Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ~(_ช่วยด้วย ผม รู้สึกไม่สบายใจ ผม ที่ชอบ ฆ่า สัตว์ไปหลายตัวอ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ssj
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 9:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



ผมคล้ายๆเหมือน โรคจิต ชอบฆ่าสัตว์



ผม นะจะไปจตุจักรทุกอาทิตย์ซื้อ ซื้อปลามา ทุกอาทิตย์ ซื้อที 30 กว่า ตัว นะครับ ก็

ซื้อแบบตัวละไม่กี่บาท ไม่แพง ทุกอาทิตย์ไม่เคยขาด เอามาเลี้ยงในบ่อจากนั้นผมก็ล้วงมันมาบีบให้ตาย ม่าง บางทีก็เอาปลาเป็นๆไปโยนให้มดมันกดจนมันทรมารจนตาย ไป

ที่ละตัว อะครับ พอตายหมด

ครบ 1 อาทิตย์ ผมก็จะไปซื้อมาอีก 30 ตัวเอามาบีบมาฆ่า ให้ตายอะครับ

ผมทำแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว เฉลี่ยเดือนนึงผมจะฆ่าปลาตายไป

ไม่ต่ำกว่า 120 ตัวอะ ปีนึงก็ ทำสัตว์ตายไป 1300 ตัวอะครับ

บางทีผมก็ซื้อนกตัวเล็กๆ จากจตุจักรหรือซื้อกิ้งก่ามา กดน้ำให้มันตาย

หรือไม่ก็จับมันมาเผามันทั้งเป็น จนมันทรมาณจนตาย ด้วยอะครับ ผมเลิกไม่ได้อะ มันเป็นโรคจิต อะ

ผมรู้สึกไงไม่รู้อะ

ทำแบบนี้มา สิบกว่า ปีแล้ว สงสัยจะทำปลาตายไป หลายหมื่นถึงแสนตัว แล้วอะ

ที่ผ่านมาห้ามใจเรื่องโรคจิตฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่ได้อะครับ ชอบทำ ตอนนี้ผมจะพยายามเลิกให้ได้นะครับ กับการฆ่าสัตว์ ผมสัญญา กับตัวเองว่าจะพยายามเลิกให้ได้ในตอนนี้ อะครับ



เพราะผมได้ยิน มาว่า นรก มีจริงเหรอ ครับ เมื่อก่อนไม่เชื่อแต่ตอนนี้ผมเชื่อแล้วอะ

คือ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกแล้วครับ



อยากทราบว่าถ้าผมตายไปผมจะตกนรกหรือ ป่าว ที่ผมฆ่าสัตว์ไปเยอะเป็นแสนตัว อะ

ผมจะถูกเขาจับไปทรมาร ขั้นไหนอะ เขาจะเผาจะควักไส้ผมไหมอะ

แง่ ช่วยด้วย ผมกัวอะ กลัวเจ็บอะ ผมจะตกนรกไหมอะ ผมพอจะมีทางรอดไหมอะ ช่วยแนะนำด้วยครับ

 
ปลา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 9:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสารอะแล้วเขาจะตกนรกทรมารไหมค๊ะ
 
ปิงปอง ม.ราม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 10:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

น่าสงสารน้องนะครับที่มาคิดได้ตอนนี้ การที่พระพุทธศาสนาห้ามทำบาปก็เนื่องจากหากกระทำเข้าแล้วจิตใจจะเริ่มชั่วร้ายมากขึ้น จะรู้สึกได้ว่าจิตใจสกปรกในกรณีของน้องจะกระทำเวรปาณาติบาตเป็นอาจิณดีแล้วครับที่เริ่มกลัวตอนนี้ ขอต่อแล้วกันพอจิตใจเริ่มมีความโหดร้าย ไม่มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์หากน้องตายไปตอนนี้ทุคติเป็นอันหวังได้ แต่สบายใจได้ไม่อะไรสายเกินไปถ้าจะเริ่มกลับตัว องคุลีมาลฆ่าคนไป 999คนซึ่งปริมาณบาปนั้นมากกว่าที่น้องทำมากๆ แต่องคุลีมาลก็ไม่ได้ตกนรกเพราะพระพุทธเจ้ามาช่วยไว้ทัน องคุลีมาลได้ฟังคำสอนของพระองค์จนได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เป็นอันว่าบาปที่ทำไปส่งผลเพียงเล็กน้อยคือจะโดนพวกก้อนหิน ก้อนดินขว้างปาเท่านั้นแต่ที่องคุลีมาลรอดจากนรกได้นั้นเป็นเพราะได้สำเร็จอรหันต์แล้ว แต่ถ้าคนในยุคเราไปฆ่าคนสัก2-3 คนผมว่าคงรอดจากนรกยากหากไม่ได้บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน วิธีที่พี่ขอแนะนำคือ ให้เลิกทำซะแต่คงจะไม่ง่ายเพราะธรรมชาติของบาปนั้นเป็นสิ่งเสพติดประเภทหนึ่งหากทำมากเข้าแล้วจะมีแนวโน้มอยากทำอีก ต่อมาให้เริ่มปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา เช่น ทาน ศีล ภาวนาเพื่อมาละลายบาปที่น้องได้ทำเอาไว้ เหตุผลที่ละลายบาปได้ เปรียบเทียบได้ดังนี้ หากการทำบาปเปรียบเหมือนเกลือ การทำบุญก็เปรียบเสมือนน้ำ ถ้าเรามีน้ำแก้วหนึ่งหากเติมเกลือลงไป 1 ช้อนน้ำแก้วนั้นเค็มปี๋แน่นอน แต่ถ้าหากเราเอาน้ำแก้วนั้นไปใส่ในถังแล้วเติมน้ำให้เต็มความเค็มจะลดลงไปแน่นอน แล้วถ้าเอาน้ำในถังไปใส่แท้งค์แล้วเติมน้ำให้เต็มความเค็มก็จะหายไป อันที่จริงเกลือไม่ได้หายไปไหนถ้ากระทำการทางวิทยาศาตร์ก็จะได้ปริมาณเกลือเท่าเดิม การฆ่าสัตว์ของน้องนั้นเหมือนกับเติมเกลือลงไป ส่วนการทำบุญที่น้องทำเปรียบเหมือนกับการเติมน้ำหากน้ำมีปริมาณมากขึ้นเท่าไหร่ความเค็ม(ผลของบาป)ก็จะลดลงแต่น้องอย่าไปทำบาปเพิ่มขึ้นละกัน ทำใจสบายๆครับทุกปัญหามีทางแก้
 
Katy
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2005, 10:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีค่ะต้องรีบเลิกทำบาปตอนนี้กันเลยอะค่ะ

เนี่ยมีคนรู้จักเรานะเขาทำฟรามกุ้ง อะโห จับ กุ้งแช้น้ำยาส่ง ขายตลาด เดือนละเป็นหมื่นตัว เนี่ยเราว่าจะบอกให้เขาเลิกทำแล้วนะเพราะมันบาปมากอะค่ะ สงสารกุ้งอะ

ถ้าไม่เลิกนะอาจตกนรกถูก ผ่าท้อง แช่น้ำยาม่างก็ได้น้ากลัวอะ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 2:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หากคุณมีพฤติกรรมอย่างที่กล่าวมาในกระทู้ ชีวิตก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต จะเจตนาหรือไม่เจตนา จะโรคจิตหรือไม่โรคจิต สำนึกได้ก็ดีแล้ว ดีกว่าที่จะไม่สำนึกเสียเลย ไม่ตกนรกหรอก คุณทำกับชีวิตเหล่านั้นเช่นไร คุณก็ต้องได้รับความเจ็บป่วยแสนสาหัสและสิ้นใจไปอย่างทุกข์ทรมานที่สุด ชีวิตเหล่านั้นก่อนสิ้นใจทุกข์ทรมานเช่นไร คุณก็จะมีสภาพไม่แตกต่างกับชีวิตเหล่านั้น



ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต สำนึกได้ก็ไม่สาย ลงมือฝึกปฏิบัติธรรมก็ต้องใช้ความเพียรต่อสู้กับเวทนาอย่างแสนสาหัส น้อมได้ ระลึกได้ ดับได้ ก็ต้องใช้เช่นกัน กรรมจะสลายได้ก็ต้องถึงรอบแห่งการปฏิบัติเมื่อถึงวาระแห่งกรรมนั้นเวียนมาให้ชดใช้ด้วยเวทนาอย่างทุกข์ทรมานเช่นกัน



เจริญในธรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
a_kiko
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 12:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสัยเขาจะต้องทีรมารมากๆในตอนแก่อะค่ะ อาจป่วยหนักทรมาร แบบนี้จะรอดไหมอะ น่าสงสารนะค๊ะ
 
เฟ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 12:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แหม!!! บอกมาแค่นี้อะนะใครจะไปรู้ ต้องทำคิดอะไรอยู่ละจ๊ะ

เมื่อตอนเป็นเด็กๆ เราก็เคยเป็น ชอบจับมดจับแมลงมานั่งเด็ดปีก ตัดคอ หักขา ปล่อยมันเดิน จับโยนลงน้ำ ดูมันจมน้ำตาย แต่ตอนนั้นคิดว่า ดูดิมันเป็นงั้ยน๊า...ไม่มีขามันเดินงัย....มันไหว้น้ำเหมือนปลารึเปล่า...ฯลฯ แต่พอโตขึ้นสิ่งเหล่านี้ก็หายไปด้วย หิริโอตะปะ งัยค่ะ อ่านข้อความของคุณแล้ว ก็คิดได้แล้วนี่ ต้องพยายมทำให้ หิริโอตะปะ ของคุณมีพลังแข็มแข็งขึ้น แต่ไม่รู้จะแนะนำให้ไปยังงัย ต้องลองค้นหาเองจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไปคุยกับพระที่ปฏิบัติดีๆ ก็ได้นะคะถ้าคิดว่าตัวเองอาการหนัก
 
kia
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ต.ค. 2005
ตอบ: 29

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 1:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนี้ทำได้แต่เพียงแผ่เมตตาให้และละการทำปาบแบบนี้อีกครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 3:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อดีตที่ผ่านมาแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้

ปัจจุบันที่จะกลายเป็นอดีตอยู่ที่ตัวเราเองว่าต้องการให้เป็นเช่นไร

อนาคตที่จะกลายเป็นปัจจุบันก็อยู่ที่เราเคยทำมาเช่นไรและจะทำต่อไปเช่นไร

ทุกอย่างต้องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา จะสุขหรือทุกข์ก็ต้องเป็นเช่นนี้

หนทางดับทุกข์นั้นมีอยู่ พวกเราโชคดีที่เกิดมาในพุทธศาสนา คำตอบ เส้นทางเดินนั้นมีอยู่ จะเดินไม่เดิน ทำไม่ทำก็แล้วแต่บุคคล

คนดีชอบแก้ไข ไม่มีใครไม่เคยทำผิดมาก่อน

ขอเป็นกำลังใจ ให้มีความเจริญในธรรม
 
เกตุ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2005, 4:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วพวกร้านขายปลาอะจะบาปเป่าจะตกนรกไหมอะ อะคือปลามันตายวันละ เกือบร้อยตัวเชียวน๊า
 
ธรรมรักษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 พ.ย.2005, 2:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้ายังประพฤติปฏิบัติอยู่เช่นเดิม ก็บอกได้เลยครับว่าไปสู่ทุคติแน่นอน แต่เมื่อเรารู้และละเลิกได้ รวมทั้งหันมาบำเพ็ญบุญบารมี ด้วยการปฏิบัติ พร้อมทั้งแผ่เมตตาและขออโหสิกรรมในบาปที่เราทำลงไป ก็พอจะบรรเทาหนักให้กลายเป็นเบาได้ เพราะฉะนั้นนับตั้งแต่บัดนี้จงเลิกกระทะตามที่เคยทำมาและหันมาปฏิบัติธรรมเถอะครับ
 
ton
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 พ.ย.2005, 6:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บุคคลที่กระทำความชั่วแล้วหันมาทำความดีปิดกั้น ย่อมให้ความสว่างแก่โลกเหมือนดวงจันทร์ที่พ้นเมฆหมอก
 
sedan
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 พ.ย.2005, 6:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แน่นอนการฆ่าสัตว์ย่อมเป็นบาปเป็นกรรมแต่ถ้าเรากับตัวกับใจประพฤติกายวาจาใจอยู่ในศีลในธรรมก็จะทําให้เราแก้ไขสิ่งที่ทําผิดไปได้
 
*O*
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 พ.ย.2005, 2:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
ตตต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ย.2005, 3:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสาร
 
กะปิ๋วหลิ๋ว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ย.2005, 12:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คิดได้ตอนนี้ก็ดีแล้วค่ะ ถึงยังไงก็ยังดีกว่าไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันเป็นปาบ แต่ก็อย่าทำต่อไปเลยนะค่ะ ทุกชีวิตโลกก็รักชีวิตของตัวเอง ถ้าเป็นตัวเราเองก็ไม่อยากให้ใครมาทรมานเราเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ก็แสดงว่าเริ่มที่จะเข้าใจแล้วนะค๊ะ ขอเอาใจช่วยค่ะ ทำบุญเยอะๆนะคะ ถึงจะลบล้างไม่ได้แต่ว่ามันก็ทำให้เราสบายใจขึ้นได้บ้างนะค๊ะ
 
ปลาทอง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2005, 2:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รีบปรับปรุงตัวนะค๊ะ
 
jandeethemoon
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 10 พ.ย. 2005
ตอบ: 4

ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2005, 9:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอแนะนำว่า ก่อนอื่นต้องตั้งใจให้แน่วแน่ ว่าอย่าทำอีก.. อุบายที่ใช้ น้องก็อาจลองคิดดูว่า ถ้าเราเป็นปลา เป็นสัตว์เหล่านั้นจะรู้สึกยังไง ..ถ้าพิจารณาแล้วยังไม่ซาบซึ้ง ก็ขอแนะนำให้เบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง ไปออกกำลังให้เหนื่อย ..ไปอ่านหนังสือกฎแห่งกรรม



พอจิตใจเริ่มเข้าที่เข้าทาง .. (อย่าวางใจนะคะ เพราะถ้าน้องวางใจเมื่อไหร่ รับรองว่าน้องต้องกลับไปทำแบบเดิมอีกแน่.. ไม่ได้ให้กังวลนะคะ กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ ให้ทำตัวในปัจจุบันให้ดี) .. ถ้าเป็นไปได้ ให้สวดมนต์เสียงดังๆ เข้าไว้ (การออกเสียงเป็นอุบายทำให้ใจเราอยู่กับมนต์ที่สวด ไม่วอกแวก) สวดให้สนุก.. ขออโหสิกรรมและแผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งอธิษฐานจิตทุกคืน/ เช้า ว่าวันนี้ข้าพเจ้าจะไม่เบียดเบียนสัตว์ใดๆ ทั้งทางกาย วาจาและใจ



ถ้าว่างนะ..น้องไปเลย ไปกราบหลวงพ่อและปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี อย่างน้อย 5-7 วัน ..



ขอร่วมเป็นกำลังใจให้นะคะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 03 ธ.ค.2005, 8:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีใจด้วยกะ คุณ ssj ครับ ที่กลัวบาปกรรม



เมื่อรู้ว่าฆ่าสัตว์เป็นบาปก็ดีแล้วครับ ต่อนี้ไปก็ต้องไม่ฆ่ามันอีก ตั้งใจแผ่เมตตา แล้วก็ทำความดี กรรมที่ทำไปแล้วก็ถือว่าทำไปแล้ว ไปมัวเศร้าใจหรือกลัว ตอนนี้ก็ไม่สามารถแก้อะไรได้ เหตุเกิดไปแล้ว ก็รอผลของมันครับ จะตกนรกหรือเปล่า ก็ยังตอบไม่ได้ครับ แต่ว่าจะต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ทำอะไรไว้ จะต้องได้รับผลเช่นนั้น



แต่ถ้ากลัวนรกจริงๆ ก็ทำบุญเยอะๆ เพื่อหนีบาป จะว่าหนีบาปก็ไม่ถูกนักครับ คือ เรื่องของกรรมมีกฏอยู่ว่า กรรมใดหนัก กรรมนั้นจะส่งผลก่อน ถ้าทำบุญกุศลมาก ๆ และมีกำลังแรงกว่า ก็สามารถจะส่งผลก่อน แต่บาปที่ทำแล้วก็ไม่ได้หายไปไหน รอเวลาจะให้ผลอยู่ แต่ถ้าทำบุญกุศลมาก ๆ แรง ๆ บาปที่ทำไว้กำลังอ่อนกว่า ก็ไม่สามารถแสดงผลได้ และถ้าทำกุศล อยู่เนือง ๆ อกุศลกรรม ที่เรากลัวก็จะไม่แสดงผล เมื่อถึงเวลานานเข้า กำลังก็จะอ่อนลง จนกลายเป็นอโหสิกรรมในที่สุด มีที่ท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า บาปเปรียบเหมือนเกลือ น้ำสะอาดเปรียบเหมือน บุญ เอาเกลือ 1 ช้อน ใส่แก้ว กะเอาเกลือ 1 ช้อน ใส่ ในโอ่ง แล้วลองชิมน้ำในแก้ว กะในโอ่ง น้ำในแก้ว จะเค็มกว่า แต่น้ำในโอ่ง นั้นจืด แต่จริงๆ แล้ว เกลือ ( ความบาป) ก็ยัง มีปริมาณ 1 ช้อนเหมือนเดิมไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่น้ำสะอาด (บุญ) มีปริมาณต่างกัน ความเค็มของเกลือ (คือความบาป) จึงมีความแรงต่างกัน





นี่ดีนะครับ ที่รู้ตัวเริ่มเกรงกลัวต่อบาป รู้ว่าการฆ่าสัตว์ เป็นบาป ทำให้ตกนรก ต้องรับผลของกรรม ที่เราได้ทำไว้ นี่ลองถ้าคุณไม่ได้รู้จักคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่บังเกิดขึ้น ไม่สอนเรื่องกฏแห่งกรรม ให้เราได้รับรู้ คุณคิดดูว่าคุณจะฆ่ามันอีกเท่าไหร่ และก็คงฆ่ามันโดยไม่เกรงกลัวบาปที่จะเกิดขึ้นกะคุนในวันข้างหน้า พระพุทธองค์ตรัสว่า ยุคใดที่ไม่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ไม่มีคำสอนของพระพุทธองค์ สัตว์เวียนวนอยู่แต่ในนรกเป็นอันมาก



ต่อนี้ไปคุณก็หมั่นเจริญเมตตา ช่วยเหลือชีวิต ให้ชีวิต อย่าไปทำลายชีวิตอีก พยายามทำกรรม ฝ่ายกุศลให้มาก ๆ แผ่เมตตาให้กะชีวิตแก่สัตว์ทั้งหลายที่คุณได้ไปทำมัน สิ่งที่ทำไปแล้วก็ถือว่าทำไปแล้ว อย่าไปวิตกทำให้จิตเศร้าหมอง ถือซะว่า สิ่งที่ผ่านมานั้น คืออกุศล คิดเสียว่าอกุศล ก่อเกิดกุศล
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง