Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ตำนานหมาขี้เรื้อน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
คนสองศอ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 26 ก.ย. 2007
ตอบ: 19
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 11:09 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่ง
เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก


ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน
เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆ จากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้

เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งเสร็จแล้ว
ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่ง
ที่วัดป่าแถวภาคอีสาน

พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย
เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน

แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูป
พลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน

ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอา
ก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับผิด
และชอบอวดรู้ ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ


วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่า
ไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน

ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง
เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่
หาว่าล้าสมัย ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่

ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า
ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน
กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา

ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง
ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปทีล้างไปบ่นไป
ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอก
ต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้

โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้
ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น
ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด
มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู
นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่
ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน
นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ


อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่า
ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ซ้ำนานๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง
วันๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ
ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน
การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง

เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัด
ที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย
รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่ง
เพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว
ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น
พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาส
มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้
สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น
และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหาร
ไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง
ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า

เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ
หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย
ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อย
ทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน
อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ

เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรื้อนตัวนั้นหรือไม่
เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน
คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน
เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้
อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน

แต่พวกเธอรู้ไหม
เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหน
มันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง
นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน
สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี

คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที
เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า
เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก


พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลง
เป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนา
หลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว

ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น
ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบ แต่ในวุ่นวาย
นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย
จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขา
เพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก


'อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคัน
กับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา'


โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย
แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่า

คำว่า หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ

ถ้าเรายังเป็นโรคอยู่ในใจ ไม่พอใจอะไรซักอย่าง เงินเดือนน้อย
หน้าที่การงานไม่พัฒนา ตำแหน่งไม่ไปไหน ไม่ว่าเราย้ายงานไปที่ไหน
เราก็ไม่พอใจ สถานที่เหล่านั้นไม่ดี คนไม่ได้เรื่อง
ทั้งๆ ที่เราไม่เคยได้ดูตัวเองเลยว่า
เราพัฒนาการทำงานของเรามั้ย ขวนขวายหาความรู้หรือเปล่า
ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้นเลย

*********************************************************

ขอบุญจากธรรมทานนี้จงถึงแก่นายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้า
และครอบครัว ที่มาถึงตัวทุกภพภูมิ

ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
หากไม่ถึงเพียงใดให้ขอให้คำว่าไม่มี ไม่รู้ในสิ่งที่ดี
จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า

ขอให้เกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง
และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ลึกซึ้ง
ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ.

สาธุ สาธุ สาธุ

ปล. ก๊อปมาจากเมล์ ไม่ระบุคนแต่ง ขออนุโมทนาสาธุกับคนเขียนด้วยครับ สาธุ

*********************************************************
 

_________________
คนเรา...อิ่มเดียว หลับเดียวก็เพียงพอแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 1:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 2:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สอนคนที่หลงไปเป็นหมาขี้เรื่อนน่ะ สอนได้
เพราะสอนแล้วเขากลับมาเป้นคนเหมือนเดิม

แต่สอนหมาขี้เรื้อนให้เป็นคน มันเป็นไปไม่ได้

้แสงแดดไม่เป็นประโยชน์กับบัวที่อยู่ในตม
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 3:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อีกภาคหนึ่งของหมาขี้เรื้อน

หมาขี้เรื้อนบางตัวมีความสุขจากขี้เรือน

การเกาแกะเป็นความมันในอารมณ์

หมายถึงกามาตัญหา

อยู่ในพระธรรมที่ไหนจำไม่ได้

แต่มีจริง

เป็นเรื่องของหมาขี้เรื้อนผิงกองไฟ

เมือขี้เรื้อนหายจึงรู้ว่าไฟร้อน

และหมาคงเหงา เพราะขาดเพื่อนคือขี้เรื้อนที่อยู่กันมานาน

จนเกิดความผูกพัน

เป็นภาวะตัญหา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 5:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ สาธุ สาธุ

ชอบๆๆ..... ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 5:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ คนสองคอ ข้าสองเจ้า บ่าวสองนายครับ

เรื่องนี้ ผมอ่านมานานแล้ว และเชื่อว่า คนอ่านเขาอ่านมาไม่รู้กี่ร้อยครั้งแล้ว คุณจะเอาเรื่องเก่าๆ มาพูดตอนนี้ทำไม

พราะมันมีคนที่ชอบจับผิด แล้วเขาจะถือโอกาศ เอาธรรม ที่แกมด่าแบบนี้มาสนองตัณหาตัวเองได้ แล้วคุณก็ไปเปิดทางความเป็นหมาขี้เรื้อน ให้กับคนที่ เขาจ้องจะคันอยู่ ผมจึงถือว่า คุณเป็นคนทำบาป เจตนา ยุแยงตะแคงรั่ว ไม่ควรยกธรรมอันไม่เหมาะกับกาล ขึ้นมาในสถานะการณื์ ฉุกเฉินตอนนี้
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 6:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

5555555

เอ้า...คุณ คนสองสอ...
...งานเข้า!



ไงล่ะ 5555
ผมบอกแล้ว



ฝากซื้อหวยไม๊
ผมคิดว่าผมซื้อหวยแล้วถูกแน่ๆเลย
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 7:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

55555555555555555

5555555555555555

555555555555555

อายหน้าแดง อายหน้าแดง อายหน้าแดง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คนสองศอ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 26 ก.ย. 2007
ตอบ: 19
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 11:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ธรรมะย่อมแสดงได้ทุกกาล ไม่มีกาลใดที่ไม่ควรแสดง สาธุ สาธุ สาธุ

ท่านขันธ์ ใยจะไปสนใจในตัวละคร
ถ้าตัวเรามิได้เป็นดั่งตัวละคร
ก็จงอย่าไปร้อนท้องเลย

สิ่งที่ผมยกมาแม้จะเก่าในสายตาท่าน
ก็ทันสมัยสำหรับผมเสมอ

ถ้าเราไม่ได้เป็นหมาขี้เรื้อน ก็จงอยู่เฉยๆเถอะ
อ่านแล้วก็พิจารณา แล้วปล่อยวาง จะเอามาเป็นทุกข์ทำไม


ท่านจะว่าผมเป็นคนบาป ก็คงจะรับพิจารณามิได้
เพราะบาปหรือไม่นั้น ตัวกรรมจะเป็นผู้กำหนด

เรามิได้คิดว่าท่านจะเป็นกรรม
แต่เป็นเพียงผู้ร่วมบทเพลง
แล้วจะต้องไปกังวลทำไม

อืม...อีกอย่างนะ ข้อความที่ท่านเขียนคติเตือนว่า

"เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไป"


แต่ท่านกำลังจะเอาไปวิพากษ์เสียเอง
จึงเป็นบาปและบุญ แบบนี้ นี่เอง
สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
คนเรา...อิ่มเดียว หลับเดียวก็เพียงพอแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 6:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

5555
มหากาพย์คู่ใหม่เริ่มแล้ว

ยาววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว แน่ๆ


ยินดีต้อนรับคุณคนสองศอสู่สมาคม xxx คับ
(xxx คือ ไม่รู้จะตั้งชื่อว่าอะไร)
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 9:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงครามครั้งนี้ คงไม่ยาวหรอก คามึน เพราะกระบวนท่าแรก คนสองเจ้า บ่าวสองนายก็พลาดแล้ว

อ้างอิงจาก:
ธรรมะย่อมแสดงได้ทุกกาล ไม่มีกาลใดที่ไม่ควรแสดง


ธรรมอันใด ก็ควรแสดงให้เหมาะต่อกาล พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้เอง
แม้แต่ ใครสักคนในที่นี้ก็เคย เอาพระสูตรมาลงไม่ใช่หรือ ว่า

ธรรมใดแม้เป็นจริง แต่หากไม่เหมาะกับกาล ตถาคตไม่กล่าวธรรมนั้น

อ้างอิงจาก:
ท่านขันธ์ ใยจะไปสนใจในตัวละคร
ถ้าตัวเรามิได้เป็นดั่งตัวละคร
ก็จงอย่าไปร้อนท้องเลย


ผมไม่ได้ร้อนท้อง กรุณากลับไปอ่านให้ดี ผมบอกว่า ผมเป็นห่วงคนที่จะเข้าทางนิทานท่านจนคันกันเอง ส่วนผมไม่คันอยู่แล้ว

อ้างอิงจาก:
สิ่งที่ผมยกมาแม้จะเก่าในสายตาท่าน
ก็ทันสมัยสำหรับผมเสมอ


ใหม่เพราะว่า ไม่เคยใช้หรือเปล่า มันเลยใหม่ตลอด ดุจดังของเก่าเก็บไม่เคยเอามาใช้

และสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ ธรรมอันนี้ มันเก่า และคาดว่าหลายๆ คนคงเคยอ่านมาแล้ว แต่ทำไมท่านยกขึ้นมาตอนนี้ ท่านยกมาไม่ได้ดูเจตนาตนว่า จะเสียดสีคนอื่นหรือไม่

อ้างอิงจาก:
"เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไป"

แต่ท่านกำลังจะเอาไปวิพากษ์เสียเอง
จึงเป็นบาปและบุญ แบบนี้ นี่เอง


กรุณาอ่านให้ดี เพราะธรรมที่ผมพูดนี้กินความลึกซึ้งไปถึง อริยมรรค
ดังนั้น ผมไม่ได้ห้ามและไม่มีความใดบอกว่า ห้ามเอาใจไปวิพากษ์สิ่งใด
แต่ ไม่ควรหลง นั่นคือสิ่งที่ต้องระลึก คือ สรุปว่า อย่าหลง และแม้ผมจะวิพากษ์ แต่ไม่ได้หลง

คุณ คนสองคอ คุณ ยกธรรมอย่างไม่ตรงสถานการณ์
เพราะกระทำอะไรด้วยอกุศลผลักดัน มันก็ไม่มีที่ตั้ง ไม่มีที่พิง พอเจอธรรม มันก็ต้องล้มพับไป เป็นเรื่องปกติ
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 10:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อุบ๊ะ !! (ตบหัวเข่าฉาด...ไปทางซ้าย)

รวยจริงๆแล้วผมนี่
น่าจะเกทับหมดหน้าตัก

เดี๋ยวงวดหน้า สวยยยยยย
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คนสองศอ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 26 ก.ย. 2007
ตอบ: 19
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 10:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นเรื่องปกติของพวกปลาไหล ไปได้เรื่อยๆ
แต่สุดท้ายก็เจอเสียมจับเข้าหม้อ
ไปไม่รอดน่ะคุณคามิน

ผมกะคุ่กรณีของคุณคนนี้ จะยาวหรือไม่
ไม่หรอก เพราะเขาไม่คู่ควรอะไร
หรือมีข้อความที่เป็นประโยชน์ต่อผมเลย ไม่นานหรอก

อ้างอิงจาก:
ธรรมอันใด ก็ควรแสดงให้เหมาะต่อกาล พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้เอง
แม้แต่ ใครสักคนในที่นี้ก็เคย เอาพระสูตรมาลงไม่ใช่หรือ ว่า

ธรรมใดแม้เป็นจริง แต่หากไม่เหมาะกับกาล ตถาคตไม่กล่าวธรรมนั้น


อันธรรมนี้ ผมคิดว่าเหมาะยิ่ง สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้
แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ใช่ก็แล้วแต่คุณ
เพราะคุณมัวแต่เอาใจไปวิพากษ์ในทุกเรื่อง

คิดว่า ตัวเป็นดั่งตัวละครนี้
เลยเฝ้ารอดู อย่างกระเหี่ยนกระหือรือ

อ้างอิงจาก:
ผมไม่ได้ร้อนท้อง กรุณากลับไปอ่านให้ดี ผมบอกว่า ผมเป็นห่วงคนที่จะเข้าทางนิทานท่านจนคันกันเอง ส่วนผมไม่คันอยู่แล้ว


ถ้าคุณไม่ได้คันก็ดีแล้ว จะกังวลแทนคนอื่นไปทำไม
แต่ผมว่าคุณ "คัน" นะ
ไม่งั้นคุณอารมภบทยืดยาวทำไม


อีกอย่างผมก็ยังไม่เห็นว่า
จะมีใครเค้าคันเหมือนคุณเลยซักคน
น่าแปลกมั้ยล่ะ ลองพิจารณาดู
หรือจะรับซีมาโลชั่นซักหลอด ผมจะซื้อให้
(เป็นห่วง เห็นว่าช่วงนี้ฝนตกทุกวัน)

อ้างอิงจาก:
ใหม่เพราะว่า ไม่เคยใช้หรือเปล่า มันเลยใหม่ตลอด ดุจดังของเก่าเก็บไม่เคยเอามาใช้

และสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ ธรรมอันนี้ มันเก่า และคาดว่าหลายๆ คนคงเคยอ่านมาแล้ว แต่ทำไมท่านยกขึ้นมาตอนนี้ ท่านยกมาไม่ได้ดูเจตนาตนว่า จะเสียดสีคนอื่นหรือไม่


ธรรมใดๆนั้น ไม่เคยเก่าเลย
และจะไม่มีวันเก่า ถ้าเรารู้จัก และเข้าใจ
คนที่คิดว่าเก่า แสดงถึงความไม่เข้าใจในธรรมะ
ด้วยแบบนี้ เหตุถึงได้เกิด ที่นี่

ธรรมบทนี้ไม่ได้เสียดสีใคร
ยกเว้นตัวละคร แต่ถ้าบุคคลใดคิดว่าเป็น
ก็แสดงว่า ตนเป็นเช่นนั้นจริงๆ


อ้างอิงจาก:
กรุณาอ่านให้ดี เพราะธรรมที่ผมพูดนี้กินความลึกซึ้งไปถึง อริยมรรค
ดังนั้น ผมไม่ได้ห้ามและไม่มีความใดบอกว่า ห้ามเอาใจไปวิพากษ์สิ่งใด
แต่ ไม่ควรหลง นั่นคือสิ่งที่ต้องระลึก คือ สรุปว่า อย่าหลง และแม้ผมจะวิพากษ์ แต่ไม่ได้หลง


งั้น ผมแนะนำให้ไปเขียนต่อว่า อย่าหลง
ต้องระลึกรู้เสมอว่าอย่า "หลง" แต่วิพากษ์ได้
ขำ ขำ ขำ

อ้างอิงจาก:
คุณ คนสองคอ คุณ ยกธรรมอย่างไม่ตรงสถานการณ์
เพราะกระทำอะไรด้วยอกุศลผลักดัน มันก็ไม่มีที่ตั้ง ไม่มีที่พิง พอเจอธรรม มันก็ต้องล้มพับไป เป็นเรื่องปกติ


ธรรมะเป็นอกาลิโก ทันสมัยอยู่เสมอ
ที่ผมยกมาก็ไม่ได้เจาะจงหมายใครเป็นพิเศษ
แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงมีคนแถวนี้ออกอาการจนน่าเป็นห่วง
 

_________________
คนเรา...อิ่มเดียว หลับเดียวก็เพียงพอแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 10:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โอว มายก๊อดจิ


ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน


ร๊วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 11:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนสองศอ พิมพ์ว่า:
ธรรมใดๆนั้น ไม่เคยเก่าเลย
และจะไม่มีวันเก่า ถ้าเรารู้จัก และเข้าใจ


สาธุ สาธุ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับท่าน.... ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 12:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขำ ปรบมือ แลบลิ้น

สุดยอดจริงๆ

ท่านสองศอ

ธรรมนั้นมีอยู่แล้ว

ไม่ขึ้นกับเวลา

ไม่มีผู้สร้าง

ใครจะพิจารณาเพื่อความหลุดพ้นก็ได้

จะเอาไว้กรดแทรกอารมณ์ให้มันในอรมณ์ก็ได้

เช่นเดียวกันกับปูน

ใครกินก็ไม่ร้อนท้อง

นอกเสียจาก

ตุ๊กแก่
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 1:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
อันธรรมนี้ ผมคิดว่าเหมาะยิ่ง สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้
แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ใช่ก็แล้วแต่คุณ
เพราะคุณมัวแต่เอาใจไปวิพากษ์ในทุกเรื่อง

คิดว่า ตัวเป็นดั่งตัวละครนี้
เลยเฝ้ารอดู อย่างกระเหี่ยนกระหือรือ


คุณนี่ไม่ยอมตอบนะ ว่า ธรรมควรยกขึ้นตามสถานะการณ์จริงหรือไม่

แล้วตอนแรกคุณบอกว่า

อ้างอิงจาก:
ธรรมะย่อมแสดงได้ทุกกาล ไม่มีกาลใดที่ไม่ควรแสดง


ภายัหลังกลับลำ เปลี่ยนว่า

อ้างอิงจาก:
อันธรรมนี้ ผมคิดว่าเหมาะยิ่ง สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้
แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ใช่ก็แล้วแต่คุณ
เพราะคุณมัวแต่เอาใจไปวิพากษ์ในทุกเรื่อง


นี่หรือครับ คนมีธรรมกลับลำ กลืนน้ำลายตัวเองดื้อๆ เลยหรือ

อีกประการหนึ่ง หากคุณคิดว่า การเอาใจไปวิพากษ์เป็นเรื่องไม่ดี
แล้วคุณ ยกธรรมขึ้นมาบอกคนอื่นทำไม ข้อนี้คุณแย้งกันเอง
แสดงว่า คุณนั่นแหละ เอาใจไปวิพากษ์

ผมต่างหากครับ ที่เตือนคุณว่า ไม่ควรยกมาตอนนี้ เพราะว่า มันเป็นแนวทางให้ทะเลาะกันเพิ่ม แต่คุณกลับไม่สนใจ อวดดีมาสอนคนอื่นแถมยัง พูดจาขัดแย้งกัน ห้ามคนอื่น แต่ตนเองเป็นตั้งแต่แรก ไม่ดูตนเอง

อ้างอิงจาก:
ธรรมใดๆนั้น ไม่เคยเก่าเลย
และจะไม่มีวันเก่า ถ้าเรารู้จัก และเข้าใจ
คนที่คิดว่าเก่า แสดงถึงความไม่เข้าใจในธรรมะ
ด้วยแบบนี้ เหตุถึงได้เกิด ที่นี่


คุณธรรมแท้ไม่มีเก่า แต่บทความนี้คือเรื่องราวธรรมะที่ใครๆ ก็อ่านกันมาหมดแล้ว ย่อมบอกได้ว่าเก่า คุณหยิบเรื่องเก่าที่คนพูดแล้ว ยกมาหมายจะให้คนอื่นสะเทือน ผมก็บอกว่า หยิบเรื่องเก่า มาพูดอย่างไม่เกิดประโยชน์
ข้อนี้คุณแกล้งโง่ หรือ โง่จริงที่เถียงออกมาในรูปแบบนี้

อ้างอิงจาก:
งั้น ผมแนะนำให้ไปเขียนต่อว่า อย่าหลง
ต้องระลึกรู้เสมอว่าอย่า "หลง" แต่วิพากษ์ได้


คุณจะมาให้ผมขียนต่อทำไมหละ ในเมื่อผมเขียนอย่างดีแล้วแต่ สติปัญญาคุณยังมองไม่ถึงเอง
ผมยกให้ดู

อ้างอิงจาก:
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์


สงสัยคุณ ต้องไปทำสติให้ดีแล้วใคร่ครวญก่อนจะมารบกับผม

อ้างอิงจาก:
ธรรมะเป็นอกาลิโก ทันสมัยอยู่เสมอ
ที่ผมยกมาก็ไม่ได้เจาะจงหมายใครเป็นพิเศษ
แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงมีคนแถวนี้ออกอาการจนน่าเป็นห่วง


ผมจะให้คุณดูอะไรหลังจากคุณ พูดธรรมนี้

อ้างอิงจาก:
สอนคนที่หลงไปเป็นหมาขี้เรื่อนน่ะ สอนได้
เพราะสอนแล้วเขากลับมาเป้นคนเหมือนเดิม

แต่สอนหมาขี้เรื้อนให้เป็นคน มันเป็นไปไม่ได้

้แสงแดดไม่เป็นประโยชน์กับบัวที่อยู่ในตม
นี่ไม่เห็นหรือว่า คามินรีบมากล่าวเพิ่มทันที

ข้อนี้ อย่ามาปฏิเสธว่า ไม่ได้หมายถึงใคร เพราะเหตุการณ์มันชี้ชัดอยู่
อีกประการหนึ่งคือ การที่คุณเน้น คำว่า หมาตัวสีน้ำเงินบ้าง สีแดงบ้าง

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า คุณเคยพูดว่า อะไร

อ้างอิงจาก:
คุณคามินครับ ผมคิดว่ามีไม่มีใครมองคุณหรือใคร
แม้แต่คู่กรณีคุณเป็นหมาเลยนะครับ
เพราะหมามันอ่านหนังสือไม่ออก
เขียนหนังสือไม่เป็น เล่นคอมก็ไม่เป็นอีกนั้นแหละ

อย่าไปเปรียบอย่างนั้นเลย

อย่างไรผมก็มองว่า คุณและคู่กรณีคุณ
เป็นมนุษย์ประเสริฐที่มีโอกาสได้เกิดมาสร้างบุญ
อย่าไปจองเวรกันอีกเลยนะครับ

ส่วนคู่กรณีคุณ ก็คงจะหยุด ถ้าคุณไม่แหย่เขาแบบนี้ ก็คงจบ
หรือจะต้องเชิญคุณทั้งคู่ไป ทะเลาะกันที่เวทีมวยดีหรือเปล่า
อย่ากระนั้นเลย จงหยุดเถอะครับ


คุณ คนสองคอ ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย ถ้าคุณยังเป็นลูกผู้ชายขอความกรุณา รับผิดชอบกับความคิดของคุณด้วย และให้ถือปฏิบัติดังที่ตนเองสอนคนอื่น อย่าทำตัวดังว่า เมื่อเห็นคนอื่นผิด ตัวเองด่า ตัวเองเตือน ครั้นพอเข้าถึงตัว ก็ลืมธรรมเหล่านั้นที่ตนเองเคยพูดหมด
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 1:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วน คามึน และ mes ( mad en stupid ) แปลว่า บ้าและโง่
คุณ อย่าทำตัวเป็นพวกกองเชียร์ ตัวเองเถียงไม่เป็น เลยยืมมือคนอื่น
เถียง ยุแยง ครั้นเมื่อคนอื่นเขามาเถียง ก็ออกโรง เป็นกองเชียร์

นิสัยสันดานอย่างนี้ มันต้องไปเป็น พวกตัวอิจฉา หรือ ตัวร้ายในละครช่องเจ็ด 555
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 4:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
นี่หรือครับ คนมีธรรมกลับลำ กลืนน้ำลายตัวเองดื้อๆ เลย


คุณขันธ์นี่ก็แปลก

น้ำลายคนอื่นใครจะไปกลืน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 4:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ส่วน คามึน และ mes ( mad en stupid ) แปลว่า บ้าและโง่
คุณ อย่าทำตัวเป็นพวกกองเชียร์ ตัวเองเถียงไม่เป็น เลยยืมมือคนอื่น
เถียง ยุแยง ครั้นเมื่อคนอื่นเขามาเถียง ก็ออกโรง เป็นกองเชียร์

นิสัยสันดานอย่างนี้ มันต้องไปเป็น พวกตัวอิจฉา หรือ ตัวร้ายในละครช่องเจ็ด


เชียร์กันหน่อย

เอ้า......เชียร์กันหน่อย

ตบจูบ...........ตบจูบ

ทำนองเพลง แห่ขันธ์หมาก


คนสองศอ..........สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง