Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สีสัน..ของชีวิต..จะมีไหมถ้าต้องมาละกิเลสทั้งปวง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เด็กฝากมาถาม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 5:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเกิดมาแล้ว ต้องทำใจให้สงบ ละกิเลสทั้งปวง

อะไรจำพวกนี้ ฉะนั้นสีสันของชีวิตอยู่ตรงไหนกัน

แล้วจะมีความรื่นเริงบรรเทิงใจรึไม่

 
ไม้ขีดไฟ ให้แสงสว่าง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 5:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วนมากคนต้องการสีสัน...คงยังไม่ละกิเลสหรอกค่ะ
 
ปิงปอง ม.ราม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 9:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใครที่ยังไม่เคยถูกกิเลสครอบงำคงจะไม่รู้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน อย่างเช่นการอิจฉาริษยา มิจฉาทิฏฐิ ความโกรธแค้น ถ้าใครเคยโดนกิเลสจำพวกนี้เล่นงานคงรู้ว่ามันหาความสุขในชีวิตไม่ค่อยได้เลย เพราะจิตของเขาจะโดนเผา โดนบีบคั้น จนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ระดับจิตของบุคคลทั่วไปจะมี กิเลสประเภทโลภะ โทสะ โมหะอยู่ไม่มากทำให้เขาไม่ค่อยได้รับความทุกข์ทรมาณทางใจเท่าไหร่ แต่หากพวกเขาทำบาปมากขึ้นกิเลสก็จะครอบงำจิตใจได้ง่ายขึ้น ในอดีตผมจะถูกกิเลสบีบคั้นเป็นประจำไม่ค่อยมีความสุขในชีวิตเท่าไหร่ แต่พอเริ่มปฎิบัติธรรมมากขึ้น ทั้งทาน การทำสมาธิ แผ่เมตตา กรุณาให้สรรพสัตว์ จิตใจจึงเริ่มสงบเย็นทำให้เป็นสุขในชีวิตพอสมควร ผมคิดว่ากิเลสที่น้องเขาหมายถึงคงจะเป็นประเภทตัณหา ราคะ ความมัวเมากับอบายมุขซึ่งสิ่งเหล่านี้จะให้ความสุขในเบื้องต้นเท่านั้นหลังจากนั้นก็ฉิบหาย(ขอโทษ)ไปตามๆกัน คนที่เคยมีประสบการจากสมาธิแล้วจะทราบว่าจิตใจจะมีความสุขที่ประณีตกว่าความสุขทางโลก บางคนถึงกับติดในอารมณ์สมาธิชอบนั่งสมาธิเป็นประจำ(ผมก็ติดครับ) สำหรับการหาความสุขจากการดูหนังฟังเพลง นั้นจะทำให้จิตใจประณีตกว่าอารมณ์ปกติของมนุษย์จึงเสพความสุขประเภทนี้ได้ แต่ควรมีสติคอยกำกับเสมอ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 2:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

.....ถ้าเกิดมาแล้ว ต้องทำใจให้สงบ ละกิเลสทั้งปวง.....คนที่จะทำได้ก็ต้องทุกข์มากๆ ทุกข์ปลอมๆทำไม่ได้หรอก ประเภทอาศัยผ้าขาว ผ้าเหลืองห่อหุ้มกิเลสหนาๆเอาไว้อย่างนี้ก็ไม่ได้ ทุกข์มากๆเพราะขี้เกียจทำมาหากิน ก็หลบเข้าบวชใช้ผ้าเหลืองคลุมไว้อย่างนี้ก็ไม่ได้ จิตสงบ ละกิเลสทั้งปวงได้ สีสันของชีวิตมันก็อยู่ตรงที่ไม่ทุกข์ ไม่สุข ...ทุกข์สุขดับไปไม่ปรีดา อยู่ไปธรรมดาๆเท่านั้นเอง...



รื่นเริงบันเทิงใจไปกับการที่ได้ปฏิบัติธรรม สนทนาธรรม ตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์ ก็ต้องเรียนรู้ทุกข์ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ก็เป็นสีสันอยู่แล้ว ยิ่งปฏิบัติธรรมพิจารณาลงที่กายใน จิตใน เวทนาใน ธรรมในซิ ยิ่งเห็นสีชัดใหญ่ แต่ต้องนั่งตอนกลางวันนะ เพราะกลางคืนมันมืดมองไม่เห็นสี



เจริญในธรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เฟ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 12:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากได้สีสันประเภทไหนละคะ สีเลือด สีเนื้อ ก็ดูได้จากสติปัฎฐานสี่ สีแวววาวเลื่อมระยับตา นี่ต้องสายมโนฯ ถ้าสีแดง ก็ต้องสกิณไฟ ฯลฯ

แต่ถ้าสีสันของชีวิตหมายถึงต้องร้อยไห้ ดีใจ เสียใจ สนุกสนาน แล้วละก็ ต้องลองศึกษาธรรมะ มากๆ ได้ลึกซื้งเท่าไรยิ่งดี หมั่นทำบุญ นั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา .....อะ! ไม่เชื่อหรอ ลองดูก่อนน่า แล้วจะเห็นสีสันของชิวิตได้ชัดเจนเสียยิ่งกว่าที่อยากจะเห็นเสียอีก
 
สกล
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 พ.ย.2005, 11:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำถามนี้ เป็นคำถาม ของคนที่ยังไม่เข้าใจในธรรมะเลย เมื่อใด ได้สัมผัสกับ ความสุขสงบเย็น และความรื่นเริ่งในธรรมแล้ว จะรู้ว่า มันเทียบกันไม่ได้เลย กับสีสันในชีวิตที่ว่านั้น

...ยังชอบใจอยู่ในของไม่เที่ยง ก็ต้องพบกับของไม่เที่ยงอยู่ร่ำไป....

...ของดี ของถูก ของจริง ต้องละทุกข์ได้....

ความสุข ที่ยังมีความทุกข์รออยู่ นั่นยังไม่ใช่ของจริง...



 
พลอย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 พ.ย.2005, 1:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สีสัน คงอยู่ที่จะละกิเลส ยังงัยและจริงๆเนี่ยแหละ

เพราะคงทำอยากมาก ๆ

และถ้าละได้คงเป็นสีศิริมงคลมากๆ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง