Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สวรรค์-นรก อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 5:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
1. บทความของท่านพุทธทาส และคำสอนของท่านพุทธทาส แบ่งเป็นช่วงครับ

ช่วงต้นและช่วงกลาง - ท่านพุทธทาสมั่วสถานเดียว เพราะไปตีความพระ
พุทธศาสนาจากการใช้สมองคิด สิ่งที่ท่านสอนคือ สัทธรรมปฏิรูป(ของปลอม)

ช่วงบั้นปลายของชีวิต - หลังจากท่านพุทธทาสตระหนักว่า วิญญาณมันสืบต่อ
เนื่องไปเรื่อยๆ ถ้าสังขารยังปรุงแต่งอยู่ ตอนนั้นแหละท่านจึงรู้ว่า สวรรค์ นรก
ของจริงอาจจะมี พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนมั่ว อย่างไรก็ตาม ตำราคำสอนสมัย
ช่วงต้น-ช่วงกลางของชีวิตท่านแพร่ออกไปมากแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับคืนได้


คุณพลศักดิ์ และคุณ mes ครับ

ผมว่าคำสอนของท่านพุทธทาสในส่วนที่เป็นอัตตโนมัตติ มั่วตลอดชีวิตของท่านเลยครับ

ไม่รวมผลงานของท่านที่ไปคัดลอกจากพระไตรปิฏก

แต่รวมถึงในส่วนที่ไปอธิบายพระไตรปิฏก มั่ว ๆ แล้วอ้างว่าเป็นภาษาธรรม

ขอยกตัวอย่างความมั่วของท่านพุทธทาส

คติ ๘ ภาษาคน-ภาษาธรรม
http://www.buddhadasa.com/dhamanukom/language30.html

พระพุทธองค์เอออวยเรื่องนรก สวรรค์ กับศาสนาพราหมณ์
http://www.buddhadasa.com/dhamanukom/tevada83.html
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 5:39 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
2. ท่านคิดอย่างไรกับเรื่อง สวรรค์ นรก ในแง่ที่ว่า สวรรค์นั้นอยู่บนฟ้ามีวิมานที่สวยงาม มีนางฟ้า ส่วนนรก อยู่ใต้ดิน เป็นที่ที่น่ากลัว มีกะทะทองแดง ต้นงิ้ว ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องของวัตถุ

......เป็นเช่นนั้นจริงๆ ถ้ายังไม่ได้อภิญญา 5 ก็ยังไม่รู้หรอกว่า เรื่องสวรรค์
นรก ของจริงนั้นมีจริงๆ ผมเจอเทพ พรหม ผีนรก เปรต ฯลฯ มานับไม่ถ้วน
จึงยืนยันว่าเรื่องเหล่านี้มีจริง


คุณพลศักดิ์ครับ

ครั้งหนึ่งเคยศึกษางานของท่านพุทธทาสจนเกือบเชื่อว่า ผีสางเทวดาไม่มี ตายแล้วสูญ ( อุจเฉททิฏฐิ )

ภายหลังชมรมพุทธที่มหาลัยพาไปวัดธรรมกาย ก็เกือบเชื่อว่า วิญญาณเป็นอมตะล่องลอยไปเกิดได้

พยายามนั่งสมาธิ ให้ได้ วิชาธรรมกาย หรือ มโนมยิทธิ เพื่อไปเห็น นรก สวรรค์ จนถึงแดนพระนิพพาน (สัสสตทิฏฐิ)

จนวันหนึ่งได้มาพบผู้ทรงพระไตรปิฏก เชี่ยวชาญทั้ง คันถะธุระ และ วิปัสสนาธุระ


ความหมายนิพพานในพระไตรปิฏก อรรถกถา
http://larndham.net/index.php?showtopic=24144&st=1

แดนนิพพานหรือเมืองนิพพานอยู่ที่ไหน http://larndham.net/index.php?showtopic=23173&st=128


นิพพาน แปลว่าพ้นจากเครื่องร้อยรัดพันธนาการ คือพ้นจากตัณหานั่นเอง ตัณหาคือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทุกข์คือสิ่งที่มีจริงอยู่ทุกวัน สมุทัยคือตัณหานั่นเอง สมุทัยคือตัวที่ทำให้เกิดทุกข์ ตราบใดที่ยังมีความต้องการอยู่ ตราบนั้นชีวิตต้องเปลี่ยนไปอย่างนั้น ไปอย่างนี้ ไปอย่างโน้นตลอดเวลา นิพพานเป็นการสิ้นสุดตัณหา ความหมายของพระนิพพานมี ๕ ประการคือ

๑. เป็นพระปรมัตถ์อย่างหนึ่งที่เข้าถึงได้ทุกคน มีอยู่โดยเฉพาะ ไม่มีการเสริมแต่งได้อีกต่อไป
๒.เป็นธรรมที่ไม่ตาย คือไม่มีทั้งการเกิดและการตาย
๓.เป็นธรรมที่เที่ยงแล้ว คือพ้นจากความเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
๔.เป็นธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใด ๆ ทั้งสิ้น
๕.เป็นธรรมที่ประเสริฐยิ่ง หาธรรมอื่นเสมอเหมือนไม่ได้

คุณลักษณะของพระนิพพานมี ๓ อย่าง คือ
๑.มีความสงบจากกิเลสและขันธ์ เป็นลักษณะ
๒.มีความไม่แตกดับ เป็นกิจ
๓.ไม่มีนิมิตเครื่องหมายใด ๆ ที่จะไปถึง เป็นผลปรากฏ

ผู้ที่ถึงมรรคผลนิพพานนั้นไม่มีโอกาสกลับมาเล่าอีกแล้วเพราะว่าไม่เกิด ทวารดับ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีอีกแล้ว ฉะนั้นคนที่นั่งสมาธิไปนี้ไปแค่ไหน ไม่ใช่นิพพานไปแค่สะพานแล้วกลับมาเล่าเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 5:57 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
3. กับ สวรรค์ นรก ในแง่ที่ว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ซึ่งเป็นเรื่องของอายตนะทั้ง 6 ทั้งนรก ทั้งสวรรค์ มันอยู่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
คือ ความรู้สึก ที่เกิดขึ้น ที่นั่น

.....ถ้าสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ เท่านั้น จงรีบทำชั่วให้หนักเลย เพราะทุกข์
ในใจมันเทียบกับความสุขจากการได้ทำความชั่วไม่ได้ ผมบอกแล้วว่าใน
บั้นปลายชีวิตท่านพุทธทาส ท่านพบว่าวิญญาณสืบเนื่องต่อไปได้เรือยๆ ถ้าคน
ทำชั่วในชาตินี้ ไม่ได้รับผลในชาติต่อๆไป รับแค่ความทุกข์ในใจเล็กๆน้อยๆ
เทียบกับความสุขในการทำความชั่วไม่ได้ กฎแห่งกรรมก็ไม่มีจริง



คำสอนของท่านพุทธทาส ก็ไม่ต่างจาก อชิตะเกสกัมพล แต่ต่างกันที่ อชิตะเกสกัมพล ไม่ได้กล่าวตู่พระพุทธพจน์เท่านั้น

สังเกตดูคำสอนท่านพุทธทาสพยายามจะหลีกเลี่ยงการสอนเรื่อง หลักกรรม การเวียนว่ายตายเกิด อ้างแต่ปัจจุบัน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


อ้างอิงจาก:

http://www.84000.org/true/337.html

ปัญหา ศาสดาอชิตะ เกสกัมพล มีแนวคำสอนว่าอย่างไร ? และแนวคำสอนเช่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

พุทธดำรัสตอบ “อชิตะ เกสกัมพล มีความเห็นว่า ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาบิดาไม่มี สัตว์ที่เกิดผุดขึ้น (โอปปาติกะ) ไม่มี สมณะพราหมณ์ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ รู้แจ้งชัดโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งแล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งไม่มีในโลก คนเราเป็นแต่เพียงที่ประชุมของมหาภูตรูป ๔ เมื่อใดทำกาลกิริยา(ตาย) เมื่อนั้นธาตุดินก็ไปตามธาตุดิน ธาตุน้ำก็ไปตามธาตุน้ำ ธาตุไฟก็ไปตามธาตุไฟ ธาตุลมก็ไปตามธาตุลม อินทรีย์ทั้งหลายย่อมเลื่อนลอยไปในอากาศ บุรุษ ๔ คน รวมเป็น ๕ ทั้งที่วางศพ หามเอาคนตายไป เสียบทสวดสรรเสริญเขามีไปจนถึงป่าช้า กระดูกทั้งหลายกลายเป็นสีเทาดุจสีนกพิราบ เครื่องเซ่นสังเวยทั้งหลายสิ้นสุดลงด้วยเถ้า ท่านนี้เคนเขลาบัญญัติไว้ คนเหล่าใดประกาศลัทธิอัตติกวาท คำของคนเหล่านั้นเป็นคำเหล่าประโยชน์ เป็นคำเท็จ เป็นคำบ่นเพ้อเมื่อร่างกายแตกสลายทั้งพาลและบัณฑิตย่อมขาดสูญพินาศไป หลังจากความตายไม่มีอะไรเลย...

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูป....เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ มีอยู่เพราะถือมั่นยึดมั่นรูป....เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ความเห็นอย่างนี้จึงเกิดขึ้นมา”

ทิฏฐิสังยุต โสดาปัตติวรรค ที่ ๑ (๔๒๕)
ตบ. ๑๗ : ๒๕๔ ตท. ๑๗ : ๒๓๔-๒๓๕
ตอ. K.S. ๓ : ๑๑๖-๑๑๗

-----------------------------------------------------------

http://larndham.net/index.php?showtopic=12737&st=16

ลัทธินัตถิกทิฏฐิ กล่าวโดยเนื้อหาก็คือปรัชญาจากการมีรากฐานอยู่ก่อนแล้วในระบบความคิดความเชื่อเดิมของสังคมอินเดียหากเทียบกับลัทธิปรัชญาตะวันตกนัตถิกทิฏฐิก็คือปรัชญาวัตถุนิยม (Mate-rialistic philosophy) ซึ่งผู้ศึกษาปรัชญาสายตะวันออกและตะวันตกย่อมจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
หลักการทั่วไปของลัทธินัตถิกทิฏฐิ หรือปรัชญาวัตถุนิยมของตะวันตก(Materialistic philosophy) มีเนื้อหาสอดคล้องกันตรงที่ต่างยอมรับว่าโลกและชีวิตเป็นผลผลิตของการรวมกันอย่างลงตัวของวัตถุหรือสสาร ไม่มีจิตวิญญาณที่เป็นนามธรรม ความจริงมีอยู่เฉพาะในโลกแห่งวัตถุและความจริงนี้ต้องพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัสเท่านั้น ไม่มีความจริงอื่นนอกเหนือไปกว่านี้

แต่พระพุทธศาสนากล่าวว่า ความจริงไม่ได้มีอยู่เฉพาะในโลกแห่งวัตถุหรือสสารเท่านั้น ยังมีความจริงอีกมากมายที่เรามองไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ แต่อาจพิสูจน์และสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสที่ ๖ (ESP = Extra Sensory Perception) คือจิตหรือใจ
เมื่อวัตถุนิยมปฏิเสธความจริงทางนามธรรม ก็เท่ากับปฏิเสธเรื่องบุญ บาป ความดี ความชั่ว กฏแห่งกรรม เทวดา พระนิพพาน และพระอรหันต์ผู้รู้แจ้งพระนิพพานด้วย การปฏิเสธบุญบาป เป็นต้น ก็เท่ากับเป็นการปฏิเสธระบบคุณค่าหรือกฏเกณฑ์ทางศีลธรรมจริยธรรมที่ทำให้สังคมดำรงอยู่อย่างสงบร่มเย็นไปด้วยโดยปริยาย
ผู้ที่เชื่อในลัทธิวัตถุนิยมจึงใช้ชีวิตอย่างสุดโต่งไปในการแสวงหาความสุขจากการสนองตัณหา หรือการกิน ดื่ม สืบพันธุ์ หรือกิน กาม เกียรติ และการเสพบริโภคอย่างเต็มที่ ไม่คำนึงถึงคุณค่าทางจิตใจ ให้ความสำคัญต่อวัตถุและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเงิน รถ บ้าน กามารมณ์ เป็นต้น ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่อาจถือเอาเป็นสรณะที่สามารถให้คำตอบสุดท้ายกับชีวิตได้แทบทั้งหมด กล่าวโดยรวมคือสนใจโลกียสุขมากกว่าจะแสวงหาโลกุตรสุขที่อยู่เลยพ้นขึ้นไปจากสุขทางประสาทสัมผัสทั้ง ๕
เมื่อกล่าวโดยเคร่งครัดลัทธิวัตถุนิยมของพระเจ้ายาปาสิจึงไม่ได้หายไปจากความคิดความเชื่อและวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมปัจจุบัน หากแต่ได้คลี่คลายขยายตัวมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมิ่งนักในนามของลัทธิวัตถุนิยม บริโภคนิยม ที่กำลังแผ่อิทธิพลครอบงำไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้นั่นเอง

-------------------------------------------------

สังเกตดูคำสอนของท่านพุทธทาส จะได้การยอมรับจากลัทธิวัตถุนิยม ทั้งในต่างประเทศ และในประเทศ จนได้รับรางวัลระดับนานาชาติ จากยูเนสโก

คุณ mes คงภูมิใจกับรางวัลนี้ของอาจารย์พุทธทาสมาก ๆ เนาะ ปรบมือ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 9:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมภูมิใจในตัวท่านพุทธทาสเช่นเดียวกับชาวโลกที่เคารพในตัวท่าน

ไม่ใช่เรื่องน่าอาย

คุณเฉลิมศักดิ์อย่ามากล่าววาจาถากถาง

คุณเองคุยภาษาไทยยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย

เค้นจะมาเย้นหยันท่านพุทธทาส

คุณรู้จักอุจจาระที่ท่านพุทธทาสปล่อยวางไหม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 9:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอถามว่าที่คุณวิจารณ์ท่านพุทธทาสคุณได้อ่านบทความของท่านดีแล้วหรือ
ขนาดถามตอบในเวปคุณยังมั่วถามอย่างตอบอย่าง

ตลบแตลง

มาว่าท่านพุทธทาสมั่ว

เจี่ยมตัวบ้างเถอะ

สังวรไว้บ้าง

ไม่มีใครสรรเสริญคุณหรอก

ผมกล่าวหาได้เลยว่า

เฉลิมศักดิ์แค่คนลวงโลก

ท่านที่อยู่ที่สวนโมกในเหตุการณ์ที่เฉลิมศักดิ์พยายามก่อกวนท่านพุทธทาส

กรุณาออกมาแฉอีกครั้งครับ

ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้ยินกับหูเห็นกับตาไม่อยากยืนยัน

ผมไม่ใช่เฉลิมศักดิ์

จึงรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 9:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
มาว่าท่านพุทธทาสมั่ว

เจี่ยมตัวบ้างเถอะ



ก็ อ.พลศักดิ์ ของคุณ mes เปิดประเด็นไว้ ผมเลยแสดงความเห็นเพิ่มเติม ครับ ( คุณ mes อย่ามั่ว ดิ !)



http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16994&postdays=0&postorder=asc&start=0

อ้างอิงจาก:
1. บทความของท่านพุทธทาส และคำสอนของท่านพุทธทาส แบ่งเป็นช่วงครับ

ช่วงต้นและช่วงกลาง - ท่านพุทธทาสมั่วสถานเดียว เพราะไปตีความพระ
พุทธศาสนาจากการใช้สมองคิด สิ่งที่ท่านสอนคือ สัทธรรมปฏิรูป(ของปลอม)

ช่วงบั้นปลายของชีวิต - หลังจากท่านพุทธทาสตระหนักว่า วิญญาณมันสืบต่อ
เนื่องไปเรื่อยๆ ถ้าสังขารยังปรุงแต่งอยู่ ตอนนั้นแหละท่านจึงรู้ว่า สวรรค์ นรก
ของจริงอาจจะมี พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนมั่ว อย่างไรก็ตาม ตำราคำสอนสมัย
ช่วงต้น-ช่วงกลางของชีวิตท่านแพร่ออกไปมากแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับคืนได้


-----------------------------------------------------------


อ้างอิงจาก:
เฉลิมศักดิ์แค่คนลวงโลก

ท่านที่อยู่ที่สวนโมกในเหตุการณ์ที่เฉลิมศักดิ์พยายามก่อกวนท่านพุทธทาส

กรุณาออกมาแฉอีกครั้งครับ

ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้ยินกับหูเห็นกับตาไม่อยากยืนยัน


มีครั้งหนึ่ง ที่ ชมรมพุทธ ที่สถาบัน จัดไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ อยู่ปีสุดท้ายแล้ว (ปี 35) ตอนนั้นท่านพุทธทาสอายุมากแล้ว ไม่ได้สอนอะไรมาก

ตอนนั้นก็เชื่อเหมือนคุณ mes ว่าท่านน่าจะเป็นพระอริยบุคคล

ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วครับ เมื่อผมได้ศึกษาพื้นฐานทางด้านพระอภิธรรมมีความเข้าใจบ้างเพียงเล็กน้อย หนังสือต่าง ๆ ของท่านพุทธทาสที่ผมได้รวบรวมสะสมไว้ทั้งหมดเป็นจำนวนมาก ผมไม่กล้าที่นำไปแจกคนอื่น เกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดในสภาวธรรมขึ้นได้กับเพื่อนผู้ร่วมทุกข์ทั้งหลาย แล้วความเสียหายก็จะติดตามตัวไปอีก และความเสียหายนี้ก็มิใช่เล็กน้อย


คุณ mes ครับ ได้ข้อมูลมาจากไหน ครับ ?
(ว่าผมไปก่อกกวนประท้วงท่านที่สวนโมกข์)

ระวังเป็นคนลวงโลกเสียเองนะครับ เจ๋ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 3:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คุณ mes ครับ ได้ข้อมูลมาจากไหน ครับ ?
(ว่าผมไปก่อกกวนประท้วงท่านที่สวนโมกข์)

ระวังเป็นคนลวงโลกเสียเองนะครับ


ไม่เป็นไรครับ

ให้ผมเจอหลักฐานอีกทีจะแสดง

แต่พยานบุคคลคลยังมี

ผมบอกแล้วว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

ถ้าผิดผมจะออกมายอมรับ

แล้วเฉลิมศักดิ์กล้ารับผิดไหมที่ตนโกหก
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 3:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
อ้างอิงจาก:
เฉลิมศักดิ์แค่คนลวงโลก

ท่านที่อยู่ที่สวนโมกในเหตุการณ์ที่เฉลิมศักดิ์พยายามก่อกวนท่านพุทธทาส

กรุณาออกมาแฉอีกครั้งครับ

ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้ยินกับหูเห็นกับตาไม่อยากยืนยัน


ข้างบนเป็นของผม

ข้างล่างเป็นของเฉลิมศักดิ์ที่โกหก

ใส่ร้ายป้ายสีตามอนุสัยของตน

อ้างอิงจาก:
คุณ mes ครับ ได้ข้อมูลมาจากไหน ครับ ?
(ว่าผมไปก่อกกวนประท้วงท่านที่สวนโมกข์)

ระวังเป็นคนลวงโลกเสียเองนะครับ


ดูในวงเล็บครับ

ผมไม่ได้เขียน

แล้วคุณเฉลิมศักดิ์เสริมแต่งได้อย่างไร

นี่แหละครับเอากันให้ชัดๆตรงนี้เลย

อายเขาไหม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 3:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านผู้อ่านก็คงได้อนุมานพฤติกรรมอันไม่ดีของคุณเฉลิมศักดิ์ได้พอประมาณแล้วครับ

ผมก็ไม่ทราบว่าเขาออกมาทำลายศาสนาพุทธทำไม

ทั้งที่ตัวเองก็อ้างว่านับถือศาสนาพุทธ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
อิทธิกร
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 28 ส.ค. 2008
ตอบ: 137
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 4:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ พุทโธ พุทโธ
 

_________________
ชีวิตที่รู้
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง