Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ...กฎแห่งกรรม... อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2008, 6:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

กฎแห่งกรรม
เมื่อทำดีเราอยากได้ผลดีตอบ
เมื่อลักลอบทำความชั่วกลัวบ้างไหม
ชั่วที่ทำกรรมที่ก่อเกิดกับใคร
หากมิใช่ตัวของเราเจ้าของกาย

มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ เพราะมีมันสมองเลิศกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย
แต่ก็ยังมีชื่อว่าผู้ที่เป็นมนุษย์อยู่อีกเป็นจำนวนมาก
ที่มิได้ใช้มันสมองอันเลอเลิศประเสริฐกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ให้เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อย
ทว่ากลับมาสร้างบาปกเวรกรรมและทำความชั่วใส่ตน
อย่างไม่เคยคิดพิจารณาถึงผลลัพธ์ในภายหน้า

คำว่า กรรม แปลว่า การกระทำ
ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าดีหรือชั่ว
กฎแห่งกรรมจึงมีความหมายว่า
ผลของการกระทำที่ไม่อาจหลีกหนีได้พ้น
มนุษย์เรานั้นจะได้ดีหรือชั่ว ก็เพราะตัวเองเป็นผู้ก่อ หรือผู้กระทำ
หากประกอบเหตุดีได้รับผลดี หรือกรรมดี
หากประกอบเหตุชั่วก็ได้รับกรรมชั่วมากกว่ากรรมดี
หรือบุคคลที่ทำความผิดคิดคดโกงทุจริต จิตโลภโมโทสัน
กระทำการทุจริต ๓ อย่าง เช่น

๑. กายทุจริต กระทำชั่วทางกาย
ไปฆ่าเขา ผลกรรมคืออายุสั้น
ทุจริตโกงกิน ผลกรรมคือเป็นโรคหวาดผวา
ประพฤติผิดลูกเมียคนอื่น
ทำให้เกิดผลกรรมคือเป็นโรคเอดส์ กามโรคได้ง่าย เป็นต้น

๒. วจีสุจริต กระทำความชั่วทางวาจา หรือคำพูด
เพราะการพูดโดยไม่คิดเท่ากับพ่นพิษใส่คนอื่น
ผลกรรมคือทำให้เป็นโรคความจำเสื่อมหลงๆ ลืมๆ
ฟันไม่สวยต้องใส่เหล็กดัดฟัน เป็นต้น
ไม่มีคนจะเชื่อคำกพูดหาคนจริงใจไม่มี

๓. มโนทุจริต การกระทำความชั่วทางความคิดถึงไม่ผิดกฎหมาย
แต่ก็เป็นที่ตายไปแล้ว ในความคิดของผู้อื่น
จิตที่คิดจะให้สบายใจกว่าจิตที่คิดจะเอา
ผลของการเป็นคนเห็นผิด ทำให้ชีวิตมืดมน
เพราะเห็นผิดเป็นชอบ ประกอบแต่บาป ซึมซาบแต่ความเลว
และเป็นพวกล้มเหลวทางความคิด จิตไม่สมประกอบ
เพราะชอบเอาเปรียบผู้อื่น

ทั้ง ๓ ประการนี้คือการกระทำความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจ
บัณฑิตนั้น ย่อมไม่สรรเสริญเยินยอแต่ประการใด
ทำแล้วทำให้เกิดผลกรรมชั่วตามติดตัว ตัวใครก็ตัวมัน
ลำพังพวกคนชั่วมักมีคำพูดปลอบใจพวกคนชั่วด้วยกันว่า

“เกิดมากลัวอะไร เกิดหนเดียวตายหนเดียว”

นี่คือคำพูดของคนสิ้นคิด คนที่คิดผิดพร้อมจะทำชั่ว
อย่าลืมซะว่า “ดีชั่วก็เพราะตัวทำ
เกิดเป็นกฎแห่งกรรมนำไปสู่การใช้เวรกรรม”
เราทุกคนอยู่ภายใต้อำนาจกฎแห่งกรรม
ก็ควรจำไว้ว่า อย่าส่งเสริมคนชั่ว อย่าหลวมตัวทำบาป
อย่าปล่อยให้กิเลสชักชวนในทางผิด อย่าให้จิตอยู่ใต้อำนาจฝ่ายต่ำ

สมดังภาษิตบาลีบทหนึ่งกล่าวว่า
“กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
สัตว์โลกคือมนุษย์เราท่านที่อ่านบทความอยู่นี้แหละ
มิใช่ผู้ใดใครอื่นเลย ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม
ตนจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
นรกสวรรค์มีจริง เวรรกรรมมีจริง
มนุษย์เราที่เกิดมาทุกคนควรจะได้ตระหนักให้ข้อคิดสะกิดใจตนเองว่า
ชีวิตเราเกิดมาเพื่อขวางทางบาป มิใช่ขวางทางบุญ
นั่นแสดงว่า เกิดมาขวางบาป ปราบทางชั่ว
ปิดทางมืดมัว แล้วเปิดประตูบุญ

คนเรานั้น มี จิตเป็นนาย มีกายเป็นบ่าว
ชอบทำอะไรตามใจหรือตามที่จิตสั่ง ไม่มีบ้างเลยที่จะยับยั้งชั่งใจ
หลงลืมสติสัมปชัญญะ ความรู้สึกสำนึกต่อผิดชอบชั่วดี
เมื่อเป็นอย่างนี้อำนาจของกฎแห่งกรรมในอกุศลธรรม
กรรมอันเป็นฝ่ายชั่ว จึงได้ปรากฎตัวและแสดงผลอย่างเด่นชัด
เพราะไม่รู้จักหาทางขจัดมัน
กฎแห่งกรรมเราท่านอาจหนีไปไม่พ้น
เราควรทำตนให้ประกอบแต่กรรมดี เพื่อหนีกรรมชั่ว
เหตุเพราะขวางทางเพื่อบาปไม่เกิดประเสริฐแล้ว

ก็ไม่แคล้วเข้าทางบุญการุณเกื้อ
บาปลี้ลับก็เอาบุญมาจุนเจือ
ช่วยกันเอื้อช่วยกันส่งให้ตรงทาง...
(ธรรมะรุ่งอรุณวิถีพุทธ พระครูประทีปธรรมพิมล)

---------------------------

ขอขอบคุณ เว็บไซต์วัดยานนาวา
คัดลอกจาก...
http://www.dhammadelivery.com/teaching-detail.php?tea_id=13

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง