Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2008, 5:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ...ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

เรื่องนินทาและสรรเสริญ
คือว่า การนินทา การสรรเสริญ มันมีประจำโลก
ถ้าหากว่ายังอยู่ในโลกเพียงใด
มันก็ต้องพบกับคำนินทาและสรรเสริญ

คนประเภท ไหนบ้างจะถูกนินทาและสรรเสริญ
และคนประเภทไหนจะไม่ถูกนินทาไม่มีสรรเสริญ
ก็คนที่ไม่ถูกนินทาไม่ถูกสรรเสริญก็คนพวกเดียว

คือ พวกไม่เคยเกิด เขายัง ไม่รู้จัก ใช่ไหม
ฉะนั้นคนที่เกิดมาแล้วย่อมถูกนินทาและสรรเสริญ


แม้แต่พระพุทธเจ้าถูกนินทายังน้อยไป
พราหมณ์ ๔ คน แกด่าต่อหน้าเรื่องนินทาพระพุทธเจ้า
มีเยอะ ท่านทำถูก เขาทำผิดไม่เป็นไร
ทีนี้คนที่อาศัยท่าน นินทาท่านซิ

มีครั้งหนึ่ง ทรงพาพระสงฆ์เสด็จไป
เวลานั้นก็มีปริพาชกพวกหนึ่ง มี สุปปิยปริพาชก เป็นหัวหน้า ผู้เป็นลุง
นันทมาณพ เป็นหลาน เป็นรองหัวหน้า พาบรรดาปริพาชกติดตามไป
พระพุทธเจ้าพักตรงไหน พระอรหันต์พักตรงไหน เขาก็พักใกล้ๆ

ทั้งนี้เพราะอะไร ตอนเช้าพระไปบิณฑบาต คนใส่บาตรพระ
พวกเขาก็เดินตามหลัง พลอยได้ด้วย
ถ้าหากว่าไม่เดินตามพระ เดินตามลำพังไม่มีใครใส่บาตรให้กิน
แกก็อาศัยพระพุทธเจ้า อาศัยพระอรหันต์ทุกๆ วันเดินตามไปเรื่อยๆ

ต่อไปเดินไปถึง เมืองนาลันทา กับ เมืองราชคฤห์ ต่อกัน
ในช่วงเส้นต่อกัน พระพุทธเจ้าก็พักตรงนั้น
บรรดา สุปปิยปริพาชก กับบริวารก็พักใกล้ๆ เดินตามไป
ธรรมดา พระสงฆ์ถ้าอยู่ใกล้ๆ พระพุทธเจ้า ก็ยิ่งสำรวมมากขึ้น
ที่ไปนั้นโดยส่วนใหญ่เป็นพระอรหันต์

ที่เป็นพระปุถุชนก็มีอยู่ และทุกท่านบวชหวังดี ประสงค์ดี
ก็มีการ สำรวมใช่ไหม

ในระหว่างที่พักอยู่ พระก็มีอาการสำรวมตามปกติ
ทีนี้บรรดาปริพาชก เขาไม่ค่อยจะมีระเบียบวินัย
เล่นกันบ้าง ล้อกันบ้าง หยอกกันบ้าง เวลาเดินไป
พระก็สำรวม ปริพาชกเล่นกัน หยอกล้อกัน

ทีนี้เวลากลางคืน พระสงฆ์ทั้งหลายก็เจริญพระกรรมฐาน
มีอารมณ์เงียบสงัด ถึงเวลาดึก ก็ต่างคนต่างนอน ต่างคนต่างจำวัด
บรรดาพระสงฆ์ก็จำวัดล้อม พระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าอยู่ท่ามกลาง ทรงจำวัดในท่าสีหไสยาสน์ ก็เงียบ

สุปปิยปริพาชก ตื่นขึ้นมาตอนดึก เห็นพระเงียบ ไม่มีเสียงปรากฏ
ดูลูกหลานบริษัทบริวาร ของตน นอนกรนบ้าง น้ำลายไหลบ้าง ก่ายกันบ้าง
แกก็ย่องไปดูพระ คิดว่าพระคงจะหนีไปแล้ว ก็เห็นพระอยู่ทุกองค์
มีพระพุทธเจ้าเสด็จบรรทมอยู่ในท่ามกลาง

ต่างองค์ต่างเรียบร้อยนอนสนิท
มาดูบริวารของตน ก่ายกันบ้าง กรนบ้าง อะไรบ้าง ตามเรื่องตามราว

เมื่อเห็นจริยาท่าทางของบริวารของท่านสู้พระไม่ได้
แทนที่ แกจะตำหนิตัวเองว่าไม่สามารถอบรมบริษัทให้ดีได้
กลับไปนั่งนินทาพระพุทธเจ้าตลอดคืน
เห็นไหม เขาดีกว่า อาศัยกินด้วยนะนั่นน่ะ บิณฑบาตตามจึงได้กิน
ถ้าพูดภาษาเราก็เป็นคนอกตัญญู ไม่รู้คุณคน


ต่อมา หลานชาย นันทมาณพ
ได้ยินเสียงลุงขึ้นมานินทาพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์
นันทมาณพก็ลุกขึ้นมาสรรเสริญพระพุทธเจ้า สรรเสริญพระสงฆ์
เอาซินะ สองคนนี้ถ้ารุ่นราวคราวเดียวกันชกปากกันแน่
แต่เผอิญลุงแก่กว่า ไม่กล้าชก ด่าอย่างเดียว

เป็นอันว่า การนินทาและสรรเสริญของ ๒ คนนี้ก็ทราบไปถึงหูชาวบ้าน
พอตอนเช้าพระไปบิณบาต ชาวบ้านก็เล่าให้พระฟังว่า

เมื่อคืนนี้ สุปปิยปริพาชก นั่งนินทาพระรัตนตรัย
เขานินทาหมด นินทาตัวพระพุทธเจ้า
นินทาคำสอนของพระพุทธเจ้า
นินทาพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าหมดพระรัตนตรัย

สำหรับ นันทมาณพ สรรเสริญพระรัตนตรัยตลอดคืนเหมือนกัน
เป็นอันว่าลุงกับหลานมีความเห็นไม่ตรงกัน

ชาวบ้านก็เล่าให้พระฟัง พระท่านก็แค่ฟัง
ฟังมาแล้วท่านก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
พอฉันข้าวเสร็จ พอเวลาพระพุทธเจ้าเทศน์
พระก็เข้าไปพร้อมกัน พระบางองค์ก็กราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า

เมื่อคืนนี้ สุปปิยปริพาชก นินทาพระรัตนตรัย
แต่ว่า นันทมาณพ สรรเสริญพระรัตนตรัย
ทั้งสองนี้นินทาและสรรเสริญอยู่ตลอดคืน

พระพุทธเจ้าก็เลยเทศน์เรื่องนี้ ท่านบอกว่า

"ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นินทา ปสังสา
การนินทาและสรรเสริญทั้งสองประการนี้ เป็นธรรมดาของชาวโลก"


ชาวโลกทั้งหมดที่เกิดมานี้ต้องพบกับคำนินทาและสรรเสริญ
ท่านก็เลยตรัสว่า การนินทาและสรรเสริญทั้งสองประการไม่มีอะไรเป็นผล

ถ้าเราเป็นคนดี เขานินทาว่าเราเป็นคนชั่ว
เราก็ไม่ชั่วไปตามปากเขาพูด ถ้าเราเป็นคนชั่ว
เขาสรรเสริญว่าเราเป็นคนดี เราก็ไม่ดีไปตามปากเขาพูด


ฉะนั้นความดีหรือความชั่วอยู่ที่ผลแห่งการปฏิบัติ
ถ้าเราปฏิบัติดีเราก็ดี เราปฏิบัติเลวเราก็เลว


ก็รวมความว่า ขอบรรดาภิกษุทั้งหลาย
อย่าสนใจคำนินทาและสรรเสริญ
คือ ไม่สนใจกับคำสรรเสริญที่เขาว่าเราดี
เราไม่สนใจกับคำนินทาว่าเราชั่ว

เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า

จงอย่าสนใจทั้งคำนินทาและสรรเสริญ

เขาสรรเสริญเราว่าดี อย่าหลงคำสรรเสริญ
ถ้าหลงคำสรรเสริญ จะตกอยู่ในความประมาท
เขานินทาว่าเราเลว ก็อย่าไปกลุ้มใจกับคำนินทา


คำว่าดีหรือชั่วมันอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ผลการปฏิบัติ

(ที่มา : หนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๐๐, หน้า ๑๓๔ (ข้อคิดจากธรรมะ))

สาธุ สาธุ สาธุ

น เว นินฺทา สุปริวชฺชยาถ
นานา ชนา เสวิตพฺพา ชนินฺท
เยเนว เอโก ลภเต ปสํสํ
เตเนว อญฺโญ ลำเต นินฺทิตารํฯ


อันการนินทา ใช่ว่าจะหลีกพ้นได้ง่ายเลย
คนที่เราพอจะคบหาได้นั้น มีอัธยาศัยต่างๆ กัน

คนหนึ่งได้รับการยกย่องเพราะเรื่องใด
อีกคนหนึ่ง อาจถูกนินทาเพราะเรื่องเดียวกันนั้นก็ได้


(ขุ.ชา. ๒๗/๑๘๙๓)


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 28 มี.ค.2008, 1:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นินทานั้น ไม่ดีเลย..สาธุจ้า

สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 28 มี.ค.2008, 3:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุจ้า...คุณกุหลาบสีชา

ถ้าเราเป็นคนดี เขานินทาว่าเราเป็นคนชั่ว
เราก็ไม่ชั่วไปตามปากเขาพูด ถ้าเราเป็นคนชั่ว
เขาสรรเสริญว่าเราเป็นคนดี เราก็ไม่ดีไปตามปากเขาพูด

ฉะนั้นความดีหรือความชั่วอยู่ที่ผลแห่งการปฏิบัติ
ถ้าเราปฏิบัติดีเราก็ดี เราปฏิบัติเลวเราก็เลว

ก็รวมความว่า ขอบรรดาภิกษุทั้งหลาย
อย่าสนใจคำนินทาและสรรเสริญ
คือ ไม่สนใจกับคำสรรเสริญที่เขาว่าเราดี
เราไม่สนใจกับคำนินทาว่าเราชั่ว

เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า

จงอย่าสนใจทั้งคำนินทาและสรรเสริญ

เขาสรรเสริญเราว่าดี อย่าหลงคำสรรเสริญ
ถ้าหลงคำสรรเสริญ จะตกอยู่ในความประมาท
เขานินทาว่าเราเลว ก็อย่าไปกลุ้มใจกับคำนินทา

คำว่าดีหรือชั่วมันอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ผลการปฏิบัติ


ธรรมะสวัสดีค่ะ

ยิ้ม สาธุ ยิ้มแก้มปริ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง