเรา ถ้าเราเป็นเขาจะมีความรู้สึกอย่างไร เมื่อได้เปรียบเทียบชีวิตเรากับชีวิตเขาแล้วกลับมาพิจารณาตัวเราอีกครั้งหนึ่ง คิดว่าเธอคงสบายใจขึ้นมาก ถ้าเธอตัดใจได้ ทำจิตใจให้สงบ เมื่อเปรียบเทียบก็เหมือนเธออยู่ในสวรรค์ พวกเหล่านั้นเสมือนอยู่ในนรก เพราะจิตใจมีแต่ความหวาดกลัววิตกกังวล นี่เป็นไปตามกฎแห่งกรรม
แต่แล้วได้ยินเสียงโทรศัพท์พูดมาว่า ครับ ผมจะลองอธิบายและให้อ่านตามที่คุณได้บอกนี้ จะเปรียบเทียบฐานะและชีวิตของบุคคลต่างๆ และขอบคุณที่ต้องเสียเวลาพูดกับผมมาก
ข้าพเจ้าบอกว่า ไม่เป็นไรครับ ถ้าผมสามารถจะช่วยทำให้ภรรยาของคุณหยุดเสียดายคิดถึงราคาที่ดินสูงขึ้นได้ผมก็ยินดี ผมเองก็มีความสบายใจและขอให้คุณโชคดี และจะได้ให้ผมสบายใจด้วย สวัสดีครับ
ตั้งแต่นั้นต่อมาหลายเดือน ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าการที่แนะนำไปในคืนนั้นจะเกิดผลหรือไม่ เพราะไม่ได้รับข่าวจากท่านผู้นั้นอีกเลย
....................... เอวัง .......................
_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th