สวดมนต์ทีไรเหมือนจะไข้ขึ้นทุกที

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 6:19 pm

มีท่านใดพอจะตอบได้บ้างว่า เวลาไหว้พระสวดมนต์ทีไรทำไมเสียงจึงค่อยๆ เริ่มเปลี่ยน/ ค่อยๆ เริ่มสั่น/ ตาค่อยๆ กระตุกบางครั้งกระตุกมากๆ จนเริ่มเมื่อย จะเกิดขึ้นทุกครั้งไปที่มีการสวดมนต์

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 8:06 pm

ไม่เคยเป็นอย่างนั้น

เบื้องต้นแนะนำว่า ก่อนสวดมนต์ให้ลองสังเกตความคิด/ความรู้สึกตนเองสิครับ ว่าตั้งใจเอาจริงเอาจังเกินไปไหม คือตั้งอกตั้งใจจนเกร็ง

เหมือนบางคนตั้งใจเดินจงกรม กลัวผิดเลยตั้งอกตั้งใจเดินจนเกร็งไปหมด แข็งขาสั่นเดินไม่ได้

วิธีคิด วิธีทำใจ คือให้มองว่าสิ่งที่จะสวดจะทำ เป็นเรื่องปกติธรรมดา สวดผิดก็สวดใหม่ เดินผิดก็เดินใหม่

เอาใหม่ครับ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรือน่าวิตกกังวล ธรรมดาๆ

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 8:12 pm

แต่เริ่มสวดมนต์ได้ประมาณ4ปีแล้ว และก็จะยังเป็นอยู่บ่อยๆพยายามหาสาเหตุอยู่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจนบางครั้งไม่อยากจะทำต่อ

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 8:22 pm

ตอบเร็วทันใจจัง ยิ้ม

ทั้งหมดเกิดจากจิตหรือความคิดทั้งนั้นครับ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้

คุณสวดมานานถึง 4 ปีแล้ว ก็เหมือนทำสมาธิมา 4 ปีแล้วนั่นเอง

สมาธิมีแน่นอนชัดเจน

ศึกษาตัวอย่างนี้ดูครับ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16928

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 8:28 pm

วันนี้กลับไปจะลองทำดู แต่มีอีกอย่างนะคะดูออกจะตลกนิดๆแต่ที่บ้านจะรู้กันทุกคนเวลาสวดมนต์ไหว้พระเมื่อไหร่วันร่งขึ้นจะต้องมีเรื่องที่บ้านทุกครั้ง ทุกคนในบ้านยังว่าแปลกเลย หรือคุณมีความคิดเห็นว่ายังไง ช่วยตอบที

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 8:34 pm

เรื่องบวกหรือลบครับ
ถ้าเป็นเรื่องดีเรื่องบวก ก็สวดทุกวันก็ดีทุกวัน ยิ้ม

สมมุติว่าเรื่องลบ วันไหนสวดมนต์แล้ว ก็ตั้งใจว่า พอกันทีเรื่องที่ไม่พึงปรารถนา
ด้วยเดชแห่งบุญนี้ เรื่องดีๆสิ่งที่เป็นมงคลจงบังเกิดมีบ้าง อธิษฐานจิตไปในทางดีให้มั่น

กล่าวโดยสรุปก็คือคิดจูงใจตนให้มุ่งให้มุ่งสู่สิ่งที่เป็นมงคล คิดนึกถึงสิ่งดีงาม

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 8:53 pm

lส่วนมากจะร้ายค่ะ เมื่อก่อนที่จะมีอาการอย่างนี้ คือตอนช่วงดวงตก (หรือเรียกอีกอย่างชะตาขาด) ด้วยความที่คิดฟุ้งซ่านและจิตตกก็เลยหันมาสวดมนต์ พอเริ่มสวดอาการอย่างนี้ก็มา เลยแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น วันต่อๆมาก็เริ่มสวดแล้วก็เป็น เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าคืออะไร ไม่เกิน 3 วันญาติคนหนึ่งซึ่งขาดการติดต่อกันมาเป็น 10 ปีโทรมาหาดิฉันแล้วบอกว่าอยู่ๆคิดถึงขึ้นมาเลยขอเบอร์ดิฉันกับญาติอีกคน ได้จังหวะเลยเล่าให้เขาฟัง เค้าบอกว่าตอนนี้ตอนนี้ตัวเขาเป็นหมอดูอยู่ที่เมืองจีน เค้าบอกดิฉันว่าตอนนี้ชะตาขาดให้สวดมนต์บทสรรเสริญเจ้าแม่กวนอิมดู แล้วให้ลองตั้งขันธ์เทพดู ตอนแรกดิฉันคิดในใจว่าอะไรเนี่ย! เงินจะกินยังไม่มีแล้วจะต้องจะต้องมาเสียเงินกับอะไรก็ไม่รู้.......เค้าบอกไม่ต้องให้หาอุปกรณ์เทียนขาว5 / ธูป5/ ดอกไม้5/ เขียนชื่อนามสกุล ว-ด-ป ลงไปด้วย แล้วขอบารมีจากเบื้องบนให้คุ้มครอง นะเวลานั้นคุณคงเข้าใจในความรู้สึกของคนขาดที่พึ่งนะคะ ก็เลยลองทำตาม ลองสวดติดต่อกันตลอดอาทิตย์ อยู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในชีวิต...พอทุกอย่างดีขึ้นจึงเลิกสวดไป หันมาสวดใหม่ก็ตอนชะตาตกอีกครั้งคราวนี้ก็เป็นอาการอย่างนี้อีกมาเรื่อยค่ะ อายหน้าแดง

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 9:06 pm

เอาใหม่ครับ สวดสรรเสริญคุณพระรัตนไตรดีกว่า
สวดแล้วอธิษฐานจิตตั้งใจให้มั่นว่าด้วยเดชแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณ
ขอให้สิ่งที่เป็นชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า

บทสวดดังนี้ครับ

-นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง - พุทโธ เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ - โหตุ เม ชะยะมังคะลัง

-นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง - ธัมโม เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ - โหตุ เม ชะยะมังคะลัง

-นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง - สังโฆ เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ - โหตุ เม ชะยะมังคะลัง ฯ

ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 9:10 pm

อ้างอิงจาก:

ส่วนมากจะร้ายค่ะ เมื่อก่อนที่จะมีอาการอย่างนี้ คือตอนช่วงดวงตก (หรือเรียกอีกอย่างชะตาขาด) ด้วยความที่คิดฟุ้งซ่านและจิตตกก็เลยหันมาสวดมนต์ พอเริ่มสวดอาการอย่างนี้ก็มา เลยแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น วันต่อๆมาก็เริ่มสวดแล้วก็เป็น เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าคืออะไร

ว่าสวดมนต์ มนต์บทไหนครับ นำมาจากหนังสือสวดมนต์หรือนำมาจาก...

ตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2008, 8:42 am

อ้างอิงจาก:

หันมาสวดใหม่ก็ตอนชะตาตกอีกครั้งคราวนี้ก็เป็นอาการอย่างนี้อีกมาเรื่อยค่ะ

อาการดังกล่าว ได้แก่อารมณ์หรือความรู้สึกที่ตกค้างอยู่

แก้ด้วยวิธีควบคุมตนเองแบบลิงค์นี้

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16928

ตอบเมื่อ: 19 ก.ย. 2008, 5:48 am

คุณ bennie หายไปเลยนะครับ ทดลองสวดมนต์อีกหรอยังครับ สวดแล้วมีเหตุการณ์อะไรเกิดอีกบ้าง ว่างๆ ส่งข่าวบ้างครับ ยิ้ม