Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอแยกแยะ ‘บุญที่ทำให้รวย’ เป็นข้อๆ ดังนี้ (ดังตฤณ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ทัพหลวง
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 161

ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 7:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วนกรรมหลักๆ ที่ทำให้ ‘ร่ำรวยมาก’ ได้แก่

๑) ความมีนิสัยใจคอเผื่อแผ่ คือเอาแต่คิดให้ ผูกใจอยู่กับการให้ เคยชินกับการเป็นผู้ให้ ขนาดไม่มีให้ก็ขวนขวายกระวนกระวายอยากหามาช่วยเหลือคนกำลังตกทุกข์ได้ยาก ตลอดชีวิตมีแต่ใจอยากเจือจาน กลัวแต่ว่าคนอื่นจะมีไม่พอ กระทั่งลืมๆว่าตัวเองจะมีพอไหม ผลแห่งการใจดีเกินธรรมดา คือการเป็นผู้มีทรัพย์มากเกินกว่าชาวโลกทั่วไปเขา

๒) การละอายต่อบาปอย่างยิ่งยวด คือขนาดยอมอดตายดีกว่าคิดคดโกง ผู้ไม่คิดเพ่งเล็งเอาทรัพย์ผู้อื่นโดยมิชอบ ย่อมรับผลเป็นความสวัสดีแห่งทรัพย์ แม้ความตระหนี่ในอดีตอาจก่อให้เกิดทรัพย์เพียงน้อย ทว่าทรัพย์นั้นก็จะอยู่ทน ไม่วิบัติไปด้วยภัยธรรมชาติหรือภัยจากมือโจร

นอกจากนี้ ยังมีกรรมปลีกย่อยที่ทำให้ร่ำรวยได้อีกมากมายนับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างพอให้เห็นภาพชัดๆ เช่น ชี้ช่องคนอื่นรู้จักทำมาหากิน ช่วยให้เขาเป็นผู้ฉลาดในธุรกิจ กับทั้งมีใจใหญ่คิดเผื่อแผ่กลยุทธ์ให้กับคนทั้งประเทศ หรือทั้งโลก หากการเผื่อแผ่ของเขาเป็นไปโดยบริสุทธิ์และปรารถนาให้คนทั้งแผ่นดินอยู่ดีกินดี มีชีวิตที่เป็นสุขขึ้น บุญที่ทำนี้ก็มีสิทธิ์นำให้ไปเกิดในถิ่นฐานอุดมสมบูรณ์ หรืออย่างน้อยแม้เกิดในถิ่นฐานแห้งแล้งด้วยบาปบางประการ เขาก็จะมีกินมีใช้เหนือกว่าคนที่อยู่แวดล้อมทั้งหมดตั้งแต่เกิด กับทั้งฉลาดในการหา ฉลาดในการเก็บ และฉลาดในการใช้เป็นอย่างยิ่ง

เมื่อแยกให้เห็นเป็นเรื่องๆเช่นนี้ คุณคงพอมองออกว่าในชีวิตเดียว คนเราอาจสร้างทั้งเหตุที่ทำให้ยากจน และเหตุที่ทำให้ร่ำรวยได้ ไม่ใช่ว่าทำทานมากแล้วเป็นประกันว่าเกิดใหม่จะได้สบายตั้งแต่ต้น ต้องดูด้วยว่าทุ่มเททำแค่ไหน ตลอดไปหรือเปล่า และเคยก่อบาปไว้ถ่วงความเจริญเพียงใดด้วย

เพื่อให้เห็นชัดเจน ขอแยกแยะ ‘บุญที่ทำให้รวย’ เป็นข้อๆดังนี้

บุญเก่าที่ส่งไปเข้าท้องคนรวย

๑) เคยงดเว้นบาปชนิดที่ให้ผลเป็นความอัตคัดขณะเกิด เช่นชาติใกล้ไม่เผาบ้านไล่ที่ใคร ทั้งที่มีสิทธิ์ทำด้วยอำนาจบาตรใหญ่

๒) เคยผูกพันกับพ่อแม่ที่กำลังอยู่ในฐานะร่ำรวย เช่นชาติใกล้ให้การอุปถัมภ์และมีความเอ็นดูกันมา แต่ก็อาจเคยเป็นศัตรูกันมาก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเคยสาปแช่งอาฆาตว่าจะจองเวรกันอย่างเหนียวแน่น พอมาเกิดเป็นลูก ก็เป็นลูกทรพี เหี้ยมเกรียมขนาดจ้างฆ่าพ่อแม่เพื่อแย่งสมบัติได้

๓) มีบุญพอจะเสวยสุขล้นหลามตั้งแต่แรกเกิด เช่นเป็นผู้ให้ก่อนโดยผู้รับไม่จำเป็นต้องเคยมีบุญคุณกับตน เป็นผู้คิดอุปถัมภ์สมณะซึ่งไม่อยู่ในฐานะเลี้ยงดูตนเองได้ ผลที่ได้ตอบแทนจากธรรมชาติ จึงเป็นการมีผู้เลี้ยงดูอย่างดี เมื่ออยู่ในฐานะที่ไม่อาจเลี้ยงดูตนเองได้เช่นกัน

บุญเก่าที่ทำให้ได้รับมรดกมาก

๑) เคยเป็นผู้ยกผลประโยชน์ใหญ่ของตนให้คนอื่นด้วยน้ำใจการุณย์ ไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับ

๒) เคยเป็นผู้เคยมอบสมบัติให้แก่ผู้สมควรได้รับ หรือมอบวัตถุอย่างใหญ่ มอบที่ดินให้เป็นประโยชน์แด่สงฆ์ ขอให้คำนึงว่าสงฆ์เป็นนาบุญอันยิ่ง เมื่อมอบให้สงฆ์จึงสมควรแก่การรับมรดกใหญ่ในอนาคตเช่นกัน

บุญเก่าที่ทำให้ได้ลาภก้อนใหญ่

๑) เคยเป็นผู้ให้ลาภลอยแก่คนอื่น โดยที่เขาไม่คาดฝัน หรือโดยที่ตนเองก็ไม่ได้คาดหมายไว้ก่อน เมื่อพบเห็นใครน่าช่วยเหลือก็ช่วยเลยทันที เมื่อทำให้คนอื่นได้รับลาภ ก็ย่อมสมควรแก่การเป็นผู้รับลาภในอนาคต ลาภที่ให้ผู้อื่นไม่จำเป็นต้องมากมาย แต่อย่างน้อยต้องทำให้เขายินดีปรีดา หรือทำให้เขารอดจากภาวะยากลำบากแบบฉับพลันทันที (ลาภที่ได้รับอาจมาจากหลายทางโดยไม่คาดฝัน อย่าแค่ไปคิดถึงการถูกล็อตเตอรี่อย่างเดียวนะครับ ประเภทอยู่ดีๆมีเงินโอนเข้าบัญชีหลายแสนแบบสืบหาต้นตอไม่ได้ แจ้งธนาคารตรวจสอบแล้วก็ไม่รู้ความเป็นมา อันนี้เคยเกิดกรณีพิลึกพรรค์นี้มาแล้วจริงๆ)

๒) เคยเป็นผู้ตั้งใจให้คนอื่นดีใจกับการได้รับของขวัญ ของกำนัลโดยไม่คาดฝัน มีมากครับพวกชอบเซอร์ไพรส์ชาวบ้านโดยไม่เปิดโอกาสให้รู้เนื้อรู้ตัว หวังจะเห็นเขาตื่นเต้นยินดีสุดขีด ความหวังชนิดนั้น ถ้าทำสำเร็จก็ให้ผลเป็นลาภลอยก้อนใหญ่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารู้ว่าใครอยากได้อะไรมานาน รู้ว่าชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปในทางดีขึ้นหากได้สิ่งนั้น นั่นแหละตรงเป้าอย่างจังทีเดียว

บุญเก่าที่ทำให้ค้าขายได้กำไรเสมอ

๑) เคยให้ความหวังแก่สมณะว่าจะถวายสิ่งโน้นสิ่งนี้ ตกปากรับคำแล้วภายหลังนำมาถวายตามสัญญาเสมอ แต่ให้ยิ่งขึ้นกว่านั้นคือท่านต้องการเพียงหนึ่ง แต่นำของที่ท่านประสงค์มาถวายเป็นสิบ อย่างนี้ถ้าเก็งไว้ว่าจะทำยอดให้ถึงเป้าสักล้าน ก็อาจพุ่งพรวดทะลุเป้าไปเป็นหลายสิบล้าน เป็นต้น พูดง่ายๆ คือโชคช่วยตลอด แม้ฝีมือไม่ได้ดี เล่ห์เหลี่ยมธุรกิจไม่ได้มากกว่าพ่อค้าใกล้ละแวกก็ตาม ข้อนี้พระพุทธเจ้าเคยตรัสแนะนำไว้เป็นกรณีพิเศษ จะทดลองก็ไม่เสียหาย สำหรับหลายคนที่ไม่มีบาปเก่ามาเป็นอุปสรรค ก็น่าจะได้เห็นผลทันตาในชาตินี้ได้

๒) เคยเป็นผู้คืนกำไรให้กับสังคม คือเมื่อสังคมช่วยให้ตนรวยแล้ว ก็แบ่งความรวยนั้นให้สังคมได้ประโยชน์สุขบ้าง พวกบริษัทใหญ่ๆ ที่คิดโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์นั้นมาถูกทางแล้ว หากใจไม่เล็งอยู่แต่ว่าจะได้มีส่วนลดหย่อนภาษี ก็จะได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย เห็นผลอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องรอเกิดชาติหน้า เพราะการทำคุณกับมหาชน จะให้ผลขยายใหญ่ เห็นง่าย เห็นเร็วกว่าการทำคุณแบบเจาะจงกับกลุ่มคนเล็กๆ

บุญเก่าที่ทำให้ได้ผลตอบแทนคุ้มกับความรู้ความสามารถหรือฝีไม้ลายมือ

๑) เคยให้ผลประโยชน์กับคนอื่นอย่างตรงไปตรงมา สมน้ำสมเนื้อแล้วกับความรู้ความสามารถของพวกเขา อันนี้ต้องขอแสดงความเสียใจกับชาวไทยจำนวนหนึ่ง ที่นิยมซื้อซอฟต์แวร์เถื่อนเป็นประจำ ไม่เห็นแก่ค่าสมอง ค่าแรงงานของคนทำบ้างเลย กรรมนี้ต่อไปก็ยากจะเป็นผู้ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า แต่ถ้ามีเงินซื้อของจริงแล้วยอมจ่าย โดยคิดว่าเงินจะได้ไปเข้ากระเป๋าคนผลิตตัวจริง ถ้าทำเป็นประจำก็ส่งผลให้อนาคตเป็นผู้รับค่าตอบแทนคุ้มกับงาน ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกกดค่าผลงาน

๒) เคยเป็นผู้ทำงานโดยเล็งประโยชน์สุขแก่คนอื่น คือตั้งต้นไม่ได้คิดเรื่องกำไรหรือรายได้เป็นหลัก เช่นอยากทำยาสีฟัน ก็เฝ้าครุ่นคิด หรือให้ทุนนักวิจัยว่าทำอย่างไรจะได้ยาสีฟันดีๆ มีคุณภาพสูง รักษาเหงือกและฟันได้จริง กับทั้งมีราคาไม่แพงเกินกำลังผู้บริโภคส่วนใหญ่ เรียกว่ามอบสินค้าที่เกินคุ้มให้กับสังคม ประโยชน์สุขของผู้บริโภคจะย้อนกลับมาเป็นกำลังหนุนให้ได้รับผลตอบแทนเกินกว่าที่คาดฝันเช่นกัน

จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด แม้ยังไม่ตอบคำถามของคุณตรงๆ อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เริ่มเห็นได้ว่าการเป็นคนรวยล้นฟ้านั้น แน่นอนว่าจะต้องมีทานในอดีตเป็นบุญเก่าหนุนส่งอยู่ แต่ยังต้องอาศัยปัจจัยอีกหลายต่อหลายข้อประกอบร่วมเข้าไปด้วย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชาญวิทย์
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2008
ตอบ: 152

ตอบตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2008, 8:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุจ้า
ขำ ขำ สาธุ
 

_________________
ธรรมะคือธรรมชาติ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 10:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 8:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง