Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
กรรมที่ทำกับนก (อ.ดวงอมร กฤษนำพก)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
๛ สายลม ๛
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 26 ก.ค.2004, 2:10 pm
กรรมที่ทำกับนก
รวบรวมโดย อ.ดวงอมร กฤษนำพก
นกเป็นสัตว์ปีกที่มีความน่ารัก น่าเอ็นดู ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างประเทศก็นิยมเลี้ยงไว้สามารถผ่อนคลายความเครียดได ้ ไม่ว่านกหรือสัตว์อื่นใดก็ตาม ก็มีความเจ็บปวดเหมือนกัน แต่นกพูดภาษาให้เรารู้เรื่องไม่ได้เท่านั้น คนเราถ้ารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างชีวิตก็อยู่เป็นสุข โลกก็จะร่มเย็นไม่ร้อนลุกเป็นไฟอย่างในบางประเทศ
สมศักดิ์เป็นเพื่อนของข้าพเจ้าตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ เขาเป็นลูกคนจีน บ้านอยู่ฝั่งธนฯ ตั้งแต่เด็กเขาชอบยิงนก เขาได้ขุดดินเหนียวมาปั้นเป็นลูกกลมๆ โตขนาดนิ้วชี้แล้วตากแดดให้แห้ง ตัดง่ามไม้เอาหนังสติ๊กผูกเข้า ก็ได้เครื่องมือยิงนกแล้ว เขากับเพื่อนอีกสองสามคนเดินผ่านไปตามสวน เมื่อเห็นก็จะยิงทันที ซึ่งการยิงของเขามิได้ยิงเพื่อให้ตาย แต่ยิงเพื่อสนองความแม่นยำของตนเองว่าจะยิงแม่นแค่ไหนเท่านั้น เขายิงถูกบ้างไม่ถูกบ้างตามประสาเด็ก และเพื่อความสนุกสนานไปวันๆ เมื่อโตขึ้นพอแตกเสียงหนุ่มเขาก็เลิกจากการยิงนก เริ่มหานกมาเลี้ยงไว้ หากรงให้อยู่ เช่น นกที่มีขนสวยๆหลากสี นกแก้ว นกหงส์หยก แม้แต่นกพิราบนั้นเขาทำที่ให้อยู่บนหลังคา พอเช้าก็ปล่อยไป ให้ไปหากินตามเรื่อง พอได้เวลาก็จะกลับเข้ากรงเอง โดยไม่ต้องไปตามหาให้เหนื่อย สมศักดิ์เลี้ยงนกไว้คู่หนึ่ง นกคู่นี้สวยมาก เสียงร้องก็ไพเราะ วันหนึ่งๆ ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนเขาจะมาดูนกของเขา และหลังกลับจากโรงเรียนแล้วเขาก็มาให้อาหารทุกวัน วันหนึ่งเกิดมีความคิดว่าถ้านกคู่นี้มีความเชื่องอย่างนกพิราบบ้างก็จะดี จะได้ปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่ต้องเลี้ยงแบบกักขังไว้ เพื่อนจึงแนะนำมาว่า ทำวิธีนี้ซิ บางทีนกเชื่องบินไปไม่ไหว คือ จับขาของนกคู่นี้ แล้วแกว่งจนหมุนติ้วแล้วเอาวางลงนกก็จะบินไปไม่ไหว สมศักดิ์ได้ทำตามวิธีที่เพื่อนบอก และนกมันก็ไม่บินจริงๆ จะอยู่นิ่ง และเมื่อเห็นว่านกไม่บินไปไหนตามวิธีนี้ วันใดที่เขาจะให้นกอยู่กรงเขาก็จะทำวิธีดังกล่าว บ่อยครั้งขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตนกำลังก่อกรรมกับสัตว์เลี้ยงของตนอยู ่
ต่อมาเมื่อเขาจบการศึกษาแล้ว พ่อแม่ของเขาได้ย้ายครอบครัวไปอยู่จังหวัดนครราชสีมา เขาได้เปิดร้านขายของและรับซื้อของเก่าปรากฎว่ากิจการดีขึ้นเรื่อยๆ เขามิได้คิดถึงการกระทำของเขาตั้งแต่ตอนเด็กอีกเลย อายุของเขาอยู่ในราวหนุ่มใหญ่ กิจการของเขาเจริญดี การเงินก็พลอยดีไปด้วย จะซื้อหาอะไรก็สมความตั้งใจ แต่ร่างกายของเขามิค่อยจะดี เขามีอาการมึนศรีษะ และปวดหัวมากขึ้นบ่อยๆ เขาได้ไปเช็คตามโรงพยาบาลหลายแห่งปรากฎว่า ความดันก็ไม่เป็น โรคอะไรก็ไม่เป็น หมอตรวจหาสาเหตุไม่พบว่าเขาเป็นอะไร ก็ได้ให้ยาแก้ปวดมารับประทาน อาการของเขาก็เป็นๆ หายๆ ถ้าจะเป็นก็เป็นขึ้นมาเฉยๆ ถ้าจะหายก็หายเอง เป็นอยู่เช่นนี้หลายปีเขาจึงมาคิดว่า เคยทำอะไรไว้นะจึงได้มาเป็นแบบนี้ คืนหนึ่งเขาได้นอนหลับแล้วฝันไปว่า เห็นนกที่เขาเคยนำมาเลี้ยงและจับมันเหวี่ยง มานั่งอยู่ตรงหน้า แล้วบอกว่าเวียนหัวเหลือเกิน หัวหมุนไปหมดแล้ว เขาฝันเช่นนี้สามคืน เขาจึงคิดว่า อาการปวดมึนศรีษะของเขาคงเหมือนกับนกตัวนั้นนั่นเอง เขาเริ่มนึกถึงกรรมที่เขากระทำโดยไม่ได้ตั้งใจ คือการกระทำเพื่อความสนุก โดยมินึกถึงว่า สัตว์ก็มีชีวิตเหมือนเราและมีความเจ็บปวดเหมือนเรา เขาจึงเริ่มทำบุญใส่บาตรบ้าง ทำกากุศลต่างๆ เพื่อขออโหสิกรรมจากนกคู่นั้นและนกที่เขายิงมา และขอให้อาการของโรคที่เป็นอยู่ให้หายเถิด เขาเริ่มปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งภายในเวลาไม่นานนัก อาการดังกล่าวของเขารู้สึกว่าดีขึ้น จากที่มึนและปวดศีรษะนั้นเบาบางลงมากแล้ว แต่ก็ยังมีนิดหน่อยที่เป็นบางครั้ง
นี่แหละหนากรรม บางคนทำโดยมิได้ตั้งใจหรือทำเมื่อตอนเป็นเด็ก ก็มิได้ถูกยกเว้นเลย ผู้ทำจะต้องได้รับผลกรรมทุกชนิด ทุกรูปแบบที่ตนกระทำนั่นแหละ และกรรมนี้จะตามมาส่งผลต่อเมื่อถึงเวลา ฉะนั้นเวลาทำอะไรขอให้นึกถึงเรื่องกรรมบ้าง
ขอให้นึกถึงตัวเองในอนาคตบ้างว่าจะต้องมารับผลกรรมที่ตนเองสร้างไว้ในอด ีต ในอดีตเคยทำความชั่วแล้วสุขสบายเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่ในอนาคตต้องมาชดใช้กรรมเวร และอย่าได้เที่ยวไปทำพิธีตัดกรรมตัดเวรที่ไหนๆ เลย ใครทำใครก็รับ กฎแห่งกรรมที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาสั่งสอนชาวโลกนั้นศักดิ์สิทธิ์และเที่ยง แท้ยุติธรรมที่สุด
ขอให้จำไว้ในหัวใจว่า ทำดีได้ดี..จริง ทำชั่วได้ชั่ว..จริง ชีวิตนี้จะเป็นสุข ไม่มีทุกข์ภัยแต่อย่างใด
..............................................
ข้อมูลจาก
http://thaipost.com/lawyer/index.php?action=vtopic&forum=2
^^^
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2006, 4:22 pm
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th