Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ...ผลแห่งความดี-ความชั่ว...(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 16 เม.ย.2008, 3:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เราเกิดมาได้ชื่อว่าได้ของอันมีค่า ๓ ประการคือ
ได้อัตภาพมาเป็นคน ๑
ได้มารดาบิดา ๑ และ
ได้มรดกที่มารดาบิดาหามาไว้ให้ ๑

เพราะตัวของเราก็ดี มารดาบิดาของเราคู่นี้ก็ดี
จะหาแลกเปลี่ยนซื้อขายเอาได้ที่ไหนในโลกนี้
จะชั่วดีอย่างไรพร้อมทั้งตัวของเรานี้ ก็เป็นของของเราได้มาแล้ว
จะแลกเปลี่ยนเอาอื่น เหมือนวัตถุสิ่งของอื่นไม่ได้เลย
อีกสมบัติข้าวของที่ท่านหามาให้ไม่ว่ามากหรือน้อย
ก็เป็นอันท่านหามาให้ด้วยความเมตตาและอุตสาหะอย่างยิ่ง
จึงเป็นของมีค่ามาก

อนึ่ง โคตรตระกูลเป็นของมีค่ามาก อารยชนทั้งหลายเขาถือกันนักหนา
คนใดจะดูถูกเหยียดหยามไม่ได้เด็ดขาด
การทำเช่นนั้นถือกันว่าเป็นการทำที่เลวร้ายให้อภัยกันไม่ได้เลย
แต่นั่นแหละเรื่องวงศ์ตระกูลแล้ว คนอื่นถึงเขาจะเหยียดหยามดูถูกอย่างไร
ก็ไม่สามารถจะทำวงศ์ตระกูลของเราให้เสื่อมสูญไปได้
ที่ทำลายได้ง่ายที่สุดก็คือคนในตระกูลของเราเอง อันได้แก่ลูกหลานในตระกูล
แล้วพวกเหล่านี้ตั้งใจทำลายด้วยความสมัครใจ อย่างไม่เสียดายเลย

มารดาบิดาและบรรพบุรุษของเราได้สร้างคุณงามความดีให้เกิดสิริมงคล
ตั้งตน อยู่ในสุจริต ประกอบแต่กิจในทางสัมมาอาชีพ
ตั้งมั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัย ให้ทานรักษาศีลเป็นกิจวัตร
ปฏิบัติตามแนวของอุบาสก อุบาสิกา เป็นลำดับมา
เมื่อมา ถึงลูกหลานเป็นคนผลาญสมบัติของตระกูล
ที่บรรพบุรุษแสวงหาไว้ให้ ตั้งใจประกอบแต่อบายมุข
เห็นความชั่วเป็นของสนุกสนาน
เหมือนแมลงเม่าเห็นไฟเป็นของสวยงามโผเข้าใส่
ถูกไฟไหม้ใกล้ตายจึงจะเห็นโทษ

ความชั่วที่ตนทำลงไปนั้น
มิใช่จะทำให้เกิดความเสียหายให้แก่ตนและทรัพย์สมบัติมรดกเท่านั้น
แต่มันเกี่ยวถึงวงศ์ตระกูลด้วย
ฉะนั้น ทุกๆ คนจึงต้องพากัน รักษาวงศ์ตระกูลของตน
ด้วยการประพฤติดีตามรอยบุพชนของตน ที่ท่านได้ทำดี
ทำชอบมาแล้วจงทุกประการ หรือจะทำดียิ่งๆ ขึ้นไป
กว่าบุพชนของเราก็ยิ่งเป็นการชอบแท้

เมื่อทำได้อย่างนั้นแล้ว
มิใช่แต่จะเป็นการรักษาวงศ์ตระกูลอันมีเกียรติของเราไว้เท่านั้น
แต่มันยังเป็นการทำความดีเพื่อความเจริญก้าวหน้าแก่ตน
อันเป็นคุณสมบัติที่ทุกๆ คนพึงปรารถนาอีกด้วย

แท้จริง ความดีที่คนอื่นทำให้เราเห็นเป็นตัวอย่างนั้น
เป็นเหมือนกระจกเงาสำหรับส่องหน้า
เพื่อเราจะได้แต่งหน้าแต่งตัว ว่าที่ไหนเป็นฝ้ามัวมอม
เราจะได้ขัดจะได้แต่งให้สะอาดสวยงาม
คุณงามความดีที่คนอื่นเขาทำให้เราเห็นเป็นตัวอย่าง
แล้วก็ฉันนั้นเหมือนกัน หากเราเห็นว่าดี ชอบแล้ว จงทำตามแบบอย่างที่ดีของเขา
แล้วระลึกเอาความดีนั้น มาเทียบกับความประพฤติเป็นอยู่ของเราอยู่เสมอๆ
และอย่าเข้าใจว่าความดีของเรานั้นเราทำตามไม่ได้
ไม่เป็นของเหลือวิสัยเลยหากเรารักและสนใจในความดีอย่างนั้น
แล้วตั้งใจประพฤติฝึกฝนอบรมตาม
เพราะนิสัยสันดานแม้แต่สัตว์ดิรัจฉานก็อาจตามได้
ทั้งๆ ที่สัตว์เหล่านั้นไม่รู้ความหมายของเจ้าของเลย

ร่างกายของคนเราสมประกอบบริบูรณ์ครบครันแล้วทุกประการ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการเสริมสวย เพื่อให้เข้ากับสังคมเขาได้
และเมื่อขาดการตกแต่งเสริมสวยแล้ว ก็จะเป็นที่น่าเกลียดสกปรกเป็นธรรมดา
ของที่เราใช้ถึงจะเป็นของสวยสะอาดแล้วก็ตาม
เมื่อนำออกมาใช้แล้วจำจะต้องสกปรก ร่างกายมนุษย์ของคนเราก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ฉะนั้น จึงจำต้องตกแต่งเสริมสวยเพื่อความสะอาดอยู่เสมอ
แต่ ความสะอาดของร่างกายต้องตกแต่งไม่รู้จักจบจักสิ้นไปสักที
ตายแล้วเป็นผีเขาตกแต่งรูปกายไม่ได้ เขาก็นำไปแต่งหีบแต่งเมรุภายนอก
มันได้ประโยชน์คุ้มค่าตรงไหน ไปเผาแล้วเป็นเถ้าผงไปหมด
ถึงกระนั้นคนทั้งหลายก็ยังอุตส่าห์พากัน ลงทุนลงแรงตกแต่งกันอยู่

หากพวกเราพากันมาลงทุนด้วยการใช้อุตสาหะ
วิริยะพากเพียร อบรมกาย วาจา ใจ ของตน
ให้สุภาพเรียบร้อยดีงามตามศีลธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องเสริมสวยแล้วจะมิดีกว่าหรือ


ผู้ที่สนใจตกแต่งกาย วาจา ใจ ของตน
ด้วยน้อมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้ามาฝึกอบรมแล้ว
ไม่ว่าหญิง ชาย หนุ่ม แก่ หรือจะอยู่ในฐานะชั้นภูมิใดๆ ก็ตาม
ย่อมเป็นคนสุภาพเรียบร้อย น่าคบค้าสมาคม เป็นที่นิยมแก่คนทั่วไป
ทั้งเมื่อมีชีวิต อยู่และตายไปแล้ว
การตกแต่งชนิดนี้จึงเป็นของดีมีค่ามาก
ไม่ต้องลำบากด้วยเครื่องเสริมสวย สมกับพุทธภาษิตว่า

สีลํ ยาว ชรา สาธุ
ศีลทำให้เป็นคนดีงามตราบเท่าชรา
ดังนี้
ผู้ไม่มีศีลได้ชื่อว่าเป็นผู้สกปรก ดังท่านแสดงไว้ในเรื่องโทษของศีลว่า
ผู้ล่วงละเมิดในศีลข้อนั้นๆ
นอกจากจะเป็นผู้สกปรก เดือดร้อนด้วยโทษนั้นๆ แล้ว
เมื่อตายไปแล้วจะต้องไปสู่ทุคติ มีนรกเป็นที่สุด
เมื่อเสวยผลของกรรมนั้นพอควรแล้ว จึงจะพ้นจากนรกนั้นมาเกิดเป็นคน
แล้วได้รับเศษกรรมนั้นอีก ดังนี้

โทษของการฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ จะเป็นผู้มีอายุสั้นพลันตาย
เป็นคนขี้โรค ทรมาน รูปร่างก็น่าเกลียด ไม่มีใครเมตตาเอ็นดู

โทษของการฉ้อโกง ลักขโมยของเขา
จะเป็นคนจนทรัพย์อับปัญญา อนาถาหา ที่พึ่งมิได้
หาทรัพย์มาไว้ได้ ก็จะมีแต่คนมาฉ้อโกง
ลักขโมยเอา และฉิบหายด้วยภัยต่างๆ

โทษของการประพฤติมิจฉาจาร
เมื่อได้ลูกเมียมาจะได้แต่คนว่ายากสอนยาก
ประพฤตินอกใจ ทำให้ชอกช้ำใจ เป็นทุกข์มาก

โทษของการกล่าวเท็จเป็นต้น
เมื่อเกิดมาเป็นคนพูดจาสิ่งใดไม่มีคนเชื่อถ้อยฟังคำ
มีแต่เขาจะมาหลอกลวงให้เสียทรัพย์
เสียดสีด่าว่าหยาบคายต่างๆ นานา เป็นต้น

โทษของการดื่มสุราเมรัย จะเป็นคนบ้าใบ้เสียจริตผิดมนุษย์
อีกทั้งเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาไม่น่าคบ

นี่โทษของการไม่ตกแต่งฝึกฝนอบรม กาย วาจา ใจ
ตามศีลธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้สกปรกเศร้าหมอง ทั้งที่เป็นมนุษย์และละโลกนี้ไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ จึงควรแต่งกาย วาจา ใจให้สะอาดเสียตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
เพราะถ้าไม่สะอาดแต่เมื่อยังอยู่ในโลกนี้
ตายไปแล้วก็จะเป็นผู้สกปรก ไม่สะอาด ในโลกหน้าต่อไปอีก

จึงไม่ควรแต่งให้สะอาดแต่เฉพาะกายอย่างเดียว
ความสะอาดและความสกปรก ของกายนั้น
จะมีได้ก็เมื่อรูปกายนี้ยังปรากฏแก่สายตาโลกนี้อยู่
ถึงอย่างนั้นทั้งความ สะอาดและความสกปรก
เมื่อกายแตกดับละโลกนี้ไปแล้ว
ความสะอาดและความสกปรกนั้นก็หาได้ติดตามตัวไปไม่

ส่วนความดี ความสะอาดของกาย วาจา และ ใจ
ที่เราชำระด้วยศีลธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
จะเป็นผู้สงบเสงี่ยมเรียบร้อยอันดีงามอยู่ในโลก
เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว ก็ย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
หากยังได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ก็จะได้รับผลบุญที่ยังเหลืออยู่


คนเราทุกๆ คนเมื่อเกิดมาแล้ว ชอบความสมบูรณ์พูนสุขทุกประการ
ถึงอายุก็อยากให้ยืนนาน ร่างกายก็อยากให้สวยงาม
พูดจาไพเราะเสนาะโสต ให้คนทั้งหลาย รักใคร่ชอบใจ มีเมตตาแก่ตน
พร้อมด้วยได้สามีได้ภรรยาและลูก ก็อยากให้ซื่อสัตย์สุจริต
คิดนึกอะไรให้มีไหวพริบปัญญาดี
แต่ไม่ชอบทำดีอันเป็นเหตุให้ได้ผลในสิ่งที่ตนปรารถนานั้น
อยากรวยแต่เกียจคร้านแสวงหาทรัพย์ มันจะไปรวยได้อย่างไร

ฉะนั้นเมื่อพากันได้สดับธรรมิกถาดังแสดงมานี้แล้ว
จงพากันจดจำนำเอาไปปฏิบัติตาม
พวกเราทุกๆ คนยังไม่สาย พอปฏิบัติให้สำเร็จได้อยู่

แสดงธรรม ณ วัดเจริญสมณกิจ จ.ภูเก็ต
จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 85 ธ.ค. 50
โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

คัดลอกจาก...ผู้จัดการออนไลน์


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2008, 10:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แท้จริง ความดีที่คนอื่นทำให้เราเห็นเป็นตัวอย่างนั้น
เป็นเหมือนกระจกเงาสำหรับส่องหน้า
เพื่อเราจะได้แต่งหน้าแต่งตัว ว่าที่ไหนเป็นฝ้ามัวมอม
เราจะได้ขัดจะได้แต่งให้สะอาดสวยงาม
คุณงามความดีที่คนอื่นเขาทำให้เราเห็นเป็นตัวอย่าง
แล้วก็ฉันนั้นเหมือนกัน

หากเราเห็นว่าดี ชอบแล้ว
จงทำตามแบบอย่างที่ดีของเขา


สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุ...สาธุ...สาธุค่ะคุณลูกโป่ง สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2008, 9:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาด้วยครับ คุณลูกโป่ง.. สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.พ.2013, 12:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง