Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทัวร์ธรรมะฮิตสุดๆ บริษัทเกิดใหม่แห่ผุดนับร้อย ไหว้พระ ดีที่ป อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 27 ต.ค.2005, 4:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทัวร์ธรรมะฮิตสุดๆ บริษัทเกิดใหม่แห่ผุดนับร้อย ไหว้พระ ดีที่ปฏิบัติธรรมภาคอีสาน



ฮิตทัวร์ธรรมะ ไหว้พระจนอิ่ม บ.ทัวร์ผุดนับร้อย

ทัวร์ธรรมะฮดิต ลูกทัวร์ผู้สูงอายุไปท่องเที่ยวตามวัดต่างๆ เพื่อพักผ่อน-ทำบุญ ลู่ทางสดใส ผู้ประกอบการเผยจากเดิมที่เคยจัดคณะเพียงเดือนละครั้ง ระยะหลังต้องเพิ่มความถี่เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า เผยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 40-70 ปี ลูกทัวร์ชี้สิ่งที่ได้รับคือการเจอเพื่อน



มากหน้าหลายตา แต่สนใจในเรื่องเดียวกัน



ทัวร์ธรรมะเป็นธุรกิจทัวร์อีกแขนงหนึ่งที่เป็นบริการนำนักท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุเดินทางไปยังวัดต่างๆ ด้วยเป้าหมายเพื่อจะได้ปฏิบัติธรรม อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังกลับพบว่ากลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการกลับขยายตัวไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วย



นายชาติชาย โพธิปัดชา เจ้าของบริษัท ธรรมจารี แอนด์ ซี.ซี.ทัวร์ กรุงเทพมหานคร ผู้บุกเบิกทัวร์ธรรมะ เปิดเผยว่า ธุรกิจทัวร์แขนงนี้มีมานานนับสิบๆ ปีแล้ว และปัจจุบันก็มีมากเป็นร้อยๆบริษัท แต่ที่ทำอย่างถูกขั้นตอนมีไม่มากนัก เพราะเท่าที่เห็นส่วนใหญ่เป็นเพียงการนำชมวัด ไหว้พระ และท่องเที่ยวไปตามโบราณสถาน บรรยายโดยวิทยากร ซึ่งมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ให้ข้อมูลในเรื่องของวัด แต่กลุ่มที่เข้าถึงหลักธรรมยังมีน้อย



"ผมเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุช่วงปี 2518-2519 และมีโอกาสได้ทำรายการเกี่ยวกับพุทธศาสนา ทำให้มีกลุ่มผู้ฟังมากพอจนถึงขั้นจัดทัวร์ทอดกฐินไป จ.ขอนแก่น ซึ่งประสบความสำเร็จมาก จึงจับเป็นธุรกิจมานับตั้งแต่ 2528 เป็นต้นมา"



นายชาติชาย กล่าวว่า เคยนำคณะไปมาเกือบทุกภาคของประเทศ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องนุ่งขาว ห่มขาว ต้องไม่สวมรองเท้า ต้องนอนวัด ต้องนั่งวิปัสสนา แต่จะผสมผสานทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว อาทิ มีการสวดมนต์กันบนรถเพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ เข้าวัดร่วมทำบุญ ไม่ใช่เฉพาะแค่กราบไหว้และก็เดินทางกลับ แต่จะปฏิบัติธรรมด้วย จะเห็นได้ว่าจากความสนใจที่มีเพิ่มขึ้น ทำให้รูปแบบของการบริการต้องเพิ่งขึ้นตามลำดับ ที่เคยจัดกันแค่ปีละ 1-2 ครั้ง กลายเป็น 3 เดือนต่อครั้ง และกลายเป็นเดือนละ 1 ครั้ง จนถึงขณะนี้ที่สามารถจัดได้ตามความต้องการของลูกทัวร์



"อุปสรรคแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการทำงานกับคนที่มีความสนใจทางนี้อยู่แล้ว แล้วการสวดมนต์หรือการเข้าวัดก็อยู่ในสำนึกของคนไทยมายาวนาน ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเริ่มทำ" นายชาติชาย ระบุ



ด้าน น.ส.ลักษณ์ชนก บุศบา หนึ่งในคณะทำงานของบริษัท ธรรมจารี แอนด์ ซี.ซี.ทัวร์ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจทัวร์ธรรมะขยายตัวมาก ทั้งที่เป็นทัวร์วันเดียว ทัวร์พักวัด หรือแม้กระทั่งพักโรงแรม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงวัยซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่กว้างและไม่มีจุดจบ "ตอนนี้ที่นิยมทำกันมากคือทัวร์ 9 วัด จะนิยมกันมากในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ว่าจะเป็นอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ทั้งนี้ก็เพราะใช้เวลาน้อยและระยะทางไม่ไกลมากนัก ทำให้สะดวกต่อผู้เดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุที่มีกำลังซื้อมากๆ"



น.ส.ลักษณ์ชนก กล่าวว่า ทัวร์ธรรมะแบบเดิมจะทำกันในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเข้าพรรษาและออกพรรษา ทัวร์กลุ่มนี้จะเน้นการเดินทางรอนแรมไปตามวัด พักอาศัยที่วัดเลยเพื่อทำสมาธิ ขัดเกลาจิตใจ และร่วมทำบุญกับกองกฐิน ผ้าป่า โดยจะเน้นไปทางภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่ แต่ในระยะหลังก็จะไม่มีการจำกัดช่วงเวลา โดยสมาชิกทัวร์ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มประจำ ซึ่งตอนนี้ที่มีอยู่ในใบรายชื่อของบริษัทประมาณเกือบ 7,000 คน ส่วนใหญ่อายุตั้งแต่ 40-70 ปี เพราะคนวัยนี้นิยมที่จะทำบุญ



"รายได้จากการทำงานทัวร์ลักษณะนี้ก็มีพอควร เพราะเป็นทัวร์ที่ทำได้ตลอดทั้งปี ทั้งในและต่างประเทศ อย่างในประเทศไทย ถ้าเส้นทางใกล้ๆ ไปเช้าเย็นกลับ ก็จะอยู่ที่หัวละ 1,000-1,500 บาท ถ้าหากค้างคืน ก็จะต้องดูว่าพักที่ไหน ถ้าพักวัด ก็จะอยู่ที่ 2,000 บาทขึ้นไปต่อราย แต่ถ้าพักโรงแรมก็จะเป็นไปตามเกรดของสถานที่ที่จะเข้าพัก ธุรกิจนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการเท่านั้นที่อยู่ได้ แม้แต่วัดเองก็อยู่ได้ เพราะทุกๆ วัดที่เราแวะไป เราจะนำรายได้ส่วนหนึ่งช่วยทำบุญให้กับวัดเป็นค่าน้ำ ค่าอาหาร โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่วัดละ 2,000 บาท ส่วนลูกทัวร์จะทำบุญเพิ่มเท่าไรขึ้นอยู่กับศรัทธา นอกจากนั้น ก็จะมีกลุ่มกฐินและผ้าป่าที่เรานำไปด้วย" น.ส.ลักษณ์ชนก กล่าว



นางแฉล้ม วีระกุลวงศ์ อายุ 63 ปี ภูมิลำเนาเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ท่องเที่ยวกับทัวร์ธรรมะมาหลายที่แล้ว รู้สึกว่าจิตใจปลอดโปร่ง เพราะเป็นการเดินทางทำบุญที่ไม่ต้องรีบเร่ง ได้เข้าวัดสักการะพระพุทธรูป ได้สวดมนต์ ได้พบกับเพื่อนใหม่ ที่หลากหลายอายุแต่สนใจเรื่องเดียวกัน ทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่รู้สึกเหงา



น.ส.อิงอร วสวัต อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.นนทบุรี กล่าวว่า แม้จะอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่ก็สนใจมาร่วมทัวร์ โดยที่มาของความสนใจเป็นเพราะในช่วงแรกทำหน้าที่ในการดูแลญาติผู้ใหญ่ที่ไปกับคณะ และเมื่อได้ทำกิจกรรมร่วมกับคณะ ทำให้รู้สึกว่าจิตใจปลอดโปร่ง เนื่องจากได้เรียนรู้วิธีการที่ทำให้จิตใจสงบและเอาชนะความโกรธได้



เผยอีสานบูมหนักช่วงออกพรรษา



นายธนพัฒน์ ณ ร้อยเอ็ด ไกด์ของบริษัท ฮอลิเดย์ปุยฝ้ายทัวร์ จำกัด จ.หนองคาย เปิดเผยว่า บริษัทได้ให้บริการทัวร์ธรรมะ หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะเน้นจัดกรุ๊ปทัวร์ไปเที่ยวระหว่างไทย-ส.ป.ป.ลาว หรือ หนองคาย-เวียงจันทน์ โดยทัวร์ธรรมะที่จัดทำจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ลักษณะทัวร์จะใช้ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ มาที่ จ.หนองคาย และเริ่มนับวันที่ จ.หนองคาย ทั้งนี้เมื่อมาถึง จ.หนองคาย จะเริ่มพาไปทัวร์วัดต่างๆ ใน จ.หนองคาย ที่เป็นวัดมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น วัดหลวงพ่อพระใส วัดพระธาตุบางพวน ซึ่งอยู่ใน อ.เมือง นอกจากนั้นจะมีวัดพระธาตุโพนจิกเบียงงัว อ.ท่าบ่อ วัดพระธาตุกลางน้ำ วัดภูทอก วัดสุธรรมเจดีย์ หรือวัดหลวงปู่เหรียญ วัดหินหมากเป้ง วัดพระพุทธบาท วัดถ้ำเพียงดิน อ.ศรีเชียงใหม่ ซึ่งล้วนแต่เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับ ส.ป.ป.ลาวแทบทั้งสิ้น ในช่วงค่ำก็จะนอนพักที่ จ.หนองคาย 1 คืน จากนั้นตื่นเช้าจะไปที่ ส.ป.ป.ลาว โดยพาเที่ยววัดที่มีอยู่ในกำแพงนครเวียงจันทน์ ไม่ว่าจะเป็น วัดเจ้าแม่ศรีเมือง หอพระแก้ว พระธาตุหลวง วัดศรีสะเกด พอเที่ยวเสร็จก็จะกลับมานอนที่ จ.หนองคายอีก 1 คืน จากนั้นก็จะส่งขึ้นรถไฟ หรือเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ



"ช่วงที่มีการจัดทัวร์ธรรมะชุกที่สุดจะเป็นช่วงออกพรรษาแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน และเป็นผู้หญิงจะนิยมมาเที่ยววัดเป็นจำนวนมาก เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ค่อยได้ทำอะไร อยู่บ้านเฉยๆ ก็จะจับกลุ่มกัน แล้วซื้อกรุ๊ปทัวร์มา" นายธนพัฒน์ กล่าว



นายนวล สารสอน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขต 3 ขอนแก่น กล่าวว่า การจัดทัวร์เที่ยววัดจะมี 2 แบบ คือมากับบริษัททัวร์ และมากันเอง เพื่อนำเงินกฐินผ้าป่ามาทอดถวาย ซึ่งจะมีมากในช่วงออกพรรษา ซึ่งส่วนใหญ่วัดที่มีการมาเที่ยวจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้วและเป็นที่รู้จัก เช่น วัดพระธาตุพนม วัดหินหมากเป้ง ในขณะที่อีกลักษณะหนึ่งคือ เกจิอาจารย์ที่อยู่ในวัดนั้นๆ และ ททท.ก็ได้ชูจุดเด่นตรงนี้ขึ้นมาเพื่อดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ โดยใช้โปรแกรม "ไหว้พระดีที่อีสาน"เข้ามาเสริมด้วย



นายวัลลภ นามวงศ์พรหม ประธานอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในจ.เชียงใหม่ ยังไม่มีการจัดทัวร์ธรรมะอย่างเป็นรูปธรรม จะมีแต่เป็นกลุ่มคนวัยเกษียณรวมกลุ่มกันเหมารถทัวร์พากันไปทอดผ้าป่าตามวัดต่างๆ และถือโอกาสท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวไปพร้อมกันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พบว่าเชียงใหม่กลายเป็นเป้าหมายของคนต่างถิ่นที่มาเที่ยวชมวัฒนธรรมและวัดที่มีความสวยงาม และเห็นด้วยหากบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐจะจัดทัวร์เพื่อศึกษาธรรมอย่างจริงจัง ทั้งนี้เนื่องจาก จ.เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของภาคเหนือ มีวัดอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะจัดขึ้นต้องให้ความสำคัญกับมัคคุเทศก์ เพราะต้องมีความรู้อย่างถ่องแท้





 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง