Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 โปรดเปรตสมภาร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2005, 10:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โปรดเปรตสมภาร

“ท่านผู้มีบุญ กรุณาช่วยด้วย กระผมพระครูศรีฯ เป็นเปรตอยู่นี่นานแล้ว”

สมภารเป็นเปรตเพราะเหตุอะไร เพราะเหตุที่น้อมเอาลาภของสงฆ์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ น้อมลาภของสงฆ์ไปเป็นประโยชน์ส่วนบุคคล ต้องอาบัตติปาจิตตีย์ สงฆ์ไม่ได้อนุญาตให้ ท่านแสดงอาบัติไม่ตก ท่านมรณภาพแล้ว จึงได้มาเป็นเปรต

หลวงพ่อได้ไปโปรดเปรตสมภารองค์หนึ่ง ที่วัดชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลฯ พอไปถึงเวลาค่ำคืน วัดนั้นไม่เคยไปซักที พอตกกลางคืนมาก็ทำสมาธิ พอหลับไปมันก็เกิดมีนิมิตฝันขึ้นมา

ฝันว่ามีกุฏิเก่าๆ ร้างๆ อยู่หลังหนึ่ง แล้วก็มีพระองค์หนึ่งที่สูงผิดปกติ สูงกว่าคนธรรมดาตั้ง 2 เท่า มองลอดช่องลมฝาผนังกุฎิตะโกนมา “ท่านผู้มีบุญ กรุณาช่วยผมด้วย กระผมพระครูศรีฯ เป็นเปรตอยู่นี่นานแล้ว”

เท่านั้นแหล่ะ ก็เลยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พอตื่นเช้ามาพอสว่างก็เดินไปหา หาอยู่ก็ไปเห็นกุฎิเก่าๆ ที่ฝันเห็น อ้อ กุฏิหลังนี้ ไปสังเกตดูสิ่งของใช้ทุกสิ่งทุกอย่างมีอยู่ในกุฏิหมด เตียงนอนก็ยังมีอยู่ แต่กุฏิกำลังจะพังแหล่ มิพังแหล่ เพราะมันหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่พวกเรายังไม่เกิดโน่น

แล้วทีนี้พอตอนเช้ามา พวกคนเฒ่าคนแก่เขามาจังหัน ก็เลยลองถามเขาดูว่า “พระชื่อพระครูศรีฯ อยู่นี่ เมื่อก่อนนี้เคยมีไหม” เขาบอกว่า “มี เป็นพระมาจากเวียงจันทน์ มาสร้างวัดนี้อยู่ ทีนี้พอท่านมรณภาพแล้วก็เป็นเปรตอยู่กุฏิหลังนั้น” เขาชี้ให้ดู

“เอ้า ! รู้ได้ไง ว่าท่านเป็นเปรต”

“รู้เพราะว่าพระเณรเอาหนังสือไปอ่าน หนังสือใบลานนี่ไปอ่าน ต้องรีบส่งก่อนตะวันตกดิน ถ้าค่ำแล้วท่านจะไปทวง รบกวนหลอกอยู่นั่นแหล่ะ”

ทีนี้เราก็มานึกได้ มานึกถึงเวลาที่แปลภาษาบาลีมันมีในคัมภีร์ พวกเปรตนี่ถ้ากลางวันแล้วมีความสุขสบาย สบายยิ่งกว่ามนุษย์ เปรตบางตนนี่มีวิมานเงิน วิมานทองอยู่ เสวยของทิพย์ แต่เมื่อค่ำลงนี่เสวยผลกรรม

พวกเปรตที่ไปเที่ยวตักอาหาร แย่งอาหารเขานี่ ตัวโตแต่ปากเท่ารูเข็ม แม้ว่าได้อาหาร จะดูดกินเท่าไรมันก็ไม่อิ่ม เกิดความหิวโหย ปวดท้อง ปวดไส้อยู่นั่นแหล่ะ จนกระทั่งสว่างโน่นแหล่ะ มันถึงจะได้สร่างไป มันไปตรงกับคัมภีร์

ทีนี้พอเสร็จแล้วก็ไปทอดกฐิน พอทอดกฐินแล้วพระมารวมกัน อาจารย์หลวงพ่อผายก็ไปด้วย วัดนั้นเป็นวัดมหานิกาย ทีนี้หลวงพ่อก็ประกาศคณะสงฆ์บอกว่า

“อดีตสมภารของวัดเรา พระครูศรีฯ ท่านอยู่ที่วัดนี้ยังไม่ได้ไปเกิด บางทีท่านอาจจะทำผิดต่อสงฆ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าท่านทำผิดต่อสงฆ์ ก็เป็นหน้าที่ของสงฆ์จะอนุญาตให้ท่าน เรามาอธิษฐานจิตใจอนุญาตให้ท่าน เผื่อว่าบางทีท่านอาจจะทำผิด อาจจะเอาของสงฆ์ ของอะไรไปเป็นส่วนตัว เรามาอนุญาตให้ท่านเสีย”

ทีนี้หลวงพ่อก็ประกาศขึ้นมา ถ้าหากว่าสงฆ์ท่านใดไม่เห็นดีเห็นชอบด้วยก็ขอให้นิ่งอยู่ ถ้าสงฆ์ท่านใดเห็นดีเห็นชอบด้วยก็ขอให้สาธุขึ้นพร้อมกัน

สงฆ์ก็สาธุขึ้นพร้อมกัน แล้วมานั่งสงบจิตสงบใจ อธิษฐานจิตให้ส่วนบุญส่วนกุศลท่าน พอหลังจากนั้นมาเปรตนั้นก็หาย กุฏิเขาก็รื้อลงมาสร้างใหม่ได้

เวลาเราอธิษฐาน หลวงพ่อก็ทำเหมือนๆ กันกับที่เราให้ส่วนบุญ ส่วนกุศลนั่นแหล่ะ แผ่เมตตา ทีนี้สำหรับคณะสงฆ์นี่ก็เราประกาศแล้วบอกว่า “ถ้าหากว่าพระครูศรีฯ นี้ท่านได้ประมาทล่วงเกินคณะสงฆ์ด้วยประการใดประการหนึ่ง เช่นเอาของสงฆ์ไปเป็นสมบัติส่วนตัว หรือเผลอให้ของสงฆ์แจกจ่ายไปโดยไม่ชอบด้วยพระวินัย บาปกรรมอันนั้นอาจจะสนองท่านให้ท่านมาข้องอยู่นี่ พวกเราทั้งหลายย่อมมีสิทธิ์ มีอำนาจที่จะยกโทษให้ท่าน พวกเรามาอธิษฐานจิตยกโทษให้ท่านเสีย อย่าให้ท่านเป็นบาปเป็นกรรมต่อไป”

เหมือนๆ กับที่พระมาขอขมาโทษกันธรรมดาๆ นี่แหล่ะ

ทีนี้พอสงฆ์ทั้งหลายสวดสาธุขึ้นมาแล้วก็อธิษฐานจิตใจ เป็นส่วนตัวของใครของเรา ใครมีบุญมีกุศลอะไร ก็อธิษฐานแผ่ส่วนกุศลให้ท่าน แล้วท่านก็ได้รับ แล้วก็ไปเกิดพ้นจากภาวะความเป็นเปรต ก็คงจะพ้นจริงๆ น่ะ เมื่อก่อนใครไปแตะต้องไม่ได้กุฏิหลังนั้น พอหลวงพ่อไป พาหมู่ทำแล้วมันก็หายไป

ภายหลังไปเล่าให้หลวงพ่อบุญ ชินวโส ฟัง ท่านบอกว่าเปรตตัวนี้ไปเกิดแล้ว และบอกว่า

“เมื่อก่อนนี้ผมกับอาจารย์ใหญ่ (หลวงตาพร) พอไปโปรด มันก็ไปอยู่บนกุฏินั่นแหล่ะ นั่งสมาธิภาวนาแผ่ส่วนกุศลให้ มันก็ไม่ยอมรับ พอดับไฟแล้วมันจะเดินกึ๊กๆ ขึ้นมา มาเปิดประตู ตู้หนังสือใบลาน แล้วก็เอาออกมาคลี่ได้ยินเสียงคลี่ดังกรึ๊กๆ พอจุดไฟขึ้นมาก็ไม่เห็นมีอะไร เล่นกันอยู่อย่างนี้ตลอดคืน ยันรุ่ง เจ้าไปโปรดมันพ้นทุกข์พ้นร้อนไป เจ้าก็เก่งกว่าครูบาอาจารย์ซิ”

“ไม่ใช่เก่งครับ แต่ว่าทำถูกแบบ ทำตามหลักพระธรรมวินัย”



..............................................................

http://www.lekpluto.com/index02/kram/kram02_006.htm
กฎแห่งกรรม เรื่องที่ ๓๐ จากหนังสือ “ฐานิยเถรวัตถุ”
เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
พิมพ์ส่งมาให้เป็นธรรมวิทยาทาน โดย คุณมูมู่
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2005, 9:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





สาธุด้วยครับ

ขอให้กำลังใจ เพื่อให้โพสกระทู้ใหม่ไปเรื่อยๆ

จะได้มีกระทู้ใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันๆ ด้วยครับ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ค.2007, 12:51 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมธนา สาธุ อ่านแล้วเสียวจัง เผลอทำบาปอะไรไม่รู้ตัวบ้างหรือเปล่าไม่รู้ สาธุ
 

_________________
Image
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง