Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 วิญญาณกรุณา (ท.เลียงพิบูลย์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2006, 7:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

วิญญาณกรุณา
โดย ท.เลียงพิบูลย์

จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๒



สิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ในโลกมนุษย์ทุกวันนี้ยังมีอีกมากมาย แม้นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนี้ จะสามารถสร้างยานอวกาศ และคำนวณระยะทาง และเวลาที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปโคจรถึงดวงจันทร์ จนสามารถลงไปเหยียบย่ำเดินเล่นบนพื้นดวงจันทร์มาแล้ว จนทำให้ชาวโลกทั้งหลายตื่นเต้นเป็นประวัติยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ที่มนุษย์เราสามารถพิชิตดวงจันทร์ได้ นับแต่โลกอุบัติขึ้นในจักรวาลอันกว้างใหญ่ นับไม่ถ้วนว่ากี่หมื่นพันล้านปีผ่านไปแล้ว

แต่ยังมีสิ่งลึกลับมหัศจรรย์อยู่ในพื้นโลกอีกมากมาย ที่ทางนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย ยังไม่สามารถจะค้นคว้าหาทางพิสูจน์ออกมาให้เห็นแจ่มแจ้งได้ แม้ในยุคปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ทั้งในและนอกประเทศ ส่วนมากได้รับแล้วว่า เรื่องลี้ลับในทางวิญญาณนั้น ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลเชื่อกันอย่างงมงาย

เช่นสมัยก่อนที่เคยมีผู้แสดงตัวว่าเป็นคนมีความรู้สมัยใหม่ มักชอบหัวเราะเยาะหาว่าพูดในเรื่องที่ไม่มีเหตุผลจะพิสูจน์ได้ว่าวิญญาณมีตัวมีตน แต่ชั้นปัญญาชนที่สูงด้วยปัญญาและความรู้จะนิ่งรับฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้พิจารณาด้วยความสงบ และไม่ยอมวิจารณ์ดูถูกว่า หลงใหลหรืองมงายอย่างใดเลย จะถือเพียงว่ายังเป็นสิ่งลี้ลับ ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ และยังต้องใช้เวลาคอยวันหนึ่งข้างหน้า เชื่อแน่ว่า ทางวิทยาศาสตร์คงสามารถค้นคว้าหาเหตุผลออกมาได้อย่างชัดเจนและพิสูจน์ได้ เช่นเดียวกัน

เมื่อสมัยก่อนถ้าใครจะไปพูดและอธิบายว่า ทางวิทยาศาสตร์เขาจะส่งมนุษย์ขึ้นไปเดินเล่นบนดวงจันทร์ ก็มีคนไม่น้อยเขาจะร้องว่า "บ้า" มันไม่มีทางจะเป็นไปได้เลยกลับหาว่าเป็นพวกบ้าๆ บอๆ ปัดความรู้สึกสนใจให้ห่างไกลออกไป แต่ปัญญาชนเขาจะนิ่งฟังและพิจารณา แม้จะยังมองเห็นทางหวังว่าจะสำเร็จได้ เพียงรอคอยเวลาเท่านั้น และบัดนี้มนุษย์ก็พิชิตดวงจันทร์ได้สำเร็จแล้ว เมื่อคืนวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เวลาย่างเหยียบบนดวงจันทร์ในเวลา ๐๓.๑๗ นี้ ก็มองเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ หากมนุษย์ได้สนใจและพยายาม ความหวังก็จะสำเร็จได้วันหนึ่งข้างหน้าในอนาคต

เรื่องที่ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้มีผู้เดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี เที่ยวถามหาทายาทของตระกูล "รัตนกิจ" และบังเอิญเพื่อนของข้าพเจ้าได้เดินทางไปต่างประเทศในระยะหนึ่งยังไม่กลับ ชายผู้นั้นกลับไปเพราะความผิดหวัง ได้ความว่า ชายผู้นั้นมุ่งหวังจะพบกับทายาทเพื่อจะสมนาคุณ และมีเรื่องพิสดารและอัศจรรย์ แล้วชายผู้นั้นได้เล่าเรื่องฝากไว้กับผู้ชอบพอกับเพื่อนข้าพเจ้า จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าชายผู้นั้นอยู่ที่ตำบลไหน

เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องแปลกประหลาดก็ไปหาเพื่อน เพื่ออยากทราบเหตุผลของเรื่องนี้ ก็ได้เรื่องมาพิจารณาเรียบเรียงติดต่อกันขึ้น และหลายท่านก็ติดตามอ่านหนังสือในชุด. "กฎแห่งกรรม" หรือ "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" คงจะได้อ่านและจำเรื่องที่ ๖๑ ได้ ในใต้ชื่อเรื่องว่า "มาร้ายไปดี" ซึ่งเรื่องนี้ท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล แต่งเป็นบทละคร ให้ชื่อว่า "ลูกสาวเจ้าบ้าน" ข้าพเจ้าก็ได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่า ท่านแทรกความแยบคายไว้น่าดูมาก ข้าพเจ้าได้ส่งบทละครไปให้ทายาทของท่านอ่าน ก็ทราบว่าพอใจมาก ทายาทของท่านได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานนี้ให้ข้าพเจ้าฟังว่า

ท่านเจ้าของบ้านในเรื่องมาร้ายไปดี เมื่อท่านยังมีชีวิต ก็ได้สร้างความดีไว้มากมาย เมื่อท่านเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย เมื่อมนุษย์ทุกรูปทุกนามไม่มีใครหนีพ้นได้ เมื่อรู้ตัวว่าใกล้จะจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ได้สั่งภรรยาและบุตรว่า ท่านเองไม่อยากจะมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เพราะเกิดเป็นมนุษย์นั้นต้องผจญกับความทุกข์ยากลำบาก หนีไม่พ้น ไม่เคยมีความสุขสบายอันแท้จริงเลย เวลานั้นท่านอยู่รักษาตัวในพระนคร ท่านจึงบอกว่าอยากจะกลับไปตายที่บ้านเมืองกาญจนบุรี

หากว่าท่านได้ตายแล้วขอให้นำศพขึ้นไปฝังไว้บนเขา (ทั้งที่ท่านไม่ใช่คนจีน) เมื่อภรรยาและบุตรทราบความประสงค์ของท่าน หลังจากนั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ ท่านได้ถึงแก่กรรมลงที่บ้านจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าภาพก็ได้จัดการตามที่ท่านได้สั่งไว้ทุกประการ คือ สร้างที่ฝังศพไว้บนภูเขาในกิ่งอำเภอบ่อพลอย ขึ้นกับอำเภอพนมทวนในสมัยนั้นเป็นที่เรียบร้อยทุกอย่าง พวกบุตรและภรรยาญาติพี่น้องก็เดินทางเข้ามาอยู่ในพระนคร

ต่อมา ๒ - ๓ ปีนี้ คนทางเมืองกาญจนบุรีได้ส่งข่าวมาให้บุตรหลานของท่านให้ทราบว่า ที่ฝังศพของท่านนั้นมีผู้ไปเคารพมากและเกิดโชคลาภแก่ผู้ที่ไปเคารพบูชา และมีคนใจชั่วร้ายได้ไปขุดทำลายหลุมฝังศพของท่าน หวังว่าจะได้ทรัพย์สมบัติที่ฝังรวมอยู่ในหลุมรวมกับซากของท่าน แต่คนร้ายใจชั่วก็ไม่ได้อะไรที่มีค่าไปเลย ทำให้ที่ฝังศพได้รับความเสียหาย พวกทายาททางพระนครเมื่อได้ทราบ ต่างก็ร้อนใจ อยากจะไปตรวจดูความเสียหายมากน้อยเท่าใด แค่ไหน จะได้จัดการซ่อมแซมบูรณะที่ฝังศพให้ดีขึ้น


(มีต่อ)
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 9:04 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2006, 7:42 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บุตรสาวท่านได้บอกว่า เมื่อท่านได้ถึงแก่กรรมลง ได้นำแหวนวงหนึ่งเป็นพลอยเมืองกาญจน์ ที่ท่านชอบของท่านมากใส่ลงในปากศพและได้ฝังลงไปพร้อมร่างของท่าน เมื่อพวกลูกหลานได้ตกลงว่า จะเดินทางไปที่ฝังศพบนเขาบ่อพลอยเมืองกาญจนบุรี เพื่อซ่อมแซมบูรณะให้ดี

ทั้งได้ชวนข้าพเจ้าให้เดินทางร่วมไปเที่ยวด้วย แต่บังเอิญข้าพเจ้าหาเวลาว่างไม่ได้จึงไม่ได้ไป เมื่อก่อนบุตรหลานจะออกจากกรุงเทพฯ ท่านได้มาเข้าฝันว่า พวกผู้ร้ายที่มันขุดศพหวังสมบัตินั้นไม่ได้อะไรไปเลย ท่านยังได้บอกว่า แหวนที่ใส่ปากศพนั้นก็ยังอยู่ พวกผู้ร้ายเอาไปไม่ได้ เวลานี้ก็ยังอยู่ข้างหลังซากศพของท่านทับเอาไว้

เมื่อได้ไปถึงพิจารณาและได้จัดช่างมาซ่อมแซมบูรณะที่ฝังให้ดีขึ้นแข็งแรงกว่าเดิม และป้องกันผู้ร้ายที่จะมาขุดต่อไป ก็ปรากฏว่าทุกสิ่งเหมือนดังที่ท่านมาบอกในฝันทุกอย่าง เมื่อได้บูรณะที่ฝังศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกลูกหลานก็ได้สบายใจ พวกชาวบ้านพากันไปขอลาภ เพราะเมื่อสมัย พ.ศ. ๒๔๕๔ ท่านมีชีวิตอยู่ได้ขอพระราชทานประทานบัตรทำเหมืองพลอย ที่กิ่งอำเภอบ่อพลอย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ท่านได้รับการยกย่องสรรเสริญแก่ผู้ที่รู้จักคุ้นเคยต่อไป ว่าเป็นผู้ที่โอบอ้อมอารี มีจิตใจเมตตากรุณาแก่คนทั่วไปในเขตท่านอยู่ และผู้เดินทางทั้งที่รู้จักหรือไม่รู้จักท่านก็ต้อนรับ ให้ได้อาศัยบ้านท่านเป็นที่พักพิง ทั้งเลี้ยงดูข้าวปลาอาหาร ให้ความสะดวกสบายเหมือนศาลาพักร้อนให้ความร่มเย็น

เพราะสมัยก่อนสัตว์ป่าที่ดุร้ายชุกชุมทำอันตรายแก่ผู้เดินทางเสมอ การให้ที่พักอาศัยแรมคืนย่อมเป็นกุศลอันสูงสุด แม้แต่พวกโจรตั้งใจไว้ว่าจะคอยปล้นก็กลับใจเพราะความดีของท่าน เมื่อท่านได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว วิญญาณที่มีคุณธรรมสูงก็ยังช่วยพวกชาวบ้านที่ไปขอความช่วยเหลือ ดับความยากจนลงได้ แต่พวกทายาทบุตรหลานก็มิได้สนใจ เพราะบุตรหลานของท่านล้วนมีแต่ฐานะดีด้วยกันทุกคน จึงไม่มีใครสนใจว่าท่านได้ช่วยเหลือดับร้อนแบบไหน

เมื่อต้น พ.ศ. ๒๕๑๒ นี้ เพื่อนข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวตระกูล "รัตนกิจ" นี้ ได้เดินทางไปต่างประเทศเมื่อกลับจากต่างประเทศก็ได้ทราบข่าวว่า ผู้มาติดตามทายาทของครอบครัวตระกูล "รัตนกิจ" ได้พยายามสืบหา เมื่อมีผู้ถามว่ามาติดตามเพราะเหตุใด มีธุระร้อนหรือไม่ ผู้ที่ติดตามสืบหาทายาทของท่านได้ทราบว่า เป็นชาวเมืองกาญจนบุรี เดิมได้ลงทุนทำการขุดพลอยแต่ก็ผิดหวังไม่ได้ผล ไม่พอกับการใช้จ่ายค่าครองชีพ ที่สุดจากจนกำลังจะหมดตัว นึกถึงบนภูเขามีที่ฝังศพ ซึ่งร่างของท่านผู้นี้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นคนใจบุญ เป็นที่ยกย่องสรรเสริญของบุคคลที่รู้จักทั่วไป

ฉะนั้น เมื่อชายผู้นี้ได้ทราบกิตติศัพท์ ก็ค้นหาสถานที่ฝังศพของท่านบนเขาจนพบ ก็ได้ไปกราบไหว้อ้อนวอนให้ท่านช่วยเพราะเวลานั้นกำลังเข้าตาจน มีชีวิตอยู่ในความยากลำบาก แม้จะพยายามอดทนทำงานเหน็ดเหนื่อยจนสายตัวแทบจะขาด ก็ยังตกอยู่ในความยากจน ตัวก็มิได้เกียจคร้าน มิได้เลือกงานหนักงานเบาก็มิได้อยู่นิ่ง รู้สึกตัวว่าเกิดมาอาภัพ แม้จะขยันขันแข็งอดทนก็ยังเอาตัวไม่รอด ไม่สามารถจะยกฐานะให้พ้นความยากจนไปได้ จึงไปกราบไหว้ที่หลุมฝังศพของท่าน ขอให้วิญญาณช่วยเหลือให้พ้นความจน ความทุกข์ ความยากด้วย

ต่อมาในคืนนั้น ชายผู้นั้นก็ฝันเห็นชายสูงอายุผู้หนึ่งเดินเข้ามาแล้วก็พูดว่า "เอ็งไปขอให้ข้าช่วยเหลือนั้น ข้าก็ไม่ขัดข้อง เพราะเอ็งก็เป็นคนซื่อ ฉะนั้น เอ็งจงฟังข้าและจดจำไว้ให้ดี การที่เอ็งเที่ยวขุดพลอย ที่เอ็งขุดเดี๋ยวนี้น่ะมันเหนื่อยเปล่าไม่มีอะไรหรอก อย่าขุดต่อไปเลย ย้ายขึ้นไปหาที่ใหม่ เอ็งจงเดินขึ้นไปตามลำธารน้ำไหล และที่นั่นเอ็งจะพบต้นไม้ มีเครื่องหมายกากบาทไว้ที่ต้นมะขามป้อมอยู่กลางต้น แล้วเวลาเช้าเงาออกไปสัก ๔ ศอก ข้างลำธารแล้วก็ขุดลงไป พอที่จะแก้ความยากจนของเอ็งได้"

เมื่อชายผู้นั้นตื่นขึ้นก็จำข้อความในฝันได้แม่นยำ และรุ่งขึ้นก็ไม่อยู่รอช้าถือเครื่องมือออกเที่ยวหา กำหนดเวลาที่ท่านผู้นั้นบอกไว้ในฝันอย่างถี่ถ้วน และได้พบกับเหตุการณ์ประหลาด ตรงกับความฝันรู้สึกตื่นเต้นที่สุดในชีวิต น่าอัศจรรย์จริงๆ ไม่มีอะไรผิดหรือเคลื่อนคลาดไปจากคำบอกเล่าของวิญญาณของท่าน

จึงรีบขุดตามที่กำหนดเมื่อเงาต้นไม้ทอด เวลาเช้าพระบิณฑบาตกลับวัดเป็นที่สังเกต ที่สุดก็ขุดลงไปเพียงหน้าดินตื้นๆ ก็ได้พบก้อนหินแร่ประหลาดก้อนหนึ่ง เมื่อได้นำมาให้ผู้ชำนาญได้ตรวจดูก็ปรากฏว่าเป็นพลอยอย่างดี ถ้าเจียระไนแล้วก็ได้พลอยน้ำดีไม่ต่ำกว่ายี่สิบสองกะรัต นับว่าได้พ้นจากความยากจนได้อย่างประหลาด

นี่เป็นเหตุที่ต้องให้ชายผู้นี้เดินทางเข้าพระนคร เพื่อสืบหาผู้เป็นทายาทของท่าน ตั้งใจจะสมนาคุณ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับทายาทของท่าน นี่ก็แสดงให้เห็นน้ำใจชายที่ยากจน ได้รับความยากลำบาก แต่มีจิตใจซื่อสัตย์สุจริต มีความกตัญญูกตเวที นึกถึงบุญคุณของท่านที่ได้ช่วยให้พ้นจากความยากจน ตนเองก็ยังอยากสนองบุญคุณโดยสืบหาทายาท อุตส่าห์พยายามสืบหาด้วยตนเอง ไม่คิดถึงความยากลำบาก จนไปสืบพบผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกับผู้เกี่ยวดองกับท่านเข้า แต่บังเอิญเดินทางไปต่างประเทศ

ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าเรื่องเช่นนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าจะพิจารณาดูเหตุผลให้ซึ้งแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า วิญญาณของท่านได้ตกลงที่จะบอกลาภให้ผู้ใด ก็ย่อมจะเลือกแล้วว่า ผู้นั้นเป็นผู้ซื่อสัตย์หากินสุจริต และมีหลักถือความกตัญญูเป็นที่ตั้งดังได้กล่าวมาแล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดมากเรื่องหนึ่ง หากท่านที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องที่ ๖๑ แล้ว โปรดย้อนไปอ่านใน "มาร้ายไปดี" ก็จะเห็นได้ว่า สิ่งประหลาดมหัศจรรย์ยังมีอยู่ในโลกนี้อีกมาก ข้าพเจ้าจึงได้นำมาเขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ต่อไป



....................... เอวัง .......................
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 9:07 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2006, 7:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านเป็นวิญญาณที่มีคุณธรรม
ใครมีเคราะห์กรรมยากจนบนกราบไหว้
ต้องเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตใจ
จะบอกลาภผู้ใดดูการกระทำ
เขาเป็นชายนิรนามทำความดี
ชั่วชีวีสร้างกุศลผลยิ่งใหญ่
แก่กรรมเก่าพาให้จนทนเรื่อยไป
เฝ้ากราบไหว้วิญญาณช่วยชี้โชคชัย

ท.เลียงพิบูลย์
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง