Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนนับถือศาสนาอื่นๆ กับ กะทะทองแดง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ysri123
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 07 ส.ค. 2008
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 1:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากทราบว่าคนที่นับถือศาสนาอื่น เช่น คริสท์ อิสลาม ฮินดู และอื่นๆ ซึ่งมีจำนวนหลายพันล้านคนบนโลกใบนี้ ถ้าบางคนในพวกเขาเหล่านี้ทำบาปมาตลอดชีวิต เช่น พวกผู้ก่อการร้าย หลังจากที่พวกเขาตายแล้ว เค้าจะมาตกกะทะทองแดง ปีนต้นงิ้ว เหมือนคนที่นับถือศาสนาพุทธที่ทำชั่ว หรือเปล่า และ ผมอยากรู้ว่า คนที่บอกว่าเคยไปเที่ยวนรกมาแล้วนั้น ท่านเคยเห็นมีคนฝรั่ง หรือ พวกมุสลิม นั่งอยู่ในกะทะทองแดง ปีนต้นงิ้ว บ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มี แล้วพวกเขาไปอยู่ไหนอ่ะ หรือว่ากะทะทองแดง มีไว้สำหรับรองรับคนทำบาปในศาสนาพุทธเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดูเหมือนว่า ท่าน จขกท จะเวียนวนอยู่กับเรื่องเหล่านี้ตลอด...มาหลายกระทู้แล้ว

เรื่อง ชีวิตหลังความตาย ชาตินี้-ชาติหน้า.... สำหรับพระพุทธศาสนาแล้ว ไม่ใช่เรื่อง การบังคับให้เชื่อ การลงทัณฑ์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ้าไม่เชื่อ หรือ การรุมประนามจากพุทธศานิกชนว่า ผู้ที่ไม่เชื่อเหมือนตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ไม่ดี

จริงอยู่ ที่อาจจะมีพุทธศาสนิกชนบางกลุ่มที่มีท่าทีเหมือนจะบังคับให้ผู้อื่นเชื่อเรื่องเหล่านี้เหมือนตนเอง

แต่ส่วนใหญ่แล้ว ชาวพุทธเราจะมั่นใจในความเห็นของตนเอง โดยไม่ไปกะเกณฑ์ให้ใครเห็นตามตนเอง
อย่างมาก อาจจะเป็นลักษณะกล่าวเหตุผลที่ตนเองเชื่อเช่นนั้นมาให้ฟัง

จะอย่างไรก็ตาม
สาระหลักของคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ที่"ปัจจุบัน"....
ถ้า ปัจจุบันดี อนาคตย่อมดีตามไปเอง

ดังนั้น สู้ดีมาทำปัจจุบันให้ดี กันดีกว่า
เรื่อง อนาคต ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องอนาคตไปเถิด
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในนรกสวรรค์นั้น ย่อมไม่มีการแบ่งชาติ แบ่งศาสนา ครับ
เป็นนรก สวรรค์สากลครับ เพราะการแบ่งชาติ ศาสนานั้นเป็นการแบ่งโดย "มนุษย์" อย่างเราๆครับ

ต้องลงไปดูด้วยตนเองจริงๆครับ ถึงจะเชื่อได้ 100% ทุกวันนี้เชื่อด้วยการพิจารณาตามพระพุทธศาสนาบอกเท่านั้นเองครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ ตรงประเด็นครับ ผมคิดว่า คุณเจ้าของกระทู้คงสงสัยตรงนี้จริงๆน่ะครับ

ซึ่งจริงๆเรื่องนี้ก็เป็นอย่างที่คุณว่าแหละครับ สาระสำคัญอยู่ที่ปัจจุบัน

ต่อให้คุณเจ้าของกระทู้ได้คำตอบมามากมาย ก็อาจไม่ได้ทำให้สิ้นสงสัยได้

ถึงได้คำตอบมา ก็ไม่ได้สิ้นสุดที่การดับทุกข์อยู่ดี

คุณเจ้าของกระทู้ครับ ถ้ายังไม่สิ้นสงสัยจริงๆ ท่านลองพิจารณาเหตุผลทั้งหลายๆดูนะครับ ไม่ต้องไปหาหลักฐานหรอก เพราะถ้าจะให้ยืนยันแบบว่ามีหลักฐานเลยนั้นมันทำไม่ได้ เว้นแต่คุณจะปฏิบัติเองน่ะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเคยตั้งคำถามให้ผู้ที่ชอบแสดงตนว่าเคยไปนรกสวรรค์มาหมด

ผมถามง่ายๆว่า

คนตาบอด (ตั้งแต่เกิด)..... จะเห็นภาพนรกอย่างไร

ไม่มีใครตอบได้เลย


ถามว่านรกมีจริงไหม สรรค์มีจริงไหม ... ผมเชื่อว่ามีจริง

แต่ไม่เชื่อในรูปลักษณ์ของมัน
หมายถึงว่า ตัวละคร เครื่องแต่งกาย สีสัน ภาษา ระบบลงโทษ
ผมว่ามันเป็นความคิดปรุงแต่งไปเอง ล้วนแล้วแต่เป็นสมมุติ
อันเกิดจากเราได้เคยถูกปลูกฝังความจำ

สมมุติว่า ฝรั่งคริสต์ผมทอง ฆ่าคนไทยพุทธตาย
ผมยังงงอยู่ว่าจะไปลงนรกของใคร
แล้วต้องมีสนธิสัญญาส่งผู้รายข้ามแดนหรือไม่

อย่างไรก้ตาม ถ้าเราอยากรู้ให้ถึงที่สุด
เราก้ต้องเปิดใจเอาไว้ .....
จนกว่าวันหนึ่ง เราจะมีความรู้ หรือเครื่องมือเพียงพอจะพิสูจน์

วันนี้ไม่เชื่อ ไม่เป็นไร ไม่ใช่ความผิด
แต่เราไม่จำเป้นต้องทุ่มสรรพกำลังในวันนี้เพื่อพิสูจน์เรื่องไกลตัว
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ysri123
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 07 ส.ค. 2008
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนคุณตรงประเด็น

ผมสงสัยจริงๆครับ และได้ยินผู้คนพูดถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ผมทราบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แก่นแท้ของศาสนาพุทธ แต่คนส่วนใหญ่จึงพูดถึงเรื่องเหล่านี้กันมาก หนังสือธรรมะที่เคยอ่านก็พูดถึง แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงสงสัยคาใจเหมือนผม แต่ก็ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ysri123
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 07 ส.ค. 2008
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 2:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณคามินธรรม

ผมชอบคำถามของคุณมาก
"คนตาบอด (ตั้งแต่เกิด)..... จะเห็นภาพนรกอย่างไร"

ผมอยากจะรวม "คนหูนนวก" เข้าไปด้วย เพื่อที่จะได้ตัดการรับรู้จากการฟัง อยากจะรู้เหมือนกันว่า จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 6:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เข้าใจ ท่าน จขกท น่ะครับ




ด้วยว่า เรื่องใดๆ ที่ตนเองไม่สามารถประจักษ์ด้วยตนเอง ความค้างคาใจย่อมไม่สิ้นไปจากใจแน่ๆ
ไม่ว่าจะได้ข้อมูลจากผู้อื่น ในทางสนับสนุนความมีอยู่จริง หรือ ในทางคัดค้านความมีอยู่จริง
ไม่ว่าท่านจะตั้งกระทู้ในลักษณะนี้ อีกกี่กระทู้(ซึ่งความจริง น่าจะรวมเป็นกระทู้เดียว)




ท่าน จขกท ผมเสนอลองพิจารณาดูตรงนี้น่ะครับ

แทนที่จะมัวเสียเวลาไปตระเวณหาเหตุผลจาก ผู้สนับสนุน หรือ ผู้คัดค้าน ในเรื่องเหล่านี้

ท่านลองพิจารณาประเด็นที่ว่า

พระโสดาบันท่านสิ้นสงสัยในธรรม คือ สิ้นวิจิกิจฉา ได้อย่างไร???....

ทั้งๆที่ส่วนใหญ่แล้ว พระโสดาบันท่านเองก็ไม่มีญาณทัศนะไปพิสูจน์โดยตรง(เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์)ในเรื่อง ชีวิตหลังความตาย ชาตินี้-ชาติหน้า ๆลๆ เสียด้วยซ้ำ.

ในพระสูตร มักจะบรรยายไว้ว่า พระโสดาบันท่านมีธรรมจักษุบังเกิดขึ้นว่า "สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา".....และ ล่ะสังโยชน์เบื้องต่ำได้ขาด

การล่ะสังโยชน์เบื้องต่ำได้ขาด ทำให้สิ้นสงสัยในเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร???
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 6:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

" ผู้ปฏิบัติที่แท้จริงนั้นไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชาติหน้าชาติหลัง หรือนรกสวรรค์ อะไรก็ได้

ให้ตั้งใจปฏิบัติให้ตรง ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างแน่วแน่ก็พอ

ถ้าสวรรค์มีจริงถึง ๑๖ ชั้นตามตำรา ผู้ปฏิบัติดีแล้ว ก็ย่อมได้เลื่อนฐานะของตนเองโดยลำดับ

หรือ
ถ้าสวรรค์นิพพานไม่มีเลย ผู้ปฏิบัติดีแล้วในขณะนี้ก็ย่อมไม่ไร้
ประโยชน์ ย่อมอยู่เป็นสุข เป็นมนุษย์ชั้นเลิศ "





หลวงปู่ ดุลย์ อตุโล
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 6:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตรงประเด็น พิมพ์ว่า:
" ผู้ปฏิบัติที่แท้จริงนั้นไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชาติหน้าชาติหลัง หรือนรกสวรรค์ อะไรก็ได้

ให้ตั้งใจปฏิบัติให้ตรง ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างแน่วแน่ก็พอ

ถ้าสวรรค์มีจริงถึง ๑๖ ชั้นตามตำรา ผู้ปฏิบัติดีแล้ว ก็ย่อมได้เลื่อนฐานะของตนเองโดยลำดับ

หรือ
ถ้าสวรรค์นิพพานไม่มีเลย ผู้ปฏิบัติดีแล้วในขณะนี้ก็ย่อมไม่ไร้
ประโยชน์ ย่อมอยู่เป็นสุข เป็นมนุษย์ชั้นเลิศ "





หลวงปู่ ดุลย์ อตุโล


สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ysri123
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 07 ส.ค. 2008
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 7:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณสำหรับ แง่คิดที่ให้มาครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ZERO
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 ต.ค. 2008
ตอบ: 18
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงราย

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2008, 8:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

"คนตาบอด (ตั้งแต่เกิด)..... จะเห็นภาพนรกอย่างไร"
เขาไม่ได้เอาตาเนื้อไปเห็นครับ ที่จริงคำถามนี้เอาไว้พิสูจน์ครับ เรื่องประสาทสำผัสทั้งหลายเป็นเรื่องของร่างกายแต่เรื่องของการรู้เป็นเรื่องของใจครับ ใจมีลักษณะของความเป็นทิพย์ครับ ถ้าอยากรู้เรื่องที่คุณสงสัยพวกนี้นะครับ แนะนำวิธีให้คุณอย่าโดนหลอกด้วยรูปลักษณ์ที่คุณเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สำผัส ได้ลิ้มรส เพียงแค่คุณคิดไว้ว่าอาการที่คุณรับรู้ได้นี้เป็นแต่เพียงสภาวะภายนอกเท่านั้นของจริงมันต้องรับรู้ด้วยภาพ กลิ่นเสียงรสชาติการแตะต้องไม่ได้ ลองไปทำดูนะครับไม่ยาก
อีกอย่างหนึ่งขึ้นชื่อว่าสัตว์สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีกฎตายตัวคือทำดีได้ดีมีสุขคติเป็นที่ไปทำชั่วได้ชั่วมีทุคติเป็นที่ไป
ในเรื่องของการทำผิดของคนในศาสนาอื่น เขาก็ดูกันที่การกระทำ กฎธรรมชาติเป็นกฎใหญ่เหมือนศาลโลก ไม่ว่าอยู่ประเทศไหนก็ใช้กฎอันเดียวกัน และขอแนะนำอีกอย่างครับว่าเวลาที่คุณทำอะไรอยู่ก็แล้วแต่ขอให้คุณตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ให้ระลึกนึกถึงลมหายใจเข้าออกไว้เสมอถ้าเผลอเมื่อไรโอกาสตายของคุณมีสูงมากช่วงนี้ คิดไว้เสมอนะว่าเราก้าวไปสู๋ความตายทุกวันความตายมันไม่มีเครื่องหมายความตายคือการที่หมดลมหายใจ ฉนั้นจับลมหายใจเข้าไว้ครับทำบ่อยๆแล้วคุณจะรอด
 

_________________
เราเป็นทรัพย์ของโลก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง