Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปฏิบัติผิดอาจเพี้ยนหลุดโลกแห่งความเป็นจริงได้ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 11:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เริ่มแรกทีเดียวพึงตั้งเจตนาว่า เราจะปฏิบัติธรรมหรือปฏิบัติกรรมฐาน

เพื่อต้องการหลุดพ้นจากทุกข์เพื่อกำจัดกิเลสตัณหาอุปาทานเพราะกิเลส

เหล่านี้เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์

ส่วนการลงมือปฏิบัติได้มากบ้างน้อยบ้างเป็นอีกประเด็นหนึ่ง

แต่เมื่อมีเจตนาดังว่าแล้ว

การปฏิบัติธรรมก็ตรงพุทธพจน์อันบริสุทธิ์หมดจดแท้จริง

หลังจากดับกิเลสตัณหาอุปาทานด้วยภาวนามัยตามสติกำลังแล้ว

ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีสุขตามสมควรแก่สัมมาปฏิปทาบนโลกใบนี้เอง

ไม่ได้หลีลี้หนีหายไปโลกอื่น


แต่ปัจจุบันตามเว็บไซต์ธรรมะเกือบจะทุกแห่งสอนปฏิบัติเหมือนๆ

เพิ่มตัณหาเสริมอุปาทานงมงาย

ไร้ธรรมานุธรรมปฏิบัติ


ดังนั้น กระทู้นี้จะนำตัวอย่างมิจฉาปฏิปทามาให้ดู

อาจทำให้ผู้หลงผิดโดยไม่เจตนาฉุกใจได้คิด ปรับตัวทัน

ส่วนผู้ที่เต็มใจจะเป็นอย่างนั้นก็ทำกันต่อไป ไม่ว่าอะไร


ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะเมื่อพากันสอนผิด ปฏิบัติพลาด

เพี้ยนจากหลักที่ถูกต้อง ผลจะมีผู้เพี้ยนธรรมหลุดโลกความจริงมากขึ้นๆ

บอร์ดใหม่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา

แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 23 พ.ย.2010, 6:26 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 7:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เคยกล่าวว่า การปฏิบัติกรรมฐานปัจจุบันมี 2 แบบ คือที่ใช้คำบริกรรม

กับแบบตรึกความคิด หรือจะตั้งชื่ออย่างไรสุดแท้แต่

กล่าวไว้แล้วที่นี่ จะไม่กล่าวซ้ำอีก

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13918

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16241


ในสองแบบนั้น ที่ซับซ้อนซ่อนกลจนยากเข้าใจ คือ ที่ใช้คำภาวนา

แบบต่างๆ จะเป็นพุทโธ พองหนอ ยุบหนอ หรือ นะมะพะทะ ฯลฯ


คำภาวนาเห็นใช้กันหลายอย่าง

http://www.free-webboard.com/view.php?user=vipassanatipani&wb_id=27&topic=คำบริกรรมภาวนา


ที่ใช้คำภาวนาจิตรวมตัวเร็วกว่าแบบสุดท้าย

หลังจากนามธรรมรวมตัวสภาวธรรมเกิด โยคีไม่เคยประสบ

มาก่อน จะว่าไปก็เป็นกิเลสนั่นเอง แต่ตนไม่เข้าใจ


เมื่อสภาวะเกิดตนไม่มีเข้าใจด้วย ไม่มีผู้ที่รู้จริงแนะแนวทางปฏิบัติ

ให้พ้นจากสิ่งนั้นด้วย ตนจึงหลงอารมณ์ หลงความคิดนั้นๆไป

แต่หากได้ผู้แนะนำที่รู้เข้าใจ

การปฏิบัติก็สำเร็จดังสมเจตนา



สรุปไว้กันตกอกตกใจก็คือว่า เมื่อรู้เข้าใจวิธีปฏิบัติก็มีคุณอนันต์

เมื่อไม่รู้ไม่เข้าใจก็มีโทษมหันต์
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 8:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


ดูที่เข้าใจผิด รายนี้ใช้พอง-ยุบ เป็นกรรมฐาน



คืนวันที่ ๔ พ.ค. ๕๑ สี่วันที่ผ่านมา หลังจากสวดมนต์ไหว้พระ
นั่งสมาธิตามกิจวัตรประจำวันก่อนนอน

แต่วันนี้มีการกำหนดจิตเพิ่มกว่าเดิม หลังจากได้อ่านธรรมบรรยาย
ของหลวงพ่อ...เรื่องการทำสติด้วยยุบหนอ พองหนอ

พอเข้านอนผมได้กำหนดสติตามการยุบพองของท้องแบบแนบแน่นมากแทบไม่ให้คลาดจากอาการยุบพองเลย แล้วจึงหลับไปพร้อมพองยุบ
สุดท้าย คืนนั้นไม่ได้เกิดการฝันเลยเหมือนปกติที่ผมนอนหลับจะไม่ค่อยฝัน

แต่พอใกล้รุ่ง ผมระลึกสติขึ้นมาเหมือนตื่นนอน แต่กลับปรากฏอาการ
ซู่ ๆ ทางกายทั่วทั้งตัว จึงรู้ขึ้นมาว่ากายทิพย์กำลังจะออกจากร่าง

ผมจึงค่อย ๆ พยุงตัวให้ลุกขึ้นจากเตียง ก็พบว่ากายเนื้อยังนอนอยู่
บนเตียง แต่ใจไม่ได้นึกว่าอยากจะไปไหน ได้แต่น้อมเอาว่า เออ
ออกจากร่างด้วยการทำสติแบบนี้ก็ได้หนอ จึงวูบกลับเข้าร่างและตื่น
ลืมตาขึ้นมา

หลังตื่นนอนจึงได้ทบทวนประสบการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น จึงได้ความรู้ว่า
การมีสติอย่างแน่วแน่ เมื่อจิตตื่นระลึกรู้ตัวขึ้นมาในขณะนอนหลับนั้น
สิ่งที่รู้สึกตัวขึ้นมาเป็นจิตวิญญาณ หากจิตไม่เกาะอยู่กับกายเนื้อ
ความรู้สึกนี้สามารถแยกการรับรู้ที่เกิดขึ้นที่จิตโดยตรงโดยไม่ผ่านทางกายเนื้อได้

เป็นผลให้สามารถแยกจิตวิญญาณออกจากกายเนื้อ และท่องเที่ยวไปได้

ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะง่ายกว่าที่ผมเคยถอดจิตด้วยการเพ่งที่หว่างคิ้ว
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 7:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


อีกรายหนึ่งใช้คำภาวนา นะมะพะทะ



คือผมอ่าน หัวข้อในเว็ปเกี่ยวกับ การฝึก มโน ก็เลยลองฝึกได้ 4 - 5 วัน

วันที่ 5 หลังจากนั่งสมาธิสักพักผม ก็ง่วง เลยเอนตัวทำสมาธิในท่า

นอน แต่ก็ยังภาวนา นะมะพะทะ ตามที่ในเว็ปบอกมา

นอนไปสักพัก ผมหลับไป- (คือหลับจิงๆอ่ะครับไม่รู้สึกตัวเลย สติก็ไม่

ได้อยู่ที่ลมหายใจ)

แล้วผมก็รู้สึกว่า ผมนอนกลิ้งจนตกเตียง แต่พอผมลุกขึ้น ก็เห็น

ตัวเองนอนอยู่บนเตียง ผมก็ตกใจ ตื่นขึ้นมาน่ะครับ

(ไม่ทราบว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้ฝันครับ เพราะ

ภาพมันชัดมากผมจำได้หมดเลยว่าทำอะไร ตัวจิตที่ผมออกจากร่าง

มันออกสีแดงสดเลยครับ)
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 2:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเป็นนะถ้าจิตดิ่งจนหมดความรู้สึก จะเกิดตัวจิต
ออกมาเหมือนเห็น อะไรต่อ อะไร แต่ สีแดงๆ
ก็พยายาม กำหนดว่าเป็น ภาวะๆ แต่สุด ท้าย
ไม่ไหว มันง่วง มหาง่วง จึงออก ซะ เสียเวลา ผิดทาง
ไม่ได้อะไร ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 9:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถามไรหน่อยดิครับคุณบุญชัย สาธุ

คุณปฏิบัติกรรมฐานมีเป้าหมายปลายทางอย่างไรครับ

บอร์ดใหม่


http://fws.cc/whatisnippana/index.php
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา

แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 22 พ.ย.2010, 10:35 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2008, 11:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป้าหมายปลายทางอย่างไรครับ
1..มุ่งหลุดจากวัฏฏะไม่มุ่งเอาอะไรเลย
2. ฉุดช่วยคน ที่พอ จะ....ได้ ไปด้วย
เพราะ มี......ให้ ทำเลยต้องช่วยๆไปตามกำลัง ยิ้ม
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง