Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
เมื่อเราตายแล้ว ชีวิต 49 วันหลังความตาย จะเป็นอย่างไรมาดูกัน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
meedoo
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 08 พ.ค. 2008
ตอบ: 11
ตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2008, 2:11 am
ชีวิต 49 วันหลังความตาย
มนุษย์มีจิตวิญญาณ เมื่อใดสิ้นลมปราณ วิญญาณไปอยู่ที่ไหน?
มนุษย์เมื่อตายแล้ว ภายใน 49 วัน วิญญาณผู้นั้นก็จะไปรายตัวยังยมโลก ผู้ที่ตอนมีชีวิตประกอบแต่กรรมดี พอไปถึงยมโลกเทวทูตก็จะพาไปส่งที่บนสวรรค์ ส่วนผู้ที่ตอนมีชีวิตอยู่ชอบก่อกรรมทำชั่ว กรรมนั้นตนก็ต้องเป็นผู้รับต้องถูกส่งไปจองจำที่นรก เสวยทุกข์ทรมาน ถึงตอนนี้จึงเพิ่งรู้ว่า พอมัจจุราชมาหา ทุกอย่างพาไปไม่ได้ มีแต่บาปกรรมติดตัวเท่านั้น แต่สำนึกได้ก็สายไปแล้ว
จึงขอแจกแจงความแตกต่างชีวิตหลังความตายของวิญญาณผู้ประกอบกรรมดีและชั่ว เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจชาวโลกดังต่อไปนี้
เจ็ดวันรอบแรก วิญญาณผู้ตายต้องเดิน ผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทางอยู่ เมื่อวิญญาณบาปไปถึงก็เกิดความหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไปฝูงหมาป่าก็เข้ารุมล้อมกระโจนเข้าขย้ำขบกัด วิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตมาคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่มองนิ่งเฉยไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ 2
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผีเจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีทิ่มแทงอย่างไม่ปรานีปราศรัย และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันตามมาทวงหนี้เวรกรรม
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผีจะได้รับการต้อนรับ ให้ผ่านไปโดยดี
เจ็ดวันรอบที่ 3
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกล่ามโซ่ตรวนนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่งกรรม ภาพการทำบาปต่างๆ ก็จะปรากฎขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เหมือนกับการฉายภาพยนตร์เสร็จแล้ว ก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงตอนนี้วิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงที่แห่งนี้จะได้รับการต้อนรับอย่างดี มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และดูสภาพของญาติมิตรที่ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด
เจ็ดวันรอบที่ 4
มาถึงภูเขากระดาษเงินกระดาษทองการจะขึ้นไปที่ภูเขากระดาษเงินกระดาษทองนี้ยากลำบากมาก ภูเขากระดาษเงินกระดาษทองนี้ คือ กระดาษเงินกระดาษทองที่คนในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ กองสุมทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์
เจ็ดวันรอบที่ 5
วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิมได้เห็นลูกหลานคนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจถึงตอนนี้ จึงเริ่มรู้ว่าอยู่กันคนละภพภูมิ ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่อาลัยอาวรณ์
เจ็ดวันรอบที่ 6
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงตำหนักที่หกยมบาลตำหนักหก จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุมบัญชี ตรวจดูบาปและบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากนำบาปและบุญหักลบกันแล้ว ถ้าฝ่ายบุญมีมากกว่าฝ่ายบาป ก็จะให้ไปจุติยังสุคติภูมิ ถ้าฝ่ายบาปมีมากกว่าจะส่งไปนรกภูมิเสวยทุกขเวทนา
เจ็ดวันรอบที่ 7
เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงตำหนักที่เจ็ดยมบาลตำหนักเจ็ดก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิยอยู่ ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกินเจงดฆ่าสัตว์ก็จักระงับโทษ ถ้าชอบฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้อง ก็จะเพิ่มโทษอีกเท่าตัว
ข้างต้นนี้ คือชีวิต 49 วันหลังความตาย ซึ่งผู้ตายทุกคน จะต้องประสบพบผ่าน
อ้างอิง:
Mindcyber
------------------------------------------------------------------------------------
อานิสงส์แห่งการพิมพ์แจกธรรมะ
การประกาศธรรม มีจุดประสงค์ให้ชาวโลกรู้จักบาปบุญคุณโทษ และชี้แนะตักเตือน โน้มน้าวผู้คน ให้ละชั่วทำดีมีความพากเพียรอดทนในการบำเพ็ญธรรม(ปฏิบัติธรรม) มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรมจรรยา จงรักภักดีต่อแผ่นดินถิ่นเกิด กตัญญูต่อบิดามารดา รักพี่รักน้อง สามีภรรยารักใคร่ปรองดอง
มีคำกล่าวว่า “ใช้คำพูดแนะทำดี ใช้ได้เพียงชั่วขณะหนึ่ง ใช้หนังสือแนะทำดี สามารถสืบทอดชั่วนิรันดร์” ถ้าชาวโลกสามารถรวบรวมทุนทรัพย์ จัดพิมพ์หนังสือธรรมะที่เป็นพระโอวาทของเทพ พุทธ พรหม จากการประทับทรงลิขิต (เช่นเล่มนี้) เผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ผู้ได้อ่านสามารถเกิดความบรรดาลใจหันสู่ทางดีงาม หรือผู้ประพฤติผิดสามารถกลับตัวใหม่ก็จะสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การโปรดสัตว์ของเบื้องบน อานิสงส์ของการให้ความร่วมมือประกาศธรรมนี้ใหญ่หลวงนัก
ตามกฎสวรรค์ เรื่องการปูนบำเหน็จความดีความชอบบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดจัดพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายทั่วไป ซึ่งเป็นการช่วยสวรรค์ประกาศธรรม ชี้แนะผู้คนให้กระทำความดี อานิสงส์ได้กำหนดชัดแจ้งไว้ดังนี้
1.ผู้ใดจัดพิมพ์หนังสือธรรมะ 1 เรื่อง แจกจ่ายทั่วไปกุศลนั้นจักสามารถแก้กรรม (เสดาะเคราะห์)ของชาติก่อนทั้งหมด
2.ผู้ใดจัดพิมพ์หนังสือธรรมะตั้งแต่ 2 เรื่องขึ้นไปแจกจ่ายอย่างกว้างขวาง กุศลนั้นจักส่งผลให้ผู้นั้น เจริญด้วยลาภยศ อายุ สุขะ พละ ได้บุตรหลานที่ดี เมื่อละสังขาร จักได้เป็นเจ้า (เจ้าพ่อหรือเทวดาชั้นต่ำ) ในโลกมนุษย์
3.ผู้ใดจัดพิมพ์หนังสือธรรมะอย่างต่อเนื่องตลอดไปและแจกจ่ายอย่างกว้างขวาง กุศลนั้นจักส่งผลให้ผู้นั้น เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมเพียบพร้อมด้วยลาภยศ อายุ สุขะ พละ จิตผ่องใส และยังส่งผลถึงบุตรหลานสามรุ่น ให้เจริญรุ่งเรือง เมื่อละสังขารจักได้เป็นเทวดา ณ แดนสวรรค์
ข้างต้นนี้ คือ อานิสงส์แห่งการจัดพิมพ์แจกหนังสือธรรมะโปรดสัตว์ ขอให้ชาวโลกจงช่วยกันประกาศธรรมโปรดผู้คนอย่างกว้างไกล ย่อมจักได้ผลที่ดีตอบสนองแน่นอน
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
ตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2008, 3:38 pm
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะคุณ medoo
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
ตอบเมื่อ: 19 มิ.ย.2008, 3:52 pm
ขอบคุณที่นำความรู้มาครับ
_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
ตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2008, 9:45 am
เป็นความเชื่อที่ไม่ค่อยดี มีโทษ พอๆกับมีคุณ
ที่ผู้แสวงสัจจะปัญญา ควรจะพิจารณาให้ถ่องแท้ว่ามันเป็นสากลหรือไม่
เป็นธรรมะที่แท้หรือเปล่า
คนที่ตาบอดแต่กำเนิด ฝันเป็นเสียง ฝันเป็นสัมผัส แต่ไม่ฝันเป็นภาพ
เมื่อระบบความจำไม่มี "ภาพ" อยู่ในสาระบบ จะเกิดภาพต่างๆดังบทความได้อย่างไร
เมื่อคนตาดี กับคนตาบอด
ไม่สามารถจะเห็นสิ่งเดียวกันนี้ได้
ย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นสากลของ"ความเชื่อ"ตามบทความนี้
พูดให้ชัดๆ ง่ายๆ คือ
"ลักษณะของนรก-รูปแบบของนรก" มีความแตกต่างกันไปตามบุคคล
นรกของคนตาบอดย่อมไม่มีภาพ .... มีเพียงแต่เสียง
นรกของคนหูหนวก ย่อมมีเพียงแต่ภาพ - ไม่มีเสียง
นรกของสุนัข.. ย่อมไม่มีสีสัน ไม่มีตรวนโซ่
การหลงติดว่านรก สวรรค์ จะมีรูปแบบอย่างนั้นอย่างนี้
การหลงติดว่านรก สวรรค์ จะมีรูปอุปกรณ์อย่างัน้น อย่างนี้
การหลงติดว่าสรรค์ นรก ตามบทความนี้ มีจริงหรือไม่
ล้วนแล้วแต่เป็นการคิดที่ไร้ประโยชน์ ไม่เป็นธรรมะ
แต่หากท่านเป็นผู้มีปัญญาน้อย
เช่น เด็กๆทั้งหลาย ที่จิตยังขาดปัญญา
ยังคง คิด-ทำ-พูด ไปตามธรรมชาติของจิตมนุษย์ที่ใฝ่ลงต่ำ แรงจากอาสวะกิเลส
ถ้าจะพูดเรื่องนรก สวรรค์ แบบนี้ให้เด็กๆ เข้าใจ คงยาก ไม่เป็นประโยชน์
แต่การทำให้เชื่อว่ามีสวรรค์-นรก มีคุณ-มีโทษ .. น่าจะเป็นประโยชน์กับเด็กมากกว่า
ในการบังคับให้เขาเกรงกลัวต่อบาป ชื่นชมในการทำความดี
หากท่านโตแล้ว
มีปัจจัยทางสติปัญญาเพียงพอแก่การที่จะแสวงหาธรรมะที่มันสูงกว่านิทานนรก สรรค์
ไม่ควรจะติดตันอยู่กับเรื่องแบบนี้
ลองถามตัวเองอย่างนี้นะคับ
หากนรกมีจริงๆ...
ท่านจะปาวารนา อุทิศ อดทน ใช้ชีวิตที่เหลือทำแต่ความดีล้วนๆ เพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์หรือไม่
หากนรก"ไม่มี"จริงๆ...
ไม่มีระบบลงโทษหลังความตาย
ท่านจะใช้ชีวิตที่เหลือ หาสิ่งที่อยากได้ โดยไม่สนใจว่าจะได้มาด้วยวิธีเลวๆเพียงใด..หรือไม่
ทำไมท่านไม่ลองทำความเข้าใจง่ายๆ คิดง่ายๆ กับคำว่า
กรรม... ผลกรรม ...
การกระทำ .. ผลของการกระทำ
action ... consequence
เมื่อท่าน ชกหน้าใครโดยไม่มีสาเหตุ ...
ท่านคิดว่าเขาจะให้ดอกไม้ หรือชกหน้าท่านกลับ
เมื่อทำกรรมดี ... มียิ้มไมตรีให้คนไม่รู้จัก ... ท่านย่อมได้รับไมตรีกลับมา ...สวรรค์เกิดตรงนั้น
เมื่อทำกรรมชั่ว .. ชกหน้าคนไม่รู้จัก ... ท่านย่อมได้รับผลร้ายกลับมา .. นรกอยู่ตรงนั้น
นรก - สวรรค์ .... มันง่ายๆ เท่านั้นเอง
อย่าไปหลง นรก-สวรรค์ที่ถูกปรุงแต่งไปจนกู่ไม่กลับ
แล้วก็ไปหลงในสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นนั้น....ว่ามีจริงหรือไม่
_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th