Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 โรคห้ามใจไม่ได้....จะแก้ไขอย่างไรดีค่ะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
kittyza
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 17 ส.ค. 2008
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 11:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โรคห้ามใจไม่ได้....จะแก้ไขอย่างไรดีค่ะ

คือเราเราติดหนังอยู่เรื่องหนึ่งแบบไม่ได้ดูจะอยู่ไม่เป็นสุขอะไรประมาณนี้ค่ะลองพยายามห้ามใจหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้ ถึงเวลาต้องดูครวทำอย่างไรดีค่ะ จะลองไม่ดูแล้วปล่อยให้ใจมันกังวลอยากดู หรือ ว่าดูไปเถอะดีค่ะ
ใครมีวิธีคิดให้ปล่อยวางเรื่องหนังและการหลงดาราช่วยหน่อยค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 11:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วิธีแก้ไข มี 3 ขั้น

1. ระดับความคิด ก็คือการพยามห้ามใจนั่นแหละ
แต่มันแค่ทำให้ใจสงบลงเป้นครั้งคราว แต่ไม่ได้กำจัดถาวร
ระดับนี้เราจะเรียกว่า ศีล ก็ได้

เรามักจะแก้ปัญหาอยู่แค่ระดับนี้ ....
คือข่มให้สงบ แต่วันหลังมันก็มาอีก... ไม่จบไม่สิ้น...

2. ระดับสมาธิ
ระดับนี้ เป็นระดับที่เราจะทำความรู้จักกับความทุกข์ ว่ามันคืออะไร
เมื่อเรารู้จักมันดีแล้ว เราก้จะรู้ว่าเรามีหน้าที่ต่อทุกข์อย่างไร

ลองพยามใช้ความรู้สึกตัว รับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง ที่เกิดขึ้น
มันจะโกรธ จะหลง แค่ไหน ขอให้รับรู้ความรู้สึกต่างๆไปเรื่อยๆ
รับรู้ไปตามที่มันเกิดจริงๆ ไม่ต้องไปข่มมัน


แต่ถ้ารับรู้ไปเรื่อยๆ แล้วอารมณ์มันรุนแรงขึ้น
และเรากำลังจะกระทำการอันล่อแหลมว่าจะผิดศีลธรรมอันดี
เราก็ต้องกลับไปใช้ความคิดผิดชอบชั่วดี ...ข่มเอาไว้ ให้ได้
แล้วพยามใช้ความรู้สึกตัว รับรู้ความรู้สึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

และแล้วก็มาถึง การรู้จักความทุกข์
เมื่อทำบ่อย ๆ .... จะเกิดความรู้อันหนึ่งขึ้นมา เราจะรู้ว่า ...
- อารมณ์มันมีจุดกำเนิด..
- มันมีระยะเวลาสำแดงเดช มีจุด peak .....
- และมีจุดเสื่อมคลาย สลายอารมณ์

เราจะเห็นความจริงอันนี้อยู่ร่ำไป
เฝ้าดูอารมณ์กี่ที ..กี่ที.. ก็เห็นอย่างนี้อยู่ร่ำไป


แล้วเราจะเกิดความหน่ายในอารมณ์ที่เราเฝ้าดูอยู่ โดยอัตโนมัติ



3.ระดับปัญญา

ความหน่ายชนิดที่เกิดอัตโนมัติ
จากการเฝ้าดูสภาวะความเป้นจริงของอารมณ์ทั้งปวง
ว่าแท้จริงมันไม่เที่ยง เดี๋ยวมี เดี๋ยวจบ .... เราเรียกว่าปัญญา [b]
[b]ปัญญาที่ตามรู้ทันทุกข์ทั้งปวง
...เราเรียกว่าสติ


เมื่อมีปัญญาแล้ว มีสติแล้ว เราจะไม่ต้องพึ่งการข่มอีกต่อไป
อารมณ์ทั้งปวง จะไม่เปื้อนใจเราได้เลย

ปล. ที่กล่าวมานี้ เป็นหลักกว้างๆ
ที่เรียบเรียงจากความเข้าใจ
โปรดนำไปพิจารณาดูเถอะนะคับ

ถ้าอยากรู้ลึกขึ้น ลองคลิกไปที่ www.wimutti.net
เข้าไปดู เข้าไปอ่าน เข้าไปฟัง mp3 ของหลวงพ่อปราโมช
แล้วจะพบทางสว่างเองคับ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 6:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สำหรับผมแล้วถ้าเวลาอยากจะได้อะไร หรืออยากจะทำอะไร ถ้าไม่เป็นการเบียดเบียนใคร หรือทำให้เดือดร้อนล่ะก็ ทำได้ครับ...แต่ว่าไอ้เรื่องติดหนังติดดารานั้นผมไม่เป็นครับเพราะเห็นความไม่เที่ยงอยู่ครับ หนังดูไปเดี๋ยวมันก็จบ...แล้วก็มีเรื่องอื่นมาแทน....แล้วฉายอยู่สักพัก....แล้วก็จบอีก.... สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 3:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมก็เป็นครับพี่ๆ ติดหนังการ์ตูนโดเรม่อน เวลาผ่านไปอาจดีขึ้นครับ ค่อยๆหาเวลาไปออกกำลังกาย หรืออ่านหนังสือบ้างครับ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ZERO
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 ต.ค. 2008
ตอบ: 18
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงราย

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2008, 7:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่เป็นไร
ดูอะไรก็ตามสำคัญที่ดูแล้วได้อะไร ดูแล้วเกิดประโยชน์อย่างไรเขาบอกให้ดูละครแล้วย้อนดูตน ตัวเองเป็นผู้ฝึกธรรมไม่ใช่เหรอนี่จะตกชั้นเสียแล้วนี่ ดูมันไปก็กำหนดจิตไปสิว่ามันมีตานี่มันเห็นมันก็มองได้พอมองก็รู้ว่ามันคืออะไรใจเราก็คิดไปสิว่ามันให้อะไรเรามันกำลังทำอะไร ดูแล้วเข้าใจอย่างนี้เรียกว่าใช้สติคุมจริยา อย่างนี้เป็นกรรมฐานได้ ฏ้ถือเป็นการเพ่งอย่างหนึ่ง เพ่งแสงสว่างใช่ไหม อารมณ์จิตขอแค่อย่าหลงในรูปสวยเสียงเพราะกลิ่นหอมเป็นใช้ได้ ดูตลอดจนจิตเริ่มคลายเพราะรู้ว่ามันเป็นยังไงแล้ว ก็ไม่เอาจิตไปผูกหรือสงสัยในสิ่งนั้นอีก เท่านี้การดูอะไรก็เป็นเรื่องธรรมได้ เพียงแต่ว่าอย่าโง่ไปตามอารมณ์เท่านั้นเอง สู้ สู้
 

_________________
เราเป็นทรัพย์ของโลก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
Story Note
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2007
ตอบ: 97

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2008, 10:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ เราก็ชอบ ซีรีย์เกาหลี อิอิ

ตอนที่ดู ก็หลงเพลิน หลงดู ลืมกายลืมใจตัวเองไปเลยว่านั่งดูอยู่ท่าไหนแม้นกระทั่งลมหายใจก็ลืมไปเสียสนิท พอจบตอนโฆษณา ก็อืม เราหลงอีกแล้ว... สลับไปสลับมาแบบนี้นะ

ความเพลิดเพลินในอารมณ์ ถ้าไม่ติดมันหรือปล่อยให้มันติด ก็สบัดได้ด้วยใจเรานี้เอง แลบลิ้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง