Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อยากรู้ผลของการกระทำ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ก้อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2004, 6:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฉันคงผู้ชายคนนึงได้ประมาณ 7 เดือนแล้วตอนคบแรกๆผู้ชายคนนี้เพิ่งเลิกกับเมีย เดือนที่แล้วผู้ชายคนนี้มาบอกว่าเมียเก่าโทรมาบอกท้อง เขาต้องรับผิดชอบ เขาถามฉันว่าฉันรับได้ไหม ผู้ชายคนนี้แย่มากเห็นแก่ตัว ก่อนหน้านั่นมันเคยมีเมียแล้วเลิกกับเมีย มีลูก 2 คน ทุกวันนี้ลูกอยู่กับตา เมียคนโน้นก็มีผัวใหม่ ลูกคนโตตอนนี้ก็เกเรไม่ไปโรงเรียน แล้วผู้ชายคนนี้มันจะได้รับผลอะไรไหมที่ทอดทิ้งลูกและเห็นแก่ตัว
 
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2004, 6:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สิ่งที่เราได้ประสพ ในปัจจุบันนี้ สิ่งที่เราชอบ ไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ



ที่เข้ามาสัมผัส สัมพันธ์ กับเราในปัจจุบันขณะนี้ ล้วนเป็นวิบาก กรรม คือ เป็นผลของการกระทำ มาแล้วในอดีต ไม่รู้ว่า เมื่อวาน เมื่อปีที่แล้ว หรือ เมื่อหลาย ๆ ชาติที่แล้ว ที่เราได้ทำเอาไว้ เป็น กรรม (การกระทำ) เป็นเหตุเอาไว้

สิ่งที่เรารับรู้สัมผัสในปัจจุบันนี้ คือ ผล(วิบาก) แล้ว ครับ



พระพุธทองค์ทรงตรัส หลักความจริง กฏแห่งธรรมชาติว่า ทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ล้วนเป็นผลอันเกิดมาแต่เหตุ ทั้งสิ้น สิ่งที่เราได้รับในปัจจุบันเป็นผลจากการกระทำในอดีต การกระทำในปัจจุบัน ก็จะไปเป็นผลในอนาคต



กฏ อันนี้ เป็นกฏธรรมชาติ บุคคลทำอะไรไว้ ก็จะตามติดบุคคลนั้นไปดั่งเงาตามติดบุคคล ไปทุกที่ เมื่อถึงเวลา ก็จะเสวยผลแห่งการกระทำอันนั้น



คุณคงจะได้รับคำตอบแล้วนะครับ ว่า ชายคนนั้นจะได้รับผลกรรมอะไรไหม



เมื่อทำกรรมอะไรไว้ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหนีรอดพ้นจากบ่วงแห่งกรรมได้

ตัวเราก็เช่นเดียวกันครับ เมื่อรู้กฏธรรมชาตินี้ แล้ว ก็จงทำเหตุ ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำด้วยกาย วาจา หรือ ใจ ล้วนเป็นการสร้างเหตุทั้งนั้น ถ้าเหตุดีผลก็ดี ถ้าเหตุชั่วผลก็ชั่ว ไม่มีใครหนีพ้นไปได้ แม้แต่พระพุทธองค์ผู้ประเสริฐสุด ในหมู่มนุษย์ และเทวดา ยังได้รับเสวยผลแห่งกรรม ทั้งๆ ที่พระองค์ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว



ถ้าสนใจจะมาคุยให้ฟังใหม่ครับ เรื่องกรรมเนี่ย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2004, 7:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นด้วยกะนิวค่ะ



ใครทำกรรมอะไรไว้ เค้าก็จะได้รับผลตามนั้นแน่นอนแหละค่ะ



อยู่แค่ว่าจะช้าจะเร็ว



เหมือนประโยคที่ว่า



สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม



กัมมุนา วัฏฏีโลโก



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2004, 7:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เขียนผิดรึเปล่าเนี๊ยะ



อันที่ กัมๆ อ่ะ



ถ้าเขียนผิดช่วยบอกที่ถูกด้วยน๊ะค่ะ ว่าสะกดไง



ขอบคุณค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
สายลม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2004, 10:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



อ่านกฎแห่งกรรม


http://www.dhammajak.net/webboard/webboard.php?Category=d_kam



กระทู้เนื้อหาใกล้เคียง ช่วยเข้าไปตอบกันหน่อยนะครับ ขอร้อง


http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_kam&No=238



 
สายลม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2004, 11:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผิดครับอมัย



...

บาลี



กมฺมุนา วตฺตตี โลโภ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม





....

ไทย



กัมมุนา วัตตะตี โลโภ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม



 
DEV
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 155

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ค.2004, 8:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เยี่ยมไปเรยนิววววววววว



เดฟ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ค.2004, 8:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่า..… กรรมเก่า ประกอบด้วย "ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ"



เรียกว่า….. อายตนะทั้งหกนี้ คือ กรรมเก่า และยังเป็นที่ตั้งแห่งกรรมใหม่ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ต่างต้องอาศัยอายตนะทั้งหกนี้ เป็นตัวกระทำ ก็เพราะ “ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ”….. มิใช่ว่าจะมีไว้เฉยๆ ต้องดู ต้องฟัง ต้องพูด เป็นต้น และก็กิเลสเกิดขึ้น ยิ่งร่างกายเจริญเติบโตอยู่ในวัยหนุ่มสาวแล้ว ตา หู ก็ยิ่งเป็นสื่อแห่ง ราคะ โทสะ โมหะ ตามอำนาจจิตที่ยังไม่ได้ฝึกควบคุม



เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์จึงตรัสเพื่อให้รู้..... ผลของกรรมและให้ระมัดระวังในกรรม คือ..… การกระทำของตนเอง



พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎกว่า..…



“นตถิ กมมสมํ พลํ”



"ไม่มีอิทธิพลใด เหนืออิทธิพลแห่งกรรมดีกรรมชั่วไปได้"






ที่มา :

หนังสือสวดมนต์-ไหว้พระ-สาธยายธรรม

สำนักปฏิบัติธรรมแก้วมณีนนท์นพเก้า

ต.ลาดบัวหลวง อ. ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger
ไก่แก้ว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ค.2004, 5:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากให้ลองอ่าน "กรรมพยากรณ์" ของพี่ดังตฤณค่ะ


http://dungtrin.com/
http://www.bangkokmag.com/story_dan/show.php?part=1&title_no=กรรมพยากรณ์&part_no=1&title=กรรมพยากรณ์&page=1



ลองดูนะคะ

สิ่งที่เราได้รับในชาตินี้

บางอย่าง ไม่ใช่ผลของการกระทำในชาติที่ผ่านมา แต่กลับเป็นของชาตินี้เอง

ถ้าเราลองน้อมรำลึก และเห็นตามได้ จะกลัวการสร้างกรรมใหม่อย่างมากค่ะ



ขอให้คุณก้อยผ่านมรสุมชีวิตลูกนี้ไปได้อย่างรวดเร็วและงดงามค่ะ
 
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2004, 10:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





*** กรรมใครก็กรรมท่าน... กรรมใดที่ใครก่อ... กรรมนั้นหนอตอบสนอง... เป็นไปตามครรลอง... ตามกฎของคำว่ากรรม... ทำชั่วต้องมั่วทุกข์... ทำดีถูกสุขหนาหนำ... กรรมใดที่ใครทำ... ผลของกรรมจะตามไป





*** ทุกฺโข ปาปสฺส อุจจโย

การสั่งสมบาปนำทุกข์มาให้

                        ขุ.ธ.๒๕/๘๐





*** อันพิษร้ายของสัตว์ทุกชนิด..... มันมีพิษทำให้ตายเพียงหนึ่งหน..... แต่พิษร้ายของกรรมชั่วติดตามตน..... มันส่งผลร้ายกาจทุกชาติไป





*** อันคนพาลทำบาปแล้ว..... บาปยังไม่ส่งผล ก็เหมือนบาปนั้นเป็นของเอร็ดอร่อยหอมหวานน่าลิ้มลองเสียเหลือเกิน แต่เวลาบาปส่งผลแล้วก็หนีไม่พ้น ถึงอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็คุ้มครองไม่ได้..... ก็เพราะกรรมใครก็กรรมท่าน กฎแห่งกรรมตายตัว ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วแน่นอน..... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะคุ้มครองเฉพาะบุคคลที่มีความดีเท่านั้นหรือบุคคลที่มีบาปยังน้อยอยู่แล้วผลยังไม่ส่งให้ แต่ถ้าเป็นบุคคลที่มีบาปหนักสาหัสแล้วจะอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่เกิดผล





*** คนทำบาปหยาบคายจะไร้สุข

มีแต่ทุกข์เที่ยงแท้แน่หนักหนา

สะสมบาปบาปกลับประทับตรา

ลงอาญาตามกฎกำหนดกรรม

ใครจะช่วยใครได้เป็นภัยบาป

ละเอียดหยาบตรองตรึกให้ลึกล้ำ

รู้ว่าบาปชั่วช้าอย่ากระทำ

จงฟังคำพระเถิดประเสริฐเอย






ที่มา : หนังสือธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์สุโข กตปุญโญ









 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger

ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2007, 6:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โลโก ไม่ใช่เหรอ
 
โคมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2007, 10:08 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โลกป่วยเพราะความไม่รู้จักพอของคน
ทุกคนมีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นผู้ติดตาม เราจะทำกรรมอันใดไว้เราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นสืบไป
 
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2007, 11:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชายคนนี้เจริญอกุศลกรรมครบทั้งสามอย่างเลยครับ
โมหะหลงในความเป็นมายาตัวฉันเป็นให้เกิด
โลภะอยากสบายเป็นเหตุให้เห็นแก่ตัว เพราะกลัวตัวลำบาก
โทสะมีความขัดแย้งกับภรรยาเก่ามาก่อนทั้งความคิด พูด กระทำ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า มนุษย์จะไม่มาเกิดด้วย โมหะ โลภะ และโทสะ

บอกให้เขาใจไว้ได้เลย ยิ่งเขาเจริญมันบ่อยไ ก็ยิ่งเป็นการสะสม ถ้าความเข้มข้นของกรรมไปในทางดำมากก็นรก แล้วก็ไปเป็นเปรตต่อเพราะโลภ จากนั้นก็ไปเป็นเดรัจฉานอีกเพราะโมหะแน่นอน หรือถ้าขาวก็อาจได้มาเป็นมนุษย์อีก แต่ก็จะมีกรรมเก่าติดตามมาให้ได้รับนิสัยเดิม แล้วก็จะทำให้เขายิ่งสะสมไปหลายๆชาติ ณ ชาติหนึ่งชาติใดก็ดีเขาจะต้องเป็นคนที่บาปหนากว่านี้เป็นแน่ หากสัจธรรมความไม่แน่นอนไม่พลิกให้เขาได้พบกับธรรมะก็เสื่อมลงๆ จนเขาจะไม่ได้รับมนุษย์สมบัติอีกเลย

เรื่องของกรรมเราก็รู้แต่เพียงบัญญัติ มันสุดวิสัยคนธรรมดาอย่างเรา ที่ไม่มีพุทธวิสัยเหมือนพระพุทธเจ้า

ยังไงคุณนั้นแหละคือนางฟ้าที่จะมาชี้ทางให้เขา หากคุณเป็นนะ

May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับเจ้า
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง