Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เด็กกับผู้ใหญ่ ใครทำชั่วได้มากกว่ากัน - จิตดั้งเดิม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ค.2008, 4:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออ้างอิงข้อเขียนก่อนนะคับ

อ้างอิงจาก:

คัดมางส่วนจาก มุตโตทัย - พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ

๖. มูลการของสังสารวัฏฏ์
ฐีติภูตํ อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา อุปาทานํ ภโว ชาติ
คนเราทุกรูปนามที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีที่เกิดทั้งสิ้น
กล่าวคือมีบิดามารดาเป็นแดนเกิด
ก็แลเหตุใดท่านจึงบัญญัติปัจจยาการแต่เพียงว่า อวิชฺชา ปจฺจยา ฯลฯ เท่านั้น

อวิชชา เกิดมาจากอะไรฯ ท่านหาได้บัญญัติไว้ไม่
พวกเราก็ยังมีบิดามารดาอวิชชาก็ต้องมีพ่อแม่เหมือนกัน

ได้ความตามบาทพระคาถาเบื้องต้นว่า ฐีติภูตํ นั่นเองเป็นพ่อแม่ของอวิชชา
ฐีติภูตํ ได้แก่ จิตดั้งเดิม

เมื่อฐีติภูตํ ประกอบไปด้วยความหลง จึงมีเครื่องต่อ กล่าวคือ
อาการของอวิชชาเกิดขึ้น
เมื่อมีอวิชชาแล้วจึงเป็นปัจจัยให้ปรุงแต่งเป็นสังขาร
พร้อมกับความเข้าไปยึดถือ
จึงเป็นภพชาติคือต้องเกิดก่อต่อกันไป ท่านเรียก ปัจจยาการ
เพราะเป็นอาการสืบต่อกัน

วิชชาและอวิชชาก็ต้องมาจากฐีติภูตํเช่นเดียวกัน
เพราะเมื่อฐีติภูตํกอปรด้วยวิชชาจึงรู้เท่าอาการทั้งหลายตามความเป็นจริง

นี่พิจารณาด้วยวุฏฐานคามินี วิปัสสนา รวมใจความว่า ฐีติภูตํ เป็นตัวการดั้งเดิมของสังสารวัฏฏ์ (การเวียนว่ายตายเกิด)
ท่านจึงเรียกชื่อว่า "มูลตันไตร" (หมายถึงไตรลักษณ์)

เพราะฉะนั้นเมื่อจะตัดสังสารวัฏฏ์ให้ขาดสูญ จึงต้องอบรมบ่มตัวการดั้งเดิมให้มีวิชชารู้เท่าทันอาการทั้งหลาย
ตามความเป็นจริง ก็จะหายหลงแล้วไม่ก่ออาการทั้งหลายใดๆ อีก
ฐีติภูตํ อันเป็นมูลการก็หยุดหมุน หมดการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ด้วยประการฉะนี้



จากบทความนี้ ผมเลยคิดว่า

ถ้างั้น มันก็อธิบายได้ว่า ทำไมเด็กๆที่เกิดมาใหม่
เมื่อมีอะไรมากระทบทวาร 6 ก็จะแสดงอาการของอารมณ์ออกมาทันที

เด็กๆที่เกิดมานั้น ล้วนมี ฐีติภูตํ เป็นเบื้องต้น


แม้เด็กเมื่อโตขึ้นหน่อยหนึ่ง วิ่งได้ พูดได้ ก็ยังคงเหมือนกัน
คือยังเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ เสียใจง่าย โกรธง่าย กลัวง่าย ตามประสาเด็ก
ตราบเมื่อได้รับการอบรมสั่งสอนก็ดี หรือบังคับก็ดี
ฐีติภูตํจึงได้รับความรู้ที่ดีขึ้น ในการควบคุมกำกับอาการของฐีติภูตํ


ครั้นเมื่อเป็นผู้ใหญ่
คนก็ยังคงมี ฐีติภูตํ ที่ไม่ได้รับความรู้ที่แท้
ได้รับแต่เพียงความรู้ในการเอาชนะความยากลำบากทางกาย เช่นวิชาความรู้ต่างๆ
อย่างวิทยาศาสตร์ - ที่เป็นความรู้ในการเอาชนะความทุกข์กาย
ศิลปศาสตร์ - ที่เป็นความรู้ในการบำเรออายตนะ ที่ช่วยหย่อนคลาย/ล่อลวงให้ออกห่างความทุกข์ใจได้บ้าง

ศาสตร์เหล่านั้น ก็เป็นเพียงการสั่งสอนวิธีควบคุมอาการของใจ
เด็กอาจไม่มีความรู้ในการข่ม กลบเกลื่อน ปิดบังอาการอันเกิดจากจิต
ผู้ใหญ่อาจจะมีการ"ข่ม กลบเกลื่อน ปิดบัง" ที่ซับซ้อนขึ้น


จนเมื่อได้รับ วิชชา ที่ถูกต้อง อันเป็นสัจจะธรรมะในกำมือของพระพุทธเจ้า
ที่ว่าด้วยการดูจิตใต รู้จิตใจ ให้เห็นถ่องแท้ถึงสภาวะอันเป็นธรรมชาติที่สุดของ ฐีติภูตํ
เมื่อนั้น ย่อมดับวงจรเวียนว่ายตายเกิด

ดังนั้น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เรียนรู้ศาสตร์อะไรถึงขั้นไหน
หากฐีติภูตํไม่ได้รับความรู้ อันเป็นวิชชาที่ถูกต้องดังกล่าวแล้ว
ย่อมสร้างความเลว ความเสียหาย ได้เหมือนกัน
เพียงแต่เด็กอาจจะไม่ก่อผลเสียหายมากเท่าผู้ใหญ่

----------------------------------------------------------

เมื่อคิดมาอย่างนี้แล้ว เกรงจะมีจุดบกพร่องหลงผิด
ขอสหายธรรมช่วยสอบสวนความคิดของผมอันนี้
ตามแต่จะเห็นควรด้วยนะค๊าบบบ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2008, 3:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กระผมขออนุญาติขยายความบางส่วนครับ ในเรื่องของ อวิชา และวิชา อันอวิชานั้นหมายถึงความไม่รู้ ไม่รู้ในที่นี้หมายถึงไม่รู้ใน อริยสัจ คือ ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และเหตุแห่งการดับทุกข์ ดังนั้น วิชาหรือความรู้ที่ถูกต้องนั้นย่อมหมายถึงรู้แจ้งในอริยสัจทั้ง 4 ประการ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 9:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพียงแต่เด็กอาจจะไม่ก่อผลเสียหายมากเท่าผู้ใหญ่

ขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นผู้ตัดสิน ด้วย อมิตพุทธ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 10:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ ยอดเยี่ยมครับอาจารย์คามิน

ผมขอถามนะครับว่าถ้า้่งั้นจิต่เด็กยังบริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสเท่าผู้ใหญ่
น่าจะสอนธรรม บรรลุธรรมได้ดีกว่าสอนผู้ใหญจริง่มั้ยครับ...อาจารย์ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 12:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฌาณ พิมพ์ว่า:
สู้ สู้ ยอดเยี่ยมครับอาจารย์คามิน

ผมขอถามนะครับว่าถ้า้่งั้นจิต่เด็กยังบริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสเท่าผู้ใหญ่
น่าจะสอนธรรม บรรลุธรรมได้ดีกว่าสอนผู้ใหญจริง่มั้ยครับ...อาจารย์ สาธุ


มีนะ หลายคน ลองดูที่ลานธรรม
เด็กหลายคนเกิดจิตยิ้มแล้ว เพราะใช้วิชาดุจิตของหลวงพ่อปราโมช

เด็กไม่คิดมาก คิดซื่อ เลยสำเร้จเร็ว
คนเรียนมาก คิดมาก อดคิดไม่ได้
ชอบดักทาง ชอบเก็งคำตอบไว้ก่อน
เลยสำเร็จช้า
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง